หลิงฮันคิดว่าเมื่อขุดเหมืองและได้รับสมบัติต้องสาปมาทุกอย่างจะสิ้นสุด แต่ไม่นึกเลยว่าจะมีสิ่งลึกลับปรากฏเพิ่มขึนมาแบบนี้
โลหิตสลายหายไปอย่างสมบูรณ์พร้อมกับเหมืองโบราณที่กลับมาเงียบสงบอีกครั้ง แต่หลิงฮันนั้นไม่อาจทำให้จิตใจของตนเองสงบได้ เขารู้ตัวแล้วว่าในทวีปฮงเทียนแห่งนี้มีความลับถูกซุกซ่อนเอาไว้มากมาย
ในชีวิตที่แล้วเขาเคยตระเวนไปยังโบราณสถานมานับไม่ถ้วน หากจะให้วัดความน่าสะพรึงกลัวแล้ว เหตุการณ์ทะเลสาบโลหิตนับว่าเป็นเหตุการณ์ที่อันตรายเป็นอันดับสอง
อันดับแรกก็คือการค้นพบหอคอยทมิฬที่บดขยี้ร่างกายของเขาในทันที แถมหอคอยน้อยยังชอบคุยโวหลายต่อหลายครั้งว่ามันสามารถทำลายทวีปฮงเทียนแห่งนี้ทิ้งได้ในพริบตา
หลิงฮันเข้าไปยังหอคอยทมิฬ ในเมื่อเขาไม่สามารถหาคำตอบของเหตุการณ์ทะเลสาบโลหิตได้ งั้นก็เริ่มจากตรวจสอบขวดหยกก่อนแล้วกัน
“หอคอยน้อย สิ่งนี้คืออะไร?” หลิงฮันถาม
“สมบัติต้องสาป” หอคอยน้อยปรากฏตัวและพูดอย่างไม่แยแส
หอคอยทมิฬนั้นยิ่งยโสมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว หลิงฮันพบว่าไม่มีวิธีไหนเลยที่จะเถียงชนะหอคอยน้อย
“จะใช้มันได้อย่างไร?” หลิงฮันถามอย่างไม่ละอายใจ
หอคอยน้อยกล่าว “เจ้าอยากจะสาปใครก็นำชิ้นส่วนอย่างเช่น เส้นผม เล็บ หรืออะไรก็ได้จากคนๆนั้นและใส่เข้าไปในขวด เจ้าเห็นรูปแบบอาคมบนพื้นผิวภายนอกของขวดรึไม่ มันคือสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ของคำสาป”
“คำสาปมีทั้งการทำให้เจ็บป่วย กลายเป็นบ้า ตาย โชคร้าย และอื่นๆ”
“ถ้าเจ้าต้องการสาปแช่งใครคำสาปจะส่งผลไกลได้ถึงหนึ่งพันไมล์”
หลิงฮันตกตะลึง เขาคิดว่ารูปแบบอาคมบนขวดหยกคือเจตจำนงแห่งเต๋าของใครบางคน ไม่นึกเลยว่ามันจะเป็นสิ่งที่ใช้สำหรับสาปแช่งคนอื่น เขาอดที่จะพูดอย่างตื่นเต้นออกไปไม่ได้ “ก็หมายความว่าหากข้าได้เส้นผม เล็บ หรือโลหิตของใครมาข้าก็สามารถสาปแช่งคนๆนั้นได้?”
“แน่นอน” หอคอยน้อยพยักหน้า “เพียงแต่ว่าคำสาปจะแตกต่างออกไปในแต่ละบุคคล ยิ่งพลังบ่มเพาะและพลังชีวิตแข็งแกร่งก็ต้องใช้คำสาปที่มีระดับสูงขึ้น”
หลิงฮันพยักหน้า “คำสาปนี้น่าจะใช้ได้ผลกับจอมยุทธระดับก้าวสู่เทวา” หัวใจของหลิงฮันเต้นแรง ถ้าแค่ระดับด้าวสู่เทวายังสาปไม่ได้ เฉวียนคงหมิงจะต้องการขวดหยกนี้ไปทำไม?
