บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 236 ผิดกฎ
“…” ชายหนุ่มเห็นชายแปลกหน้า 3 คนกับสัตรูที่ทําให้ตนเองบาดเจ็บหนักอยู่ตรงหน้ามันก็พลันเข้าใจว่าคนอื่นๆเป็นศัตรูทันที แต่น่าเสียดายเพราะแขนข้างเดียวที่เหลืออยู่ของมันโดนมัดติดกับร่างกายเอาไว้ ทําให้เคลื่อนไหวได้ไม่สะดวกนัก
“จูเอ๋อ เจ้าเป็นอะไรไป จําพวกข้าไม่ได้หรือไง”ไก่ฟ้าหงอนทองว่าพลางมองชายหนุ่มที่ราชสีห์เพลิงคิดว่าเป็นไปเหวินนิ่ง
“จูเอ๋อ? ข้าไม่ใช่จูเอ๋อสักหน่อย” ชายหนุ่มตอบพลางมองเหล่าอสูรตรงหน้าอย่างประหลาดใจ พวกมันคิดว่ามันเป็นใครงั้นเหรอ
“เจ้าบอกว่าเจ้าไม่ใช่คนที่พวกเขาตามหางั้นเหรอ” อยู่ๆ แม่มดขาวที่อยู่ด้านหลังก็เอ่ยถามออกมาอย่างมีความหวัง
“ชะ ใช่” ชายหนุ่มตอบด้วยท่าที่งุนงง ยัยแม่มดนี้ทําไมต้องเสนอหน้าออกมาขนาดนี้ด้วย
“ถ้าอย่างนั้น มันก็ไม่ใช่หลานของท่านสินะเจ้าคะ”แม่มดขาวว่าพลางมองไปทางราชสีห์เพลิงอย่างมีความหวัง หากมันไม่ใช่หลานของพวกมัน บางทีพวกมันอาจจะปล่อยนางไปก็ได้
“แต่ใบหน้านั่น” ราชสีห์เพลิงขมวดคิ้วพลางเพ่งพิจารณาชายหนุ่มตรงหน้าอีกครั้ง ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็เหมือนไป๋จูเหวินไม่มีผิด
“มันไม่มีพลังอสูร” พยัคฆ์อัสนีพูดพลางขมวดคิ้วมุ่น แม้หน้าตาจะเหมือนกันมากจนครั้งแรกที่เจอมันแทบไม่สงสัยเลย แต่พอลองสัมผัสพลังจริงๆกลับพบว่าในร่างของชายหนุ่มตรงหน้าไม่มีพลังอสูรอยู่เลย
“จริงด้วย ถึงจะบอกไม่ถูก แต่บรรยากาศไม่เหมือนกัน”ไก่ฟ้าหงอนทองพูดพลางจับไปที่ใบหน้าของชายหนุ่มตรงหน้า แม้หน้าตาจะเหมือนกันราวกับแกะ แต่มีบางอย่างที่ไป๋จูเหวินมีไม่เหมือนชายหนุ่มคนนี้ มันคือพลังดึงดูดอสุรที่มากล้นเกินมนุษย์นั่นเอง แม้พวกมันจะไม่ได้รักไป๋จูเหวินเพราะกลิ่นไอประหลาดนั้นแล้ว แต่พวกมันก็ยังรู้สึกถึงมัน
“จะว่าไปกลิ่นก็ต่างกันนิดหน่อยสินะ”ราชสีห์เพลิงว่าพลางดับไฟรอบๆตัวลง
“ก็แล้วทําไมเจ้าไม่สังเกตแต่แรกเล่า”ไก่ฟ้าหงอนทองว่าพลางถอนหายใจออกมา
“ก็ช่วยไม่ได้นี่นา แวบแรกข้าก็เห็นเหมือนแขนจูเอ๋อโดนตัดขาด ข้าก็ระเบิดอารมณ์ออกมาแล้วนี่นา”ราชสีห์เพลิงว่าพลางลูบเคราตัวเองเบาๆ มันไม่ได้ตรวจสอบอะไรหรอก พอเห็นภาพแบบนั้นเข้ามันก็ระเบิดตูมทันที
“ละ แล้วพวกท่านจะทําอะไรกับข้า” ชายหนุ่มด้านหน้าถามพลางมองไปที่พวกอสูรทั้งสาม
“จูเอ๋อ” ระหว่างกําลังมองหน้ากันอยู่นั้น อยู่ๆร่างของจิ้งจอกเหมันต์ที่มาช้าที่สุดก็พุ่งเข้ามากอดร่างของชายหนุ่มเอาไว้ อย่างที่คิดมองภายนอกแล้วมันเหมือนไป๋จูเหวินไม่มีผิดจริงๆ
