บทที่ 160 มานึกเสียใจภายหลังหรือยัง

รักหวานอมเปรี้ยว

ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง

เปปเปอร์เม้มริมฝีปากบาง

เขารู้ว่าไตรภูมิได้ลักพาตัวชวนชม แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเยี่ยมบุญเป็นคนบีบบังคับ

ดูท่าเรื่องพวกนี้จะตรวจสอบแค่บางส่วนไม่ได้ จะต้องตรวจสอบตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่งั้นมีความเป็นไปได้สูงว่าจะถูกภาพลวงตาปิดตาเอาไว้ มองไม่เห็นความจริง

นึกถึงก่อนหน้านี้ความแค้นเคืองตอนที่เยี่ยมบุญพูดถึงไตรภูมิได้เผยออกมา ตอนนี้เปปเปอร์รู้สึกแค่ว่าตลกสิ้นดี

ที่ยิ่งตลกสิ้นดีกว่าคือ เขาได้เชื่อคำพูดของเยี่ยมบุญจริงๆ บอกว่าไตรภูมิผิดต่อตระกูลภักดีพิศุทธิ์ของเขา

คิดถึงตรงนี้ เปปเปอร์ได้มองไปที่มายมินท์ แววตาแฝงด้วยความรู้สึกผิดกับละอายใจ

ละอายใจที่ตัวเองฟังความข้างเดียว ก็นึกว่าพ่อของเธอเป็นคนเลว

มายมินท์ไม่มีเวลาไปให้ความสนใจกับเปปเปอร์ เธอก้มหน้ากำสร้อยไว้แน่น “เพราะฉะนั้นสร้อยเส้นนี้ ถึงได้โผล่อยู่ที่ตระกูลกิตติภัคโสภณ”

น่าจะตอนที่พ่อลักพาตัวชวนชมไป แล้วเอาลงมาจากคอของชวนชม

“ใช่” ท่านย่าพยักหน้า

มายมินท์ได้ถามอีก “แล้วชวนชมตายยังไงคะ?”

เธอมีการคาดเดาที่ใจกล้าอย่างนึง

เป็นการคาดเดาที่เธอไม่อยากไปคิด

ภายใต้การเฝ้ามองของมายมินท์ ท่านย่าได้ค่อยๆเปิดปากพูด “ถูกพ่อของหนูโยนลงไปในแม่น้ำแล้วจมน้ำตาย แถมยังทำต่อหน้าสองสามีภรรยาอย่างเยี่ยมบุญอีก”

เปรี้ยง!

การคาดเดากลายเป็นจริง

มายมินท์หน้ามืด รู้สึกโลกทั้งใบกำลังหมุนติ้วๆอยู่

ร่างกายเธอเซไปเซมาจนจะล้ม

เปปเปอร์จับไหล่เธอไว้ ให้เธอซบอยู่ในอ้อมกอดเขา “คุณเป็นอะไรมากมั้ย?”

“ฉันไม่เป็นไรค่ะ” มายมินท์กัดริมฝีปาก พร้อมตอบด้วยเสียงอ่อนเพลีย

ท่านย่าก็มองเธอด้วยความเป็นห่วง “รีบนั่งลงเร็ว”

เปปเปอร์ประคองมายมินท์นั่งลง

มายมินท์ตัวสั่นเล็กน้อย “ทำไมคุณพ่อถึงได้ทำเรื่องโง่เขลาแบบนี้นะ”

ถึงกับเอาเด็กไปจมน้ำตาย

มิน่าหกปีก่อน เยี่ยมบุญถึงได้บีบให้พ่อตาย ที่แท้คือกำลังแก้แค้น

“ใช่ พ่อของหนูโง่เขลา แต่ก็สามารถเข้าใจได้ เพราะยังไงก็ถูกบีบจนถึงขั้นนั้น ภายใต้ความวู่วาม ง่ายที่จะทำเรื่องโง่เขลาจริงๆ” ท่านย่าลูบศีรษะเธอด้วยความสงสาร

มายมินท์หลับตาลง “เขาก็วู่วามเกินไปแล้ว”

“พวกคุณย่าไม่พบว่าในนี้ มีจุดนึงที่ผิดสังเกตมากเหรอครับ?”ขณะนี้ จู่ๆเปปเปอร์ได้เปิดปากพูด

มายมินท์เงยหน้ามองเขา “จุดไหนคะ?”