บางทีแม้แต่ตัวตนระดับสวรรค์หรือทลายมิติก็จะอาจจะได้ผล เพราะว่าขวดหยกคำสาปชิ้นนี้คือสิ่งที่ใช้ผนึกซากศพของจอมยุทธที่แข็งแกร่งทั้งสิบสองคนและแมงมุมเงินยักษ์ขนาดเท่าภูเขาเอาไว้ อำนาจของขวดหยกนี้จึงต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ
“งั้นก็ลองทดสอบดูแล้วกัน” หลิงฮันเรียกน่าจือเหยียนมาและพูด “มอบผมของเจ้ามา”
“นายน้อยฮัน ท่านต้องการเส้นผมของข้าผู้ต่ำต้อยไปทำไม?” น่าจือเหยียนไม่กล้าปฏิเสธ เขาดึงเส้นผมออกมาและส่งให้หลิงฮันพร้อมกับถามด้วยความสับสน
หลิงฮันยิ้มและโยนเส้นผมลงไปในขวดหยด เมื่อเขย่าขวดหยกเสร็จเขาก็ถาม “เจ้ารู้สึกคุ้นๆกับขวดใบนี้รึไม่?”
‘รู้สึกคุ้นๆงั้นรึ?’
น่าจือเหยียนสับสบ หรือว่านั่นจะเป็นขวดที่หลิงฮันแอบหยิบออกมาจากบ้านของเขา?
หลิงฮันตบไหล่น่าจือเหยียนและพูด “ข้าแนะนำให้เจ้าเตรียมพร้อมให้ดี” หลิงฮันกดนิ้วลงไปยังรูปแบบอาคมบนขวดและปลดปล่อยปราณก่อเกิดเข้าไปเล็กน้อยตามที่หอคอยน้อยบอก
ทันใดนั้นรูปแบบอาคมคำสาปก็ถูกกระตุ้น ‘พรึบ’ เส้นผมเคลื่อนไหวราวกับมีชีวิตพร้อมกับปรากฏดอกไม้ขึ้นในขวดหยก
“นายน้อยฮัน ทำกำลังเล่นกลให้ข้าดู?” น่าจือเหยียนอดที่จะถามออกไปไม่ได้
ไม่ผิดแน่ หลิงฮันนำผมของเขาใส่ลงไปในขวด และทันใดนั้นมันก็กลายเป็นดอกไม้ นี่ต้องเป็นการเล่นกลแน่นอน หรือว่าเขาควรจะต้องปรบมือเพื่อทำให้หลิงฮันพึงพอใจพอ?
“อั่ก” ปากของน่าจือเหยียนกระตุ้นเล็กน้อย “ทำไมจู่ๆข้าถึงได้ปวดท้อง?”
ช่างเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อยิ่งนัก ร่างกายของจอมยุทธระดับบุปผาผลิบานนั้นไม่ใช่ร่างกายของมนุษย์ เป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดการเจ็บป่วยนอกเสียว่าจะถูกวางยาพิษ แต่เขาก็ไม่ได้กินอะไรลงไปไม่ใช่รึไง? แล้วเขาไปโดนวางยาพิษตั้งแต่ตอนไหน?
“นะ…นายน้อยฮัน!” ท้องของน่าจือเหยียนรู้สึกเจ็บปวดทรมานจนขาทั้งสองข้างบิดไปมา “ข้า… ข้าผู้ต่ำต้อยขอตัวก่อน ไว้เดี๋ยวข้าหายดีแล้วจะมาพบนายน้อยฮันใหม่”
ได้ผลรวดเร็วขนาดนี้เชียว!
หลิงฮันนึกถึงคำพูดของหอคอยน้อย คำสาปจะส่งผลเร็วหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับระดับของสมบัติต้องสาปกับระดับพลังและพลังชีวิตของผู้ถูกสาป
ช่างเป็นสมบัติที่ยอดเยี่ยมนัก!