“หึม…ไม่ใช่นี่นา”จิ้งจอกเหมันต์ว่าพลางดึงตัวเองออกมา ท่าทางนางเองก็รู้แล้วว่าชายหนุ่มตรงหน้าไม่ใช่ไป๋จูเหวิน
“อืมมมม” ราชสีห์เพลิงทําท่าครุ่นคิดพลางมองชายหนุ่มตรงหน้านิ่ง มันเหมือนไป๋จูเหวินจนน่าตกใจ ทําเอามันปล่อยชายหนุ่มทิ้งไปเฉยๆไม่ได้ มันจึงนํายาเม็ดหนึ่งออกมาจากมิติของมันเพื่อรักษาแผลฟ้าผ่าของมัน
“ขะ ขอบคุณ” ชายหนุ่มตอบพลางกินยาเข้าไป หลังจากนั้นมันก็มีอาการเหมือนแม่มดขาวไม่มีผิด ทันทีที่กินเข้าไปร่างกายของมันก็เริ่มรักษาตัวเองอย่างรวดเร็ว แม้แต่แผลเป็นที่เกิดจากฟ้าผ่ายังเริ่มจางไปจนเกือบหมด
“ขอบพระคุณมากขอรับ ข้าจะไม่มีวันลืมพระคุณของพวกท่านเลย” ชายหนุ่มว่าพลางก้มหัวลงอย่างนอบน้อม แม้จะงอกแขนใหม่ไม่ได้แต่บาดแผลส่วนใหญ่ก็หายจนหมดจด ทําเอามันทราบทันทีว่ามันได้กินยาวิเศษเข้าไปแล้ว
“ท่าทางจะต้องเริ่มหาจูเอ๋อกันใหม่สินะ”จิ้งจอกเหมันต์พูดพลางมองชายหนุ่มตรงหน้า พอแผลเป็นที่ใบหน้าหายไปใบหน้าของมันก็ยิ่งเหมือนไป๋จูเหวินเข้าไปอีก
“คงจะอย่างนั้น” ราชสีห์เพลิงว่าพลางถอนหายใจ คราวนี้มันเป็นคนปล่อยไก่เห็นๆเลยนี่นา
“ถ้าจะตามหาคนละก็ ให้ข้าช่วยไหมละขอรับ” ชายหนุ่มถามพลางลุกขึ้นช้าๆ
“เจ้าจะช่วยพวกเรางั้นเหรอ” พยัคฆ์อัสนีถามพลางขมวดคิ้วสงสัย
“ขอรับ ตระกูลของข้าแม้จะไม่ยิ่งใหญ่ที่สุดแต่ก็มีเส้นสายมากมาย หากจะต้องการตามหาคนตระกูลของข้าสามารถให้การช่วยเหลือพวกท่านได้” ชายหนุ่มตอบพลางยิ้มกว้าง
“โอ้ ไม่เลว แบบนั้นก็ดีเลยนี่นา”ราชสีห์เพลิงตอบ ดูเหมือนแม่มดขาวเองก็จะบอกว่าชายหนุ่มคนนี้อยู่ในตระกูลใดตระกูลหนึ่งนี่ล่ะ ท่าทางชื่อตระกูลมันจะดังไม่น้อยจริงๆ
“ขะ ข้าเองก็ช่วยตามหาด้วยเจ้าค่ะนายท่าน” อยู่ๆแม่มดขาวก็เสนอตัวขึ้นมาทําให้ชายหนุ่มหันมามองด้วยสีหน้าไม่ไว้ใจ
“บางทีมันอาจจะข้ามไปอาณาจักรของข้าก็ได้ ข้าเองก็มีเส้นสายไม่น้อย หากให้ข้าช่วยตามหาละก็…”แม่มดขาวพยายามเสนอ เพราะนางเองก็ยังไม่อยากตายเช่นกัน
“เจ้าว่าไง” ราชสีห์เพลิงถามพลางมองมาทางชายหนุ่ม
“นางพูดถูก หากคนที่ท่านตาหาเดินทางไปยังอาณาจักรของนาง ข้าเองก็ตามหาไม่ได้” ชายหนุ่มคิดพลางมองแม่มดขาวกับราชสีห์เพลิงสลับกัน ทางหนึ่งก็ศัตรูที่ทําร้ายตนเอง อีกทางก็เป็นผู้มีพระคุณ
“ให้นางไปตามหาเถอะขอรับ หากมันช่วยให้หาคนของท่านได้” ชายหนุ่มเลือกที่จะตอบแทนบุญคุณมากกว่าความแค้น แถมเรื่องที่พวกมันต้องสู้กันก็เพราะเรื่องของอาณาจักร ตัวมันที่อยู่ในตระกูลโรซารี่เข้าใจดี
