บทที่ 749 ลงทุนไปไม่ได้อะไรกลับมา / บทที่ 750 ใครบอกว่าฉันจะซื้อ?

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 749 ลงทุนไปไม่ได้อะไรกลับมา

เซวียลี่เห็นโหวเม่าเฟิงไม่ยอม ก็มองเยี่ยหวันหวั่นอย่างไม่เป็นมิตรทันที

ถ้าไม่ใช่เพราะเธอแย่งงานในครั้งนี้มา คงจะไม่เกิดเรื่องมากมายขนาดนี้

ตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญที่มารับรองสามคนนั้นก็เคร่งเครียดเช่นกัน สลับกันเกลี้ยกล่อมโหวเม่าเฟิง โหวเม่าเฟิงกลับไม่ทำอะไรทั้งสิ้น

สายตาที่มองเยี่ยหวันหวั่นของคนทั้งสามมีความไม่ชอบใจอยู่บ้าง “หยกดิบล็อตนี้ในมือของเถ้าแก่โหวเป็นของหายากจริงๆ แถมยังผ่าออกมาดูแล้ว ครั้งก่อนตอนเราตรวจสอบ เป็นหยกดิบที่ใสเหมือนกระจก อาจจะเป็นหยกเจไดต์ระดับท็อป หรือไม่ก็ได้สีเขียวเข้มไปเลยทั้งก้อน!

ไม่ใช่แค่เถ้าแก่หวง คู่แข่งของพวกเรากับผู้อำนวยการฉินต่างใช้ความพยายามมากมายถึงทำให้เขาเก็บไว้ให้พวกเราได้ ครั้งนี้เกรงว่าทุกอย่างจะสูญเปล่าแล้ว!”

“ไม่มีหมุดเจาะทองก็อย่าริซ่อมถ้วยชา[1] อยากจะรู้จริงๆ ว่าใครจะเห็นแก่หน้าจิ้งจอกที่แอบอ้างบารมีเสืออย่างเธอ?”

พวกเซวียลี่กับผู้เชี่ยวชาญสามคนสลับกันคุยกับโหวเม่าเฟิง เยี่ยหวันหวั่นไม่สอดมือยุ่งตั้งแต่ต้นจนจบ นั่งจิบชาอยู่ด้านข้างด้วยสีหน้าสงบนิ่ง

เยี่ยหวันหวั่นไม่สนใจเรื่องทางนี้ ท่าทีไม่แยแสทำให้พวกเซวียลี่โมโหไม่น้อย

สืออีเห็นดังนั้นก็แสดงความเป็นห่วง “คุณหนูหวันหวั่น ให้ผมติดต่อพ่อบ้านสวีให้ส่งคนมาช่วยดีไหมครับ บางทีเถ้าแก่โหวอาจให้เกียรติบ้าง…”

เยี่ยหวันหวั่นวางถ้วยชาลง พูดอย่างไม่รีบไม่ร้อน “ไม่ต้อง”

อีกด้านหนึ่ง เซวียลี่เห็นโหวเม่าเฟิงไม่ยอม ก็ได้แต่โทรศัพท์หาฉินรั่วซี

“เถ้าแก่โหว คุณรอเดี๋ยว ผมจะโทรศัพท์หาผู้อำนวยการฉิน…”

เซวียลี่ไม่รู้คุยอะไรกับฉินรั่วซวี สีหน้าคล้ายจะผ่อนคลายลงไม่น้อย ก่อนจะเดินไปด้านหน้าโหวเม่าเฟิง “เถ้าแก่โหว ผู้อำนวยการฉินของพวกเราอยากจะคุยกับคุณด้วยตัวเองครับ…”

โหวเม่าเฟิงรับโทรศัพท์มา ท่าทีเปลี่ยนไปมาก “ฮัลโหล คุณหนูฉิน ก่อนหน้านี้นัดกันว่าวันนี้คุณจะมาดูของด้วยตัวเองไม่ใช่เหรอครับ ทำไมวันนี้ถึงเปลี่ยนคนมาล่ะ ของสำคัญแบบนี้ผมจะให้คนอื่นง่ายๆ ได้ยังไง คุณว่าถูกไหมครับ?”

“โอ้ คุณหนูฉินพูดอะไรน่ะครับ ผมต้องให้เกียรติคุณอยู่แล้วสิ! ก็ได้ครับ ในเมื่อคุณหนูฉินพูดแบบนี้ ทางผมก็ไม่มีปัญหา…”

โหวเม่าเฟิงคุยโทรศัพท์กับฉินรั่วซีประมาณสิบกว่านาที สุดท้ายก็วางสาย

เซวียลี่เดินเข้าไปหา “ว่ายังไงครับเถ้าแก่โหว?”

โหวเม่าเฟิงวางท่าวางทาง ทำสีหน้ายุ่งยากใจ “ในเมื่อคุณหนูฉินรับรองแล้ว ผมก็ไม่มีปัญหา พวกคุณตามผมไปดูของที่ชั้นบนเถอะ!”