“ในเมื่อพ่อของคุณเอาชวนชมไปจมน้ำตายต่อหน้าเยี่ยมบุญกับภรรยา ทำไมพ่อของคุณถึงไม่ถูกจับเข้าคุก?”

เปปเปอร์พูด:“ตามนิสัยใจแคบของเยี่ยมบุญแล้ว ไม่มีทางปล่อยพ่อของคุณกับเทนเดอร์กรุ๊ปไปหรอก แต่เขาดันปล่อยไป ไม่เพียงไม่สืบสาวราวเรื่องเอาผิดพ่อของคุณ แถมยังให้พ่อของคุณกลับไปพัฒนาเทนเดอร์กรุ๊ปต่อ จนกระทั่งเมื่อหกปีก่อนถึงลงมือจัดการพ่อของคุณกับเทนเดอร์กรุ๊ป”

มายมินท์เข้าใจในทันที “ใช่สิ เพราะอะไรคะ?คุณย่ารู้หรือเปล่า?”

เธอมองไปที่ท่านย่า

ท่านย่าส่ายหัว “สำหรับเรื่องนี้ย่าก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเหมือนกัน คงจะสมัยนั้นระหว่างพ่อของหนูกับเยี่ยมบุญได้ทำข้อตกลงอะไรไว้มั้ง ไม่งั้นไม่สามารถอธิบายได้”

มายมินท์กัดริมฝีปากล่าง “คงงั้นมั้งคะ แต่ไม่ว่ายังไง ตระกูลกิตติภัคโสภณกับตระกูลภักดีพิศุทธิ์ ไม่ยอมอยู่ร่วมโลกเดียวกันแน่นอน”

ความแค้นนี้ เยี่ยมบุญได้เป็นคนก่อขึ้นก่อน ถึงแม้พ่อได้ฆ่าลูกสาวของเยี่ยมบุญ แต่เยี่ยมบุญก็ได้บีบให้พ่อตายเหมือนกัน

ความแค้นระหว่างชีวิตกับชีวิตได้หักลบไปแล้ว แต่ความแค้นของเยี่ยมบุญกับเทนเดอร์กรุ๊ปยังไม่จบ ความแค้นนี้ เธอจะมาชำระเอง!

มองความแค้นในแววตาของมายมินท์ออก เปปเปอร์อยากช่วยเธอลบทิ้งจังเลย

ดวงตาของเธอสวยมาก ไม่ควรมาปนเปื้อนสิ่งเหล่านี้

แต่เขารู้ว่าเขาไม่มีสิทธิ์ และไม่มีสิทธิ์ไปลบทิ้ง

ระหว่างที่คิด ก็ได้ยินเสียงเย็นชาของมายมินท์ดังขึ้น “ประธานเปปเปอร์ ฉันอยากทำลายล้างเอสซีกรุ๊ปกับตระกูลภักดีพิศุทธิ์”

เปปเปอร์ได้ยินคำนี้แล้วไม่ได้แปลกใจเท่าไหร่ ความแค้นในแววตาเธอ ล้วนเคยบอกความคิดของเธอให้รู้เขาล่วงหน้าแล้ว

“จากนั้นล่ะ?” เปปเปอร์มองหน้าเธอ

“จากนั้นคุณจะเข้ามาแทรกแซงมั้ย?” มายมินท์มองหน้าเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉย

เปปเปอร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย

แววตาของเธอหมายความว่ายังไง คือจะบอกว่าถ้าเขาแทรกแซง เธอก็จะจัดการเขาด้วยเหรอ?

