ตอนที่ 1970 คำเตือนของจินหยาง (6) / ตอนที่ 1971 การต่อสู้ระหว่างเซียนอาวุโส (1)

ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ

ตอนที่ 1970 คำเตือนของจินหยาง (6)

ถ้าองค์หญิงจินหยางอยู่ที่นี่เขาก็คงระวังมากกว่านี้ แต่องค์หญิงจินหยางยังไม่ได้เข้ามาในป่าบททดสอบสวรรค์แล้วเหตุใดเขาต้องกลัวคนตรงหน้าด้วย

“เฉียวจื่อเสวียน เจ้าขุดหลุมฝังตัวเองแล้ว!” องค์ชายอาณาจักรจินหยางส่งเสียงขึ้นจมูกแล้วพูดอย่างเยาะเย้ย

เฉียวจื่อเสวียนกำลังจะเถียงกลับแต่ทันใดนั้นเขาก็สังเกตเห็นอวิ๋นลั่วเฟิงและพวกของนาง

เขาสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะส่งเสียงขึ้นจมูก “เฉิงลี่ อาณาจักรเทียนฉีและอาณาจักรหลิวเฟิงที่ร่วมมือกันก็อยู่ที่นี่เหมือนกัน พวกเขาต้องมีหยกผนึกอยู่ในมือพวกเขาเหมือนกัน พวกเราร่วมมือกันจัดการกับพวกเขาดีหรือไม่”

ทันทีที่เฉียวจื่อเสวียนคิดได้ว่าอวิ๋นเซียวสังหารเฉียวเยี่ยเฟิง เขาก็กัดฟันด้วยความโกรธแค้น ดวงตาของเขาปรากฏประกายเย็นชา

เฉิงลี่ที่เป็นองค์ชายของอาณาจักรจินหยางก็เหลือบมองอวิ๋นลั่วเฟิงและเห็นได้ชัดว่าเขากำลังคิดเกี่ยวกับคำเชิญชวนของเฉียวจื่อเสวียน

สักพักหนึ่งเขาก็พูดขึ้นว่า “ในเมื่อเป็นแบบนั้น ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไปขโมยหยกผนึกของนางก่อน!”

ทั้งสี่อาณาจักรมารวมกันแล้ว นอกจากฉีอวี่และกลุ่มของเขา ทุกคนก็มาถึงที่นี่หมดแล้ว แต่เห็นได้ชัดว่าอาณาจักรหลิวเฟิงและอาณาจักรเทียนฉีร่วมมือกัน ส่วนอาณาจักรจินหยางและอาณาจักรจื่อเยว่ก็เป็นพันธมิตรกัน!

อวิ๋นลั่วเฟิงกอดอกแล้วเอนพิงต้นไม้โบราณด้านหลังอย่างเกียจคร้าน รอยยิ้มบนใบหน้าของนางดูเฉื่อยชาและร้ายกาจ

“เจ้ามั่นใจหรือว่าเจ้าอยากสู้ตอนนี้”

“ฮึ่ม!” เฉียวจื่อเสวียนส่งเสียงขึ้นจมูก “ถ้าเจ้ายอมมอบหยกผนึกมาแต่โดยดี พวกเราก็จะไว้ชีวิตเจ้า!”

อันตรายในป่าบททดสอบสวรรค์มีมากมายมหาศาล ดังนั้นต่อให้เขาสังหารอวิ๋นลั่วเฟิงที่นี่ก็ไม่มีใครรู้

อวิ๋นลั่วเฟิงดึงแขนที่กอดอกออกแล้วยิ้ม “โชคร้ายที่เจ้าไม่มีโอกาส! อวิ๋นอี้!”

ทันใดนั้นก็มีแสงสว่างวาบแล้วร่างแข็งแกร่งและสูงใหญ่ของอวิ๋นอี้ก็ลงมาเหยียบพื้นอย่างรุนแรงด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก

“ผู้ฝึกฌานขั้นเซียนสวรรค์งั้นหรือ”

เขาไม่ได้ปิดบังกลิ่นอายแม้แต่น้อยจนทำให้ทุกคนที่อยู่ที่นี่ตะลึง

เฉียวจื่อเสวียนกัดฟัน “มู่เสวี่ยซินจากอาณาจักรหลิวเฟิงก็ไม่เห็นมีอะไรเลย และคนจากอาณาจักรเทียนฉีก็มีเพียงน้อยนิด เมื่อร่วมมือกันความแข็งแกร่งของพวกเราก็เพียงพอที่จะจัดการกับผู้ฝึกฌานขั้นเซียนสวรรค์คนนี้!”

