ตอนที่ 248

Crazy Leveling System

CLS ตอนที่ 248: ถูกบังคับให้อยู่

 

วังเทียนจี๋ในปัจจุบันมีปัญหาใหญ่มาก ถ้าเข้าร่วมก็ไม่ต่างไปจากทาส ทั้งยังจะถูกเอาวิชาเซวียนเทียนไปอีก เป็นการเสริมกำลังให้อีกฝ่าย โดยที่ตัวเองไม่ได้ต่างอะไรไปจากหุ่นเชิด

 

แต่ต่อให้พวกเขาจะไม่ทำ พวกเขาก็ไม่คิดจะเข้าร่วมอยู่แล้ว เพราะว่าพวกเขารู้ว่าอาณาจักรใต้พิภพคิดจะทำอะไรกับพวกเขา ก่อนหน้านี้อี้เทียนหยุนรู้จากปากเฉิงเฟิงแล้ว ถ้าอาณาจักรใต้พิภพได้วิชาเซวียนเทียนไปเมื่อไหร่ เมื่อนั้นก็คือจุดจบของวังเทียนจี๋

 

สามารถจินตนาการได้ว่าการเสนอให้เข้าร่วมนี้ ใจความสำคัญคือการชิงเคล็ดวิชาเซวียนเทียนไปจากพวกเขา ถ้าไม่ยอมก็เท่ากับตาย แต่ถ้ามอบให้ก็ต้องตายเช่นกัน เพราะหลังจากได้เคล็ดวิชาเซวียนเทียนไป พวกเขาก็ไม่มีค่าอะไรอีก เก็บเอาไว้ก็ไม่มีความหมาย

 

คำตอบของอี้เทียนหยุนทำให้สีหน้าของหลายคนแปลกไป ก่อนหน้านี้มีการโต้เถียงกับวังเสินเหวิน ตอนนี้ยังไม่ไว้หน้าอาณาจักรใต้พิภพอีก นี่ไม่เท่ากับรนหาที่ตายอย่างงั้นเหรอ?

 

“คำพูดของเจ้าเป็นตัวแทนของวังเทียนจี๋อย่างงั้นเหรอ?” สีหน้าหลินห้าวดำคล้ำ พร้อมกับปลดปล่อยกลิ่นอายเย็นเยียบออกมา

 

ขุมอำนาจชั้น 3 ระดับสูงไม่เข้าร่วมเขายังพอทน แต่กับวังเทียนจี๋ที่ตกต่ำนี้กลับกล้าปฏิเสธ นี่ไม่ต่างอะไรไปจากการตบหน้าเขา

 

“ใช่แล้ว เพราะข้าคือประมุข” อี้เทียนหยุนตอบกลับอย่างเฉยชา

 

“เด็กอย่างเจ้านี่นะประมุข?” หลินห้าวอ้าปากค้าง จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ได้ อาณาจักรใต้พิภพเราจะไม่บังคับ!”

 

คำพูดที่เขาพูดออกมานั้นหนักมาก แต่จะเป็นความจริงหรือไม่นั้น ไม่กระจ่างนัก ต่อหน้าสำนักทั้งหลาย เขาไม่มีทางเผยสิ่งที่คิดในใจออกมา ทำให้ไม่มีใครรู้ว่าในใจเขาคิดยังไง

 

อี้เทียนหยุนเดินกลับไปด้วยสีหน้าเฉยชา เขารู้ว่าต้องเผชิญหน้ากับอะไร แต่เขาก็เตรียมตัวไว้แล้ว ต่อต้านยังพอมีทางรอด แต่ถ้าเข้าร่วมกับอาณาจักรใต้พิภพแล้วล่ะก็ หนทางรอดนั้นก็จะไม่มี

 

เพราะถึงยังไงก็ต้องตายอยู่แล้ว ทำไมถึงไม่เลือกที่สู้จนตัวตายกันล่ะ?

 

“คนที่เลือกเข้าร่วมกับอาณาจักรใต้พิภพขอให้อยู่ต่อ ส่วนคนที่เลือกไม่เข้าร่วมขอให้จากไปได้” หลินห้าวยังคงเย็นชา ไม่หลงเหลือความสุภาพอีก แค่นี้ก็ถือว่าไว้หน้ามากแล้ว

 

เมื่อเข้าร่วมก็จะได้รับการให้เกียรติ แต่ถ้าไม่เข้าร่วมก็ขอให้ไสหัวไป แม้แต่น้ำแกงก็ไม่มีให้ดื่ม ตั้งแต่ที่เริ่มงานเลี้ยงในครั้งนี้ จนถึงปัจจุบันไม่มีความบันเทิงแม้แต่น้อย นอกจากเผชิญหน้ากับความอวดดีของพวกเขาแล้ว ก็ไม่สามารถสัมผัสถึงความอบอุ่นได้เลย

 

ทางวังไป๋เหลียนก็ไม่ได้พูดอะไร พวกเธอพากันจากไป อี้เทียนหยุนก็เลือกที่จะจากไปเช่นกัน ไม่คิดที่จะอยู่ที่นี่ต่อแม้แต่น้อย

 

แต่ในขณะที่อี้เทียนหยุนจะจากไป เสียงของหลินห้าวก็ดังมา “วังเทียนจี๋ ข้าบอกให้พวกเจ้าไปได้แล้วอย่างงั้นเหรอ?”