“ประธานเปปเปอร์ ฉันอยากรู้คำตอบของคุณค่ะ ว่าคุณจะแทรกแซงเข้าไปช่วยตระกูลภักดีพิศุทธิ์หรือเปล่า !”มายมินท์เห็นเปปเปอร์ไม่พูด ได้ถามซ้ำอีกรอบ

ท่านย่ารีบตอบว่า “เขาไม่แทรกแซงอยู่แล้ว ถ้าเขากล้าช่วยตระกูลภักดีพิศุทธิ์ ย่าคนแรกที่จะไม่รับปาก!”

“คุณย่าคะ หนูอยากฟังจากปากของเขาเองค่ะ” มายมินท์พูด

ถ้าไม่ใช่เพราะคุณย่า เธอไม่แคร์หรอกว่าเปปเปอร์จะช่วยตระกูลภักดีพิศุทธิ์หรือเปล่า เขาไม่ช่วยย่อมดีอยู่แล้ว ถ้าเขาช่วย เธอก็จะจัดการด้วยกัน จัดการไม่ได้ใช้วิธีที่สุดโต่ง

ที่เธอถามออกมา แค่เพราะแคร์คุณย่า เพราะเขาเป็นหลานชายของคุณย่า ต้องให้คุณย่าเตรียมใจไว้แต่เนิ่นๆ เพื่อเลี่ยงไม่ให้ถึงเวลาเปปเปอร์ไปช่วยตระกูลภักดีพิศุทธิ์ แล้วเธอจัดการเปปเปอร์ คุณย่าจะเสียใจเอาได้

“ผมไม่แทรกแซงหรอก” เปปเปอร์หลุบตาตอบ

เดิมทีนี่ก็เป็นความผิดของเยี่ยมบุญอยู่แล้ว ให้ตระกูลภักดีพิศุทธิ์จ่ายค่าตอบที่ควรจ่ายมันก็สมควรแล้ว

ส่วน ส้มเปรี้ยว ไม่มีตระกูลภักดีพิศุทธิ์แล้ว เขาก็ไม่ให้ ส้มเปรี้ยวต้องด้อยกว่าคนอื่นหรอก

“ดีมาก จำคำพูดของคุณไว้นะ ถ้าคุณกลับคำเหมือนคราวก่อนกะทันหัน ถึงฉันต้องสู้สุดชีวิต ก็จะให้คุณทนทุกข์ทรมานไปทั้งชีวิตแน่นอน” มายมินท์พูดจาเด็ดขาด

เปปเปอร์ม่านตาหดพร้อมกับกำหมัดไว้แน่น “ไม่แน่นอน”

เธอจริงจังนะ ถ้าเขากลับคำจริงๆ เธอจะทำเรื่องที่ทำให้เขาเสียใจตลอดชีวิตจริงๆ

อย่างเช่นฆ่า ส้มเปรี้ยวทิ้ง หรือตัวเธอเอง……

“คราวก่อนแกทำเรื่องกลับคำกะทันหันอะไร?”ท่านย่ามองไปที่เปปเปอร์ ทำลายสมาธิของเขา

“ไม่มีอะไรครับ” แววตาเปปเปอร์ระยิบระยับเล็กน้อย ไม่อยากจะตอบ ในขณะเดียวกันยังได้มองไปที่มายมินท์ หวังว่ามายมินท์จะให้ความร่วมมือ

เพราะถ้าให้คุณย่ารู้ว่า ส้มเปรี้ยวผลักเธอตกบันได จะกระทบกระเทือนจิตใจคุณย่าแน่นอน

มายมินท์ก็รู้จุดนี้ดี ดังนั้นจึงเต็มใจที่จะให้ความร่วมมือกับเขามาก “เอาล่ะ คุณย่าก็อย่าถามเลยค่ะ เรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว หนูไม่อยากเอ่ยถึงมันอีก ตอนนี้หนูแค่คิดอยู่อย่างเดียวว่า ความลับที่อยู่เบื้องหลังของสร้อยเส้นนี้หนูก็รู้แล้ว แต่แค่ไม่รู้ว่าทำไมพ่อต้องให้หนูหาสร้อยเส้นนี้ด้วย”