หลังจากที่พูดจบเฉียจื่อเสวียนก็สั่งให้คนด้านหลังลงมือ แต่ว่าก่อนที่คนพวกนี้จะถึงตัวอวิ๋นลั่วเฟิงและคนอื่นๆ ร่างสีดำดุจเหยี่ยวก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าแล้วบินลงมาตรงหน้าอวิ๋นลั่วเฟิง

ชายคนนี้มีร่างสูงใหญ่ที่ดูหล่อเหลาและเย็นชา ใบหน้าของเขาทำให้เฉียวจื่อเสวียนเปลี่ยนสีหน้าไปอย่างมากแล้วความกลัวก็ปรากฏในดวงตาของเขา

“เหตุใด…เหตุใดเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่”

จักรพรรดิปีศาจตามมาตลอดเลยงั้นหรือ พวกเขาไม่รู้หรือว่าเรื่องนี้ผิดกฎ

อวิ๋นเซียวไม่ได้พูดอะไร ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่แม้แต่จะเหลือบมองเฉียวจื่อเสวียน เขาดึงอวิ๋นลั่วเฟิงเข้าสู่อ้อมกอดเพื่อปกป้องนางก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขาจะเย็นเยียบ

“มีใครบางคนอยู่ที่นี่…”

แล้วพวกเขาก็ไม่ได้มีแค่หนึ่งหรือสองคน

ก่อนที่เฉียวจื่อเสวียนและคนอื่นจะได้ตอบสนอง พวกเขาก็เห็นร่างจำนวนมากบินลงมาจากท้องฟ้า กลิ่นอายของพวกเขาทรงพลังมากเสียจนทำให้สวรรค์และปฐพีสูญเสียสีสัน

คนจากอาณาจักรจินหยางรู้สึกหวาดกลัวแต่เมื่อพวกเขาเห็นอู๋จุนอยู่ท่ามกลางคนพวกนี้ ใบหน้าของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความปิติ

“ท่านอู๋จุน!”

น่าเสียดายที่อู๋จุนไม่คิดว่าพวกเขามีค่าพอให้เหลือบมอง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความแข็งกระด้างแล้วไอสังหารก็แผ่ออกมาจากร่างเขาจนปกคลุมไปทั่วท้องฟ้าและพื้นดิน

ในที่สุดคนจากอาณาจักรจินหยางก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ แล้วหุบปากโดยไม่พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว

“ท่านอู๋จุนจากอาณาจักรจินหยาง เหตุใดท่านถึงมาอยู่ที่นี่” เฉียวจื่อเสวียนสะดุ้ง เขาไม่คิดว่าอู๋จุนมาที่นี่เพราะรู้ว่าอวิ๋นเซียวเข้ามาทำลายการประลอง

ตอนที่ 1971 การต่อสู้ระหว่างเซียนอาวุโส (1)

ตอนนั้นเองที่เฉียวจื่อเสวียนนึกถึงเรื่องที่จู่ๆ องค์หญิงจินหยางก็ถอนตัวไป และความรู้สึกไม่ดีก็บังเกิดขึ้นในใจเขา

ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น คนที่มากับอู๋จุนก็เป็นผู้ฝึกฌานขั้นเซียนอาวุโสทั้งหมด!

สวรรค์ แคว้นนี้มีผู้ฝึกฌานขั้นเซียนอาวุโสมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

“ฮะ ฮะๆ! ดูเหมือนว่านี่จะเป็นการรวมตัวที่เกือบสมบูรณ์แบบเลยนะ นอกจากไอ้ขยะองค์ชายสามจากอาณาจักรเทียนฉี แต่ว่า ลืมมันไปเถอะ ถ้าไอ้ขยะนั่นไม่โผล่มาก็ไม่เป็นไร” เสียงหัวเราะดังขึ้นแล้วสตรีงดงามในชุดสีเขียวผู้หนึ่งก็เดินออกมาจากกลุ่มคน

หญิงสาวกวาดสายตามองผู้ชมแล้วสังเกตเห็นสตรีที่ยืนอยู่ข้างอวิ๋นเซียว ความริษยาก็ครอบคลุมดวงตาของนาง

ดูเหมือนมีแค่ก่อนหน้านี้อวิ๋นเยว่ชิงยังไม่พอ ตอนนี้ยังมีสตรีอีกคนที่หน้าตาเหมือนอวิ๋นเยว่ชิงอีก แล้วท่านประมุขก็สนใจในตัวนางอีกแล้ว

“แม่นางซินเยว่ ท่านจะละเว้นอัจฉริยะของอาณาจักรจินหยางของพวกเราได้หรือไม่” อู๋จุนหันไปหาสตรีชุดเขียวแล้วถามอย่างไม่แน่ใจ

สตรีผู้นี้ไม่ได้เป็นแค่ศิษย์น้องของประมุขแต่ยังเป็นอนุภรรยาของเขาด้วย ดังนั้นเขาจึงไม่ควรยั่วยุนาง