“ได้ครับๆ รบกวนแล้วครับเถ้าแก่!” เซวียลี่โล่งอก

ผู้เชี่ยวชาญสามคนยิ้มแย้ม “คุณหนูฉินมีวิธีจัดการจริงๆ ด้วย…”

“เฮ้อ จริงๆ เลย เมื่อก่อนตอนคุณหนูฉินมา ไม่เห็นเคยมีปัญหามากขนาดนี้! อับอายขายหน้าจริงๆ!”

ไม่ทันไร โหวเม่าเฟิงก็ให้คนนำหยกดิบที่ฉินรั่วซีจองไว้ก่อนหน้านี้ตามขึ้นมา

พนักงานในร้านลากรถเข็นมาสองคัน บนรถเข็นคันหนึ่งเป็นก้อนหินที่อยู่กระจัดกระจายกันหลายก้อน แต่ละก้อนหนักกว่าห้ากิโลกรัม บนรถเข็นอีกคันมีก้อนหินใหญ่ที่หนักมากกว่าห้าสิบกิโลกรัมโดยประมาณวางอยู่เดี่ยวๆ

หยกดิบจะต้องมองสองอย่าง ประการแรกคือชนิด มักเรียกว่าคุณลักษณะของหยกดิบ อีกอย่างคือเขตที่อยู่หรือก็คือแหล่งกำเนิดของหยก

ปกติถ้าคุณลักษณะดี แหล่งกำเนิดน่าเชื่อถือ อย่างนั้นความเป็นไปได้ที่จะเป็นหยกก็มีสูงมาก

คุณลักษณะและแหล่งกำเนิดจะเป็นอย่างไร ล้วนต้องใช้ประสบการณ์ตัดสินเอา

ไม่นานมานี้เยี่ยหวันหวั่นนับว่าทำการบ้านมาบ้าง มองออกว่านี่เป็นหยกดิบจากฮ่าค่า[2] หยกดิบจากเขตนี้ส่วนใหญ่แล้วเป็นหยกงาช้างสีขาวขุ่น

อืม ที่แท้หยกดิบชิ้นนี้เป็นหินที่ทำให้ฉินรั่วซวีไม่ได้อะไรกลับมานี่เอง…

—————————————————————-

บทที่ 750 ใครบอกว่าฉันจะซื้อ?

ฮ่าค่าเป็นหนึ่งในเหมืองใหญ่ทั้งสิบ และยังเป็นเหมืองเก่า ในปัจจุบันเหลือหยกดิบอยู่น้อยมาก ก้อนที่ใหญ่ขนาดนี้ยิ่งหายาก

สิ่งที่หายากยิ่งกว่าก็คือเปลือกของหินก้อนนี้ไม่เพียงแต่มีกลากสีดำมากเท่านั้น ยังมีแถบงูสีเขียวที่กระจ่างชัดเส้นหนึ่งพาดผ่านด้วย

มีคำพูดว่า ‘เขียวตามกลากนำ’ หยกดิบที่มีกลากดำ จะมีโอกาสได้หยกเขียวเพิ่มขึ้น

ส่วนคำว่า ‘งู’ ส่วนใหญ่แล้วคือแถบเส้นที่เกิดจากการจับตัวของแร่ในหยกเจไดต์ ซึ่งจะนูนออกมาเมื่อมีความแข็งสูง กลายเป็นด่างด่วง

แถบงูแบ่งเป็นหลายสิบชนิด แต่ละชนิดบ่งบอกถึงชนิดของหยกเจไดต์ที่จะได้ แต่เมื่อมีแถบงูก็พิสูจน์ได้ว่าด้านในจะต้องมีหยกเจไดต์แน่

โหวเม่าเฟิงชี้หินสองก้อนนั้น พูดด้วยสีหน้าภูมิใจ “ทรายดำเล็กๆ เหล่านี้ผมใช้เงินจำนวนมากซื้อมาจากที่ประมูล ส่วนก้อนใหญ่ก้อนนี้ได้ผ่าดูแล้ว ทุกคนล้วนเป็นคนรอบรู้ ไม่จำเป็นต้องให้ผมพูดมาก สามารถดูด้วยตาตัวเอง คุณภาพดีเยี่ยม แหล่งที่มาก็คือเหมืองเก่าในฮ่าค่า จะต้องเป็นหยกระดับท๊อปแน่! ถ้าไม่ใช่คุณหนูฉินมา ผมคงเก็บไว้เองไปแล้ว!”

เซวียลี่ประสานมือขอบคุณ กลัวว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรต่ออีก รีบร้อนเอ่ยว่า “ขอบคุณเถ้าแก่โหวมา เถ้าแก่โหวเสนอราคามาได้เลยครับ พวกเราจะจ่ายให้หมดในครั้งเดียว!”

