ตอนที่ 200

The Strongest Hokage

ทันทีที่ข่าวมาถึง ซารุโทบิ ทั้งหมู่บ้านก็ตกอยู่ในความตื่นตระหนก แม้ว่ามันจะเป็นเวลากลางคืนแล้ว แต่เขาก็ออกคำสั่งให้นินจาจำนวนมากตามหา คุชินะ

กลางป่า

ร่าง 2 ร่างกำลังวิ่งด้วยความเร็วสูง

“หยุดก่อน!”

อุซึมากิ เมอิ หยุดวิ่ง จากนั้นเธอก็ประสานอินและหลับตา

หลังจากหายใจเข้าลึก ๆ เธอก็ลืมตาขึ้นและแสดงความดีใจออกมา

“ฉันรู้สึกถึงจักระของเธอแล้ว เราอยู่ใกล้เธอมากแล้ว”

คนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอคือ มินาโตะ ตาของเขาเปล่งประกายจากนั้นเขาก็พูดว่า “งั้นเรารีบไปกันเถอะ”

“ไม่ ฉันจะตามเธอไปเอง ส่วนนายต้องกลับไปแจ้งให้ทุกคนรู้”

“แต่…มันจะดีกว่าน่ะถ้าให้ฉันไปด้วย ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันไม่ทำอะไรเกะกะเธอหรอกน่า”

มินาโตะ ยิ้มให้ เมอิ ทำให้หัวใจของเธอรู้สึกอบอุ่นอย่างไม่น่าเชื่อ จากนั้นเธอก็พยักหน้าให้เขาเบา ๆ

ดังนั้นพวกเขาทั้ง 2 ก็พุ่งตรงไปยังทิศทางที่ เมอิ สัมผัสจักระของ คุชินะ ได้

ความสัมพันธ์ระหว่าง คุชินะ และ เมอิ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ลูกพี่ลูกน้อง จริง ๆ แล้วมันลึกซึ้งกว่านั้น เพราะพวกเธอทั้ง 2 คนเหมือนกันมาก

เหมือนกันมากจนบางครั้งแม้แต่ ไนโตะ ก็ไม่สามารถบอกความแตกต่างได้

อย่างไรก็ตาม คุชินะ ก็ยังคงเป็น พลังสถิตร่าง ของ 9 หาง และความจริงเรื่องนี้ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลง เรื่องนี้ทำให้เรื่องราวสับสนขึ้นเรื่อย ๆ

ไนโตะ รู้รู้สึกเสมอว่าสิ่งต่าง ๆ กำลังเปลี่ยนแปลงไป การปรากฏตัวขึ้นมาของ อุซึมาดิ เมอิ เป็นเรื่องน่าสงสัย แต่ไม่ว่าเขาจะคิดอย่างไร เขาก็ไม่เคยพบคำตอบ ดังนั้นเขาจึงปล่อยมันไป

เพราะยังไงส่ะ มาดาระ ก็จะไม่สามารถดึง 9 หางออกมาได้อยู่ดี

“เธอใช้เส้นผมเป็นเบาะแส…เหมือนในการ์ตูนเลยสิน่ะ”

ไนโตะ หยุดอยู่บนต้นไม้ต้นหนึ่งและหยิบเส้นหนึ่งขึ้นมา

แม้ว่าเส้นผมของ คุชินะ จะเป็นสีแดงดง แต่ในป่าที่มืดขนาดนี้ มันก็ไม่สามารถหาเจอได้ง่ายๆ!

อย่างไรก็ตาม ด้วยสัมผัสพิเศษของ ไนโตะ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สามารถรับรู้สีได้ แต่เขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงมัน

เมื่อใช้สิ่งนี้ ไนโตะ จะสามารถติดตาม คุชินะ ได้อย่างง่ายดาย

แม้ว่าความเร็วของ หน่วยพิเศษคุโมะ จะเร็วมากจนทำให้การตามรอบนั้นยากขึ้น แต่ตอนนี้ ไนโตะ เข้าใกล้พวกเขามากแล้ว!

นี่แสดงให้เห็นว่า ไนโตะ รวดเร็วแค่ไหน!

…….

ในป่า

นินจาคุโมะ มากกว่า 1 โหล กำลังวิ่งด้วยความเร็วสูงผ่านป่า และร่างของพวกเขาก็ปกคลุมไปด้วยออร่าสีฟ้า

หนึ่งในนั้นกำลังหิ้วเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ถูกมัดด้วยเชือกด้วยมือของเขา

มือของ คุชินะ ถูกผูกไว้ที่หลังของเธอ และเธอก็แทบจะไม่สามารถขยับตัวได้ เธอพยายามหาโอกาสทิ้งเส้นผมของเธอไว้ตามทางเมื่อพวกเขาไม่ได้สังเกต

อย่างไรก็ตาม เธอก็คิดว่าคงจะไม่มีใครทันได้สังเกตเห็นร่องรอยที่เธอทิ้งไว้

เพราะมันยากมาก ที่จะเห็นเส้นผมของเธอในป่าที่มืดมิดแบบนี้

“เราออกมาห่างจาก โคโนฮะ มากแล้ว…แม้แต่ลูกพี่ลูกน้องของเธอก็คงจะไม่สามารถสัมผัสจักระของเธอได้…”

ในขณะที่ นินจาคุโมะ วิ่งต่อไปเรื่อย ๆ ในป่า คุชินะ รู้สึกกลัวมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าจะไม่มีใครมาช่วยเธอ

แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้ เธอยังคงทิ้งเส้นผมไว้เป็นร่องรอยโดยหวังว่าจะมีใครสังเกตเห็น

“ด้วยความเร็วแบบนี้ ถึงแม้ว่าบางคนจะพบร่องรอย แต่พวกเขาก็คงจะตามมาช่วยเราไม่ทันแน่นอน…”

คูชินะ ไม่สามารถพูดได้ ปากของเธอถูกผนึกและเธอก็ถูกขโมยจักระไปหมด

แน่นอนว่า ถ้าเธอสามารถขยับมือได้ เธอก็สามารถคลายผนึกได้อย่างง่ายดาย

อย่างไรก็ตาม เธอก็พยายามทำให้ผนึกอ่อนลงเรื่อย ๆ ทีละน้อย ๆ

แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ผนึก เพราะเธอสามารถคลายผนึกและหนีไปจากนินจาเหล่านี้ได้อย่างดาย แต่ปัญหาอยู่ที่พวกเขาเร็วกว่าเธอมาก

ความเร็วเป็นความพิเศษของพวกเขา

หัวหน้าของพวกเขาคือ โจนิน ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง

“ตอนนี้ ไนโตะ ก็คงจะกลับบ้านแล้ว เขาต้องสงสัยแน่ว่าเราหายไป…แต่ถึงเขาจะสังเกตเห็นร่องรอย มันก็คงจะสายเกินไปแล้วที่จะตามมาช่วยเราได้ทัน”

คุชินะ คิดอยู่ในใจ แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้ เธอพยายามที่จะทำให้ผนึกอ่อนลงและและทิ้งร่องรอยไว้เบื้องหลัง

ในที่สุด เธอก็สามารถคลายผนึกทั้งหมดออกได้ ทันใดนั้นเชือกก็คลายออก จากนั้นเธอก็หนีไป

ฟึ๊บ!!

อย่างไรก็ตาม ในไม่กี่วินาทีต่อมา นินจาคุโมะ ก็ตอบสนองอย่างรวดเร็วและล้อมเธอไว้อีกครั้ง

นินจาคุโมะ เร็วกว่าเธอ

“เธอผลายผนึกได้”

“ตระกูลอุซึมากิ เก่งกาจขนาดนี้เลยเหรอ?”

“ผนึกเธอกลับไปแล้วรีบพาเธอกลับหมู่บ้าน ไม่สำคัญว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ตราบใดที่เราได้ 9 หางมาเป็นของเราเท่านั้นก็พอ”

ทันใดนั้นใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปและเย็นชามาก

คุชินะ ยืนอยู่ตรงกลาง เธอพยายามที่จะปกป้องตัวเอง ในขณะที่เธอสับสนเป็นอย่างมาก เธอไม่รู้ว่า นินจาคุโมะ รู้ตัวตนของเธอได้อย่างไร

พวกเขารู้เรื่องเกี่ยวกับ 9 หาง ได้อย่างไร แม้แต่คนส่วนใหญ่ใน โคโนฮะ ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำ

มันไม่น่าเป็นไปได้

“รีบจับเธอเร็วเข้า เราต้องไม่เสี่ยงให้พวก โคโนฮะ ตามเราได้ทัน”

หัวหน้าทีมมองนินจาคนอื่นและออกคำสั่ง

นินจาคนอื่นพยักหน้าและพวกเขาก็พร้อมที่จะโจมตี

คุชินะ ตั้งท่าเตรียมป้องกันการโจมตีของพวกเขา

ฟึ๊บ!!

คุชินะ ไม่ได้ใช้พลังของ 9 หาง แต่เธอก็เป็น จูนิน เธอจึงสามารถหลบการโจมตีของพวกเขาได้

แต่การแสดงออกของ นินจาคุโมะ นั้นสงบมาก พวกเขาไม่กังวลเลย

ด้วยความเร็วของพวกเขา แค่พวกเขาเพียงคนเดียวก็พอแล้ว!

ขณะที่ คุชินะ กระโดดขึ้นไปบนอากาศและพยายามที่จะไปถึงยอดไม้เพื่อหนีพวกเขา นินจาคุโมะ คนหนึ่งก็พุ่งเข้าหาเธอในขณะที่ร่างของเขาถูกปกคลุมด้วยออร่าสีฟ้า

คุชินะ ยังอยู่กลางอากาศและเธอก็ไม่มีโอกาสที่จะหลบการโจมตีได้ และความเร็วของผู้ชายนั้นเร็วเกินไปเมื่อเทียบกับเธอ

เธอไม่สามารถโต้ตอบได้ นี่เป็นครั้งแรกที่ คุชินะ รู้สึกสิ้นหวังและ ในที่สุด เธอก็ยอมแพ้

หากพวกเขาจับเธอได้อีกครั้ง พวกเขาจะผนึกเธอแน่นหน้าขึ้นและเธอจะไม่มีโอกาสทิ้งร่องรอยอีกต่อไป และจะไม่มีใครสามารถหาเธอเจออีก

เมื่อเธอคิดว่านี้คือจุดจบของเธอ ทันใดนั้น บางอย่างก็พุ่งเข้ามาหาเธอ!

 


ติดตามข่าวสารจากเพจ Facebook : Chan’s Translation นิยายแปลไทย@TranslatedByMild