บทที่ 347 เปิดประตู

มหายุทธ์ สะท้านภพ Remake

ถึงแม้จะบอกว่าลมปราณของหุ่นเชิดแดงสด แข็งแกร่งกว่าจักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิงหนึ่งขั้น แต่ถึงอย่างไรก็ตามหุ่นเชิดนั้นไม่มีปัญญาที่สูง มีเพียงกำลัง ทั้งยังไม่มีแดนโลกยุทธ์ ความสามารถที่แท้จริง จึงไม่แข็งแกร่งเทียบเท่าจักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิง

แต่ว่าเกราะโลหะของหุ่นเชิดแดงสดนั้นแข็งแกร่งอย่างมาก บนตัวมีสัญลักษณ์ค่ายคุ้มกันสลักเอาไว้ แม้ว่าจักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิงจะทำลายหุ่นเชิดไปหนึ่งตัว ก็ต้องเผาผลาญไปไม่น้อย

ทว่าผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์ทุกคนในเหตุการณ์กลับไม่รู้เลยว่า ความเป็นจริงแล้วเด็กรุ่นหลังที่ไม่โดดเด่นอย่างหลัวซิว กำลังลอบควบคุมหุ่นเชิดแดงสดทั้งสองตัวอยู่

หุ่นเชิดแดงสดตัวหนึ่งถูกจักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิงอาศัยกำลังของตนเพียงคนเดียวในการกำราบ

หุ่นเชิดแดงสดอีกหนึ่งตัวที่เหลือ ภายใต้การจอมตีของผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์สิบกว่าคน ก็ค่อยๆ รับมือไม่ไหวแล้วเช่นกัน

“ตายซะ!”

ฝานไท่เต๋อที่กำลังโมโหได้ผนึกรวมเปลวไฟพลังจิตแท้ พุ่งกระบี่ออกไป เปลวไฟพลังจิตแท้แปลงเป็นมังกร แสดงทักษะยุทธืที่แข็งแกร่งที่สุดออกมา คว้าโอกาส ฟันศีรษะหุ่นเชิดแดงสดจนพังทลาย

จากนั้น จักรพรรดิยุทธ์คนอื่นๆ ก็เริ่มโจมตีเช่นเดียวกัน แม้ว่าหุ่นเชิดตัวนี้จะมีเกราะคุ้มกันที่แข็งแกร่งมากแค่ไหน ก็ถูกทำลายจนเต็มไปด้วยบาดแผล

ไม่รู้ว่าหุ่นเชิดแดงสดสองตัวนี้ถูกปลุกตื่นได้อย่างไร กระทั่งสุดท้ายทำลายการโจมตีของหุ่นเชิดแดงสด ศึกในครั้งนี้กินเวลาไปเกือบครึ่งชั่วยาม

ประเด็นสำคัญคือเกราะคุ้มกันของหุ่นเชิดสองตัวนี้แข็งแกร่งอย่างมาก โจมตีรุนแรง นอกเหนือจากจักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิงแล้ว ไม่มีใครสามารถประชันกับพวกมันซึ่งหน้าได้

หุ่นเชิดสองตัวเต็มไปด้วยบาดแผล แทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ที่เกิดเหตุวุ่นวายไปหมด

สีหน้าของผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์ทุกคนล้วนไม่สู้ดีเท่าไหร่ เพราะยังไม่ได้เข้าไปในตำหนักดำ ก็สูญเสียจักรพรรดิยุทธ์ไปคนหนึ่งแล้ว

อีกทั้งหลังจากผ่านการต่อสู้ในครั้งนี้ จักรพรรดิยุทธ์คนอื่นๆ มีหลายคนที่บาดเจ็บ โดยเฉพาะฝานไท่เต๋อที่ถูกหุ่นเชิดแดงสดไล่โจมตี ผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อผ้าบนตัวขาดวิ่น

อีกด้านหนึ่ง เหว้ยห้าวหรานกำลังซ่อมแซมหุ่นเชิดระดับจักรพรรดิยุทธ์ของตนด้วยความปวดใจ พูดเสียงดัง:”หุ่นเชิดของฉันบาดเจ็บต้องได้รับการซ่อมแซม วัสดุเหล่านี้บนตัวหุ่นเชิด ฉันขอก็แล้วกัน!”