 

อี้เทียนหยุนขมวดคิ้ว ไม่ใช่บอกว่า ใครที่ไม่เข้าร่วมให้จากไปได้อย่างงั้นเหรอ?

 

ทางวังไป๋เหลียนพากันมองมายังที่นี่ จากนั้นก็ส่ายหัวแล้วจากไป ไม่ได้หยุดเดิน กระทั่งตำหนักซิงเฉินก็เช่นเดียวกัน ตำหนักซิงเฉินเลือกที่จะไม่เข้าร่วมกับอาณาจักรใต้พิภพ ฐานะของพวกเขาก็ไม่ต่ำเช่นกัน ดังนั้นจึงไม่ต้องการเข้าร่วมกับอาณาจักรใต้พิภพ

 

“น่าสงสารจริงๆ ที่สหายน้อยคนนี้ต้องรับตำแหน่งประมุข….” หลี่เทียนหงถอนหายใจ ยังหนุ่มแต่ก็เป็นถึงนักสลักอาคมชั้น 4 ซึ่งเขาก็เคยให้ความสนใจมาก่อน

 

ยังไงก็ตาม เรื่องนี้ต้องทำไปทีละขั้น ตอนแรกก็ชักชวนให้เข้าเป็นเข่อชิง จากนั้นค่อยรับเป็นศิษย์อีกที แต่ไม่คิดว่าจะกลายมาเป็นประมุขของวังเทียนจี๋ นี่ทำให้เขาคาดไม่ถึงจริงๆ ถ้าเขาแสดงตัวตอนนี้ ก็เท่ากับเป็นการหักหน้าอาณาจักรใต้พิภพ

 

“เฮ้อ น่าเสียดายจริงๆ ใครจะไปคิดกันล่ะ?” ผู้อาวุโสหยุนกับพวกพากันส่ายหัว พวกเขาชักชวนอี้เทียนหยุนด้วยความจริงใจ แต่ใครจะคิดว่าผลจะออกมาเป็นแบบนี้?

 

ในที่สุดอวี่ชีเชียนกับพวกก็จากไป แต่สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่มองกลับมา ไม่ใช่ว่าเธอชอบอี้เทียนหยุน แต่เธอคิดว่ารูปร่างของอี้เทียนหยุนดูคุ้นเคย กระทั่งน้ำเสียงยังคุ้นหู แต่ก็มีส่วนที่ไม่คล้ายอยู่นิดหน่อย

 

“บางทีข้าอาจจะจำผิด…..” อวี่ชีเชียนส่ายหัว คิดว่าวังเทียนจี๋ในคราวนี้คงต้องถูกลบออกไปจากทวีปเทียนจิ่งนี้แล้ว

 

อย่างรวดเร็ว สำนักอื่นๆ ก็ได้พากันจากไป ที่เหลืออยู่ก็แบ่งเป็นสองฝ่าย ฝ่ายแรกคือฝั่งที่เข้าร่วมกับอาณาจักรใต้พิภพ ขณะที่อีกฝั่งคือฝ่ายที่ไม่เข้าร่วม แต่ฝั่งที่ไม่เข้าร่วมกลับน่าสงสารนัก เพราะมีแค่วังเทียนจี๋แค่สำนักเดียวเท่านั้น ความต่างระหว่างทั้งสองฝ่ายช่างมหาศาล

 

“ท่านปู่….” มู่เซียนเอ๋อจับชายเสื้อผู้อาวุโสใหญ่แน่น นัยน์ตาที่งดงามเต็มไปด้วยความกังวล

 

เธอรู้ว่าเรื่องนี้ไม่จบง่ายๆ แน่ แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับขุมอำนาจพวกนี้ ก็อดสั่นสะท้านในใจไม่ได้ กระทั่งตัวผู้อาวุโสใหญ่เองก็ด้วย พวกเขาคิดไม่ถึงว่าจะต้องเผชิญหน้ากับขุมอำนาจใหญ่นี้จริงๆ

 