โหวเม่าเฟิงให้พนักงานไปนำสมุดบัญชีมาเจรจาราคากับเซวียลี่และผู้เชี่ยวชาญอย่างไม่ยินดียินร้าย

นักพรตใจบริสุทธิ์ไม่ทราบว่ามาอยู่ด้านหน้าเยี่ยหวันหวั่นตั้งแต่เมื่อไหร่ “เถ้าแก่ ผมคิดว่าพวกเขากำลังมองข้ามคุณอยู่!”

อี้จือฮวา “เถ้าแก่ ให้สั่งสอนพวกมันมั้ยคะ? แค่หมัดเดียวก็จัดการได้แล้ว!”

เนี่ยอู๋หมิงแค่นเสียง คนทั้งสองหดคอไม่พูดอะไร

เนี่ยอู๋หมิงกล่าว “น้องโหย่วหมิง ถ้าอยากให้ลงมือเธอบอกมาคำเดียวก็พอ ถึงแม้จะใช้วรยุทธ์ไม่ได้ แต่วิธีระบายอารมณ์ให้เธอมีอยู่เยอะแยะ”

เยี่ยหวันหวั่นได้ยินก็แค่นหัวเราะ “เหอะ ไม่ต้องค่ะ ขอบคุณ”

อยากจะมองข้ามเธอเหรอ? เกรงว่าจะไม่ได้

สุดท้ายเมื่อไม่มีลายเซ็นต์ของเธอ เงินนี้ก็จ่ายไม่ได้

ทางนั้นเจรจามาค่อนวัน สุดท้ายการเจรจาก็จบลง

เซวียลี่เขียนเช็คเดินมาถึงด้านหน้าเยี่ยหวันหวั่น เอ่ยว่า “คุณหนูเยี่ย เรื่องราวจัดการเสร็จสิ้นแล้ว เซ็นต์เถอะครับ”

ที่ด้านหลัง โหวเม่าเฟิงยังปั้นหน้าบอกบุญไม่รับ “ครั้งนี้ผมให้เกียรติคุณหนูฉิน ถ้าหากว่าครั้งหน้าส่งใครก็ไม่รู้มาอีก ผมจะไม่พูดจาดีๆ แบบนี้แล้ว!”

“เถ้าแก่โหวพูดถูก! พูดถูกแล้ว!”

“คุณหนูเยี่ย รีบเซ็นต์เถอะครับ! หยกดิบระดับท๊อปแบบนี้ ราคาเองก็ยุติธรรม คนจำนวนไม่น้อยหมายตา เถ้าแก่โหวยังไม่ยอมยกให้!”

เยี่ยหวันหวั่นจิบชาอย่างไม่สะทกสะท้าน วางถ้วยชาลงบนโต๊ะอย่างแผ่วเบา กวาดมองพวกเซวียลี่ที่เร่งให้เธอเซ็นต์สัญญา รวมถึงโหวเม่าเฟิงที่ปั้นหน้าไม่ยินดี กล่าวอย่างราบเรียบว่า “เซ็นต์ชื่อ? เซ็นต์อะไรคะ?”

เซวียลี่สีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย “ก็ต้องเซ็นต์เช็คซื้อหยกดิบอยู่แล้วสิครับ!”

เยี่ยหวันหวั่นเลิกคิ้ว “ใครบอก…ว่าฉันจะซื้อหยกดิบพวกนี้?”

พอได้ยินคำพูดของเยี่ยหวันหวั่น ทุกคนก็พลันงงงัน

สีหน้าของเซวียลี่เคร่งเครียดแล้ว “คุณหนูเยี่ย หมายความว่ายังไงกันครับ? คุณไม่ซื้อเหรอ?”

เยี่ยหวันหวั่นตวัดริมฝีปากยิ้ม เอ่ยอย่างเชื่องช้า “คนที่พูดว่าจะซื้อตั้งแต่แรกเหมือนจะเป็นพวกคุณนะ คนที่ดึงดันจะมาที่ร้านนี้ก็เป็นรองผู้อำนวยการเซวียเหมือนกัน ฉันก็แค่ตามมาดูเท่านั้น ใครบอกว่าฉันจะซื้อที่ร้านนี้?”

เซวียลี่มีสีหน้าไม่อยากเชื่อ “คุณ…”

โหวเม่าเฟิงที่อยู่ด้านข้างเห็นดังนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง “เซวียลี่ พวกคุณหมายความว่ายังไงกัน! เสียเวลามาขนาดนี้! สุดท้ายมาพลิกลิ้นเหรอ!?”

————————————————————-

[1] ไม่มีหมุดเจาะทองก็อย่าริซ่อมถ้วยชา หมายถึง ต้องรู้จักประมาณตัว อย่าทำงานที่ตัวเองทำไม่ได้

[2] ฮ่าค่า เป็นเมืองทางตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐชีน ประเทศพม่า