ขณะพูด เหว้ยห้าวหรานเองก็ไม่ได้เกรงใจ ผายมือเก็บรวบรวมซากวัสดุของหุ่นเชิดที่อยู่บนพื้น

จักรพรรดิยุทธ์คนอื่นๆ อยากจะแบ่งด้วย ทว่าเหว้ยห้าวหรานกระทำการด้วยความรวดเร็ว ทำให้จักรพรรดิยุทธ์คนอื่นๆ อดไม่ได้ที่จะกระตุกมุมปาก

“ไอ้หน้าเงินเหว้ย จัดการหุ่นเชิดแดงสดสองตัวนี้ ทุกคนล้วนลงทุนลงแรง นายจะเอาประโยชน์ไปคนเดียวไม่ได้รึเปล่า? ยิ่งไปกว่านั้นยังสูญเสียจักรพรรดิยุทธ์ที่เป็นพวกเดียวกันอีก” อาจารย์หงหมิงขมวดคิ้วแล้วพูด

วัสดุของหุ่นเชิดเหล่านั้น เขาเองก็อยากได้มากเหมือนกัน เพราะการสร้างหุ่นเชิด ไม่ได้เป็นแค่ผลงานโดดเด่นของนักค่ายกล แต่ว่ายังข้องเกี่ยวกับความพิศวงของวิชากลั่นสมบัติโบราณ

หุ่นเชิดแดงสดสองตัวนี้มีอายุหลายหมื่นปี เป็นวัตถุโบราณที่อยู่มาตั้งแต่สมัยโบราณ ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นวัสดุล้ำค่า ที่ไม่สามารถหาได้อีกบนโลกยุคปัจจุบันก็ได้

“พวกนายเข้าใจวิชาค่ายกลหุ่นเชิด? ของเหล่านี้ฉันเก็บไปเพื่อใช้ประโยชน์ พวกนายเอาไปก็เสียของเปล่าๆ อย่างมากถ้าเจอของล้ำค่าอื่นๆ อีก ฉันเอานิดหน่อยก็พอ”

เหว้ยห้าวหรานเบ้ปาก สำหรับคนหน้าเงินอย่างเขา ของล้ำค่าที่ตกเป็นของตนเองแล้ว ยังคิดอยากจะให้เขาคายออกมาอย่างนั้นเหรอ?

อาจารย์หงหมิงรนหาเรื่อง หลังจากหัวเราะหึในลำคอ ก็ไม่ได้พูดอะไร

“ในเมื่อนายเก็บวัสดุไปหมดแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ขอพูดจาแย่ๆ เอาไว้ล่วงหน้า หลังจากเข้าไปในตำหนักแล้วเจอของล้ำค่าอื่นๆ นายห้ามโลภ” เวลานี้จักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิงเองก็พูดขึ้นหนึ่งประโยค

เห็นได้ชัด สำหรับความโลภของเหว้ยห้าวหราน จักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิงเองก็ไม่พอใจ

หลังจากนั้นผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์ก็เริ่มทำการฟื้นฟูผลการฝึกตนที่เผาผลาญไปก่อนหน้านี้ สำหรับอาจารย์ตระกูลโจวที่เสียชีวิตไปนั้น ร่างที่ฉีกขาดและแหวนเก็บของรวมถึงอาวุธ ล้วนถูกฝานไท่เต๋อเก็บเอาไว้

หลัวซิวพูดเสียดายในใจ ถึงแม้ว่าหุ่นเชิดระดับจักรพรรดิยุทธ์สองตัวจะไม่สามารถฆ่าฝานไท่เต๋อได้ แต่ฆ่าอาจารย์จักรพรรดิยุทธ์ที่สนับสนุนราชวงศ์ตระกูลฝานได้ ก็คือว่าทำคุณงามความดีแล้ว

หลังจากใช้เวลาไปเกือบครึ่งวัน ผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์ทุกคนฟื้นฟูอาการของตนเอง หลังจากนั้นเตรียมตัวพร้อมที่จะออกเดินทางต่อ สายตาของทุกคน มองไปยังประตูตำหนักสูงตระหง่านสีดำตรงหน้าอย่างพร้อมเพรียง

เหว้ยห้าวหรานส่งจักรพรรดิยุทธ์หุ่นเชิดของตนออกไป ขยับเข้าไปใกล้ด้วยความระมัดระวัง มือทั้งสองข้างผลักประตูอย่างแรง

ครืด……

ประตูสูงตระหง่านสีดำขนาดใหญ่ถูกผลักเปิด ไม่มีสถานการณ์อันตรายใดๆ ปรากฏออกมา หลังจากทุกคนเดินเข้าไปในตำหนักด้วยความระแวดระวัง พวกเขาก็สัมผัสถึงพลังฟ้าดินจิตที่เข้มข้นทันที ฟุ้งอยู่ภายในตำหนัก

พลังฟ้าดินจิตในคีตโลกาถ้ำเทพสถิตแห่งนี้ รวมตัวกันอยู่ที่นี่ พลังฟ้าดินจิตที่เข้มข้นอยู่รวมกัน กลายเป็นหมอกหนา ถ้าหากสามารถฝึกตนที่นี่ได้ ย่อมสำเร็จไปกว่าครึ่งแน่นอน

ภายในตำหนักมีขนาดใหญ่มาก ทุกคนเดินทางนานกว่าสองชั่วยาม เดินผ่านถนนมากมายนับไม่ถ้วน ตลอดทางพวกเขาไม่ได้พบเจออันตรายอื่นๆ แต่อย่างใด