ในตอนแรกถ้าอี้เทียนหยุนไม่มา พวกเขาก็จะไม่ต้องเผชิญกับสถานการณ์นี้ และวังเทียนจี๋ก็จะตกเป็นหุ่นเชิดของอาณาจักรใต้พิภพ และไม่ต้องปรากฏตัวที่งานนี้ แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับอาณาจักรใต้พิภพ ซึ่งเป็นเรื่องที่คิดไว้อยู่แล้ว

 

“ไม่เป็นไรหรอก มีข้าอยู่ทั้งคน” อี้เทียนหยุนหันไปยิ้มให้เธอ พร้อมกับพูดปลอบ น้ำเสียงของเขามั่นคง เต็มไปด้วยความมั่นใจ

 

ดวงตาที่งดงามของมู่เซียนเอ๋อมองไปยังอี้เทียนหยุน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอคิดว่าอี้เทียนหยุนทำตัวสมกับเป็นประมุข เป็นประมุขที่แบกรับวังเทียนจี๋ไว้บนบ่า!

 

“วังเทียนจี๋ รู้ไหมว่าทำไมข้าถึงให้พวกเจ้าอยู่ที่นี่?” หลินห้าวพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ขณะที่มองมายังพวกเขา

 

“ที่ให้พวกเราอยู่ที่นี่ ถ้าไม่ใช่บังคับให้พวกเราเข้าร่วม ก็ต้องเป็นการให้พวกเราส่งมอบเคล็ดวิชาเซวียนเทียนออกไป” อี้เทียนหยุนพูดออกไปเบาๆ

 

เรื่องนี้ไม่มีอะไรให้ต้องปิดบัง จะพูดไม่พูดก็ต้องถูกจัดการอยู่แล้ว สู้พูดออกไปตรงๆ ดีกว่า

 

“เคล็ดวิชาเซวียนเทียน!?”

 

สำนักอื่นพากันตกใจ เคล็ดวิชาเซวียนเทียนของวังเทียนจี๋ถือเป็นวิชาลับ ได้ยินว่าเป็นถึงเคล็ดวิชาระดับสวรรค์ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้อาณาจักรใต้พิภพตื่นเต้นได้ยังไง?

 

“ไม่เสียทีที่เป็นถึงประมุขคนใหม่ อย่างน้อยสมองก็ยังใช้การได้ดีอยู่” หลินห้าวหัวเราะเยาะ “คำพูดไร้สาระไม่ต้องกล่าวแล้ว มอบเคล็ดวิชาเซวียนเทียนมาก แล้วข้าจะไว้ชีวิตวังเทียนจี๋ของพวกเขา รักษาสำนักของพวกเจ้าไว้!”

 

“เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่ออย่างงั้นเหรอ?” อี้เทียนหยุนหัวเราะเยาะ “เมื่อมอบเคล็ดวิชาเซวียนเทียนออกไป ข้ากลัวว่าพวกเราจะตายเร็วยิ่งกว่าเดิม?”

 

ตาของหลินห้าวเป็นประกาย “ถ้าเจ้าไม่ส่งมาตอนนี้ ก็จะตายมันตอนนี้เลย!”

 

ภายใต้คำสั่ง ทันใดนั้นก็มีร่างเงาหลายร่างปรากฏออกมา สามคนในนั้นสวมชุดสีดำปรากฏขึ้นข้างกายเขา ผู้คุ้มกันพวกนี้จะว่ามากก็ไม่มาก แต่ก็มีสิบคนได้ ซึ่งต้องใช้ทรัพยากรมหาศาลในการฝึกขึ้นมา

 

ผู้คุ้มกันเงาแต่ละคน สิ่งแรกที่ต้องมีความความซื่อสัตย์ พร้อมกับระดับที่ไม่ต่ำทราม แต่ละคนล้วนแต่มีพลังระดับก่อแกนวิญญาณขึ้นไป ดังนั้นทรัพยากรที่ใช้ไปจึงเป็นจำนวนที่มหาศาลสุดๆ แต่ก็ใช้ได้ดีในการลอบสังหาร ทำให้ขุมอำนาจนับไม่ถ้วนเป็นไปไม่ได้ที่จะป้องกัน

 

อี้เทียนหยุนมองไปยังผู้คุ้มกันเงารอบๆ ระดับสูงที่สุดอยู่ที่ระดับก่อแกนวิญญาณขั้นที่ 3 ซึ่งสำหรับเขาแล้วไม่ต่างอะไรไปจากขยะ

 

“แต่พวกเราไม่มีเคล็ดวิชาเซวียนเทียน แล้วจะให้มอบให้ยังไง?” อี้เทียนหยุนพูดอย่างไม่ใส่ใจ

 

“วางใจเถอะ หลังจากจับเจ้าแล้ว ข้าจะใช้วิชาครวญวิญญาณเอง!” ดวงตาของหลินห้าวเต็มไปด้วยจิตสังหาร!