“ลองอีกครั้ง!”
หลังจากล้มเหลวหนึ่งครั้ง หลิงม่อก็เริ่มจับจุดได้แล้ว…
“เขาไม่ทีทางเจาะทะลุเข้ามาได้แน่…” หัวหน้าทีมนิพพานสีหน้าไม่สู้ดีนัก ถูกจู่โจมสองครั้งติดกัน ถึงแม้ล้วนต้านรับไว้ได้แล้ว แต่อาการกลับไม่สู้ดีนัก “ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงที่ดูไม่มีประโยชน์คนนั้น จะมีพลังจิตโจมตีที่แข็งแกร่งขนาดนี้! แวบแรกที่เห็นว่าเธอเป็นคนลงมือยังนึกดูถูก ผลปรากฏว่าเกือบพลาดท่าเสียรู้ซะแล้ว และหลิงม่อ…พลังของหมอนั่นแข็งแกร่งยิ่งกว่าผู้หญิงคนนั้นเสียอีก…”
“แต่ว่า…เขาน่าจะถึงขีดจำกัดแล้วสินะ? ถึงจะพยายามอีกครั้ง อย่างมากก็รุนแรงกว่าครั้งแรกแค่เล็กน้อยเท่านั้น ใช่แล้ว! ไม่ผิดแน่ ผลลัพธ์จากสัมผัสรู้ของฉันบอกอย่างนี้ ไม่มีทางผิดพลาดแน่…” หัวหน้าทีมนิพพานกัดฟันกรอดคิดในใจ เขาถูกนิพพานส่งตัวมา และยังได้รับตำแหน่งหัวหน้า ย่อมมีฝีมือไม่ธรรมดาอยู่แล้ว ท่ามกลางผู้มีพลังจิตทั้งหมดของนิพพาน เขาถือได้ว่าถูกจัดให้อยู่ในสามอันดับแรก ถึงแม้วิธีการสู้ไม่เหมือนหลิงม่อ พลังจิตก็ต่ำกว่าหลิงม่อมาก แต่ความสามารถด้านการสัมผัสรู้และม่านพลังสกัดกั้นของเขาถือว่ายอดเยี่ยมทีเดียว
ยิ่งเมื่ออยู่ในการต่อสู้ที่ต้องซุ่มโจมตี เขายิ่งได้เปรียบอย่างไม่ต้องสงสัย…
แต่เริ่มแรกเขามองกู่ซวงซวงผิดไปจริงๆ…กู่ซวงซวงต่างกับหลิงม่อ เพราะพลังของเธอค่อนข้างสุดโต่ง นอกจากพลังสัมผัสรู้ที่อ่อนแอมากแล้ว พลังต่อสู้ทั้งหมดของเธอล้วนพุ่งเป้าไปที่พลังคลื่นสะท้าน และนั่นก็เป็นพลังจิตโจมตีที่ร้ายกาจมากอย่างหนึ่ง เพียงแต่กู่ซวงซวงยังมีพลังจิตไม่มากพอ บวกกับวิธีการต่อสู้ที่ตายตัว จึงยากที่จะประกอบให้เป็นพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งได้
ทว่าเรื่องนี้ก็เป็นการบ่งบอกว่าศักยภาพแฝงของกู่ซวงซวงนั้นสูงมาก ไม่อย่างนั้นหลิงม่อคงไม่เลือกให้เธอเข้าร่วมทีมปาฏิหาริย์ตั้งแต่แรก
“อย่างไรในอนาคตเราก็ต้องการคนช่วย…ยิ่งพลังของพวกเขาแข็งแกร่งเท่าไหร่ ก็จะยิ่งช่วยเราได้มากเท่านั้น และการที่เอาพวกเขามาไว้ข้างกายตั้งแต่แรก ก็ย่อมพึ่งพาได้มากกว่าอยู่แล้ว…” นี่คือความตั้งใจเดิมของหลิงม่อในการสร้างกลุ่มปาฏิหาริย์ขึ้นมา
ส่วนเรื่องพลังความสามารถ…ค่อยๆ ฝึกฝนก็ได้
พัฒนาการของกู่ซวงซวงก้าวหน้าช้ากว่าเพื่อนเล็กน้อย…แต่ด้วยการฝึกฝนขัดเกลาในช่วงที่ผ่านมา พลังของเธอเริ่มพัฒนาขึ้นอย่างช้าๆ แล้ว โดยเฉพาะเมื่อกี้ เธอสามารถดึงความสามารถทั้งหมดในตอนนี้ออกมาใช้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ฉะนั้น แม้แต่หัวหน้าทีมนิพพานก็ยังถูกเธอโจมตีจนได้รับบาดเจ็บ…