“ส่วนพวกเราก็ไปที่ตระกูลของข้า ข้าจะขอร้องให้พวกท่านพ่อช่วยเหลือเอง” ชายหนุ่มพูดจบก็เดินเข้ามาหาราชสีห์เพลิง มันขอให้ราชสีห์เพลิงปลดเชือกให้มันก่อนจะแยกย้ายกันตามหาไป๋จูเหวินต่อไป โดยราชสีห์เพลิงและพยัคฆ์อัสนีจะร่วมทางไปกับชายหนุ่ม ส่วนจิ้งจอกเหมันต์และไก่ฟ้าหงอนทองไปกับแม่มดขาว
“พี่เพิร์ล ท่านยอดไปเลย” เสียงหวานของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้นที่ทุ่งกว้างหลังเมืองของตระกูลโรซารี่ ดูเหมือนการฝึกวิชามนตราจะไม่ควรฝึกในเมือง โรงเรียนที่สอนและสนามฝึกซ้อมส่วนตัวของตระกูลโรซารี่จึงถูกสร้างขึ้นที่นอกเมือง
“แบบนี้ถือว่าดีงั้นเหรอ”ไป๋จูเหวินถามพลางสร้างกําแพงไฟล้อมรอบลานฝึกเอาไว้
“ยอดเยี่ยมเลยต่างหาก ท่านเก่งกว่าก่อนหน้านี้อีกนะ”แมรี่พูดพลางมองไป๋จูเหวินอย่างชื่นชม แต่เดิมพลังอสูรสามารถควบคุมพลังธาตุได้ง่ายกว่าพลังวิญญาณอยู่แล้ว ทําให้ไป๋จูเหวินใช้ศาสตร์มนตราได้ง่ายและทรงพลังกว่าคนธรรมดามาก
“งะ งั้นเหรอ”ไป๋จูเหวินเขินเล็กน้อยกับคําชมจากปากของน้องสาว มันดับไฟที่สร้างขึ้นพลางเรียกน้ำที่ละลายเมื่อครู่เข้ามากลางลานฝึก ทําเอาเหล่าคนของตระกูลโรซารี่มองกันด้วยความประหลาดใจ
“ท่านเพิร์ลคงจะได้ประสบการณ์จากสนามรบมาไม่น้อย ตอนแรกข้านึกว่าท่านแพ้ให้กับแม่มดขาวแล้วจะจิตตกเสียอีก” ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างๆพ่อของเพิร์ลพูดพลางพยักหน้าอย่างพึงพอใจ วิชามนตราของไป๋จูเหวินน่าชื่นชมมาก ทั้งๆที่แต่ก่อนเพิร์ลเป็นผู้ใช้ศาสตราแท้ๆ มันสมควรจะไม่ถนัดการใช่มนตราเท่าไหร่ แต่ยามนี้มันกลับสามารถควบคุมพลังธาตุได้อย่างลื่นไหล
“แล้วยังไงมันก็ยังแพ้กลับมาไม่ใช่หรือไง”ชายอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆพ่อของเพิร์ลพูด ท่าทางมันจะไม่ชอบใจที่ไป๋จูเหวินกลับมาได้สักเท่าไหร่
“ท่านพี่ ท่านยังจําได้หรือไม่ตอนที่บุตรชายของข้าพ่ายแพ้กลับมา” ชายคนนั้นพูดพลางกัดฟันแน่น ท่าทางมั่นคงจะเป็นน้องชายของพ่อ หรือก็คือมันเป็นอาของเพิร์ลนั้นเอง
“ท่านบอกว่าความพ่ายแพ้นั้นเป็นความผิดอันยิ่งใหญ่ ท่านถึงกับลงโทษสถาน 2 แก่บุตรชายของข้า”อาของเพิร์ลพูดพลางมองไป๋จูเหวินด้วยสายตาไม่ชอบใจนัก
“นั่นเพราะบุตรชายของเจ้าพ่ายแพ้ให้กับคนที่ไม่สมควรแพ้ไม่ใช่หรือ” ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงกลางตอบโดยไม่ต้องให้พ่อของเพิร์ลออกปากแต่อย่างไร มันคือพี่ชายคนของของบ้านโรซารี่นั่นเอง