ในที่สุด พวกเขาก้มาถึงพื้นที่ใจกลางซึ่งอยู่ส่วนลึกในตำหนัก แท่นบูชาปรากฏขึ้นตรงหน้า ด้านบนสลักลวดลายซับซ้อนเอาไว้ เคล้าไปด้วยความลึกลับของค่ายกลโบราณ

เหว้ยห้าวหรานพุ่งตัวออกไปคนแรก แต่ว่าลวดลายค่ายกลด้านบนนั้นยากจะเข้าใจ ด้วยปรมาจารย์ค่ายกลขั้น6ของเขา ไม่เข้าใจแม้แต่น้อย

“ประณีตมาก!”
เหว้ยห้าวหรานอดไม่ได้ที่จะอุทาน “ถ้าให้ฉันทำความเข้าใจอยู่ที่สักหนึ่งถึงสองร้อยปี ฉันมั่นใจว่าสามารถบรรลุปรมาจารย์ค่ายกลขั้น7ได้!”

เมื่อได้ยินคำนี้ อาจารย์หงหมิงหัวเราะในลำคอ แล้วพูดขึ้น:”ถ้าอย่างนั้นนายก็อยู่ศึกษาที่นี่ก็แล้วกัน”

“ไอ้แก่หง นายอยากจะให้ฉันอยู่ที่นี่แล้วคอยศึกษาค่ายกล ส่วนพวกนายเข้าไปหาของล้ำค่าข้างใน?” เหว้ยห้าวหรานหัวเราะเยือกเย็น ถอนสายตากลับมาจากแท่นบูชาด้วยความอาลัยอาวรณ์ ตอนที่เขาเตรียมตัวจะออกไป ใช้ม้วนหยกสลักลวดลายของค่ายกลออกมาหนึ่งส่วน เพื่อเอากลับไปศึกษา

หลัวซิวสัมผัสได้ถึงเสียงสะท้อนระหว่างลูกแก้วดำกับแท่นบูชา ทั้งยังสังเกตเห็นด้วยความแยบยล ใจกลางแท่นบูชา มีหลุมทรงกลม คล้ายสามารถวางลูกแก้วดำเข้าไปได้

สิ่งนี้ทำให้แววตาของหลัวซิวทอประกาย คาดเดาว่าแท่นบูชานี้ มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นค่ายกลสำคัญของตำหนักนี้ เพียงแต่การคาดเดานี้ เขาเองก็ไม่มั่นใจทั้งหมด ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ทำอะไ

เดินออกไปจากบริเวณใกล้เคียงแท่นบูชา ผ่านไปไม่นาน วิสัยทัศน์ด้านหน้าก็แปรเปลี่ยนเป็นสดใส สวนยาพืชพรรณเขียวชอุ่ม ปรากฏขึ้นตรงหน้าทุกคน

พลังฟ้าดินจิตที่นี่เข้มข้นมาก ยังไม่ทันเข้าไปใกล้ ก็ได้กลิ่นหอมของยาวิเศษลอยฟุ้ง

ผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์ทุกคนล้วนอดไม่ได้ที่จะหวั่นไหว โดยเฉพาะฝานไท่เต๋อที่เชี่ยวชาญในการกลั่นยา เขาเร่งฝีเท้า รีบไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว

เจ้าของตำหนักนี้ คือผู้แข็งแกร่งสมัยโบราณที่ทำหน้าที่เฝ้าแดนหลิงจื๋อ เปิดสวนยาในถ้ำของตนเอง ปลูกยาวิเศษหายาก เป็นเรื่องปกติ

อีกทั้งยาที่มหาจักรพรรดิยุทธ์เห็นค่า ย่อมไม่ใช่ยาธรรมดาแน่นอน

บางทีอาจจะเป็นเพราะแรงดึงดูดของกลิ่นหอมของยา ผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์ทุกคนต่างรีบเดินไปอย่างทนรอไม่ได้ ความระแวดระวังลดน้อยลงไปบ้าง

จู่ๆ วิชาค่ายสังหารที่ซ่อนอยู่ก็ทำงาน ทำให้จักรพรรดิยุทธ์หยวนเฉิง ฝานไท่เต๋อและคนอื่นๆ ที่อยู่ด้านหน้าสุดเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่น ทุกคนถอยหลังอย่างรวดเร็วโดยที่มีบาดแผลกลับมาด้วย

มีผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์ขั้น1และผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์2ตายอีกแล้ว ทำให้สีหน้าของทุกคนแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด

โดชคดี ค่ายสังหารนี้ผ่านมานานนับหมื่นปี อานุภาพน้อยลงไปมากแล้ว ไม่อย่างนั้น เกรงว่าเพียงชั่วพริบตาหนึ่ง ผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์ทุกคนล้วนต้องตายในทันที