“ท่านประมุขออกคำสั่งให้มากำจัดอัจฉริยะทุกคนภายในป่าบททดสอบสวรรค์รวมถึงพวกที่มาจากอาณาจักรจินหยางด้วย!” นางตอบด้วยสีหน้าเฉยชา ดวงตาของนางเป็นประกายเหยียดหยาม

สีหน้าของอู๋จุนเปลี่ยนไปขณะที่หันไปมองคนจากอาณาจักรจินหยาง เขาต้องการจะพูดอะไรบางอย่างแต่สุดท้ายก็ไม่สามารถพูดออกไปได้

“ท่านอู๋จุนเกิดอะไรขึ้นขอรับ” เฉิงลี่ไม่พอใจมาก เขากำหมัดแน่น “อีกอย่าง จินหยาง ก่อนหน้านี้จินหยางบอกว่านางมีบางอย่างต้องไปทำดังนั้นนางจึงออกไป นางรู้อยู่แล้วหรือว่าพวกเราต้องมาเจอกับอะไร”

อู๋จุนเหลือบมองเฉิงลี่แล้วพูดอย่างเฉยชาว่า “จินหยางไม่รู้อะไรเลย นางก็แค่โชคดี ท่านประมุขของสำนักอิสระชื่นชอบนางดังนั้นข้าก็เลยให้นางออกไปก่อน”

“เสด็จพ่อรู้เรื่องนี้หรือไม่” เฉิงลี่ถามลอดไรฟัน

“ฝ่าบาทรู้เรื่องนี้แล้ว เป็นฝ่าบาทที่ตกลงกับสำนักอิสระ”

ตอนแรกในใจของคนจากอาณาจักรจินหยางก็มีความหวังโดยเฉพาะเฉิงลี่ เขารักและเคารพบิดาของเขามาก

แต่ว่าคนพวกนี้บอกเขาว่าเสด็จพ่อวางแผนจะทิ้งเขางั้นหรือ ไม่มีทาง!

เฉิงลี่กำหมัดแน่นแล้วตะโกนจนสุดเสียง “ท่านต้องโกหกข้าแน่! อย่างน้อยข้าก็เป็นบุตรชายของเสด็จพ่อ เหตุใดเสด็จพ่อถึงทำกับข้าแบบนี้”

“องค์ชายสี่ ฝ่าบาทมีปัญหาหนักใจของตัวเองแล้วและฝ่าบาทก็ทำไม่มีทางเลือกอื่น นี่เป็นคำสั่งของสำนักอิสระ พวกเราขัดคำสั่งไม่ได้”

คำพูดของเขาเปิดเผยออกมาแล้วว่าอาณาจักรจินหยางเป็นของสำนักอิสระ พวกเขาไม่กล้าขัดคำสั่งของสำนักอิสระ

ดวงตาของฉีหลิงคมปลาบ “ก็หมายความว่าการที่พวกเรามาที่ป่าบททดสอบสวรรค์เป็นแผนของอาณาจักรจินหยางและสำนักอิสระใช่หรือไม่ เจ้าบอกว่าเจ้าจะให้ทั้งสี่อาณาจักรร่วมมือกันจัดการกับสำนักอิสระ แต่สุดท้ายเขาก็กลายเป็นคนรับใช้ของสำนักอิสระ แล้วยังต้องการจับอัจฉริยะจากอาณาจักรทั้งสี่ทีเดียวด้วยงั้นหรือ”

“ใช่แล้ว” อู๋จุนไม่ได้ปฏิเสธ “ป่าบททดสอบสวรรค์จะเป็นทุ่งฝังศพของพวกเจ้า! แต่ว่าด้วยฐานะที่พวกเจ้าเป็นคนจากสี่อาณาจักร ข้าก็จะอนุญาตให้พวกเจ้าได้รู้จักกันไว้!”

เสียงของเขาเย่อหยิ่งมาก เห็นได้ชัดว่าเขาดูถูกกลุ่มอัจฉริยะเหล่านี้

คนเดียวที่ทำให้เขาระแวงก็คือจักรพรรดิปีศาจ แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เขาไม่คิดว่าจักรพรรดิปีศาจจะสามารถเอาชนะยอดฝีมือขั้นเซียนอาวุโสจำนวนมากได้…เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้!

อวิ๋นเซียวยืนอยู่ข้างอวิ๋นลั่วเฟิงตลอดเวลาและปกป้องนางไว้ในอ้อมแขน เขาสำรวจยอดฝีมือที่ล้อมเขาไว้อย่างเย็นชา จิตสังหารค่อยๆ แผ่ออกมาจากดวงตาสีนิลของเขา