“แต่ถึงอย่างไรแพ้ก็คือแพ้ยามนี้เพิร์ลกลับมาพร้อมความพ่ายแพ้ หากไม่ลงโทษท่านก็ลําเอียงแล้ว”อาของเพิร์ลพูดด้วยท่าที่จริงจัง คราวก่อนบุตรชายของมันโดนทุบตีเพราะพ่ายแพ้กลับมาเสียบาดเจ็บหนัก แน่นอนว่ามันเป็นกฎของตระกูลทําให้มันได้แต่ยอมรับและทําตาม แต่คราวนี้พี่ชายของมันจะยกเว้นกฎเพราะคนที่พลาดแพ้มาคือบุตรชายเพียงคนเดียวของมันงั้นหรือ
“เพิร์ลแพ้ให้กับแม่มดขาว แม่แต่เจ้าก็ยังไม่รู้ว่าจะเอาชนะนาได้หรือเปล่าเลยด้วยซ้ำ”อารองพูดพลางส่ายหน้าช้าๆ
“เจ้าพูดถูกแล้ว” พ่อของเพิร์ลพุดพลางมองมาทางน้องชายคนเล็กของมัน
“กฏต้องเป็นกฎ แต่เพราะเพิร์ลแพ้ให้กับคนที่แข็งแกร่งกว่ามาก ให้มันรับโทษแค่สถาน 1 ก็พอ เจ้าเห็นด้วยหรือไม่” พ่อของเพิร์ลพูดด้วยท่าที่จริงจัง เป็นอย่างที่มันพูดกฏของตระกูลนั้นเข้มงวด ไม่ใช่ว่ามันจะไม่ลงโทษแต่มันเพียงอยากจะให้เพิร์ลพักก่อนเท่านั้น
“ดี ข้านับถือท่านพี่ชายข้า”ได้ยินเช่นนั้น อาของเพิร์ลก็ยิ้มอย่างพึงพอใจ แม้โทษจะเบากว่า แต่เหตุผลของพี่ชายก็พอฟังขึ้น
“เพิร์ล” ไม่รอช้า พ่อของเพิร์ลเดินออกไปที่ลานฝึกช้าๆ มันมองลูกชายของมันด้วยท่าที่จริงจังกว่าตอนที่เพิร์ลรอดชีวิตกลับมามากมายนัก
“ขอรับท่านพ่อ”ไป๋จูเหวินตอบพลางมองไปทางพ่อของเพิร์ล
“เจ้าหายดีแล้วสินะ” พ่อของเพิร์ลถามพลางมองร่างกายของไป๋จูเหวิน แต่เดิมแพทย์ประจําตระกูลก็บอกว่าอาการบาดเจ็บทางกายของมันหายดีแล้วเสียด้วย
“ขอรับ ไม่มีอาการบาดเจ็บอะไรแล้ว”ไป๋จูเหวินตอบพลางยิ้มบางๆ
“อืม เจ้าอาจจะยังจําไม่ได้ แต่กฎของตระกูลเราคือผู้พ่ายแพ้กลับมาต้องรับโทษ แม้จะเป็นข้าหรือบุตรชายของข้าก็ไม่เว้น” พ่อของเพิร์ลพูดด้วยท่าที่จริงจัง แม่โทษที่ไป๋จูเหวินต้องรับจะเป็นโทษเบาที่สุด แต่ก็เป็นเรื่องยากจริงๆที่จะลงโทษบุตรชายตนเอง
“ขอรับ เรื่องนั้นพี่แครเล่าให้ข้าฟังแล้ว”ไป๋จูเหวินตอบด้วยท่าที่เรียบเฉย เรื่องนี้แครเดาเอาไว้ก่อนแล้วและบอกไป๋จูเหวินเอาไว้ด้วยท่าที่เหมือนจะหาเรื่องของนางนั่นล่ะ
“อืม เจ้ารู้แล้วก็ดี คืนนี้เจ้าจะต้อง ถูกขังในห้องของปีศาจ” พูดจบคนของตระกูลโรซารี่รอบๆก็ไม่มีใครเลยที่มีท่าทีตกใจ เรียกได้ว่าเป็นเรื่องปกติที่คนทําผิดกฏจะโดนเสียด้วยซ้ำ แน่นอนว่าคนของตระกูลโรซารี่คุ้นเคยกับการลงโทษแบบนี้ดี ปัญหาคือตอนนี้เพิร์ลไม่มีความทรงจําก่อนหน้านี้ ไม่ทราบมันจะรับมือกับปีศาจในห้องลับของตระกูลโรซารี่ได้หรือไม่