ทว่ากู่ซวงซวงกลับยังคงรู้สึกละอายใจ…ดังนั้นเรื่องที่แม้แต่ตัวเธอเองก็ยังไม่รู้ก็คือ เพราะเกิดความรู้สึกนี้ขึ้น เธอจึงสามารถเพ่งพลังจิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น…แต่ท่ามกลางความเลือนราง เธอก็ยังสัมผัสได้ถึงเรื่องสำคัญ…เวลานี้ทุกคนรวมถึงตัวเธอด้วย ล้วนกำลังจดจ้องแผ่นหลังของหลิงม่อ
“ต้องรีบแล้ว…อีกฝ่ายไม่มีทางยอมถูกโจมตีอยู่ฝ่ายเดียวแน่…ถ้าหากพวกเรายังเจาะทะลุไม่ได้ เกรงว่าอีกฝ่ายคงคิดหาทางบีบให้พวกเราเดินเข้าไปแน่นอน พอถึงตอนนั้นพวกเราก็จะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ…” สวี่ซูหานคิดอย่างร้อนใจ
“โจมตีสองครั้งติดต่อกัน และฉันก็ตั้งใจโจมตีจุดเดียวกับที่กู่ซวงซวงโจมตีในครั้งแรก…ถึงแม้แกจะต้านทานได้ทั้งสองครั้ง แต่เมื่อกี้ฉันมองออกนะ…ตาข่ายพลังจิตผืนนี้ของแก เริ่มอ่อนลงแล้ว!”
สวบๆ!
หลิงม่อยกมือชี้ หนวดสัมผัสนับร้อยเส้นพลันพุ่งพรวดโจมตีออกไป
หนวดสัมผัสเหล่านี้ไม่ได้กระจายตัว ทว่าพุ่งเป้าไปยังจุดเดียวกัน จากนั้นก็พุ่งแหวกอากาศไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่ง!
“เมื่อกี้เป็นการโจมตีแบบรอบด้าน…แต่ครั้งนี้เป็นการเล็งเป้าไปยังจุดเดียว!”
“บีบไม่แตกแล้วยังเจาะไม่ทะลุอีกงั้นเหรอ? ทะลุซะเถอะ!”
ครืนนน!
เมื่อเสียงอื้ออึงดังขึ้นในสมองจนเกิดอาการมึนงงไปชั่วขณะ หัวหน้าทีมนิพพานที่เมื่อกี้ยังมั่นใจเต็มเปี่ยมพลันอึ้งงันไป
“ทะลุแล้ว? เร็วขนาดนี้เชียวหรือ?”
ราวกับว่า…ทั้งหมดเกิดขึ้นภายในชั่วพริบตา…
“เป็นไปไม่ได้…” หัวหน้าทีมนิพพานพึมพำ
ทว่าไม่นาน อาการปวดหัวราวกับจะแตกเป็นเสี่ยงๆ พลันถาโถมจู่โจมเข้ามาทันใด
“อ๊ากกกกก!”
หัวหน้าทีมนิพพานกรีดร้องอย่างเจ็บปวดแสนสาหัส สองมือยกขึ้นกุมศีรษะโดยอัตโนมัติ และโขกศีรษะกับผนังด้านหลังอย่างไม่อาจควบคุมได้
“ปั๊ก ปั๊ก ปั๊ก!”
เขาโขกศีรษะกับผนังด้านหลังครั้งแล้วครั้งเล่า อยากให้ตัวเองหมดสติไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด แต่ถึงแม้ดวงตาทั้งสองข้างกลายเป็นสีดำแล้ว เขาก็ยังคงมีสติครบถ้วนเพราะความเจ็บปวด
“ไปตายซะๆ!”
ความเจ็บปวดแสนสาหัสนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน แต่ก็จากไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน ทว่าเมื่อเขาลืมตาขึ้นมาอย่างยากลำบากอีกครั้ง สีหน้ากลับดูย่ำแย่กว่าเก่ามาก
“พวกนั้น…เข้ามาแล้ว!”
ความเจ็บปวดทำให้หัวหน้าทีมนิพพานสูญเสียการควบคุมไปชั่วขณะ…ซึ่งนี่ก็หมายความว่า ในช่วงเวลาสั้นๆ นี้ ม่านพลังสกัดกั้นที่ถูกเจาะทะลุจะไม่มีผู้ใดซ่อมแซม และหลังจากที่หลิงม่อเจาะทะลุได้อย่างรวดเร็ว เขาก็เดินออกจากปากบันได เข้ามายังทางเดินชั้นสองอย่างไม่ลังเล
“เร็วเข้า! ไม่มีใครอยู่บนทางเดิน!”