ถ้าว่าแก้แค้น งั้นไม่จำเป็น เพราะถึงไม่มีสร้อยเส้นนี้ เธอรู้ว่าเยี่ยมบุญบีบให้พ่อตาย เธอก็จะแก้แค้นเหมือนกัน

เพราะฉะนั้นเรื่องไม่ได้เรียบง่ายแบบนี้แน่นอน สร้อยเส้นนี้จะต้องมีผลต่ออย่างอื่นอีกแน่นอน

“ย่าก็ไม่รู้เหมือนกัน พ่อหนูบอกว่าเกี่ยวข้องกับความลับใหญ่โต ความลับใหญ่โตนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนตามที่ย่าได้บอกหนูเมื่อครู่นี้ ส่วนยังมีอย่างอื่นอีกหรือเปล่า อันนี้ย่าก็ไม่รู้แล้ว” ท่านย่าพูดแล้วส่ายหัว

มายมินท์ถอนหายใจทีนึง

ท่านย่ายิ้ม “ไม่เป็นไร หนูเก็บไว้ก่อนเถอะ ไม่แน่เดี๋ยววันไหนก็รู้เองล่ะ”

“มันก็ใช่ค่ะ” มายมินท์ได้ยิ้มแย้ม “คุณย่าคะ นี่ก็ไม่เช้าแล้ว หนูขอตัวกลับก่อนนะคะ ท้องฟ้าใกล้มืดแล้วค่ะ”

“ได้ ย่าให้เปปเปอร์ไปส่งหนูนะ” ระหว่างที่ท่านย่าพูด ก็ได้มองไปที่เปปเปอร์ “แกไปส่งหนูมินท์หน่อย”

“ได้ครับ” เปปเปอร์เอากุญแจรถออกมาและตอบตกลง

แต่มายมินท์ได้ปฏิเสธอย่างเรียบเฉย “ไม่ต้องค่ะคุณย่า หนูออกไปโบกรถเองก็พอค่ะ ไม่รบกวนประธานเปปเปอร์แล้ว ลาก่อนนะคะ”

พอพูดจบ เธอได้ยิ้มทีนึงแล้วหิ้วกระเป๋าออกไป ตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่ได้ส่งสายตาให้เปปเปอร์เลย

เปปเปอร์เม้มริมฝีปากบางไว้ ยกฝีเท้าอยากจะตามไปด้วยจิตใตสำนึก

ท่านย่าได้เรียกเขาไว้ด้วยเสียงเคร่งขรึมและเด็ดขาด “หยุด!”

เปปเปอร์หยุดฝีเท้าลง “คุณย่า?”

“หนูมินท์บอกแล้วว่าไม่ต้องให้แกไปส่ง นี่แกจะทำอะไร?”ท่านย่าจ้องเขา

จริงๆเลยนะ เมื่อก่อนให้แกไปส่ง แต่แกไม่ยอมไปส่ง

ทีตอนนี้ไม่ให้แกไปส่ง แกกลับอยากจะไปส่งซะงั้น ก็ต้องดูหนูมินท์ก่อนว่ายอมให้ไปส่งหรือเปล่า

เปปเปอร์ขยับริมฝีปากบาง อยากพูดอะไรสักหน่อย จู่ๆกลับพูดไม่ออก

ท่านย่าถอนหายใจ “แกมานึกเสียใจภายหลังหรือยัง?”

“อะไรครับ?” แววตาของเปปเปอร์ระยิบระยับ

ท่านย่าเชอะทีนึง “แสร้งไปเถอะ ฉันถามแกว่าหย่ากับหนูมินท์แล้ว แกเสียใจหรือเปล่า?”

หัวใจของเปปเปอร์เหมือนถูกคนบีบ ค่อนข้างเจ็บจี๊ด

เขาหลุบตาลงเล็กน้อย บังอารมณ์ของแววตาไว้ “ไม่ครับ”