ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 317 ท่าทีโต้ตอบของเขาล้นเหลือ
“ผมพูดคุณฟังไม่รู้เรื่องหรือไง? เมื่อกี้คุณเอาของอะไรไป? ซุปลูกบัวของเด็ก คุณแอบเอาไปทำไม? คุณอยากที่จะทำอะไร?”
สีหน้าของสุเชาวน์ดุร้าย ชี้นิ้วต่อว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงพื้น นัยน์ตามีความอาฆาต
เส้นหมี่ที่อยู่บนพื้นสีหน้าซีดเซียวมากยิ่งขึ้น!
เธอเข้าใจว่าทำไมเวลานี้ผู้ชายคนนี้ถึงมีสีหน้าอย่างนี้ เขากำลังกลัว และกำลังหวาดระแวง แต่นี่ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ความจริงในสิ่งที่คิวคิวพูด
“หนูไม่ได้ขโมยนะคะ อาเล็ก คิวคิวบอกว่าบ้านของคุณอาทำอาหารอร่อยมาก เขาอยากที่จะเอาไปให้หนูชิมก็เลยหยิบเอามา ถ้า….อาเล็ก ไม่ยอม หนูเอาคืนก็ได้ค่ะ“
เส้นหมี่อดทนอดกลั้นต่อความเจ็บปวดที่อยู่บนร่างกาย แล้วเอาขวดแก้วเล็กๆที่ลูกชายของเธอให้มาเมื่อกี้หยิบออกมา
สุเชาวน์ตะลึง
นี่เขาคิดไม่ถึง
ว่าผู้หญิงคนนี้จะเอาคืนเขางั้นหรอ? หรือว่าเมื่อกี้เขาคิดผิดไป?
เขาจ้องมองขวดแก้วเล็กๆสักพัก มองไม่ออกว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้ากำลังมาไม้ไหนกันแน่
เส้นหมี่เห็นสีหน้าของเขาเป็นแบบนี้ก็รู้ว่าผ่อนคลายลงไปแล้ว ดังนั้นเธอรีบดันลูกชายที่นั่งยองๆอยู่ข้างกาย “คิวคิว รีบเอาอันนี้ให้ปู่เล็กสิ”
คิวคิว “…..”
แม้ว่าจะไม่เข้าใจว่าทำไมหม่ามี๊จะต้องเอาของที่พวกเขาขโมยมาอย่างยากลำบากนั้นส่งคืนให้กับคนๆนี้ด้วย แต่ว่าเขาก็ยังเชื่อฟังหยิบขวดนั้นขึ้นมา
“นี่ครับ!” เขายื่นมือยัดใส่ลงในมือของคนเลวคนนี้
สุเชาวน์เห็นขวดนี้แล้วก็ให้เลิกหวาดระแวงในที่สุด
อาจจะเป็นเพราะเขาคิดผิดไปจริงๆ
เขารีบเปลี่ยนสีหน้า แล้วเข้ามาประคองด้วยความรู้สึกผิด “ขอโทษนะหลานสะใภ้ เมื่อกี้ลุงคิดว่าหนูจะเอาสิ่งนี้ไปทำอะไรเลยรีบร้อน ไม่ได้เตะโดนตรงนั้นใช่ไหม?”
“ไม่โดนๆค่ะ”
เส้นหมี่ส่ายหน้าอีก และทำท่าไม่เป็นไร
ของดีๆแบบนั้น ถ้าไม่ได้ใส่อะไรลงไป เธอเอามันไป เขาจะรีบร้อนทำไม?
เส้นหมี่อาศัยไหวพริบของตัวเองถึงรอดมาจากอันตรายในครั้งนี้
คิวคิวไม่ค่อยเข้าใจเรื่องนี้ เมื่อคนทั้งสองออกมาแล้ว เขาเลยถามหม่ามี๊ว่า “หม่ามี๊ ทำไมหม่ามี๊เอาขวดนั้นให้ปู่เล็ก พวกเราได้มันมาแล้วก็รีบไปหาคุณปู่ก็ได้นิครับ”
“ไม่ได้ พวกเราไม่มีหลักฐาน อีกอย่างพอปู่เล็กของลูกดิ้นรนสุดฤทธิ์ พวกเราคงมีอันตรายแน่”
เส้นหมี่ยังคงกุมหน้าท้องของตัวเองที่เจ็บ แล้วอธิบายให้ลูกชายฟังอย่างละเอียด
แน่นอนว่าเธอไม่ได้บอกเด็กๆ ว่าขนมชิ้นนั้นจริงๆแล้วเธอเก็บไว้บางส่วน อยู่ในกระเป๋ากางเกงของเธอ เมื่อกี้เธอฉุกคิดขึ้นมาได้เลยเทออกมาบางส่วน
แม้ว่าวิธีนี้จะโหลไปหน่อย แต่เอาให้แครอทไปตรวจสอบก็เพียงพอแล้ว
เส้นหมี่พาเด็กๆออกจากคฤหาสน์หลังเก่า คุณท่านอยากที่จะยื้อสามคนแม่ลูกให้กินข้าวอยู่ก่อน ก็ยื้อไว้ไม่ได้
“โรจน์ ทำไมเธอไปไวอย่างนั้น? ยังไม่ยอมยกโทษให้ฉันหรือเปล่า? ขนาดข้าวยังไม่ยอมอยู่กินที่นี่เลย”
คุณท่านไม่สามารถทำให้พวกเธออยู่กินข้าวต่อได้ก็รู้สึกเศร้าใจ
พ่อบ้านโรจน์จะพูดว่าอะไรได้?