“โครม!”
ด้วยความเร็วของพวกซย่าน่า หลิงม่อที่พุ่งตัวออกมาคนแรกยังคงถูกทิ้งไว้ข้างหลังเหมือนทุกครั้ง
“เขาอยู่ฝั่งนั้น!”
หลิงม่อสัมผัสได้รางๆ ความรู้สึกที่เหมือนถูกสอดส่องได้หายไปแล้ว…แต่ด้วยพลังของอีกฝ่าย การโจมตีจากระยะไกลอย่างนี้ไม่อาจทำให้บาดเจ็บสาหัสได้ หลังจากความเจ็บปวดทรมานชั่วคราวผ่านไป ไม่นานศัตรูก็จะฟื้นคืนสติ
ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาต้องทำก็คือทำเวลา!
“ผู้ลอบโจมตีพวกนั้นถูกยัยแมงมุมควบคุม…เรื่องสำคัญที่พวกเราต้องทำคือฆ่าผู้มีพลังจิตคนนี้เสีย! ถ้าหากโชคดี…กว่ายัยแมงมุมจะรู้ตัวพวกเราก็คงไปอยู่ตรงหน้าแล้ว!”
แต่หลิงม่อเองก็รู้ดี ว่ามันมีความเป็นไปได้น้อยมาก…เหล่า “คน” ที่ปรากฏตัวในครั้งนี้ สร้างความหวาดกลัวให้เขาเล็กน้อย…
ภายใต้สถานการณ์ที่พลังจิตใช้ไม่ได้ผล และในยามคับขัน บางที…พวกซย่าน่าอาจเป็นไพ่สังหารที่แท้จริง
“แต่ว่า…เป็นไปได้ก็ไม่อยากให้พวกเธอเสี่ยงอันตรายเลย…”
……
ขณะเดียวกับที่กำลังต่อสู้ หลิงม่อสัมผัสรู้ถึง “เมล็ดพันธุ์” ที่อยู่ในร่างกายตัวเองไปด้วย ทันทีที่มันมีความเปลี่ยนแปลง…
“พวกนั้นมุ่งหน้ามาทางฉันแล้ว…” หัวใจของหัวหน้าทีมนิพพานเต้นอย่างบ้าคลั่ง นี่เพิ่งจะผ่านไปเท่าไหร่เอง? หนึ่งวินาที…สองวินาที! เวลาเพียงสองวินาทีพวกเขาก็วิ่งมาถึงครึ่งทางเดินแล้ว!
“มุ่งหน้ามาทางฉันโดยตรง…ทำไมกัน? ถึงแม้ต้องการฆ่าฉัน แต่พวกนั้นไม่กลัวคนอื่นดักซุ่มอยู่หรือไง!” หัวหน้าทีมนิพพานเลือกซ่อนตัวอยู่ในจุดที่ปลอดภัยที่สุด แต่กลับไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะพุ่งเข้ามาโดยตรงอย่างไร้ความเกรงกลัวอย่างนี้ ต้องบอกก่อนว่า ผู้รอดชีวิตทุกคนอาจเป็นผู้มีความสามารถพิเศษกันทั้งนั้น และผู้มีความสามารถพิเศษแต่ละคนล้วนมีพลังที่ต่างกัน ฉะนั้นถึงแม้อีกฝ่ายต้องการฆ่าเขา ก็ไม่มีทางพุ่งเข้ามาหาเขาตรงๆ อย่างนี้
“บ้าไปแล้ว! แต่มันไม่มีทางง่ายขนาดนั้นหรอกนะ!” หัวหน้าทีมนิพพานตวัดสายตามองไปยังตำแหน่งเหนือศีรษะของพวกหลิงม่อ อาศัยการมองเห็นจากมุมนี้ เขาสามารถมองเห็นตำแหน่งของพวกหลิงม่อ รวมถึงความเป็นไปได้ที่ตัวเองจะหนีได้อย่างชัดเจน
“ระยะห่างนี้ ถ้าหากพวกเขาขัดขวางได้ทันเวลา…”
“ม่านพลังฟื้นตัวเต็มที่แล้ว!” ซย่าน่าค้นพบความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นรอบๆ ทันที
“อืม แต่เรารู้ตำแหน่งของเขาชัดเจนแล้ว…” เพิ่งจะสิ้นเสียงพูดของหลิงม่อ ประตูห้องบานหนึ่งที่เขาวิ่งผ่านพลันถูกกระแทกปลิว ไม่นาน ประกายอาวุธมีคมเส้นหนึ่งก็พลันสับลงมาโดยมีเขาเป็นเป้าหมาย
—————————————————————————–