เขาทำได้เพียงปลอบเขาว่า “ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไปครับ เธอพาเด็กๆมาหาท่านก็นับว่าไม่เลวแล้ว พวกเราให้เวลาเธอหน่อย ให้เธอค่อยได้ปรับตัวนะครับ”
“ใช่ๆ พวกเราบังคับเธอไม่ได้”
พอคุณท่านได้ยินอย่างนี้ก็ให้ดีใจขึ้นมาหน่อย
ในตึกหิรัญชากรุ๊ป ตอนที่แสนรักกำลังจะเลิกงานก็ได้ยินเรื่องนี้เหมือนกัน
ไปคฤหาสน์หลังเก่า?
พอข่าวได้ผ่านเข้ามาทางหู ปากกาที่อยู่ในมือเขาหยุดลงทันที เงยหน้ามองคนที่อยู่ตรงหน้า “เธอไปทำอะไร พ่อนั่นหาเรื่องเธออีกแล้วหรอ?”
ท่าทีโต้ตอบของเขามากขนาดนี้เลยหรอ?
เครีบพูดแก้ให้สถานการณ์คลายลง “ไม่ใช่ครับ เธอพาเด็กทั้งสองไปเอง ไม่รู้ว่าคุณชายเล็กทั้งสองอยากที่จะไปหาคุณท่านที่นั่นอีกใช่หรือเปล่า เลยให้เธอพาพวกเขาไป?”
แสนรักเย้ยหยัน “นี่นายเชื่อคำพูดบ้าๆนี่ด้วยหรอ?”
หลังจากนั้นเขาไม่สนใจเอกสารที่กำลังอ่านอยู่ในมือ เขาโยนปากกาทิ้งแล้วหยิบกุญแจรถที่อยู่ในลิ้นชักเดินออกไป
เค “…..”
ก็จริงตอนนี้คนทั้งสองเข้ากันไม่ได้ สถานการณ์อย่างนี้คงไม่เกิดขึ้นแน่
เคเลยทำได้แค่อยู่จัดการเอกสารต่อ
ส่วนแสนรักกลับใช้ความเร็วรถที่เร็วมากขับมาถึงวิลล่า แล้วก็ไปยังชั้นบนทันที
“พี่ภา พวกเขาอยู่ไหนครับ?”
“ห๊า? คุณผู้ชายหรอคะ ทำไมกลับมาเร็วจังคะ? คุณเส้นหมี่พาเด็กๆไปหาคุณแครอทที่นั้นค่ะ” พี่ภาที่รีบร้อนออกมาเห็นคุณชายกลับมาเร็วก็แปลกใจ
แล้วยังไปหาแครอทที่นั่นด้วยหรอ?
แสนรักให้หน่วงมากยิ่งขึ้น “เธอไปหาแครอทที่นั่นทำไมครับ? แล้วก็วันนี้ผมได้ยินมาว่าตอนบ่ายเธอไปคฤหาสน์หลังเก่ามา เธอไปทำอะไรครับ?”
พี่ภาส่ายหน้า “พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่ว่าไม่นานเธอก็กลับมานะคะ แล้วไปหาคุณแครอทที่นั่นต่อ”
แสนรัก “……”
ในระหว่างนั้นเขาก็รู้สึกว่าในใจของเขามีความว้าวุ่นขึ้นมา ความรู้สึกนี้ทำให้เขาถึงขนาดหมดความสนใจที่จะสืบเลยว่าเธอกำลังทำอะไรกันแน่
ทำไมเขาต้องรู้ล่ะ?
ยังไงก็ตามวิธีทำของเธอ ก็เป็นเพียงแต่รีบจัดการเรื่องราวที่นี่ทุกอย่างให้เสร็จ รวมไปถึงเรื่องพ่อนั่นด้วย หลังจากนั้นก็จะได้รีบไปเมืองMเพื่อดำเนินแผนการพัฒนาของตระกูลวชิรนันท์ของเธอ
ไม่ใช่หรอ?
เขายืนอยู่ตรงระเบียงทางเดินสายตาทอดมองยาวออกไปไกล ไม่รู้มองไปตกอยู่ที่ส่วนไหน นัยน์ตาดำขลับนั้นเหลือแต่หมอกสีขาวๆมาปกคลุม