หลิงฮันหัวเราะและหยุดส่งปราณก่อเกิดเข้าไปในรูปแบบอาคม ทันใดรูปแบบอาคมที่ส่องสว่างก็มืดลงทันที รวมถึงดอกไม้ที่ค่อยๆสลายไป
“หือ ท้องของข้าไม่ปวดแล้ว?” น่าจือเหยียนแปลกใจ ช่างเป็นเรื่องที่ประประหลาดจริงๆ ความเจ็บปวดทรมานเมื่อครู่จู่ๆก็หายไปเอง หากอาการแบบนี้เกิดขึ้นกับมนุษย์ก็ยังพอรับได้ แต่มันไม่มีทางเกิดขึ้นกับจอมยุทธระดับบุปผาผลิบานเด็ดขาด
เขาจ้องไปยังหลิงฮันและเอ่ยถาม “นายน้อยฮัน หรือว่าท่านจะเป็นคนทำ?”
หลิงฮันยิ้มและพูด “ลองอีกครั้ง” เขากระตุ้นรูปแบบอาคมคำสาปอีกครั้ง
“นายน้อยฮัน ท่านจะทำอะไรกับข้ากันแน่?” น่าจือเหยียนหวาดกลัวจนใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีเขียว แต่ทันใดนั้นเอง น่าจือเหยียนก็ราวกับกลายเป็นคนไร้ชีวิต หัวของเขาห้อยลงไปที่พื้นราวกับคนอกหัก “คนบัดซบอย่างข้าไม่สมควรมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ พระเจ้า! ได้โปรดเสกสายฟ้าลงมาผ่าข้าให้ตายที!”
“ข้ามันเป็นแมลง… ไม่สิแม้แต่แมลงยังดีกว่าข้าเลย”
จอมยุทธระดับบุปผาผลิบานถูกสาปให้สิ้นหวังจนหมดกำลังใจที่จะมีชีวิต!
ไม่ว่าจะยังไงหากพูดถึงการมีชีวิต ไม่ว่าใครก็ย่อมมีสัญชาตญาณที่จะรักชีวิตของตนเองเป็นอันดับหนึ่ง แต่ตอนนี้ดูเหมือนสัญชาตญาณที่ว่าจะถูกทำให้สลายหายไปอย่างสิ้นเชิง ช่างน่ากลัวจริงๆ
หลิงฮันหยุดมืออีกครั้ง
น่าจือเหยียนกระโดดขึ้นมาด้วยใบหน้าที่บิดเบี้ยวและสีหน้าที่หวาดกลัว ช่างน่ากลัว ช่างน่ากลัวยิ่งนัก เมื่อครู่เขาเพิ่งจะรู้สึกหดหู่จนไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไป
แต่ตอนนี้พอมาคิดดูแล้ว เขามีเหตุผลอะไรที่อยากจะตายกัน?
ร่างของน่าจือเหยียนสั่นสะท้าน ความสามารถของหลิงฮันนั้นฝืนสวรรค์เกินไปแล้ว
หลิงฮันหันไปมองที่ขวดหยกและพบว่าเส้นผมหดเหลือเพียงครึ่งเดียว ดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะสาปใครสักคนไปตลอดกาล
น่าจือเหยียนชะงักและพูดออกมา “นะ…นั่นมันขวดหยกที่นายท่านคงหมิงตามหา!”
มีเพียงสมบัติเช่นนี้เท่านั้นที่สามารถทำให้เฉวียนคงหมิงหวั่นไหว
ตัวเขาที่ทำงานมาเป็นเวลาครึ่งปี… แต่หลิงฮันที่เพิ่งเดินทางมาถึงไม่นานกลับสามารถค้นหาสมบัติต้องสาปเจอได้ง่ายๆ ช่างไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ
หลิงฮันตบไหล่ของน่าจือเหยียนและพูด “ข้าจะมอบภารกิจให้เจ้า”
น่าจือเหยียนกลายเป็นเคร่งเครียด เขารู้ดีว่าหลิงฮันต้องไม่มอบภารกิจสบายๆให้กับเขาแน่นอน น่าจือเหยียนรีดเค้นความกล้าและถามกลับไป “ไม่ทราบว่านายน้อยฮันต้องการให้ข้าทำอะไร?”
หลิงฮันยิ้มและพูด “เป็นภารกิจง่ายๆ เจ้าต้องไปรายงานความคืบหน้าของการค้นหาขวดหยก และในตอนนั้นจงนำเส้นผม เล็บ ผิวหนังหรืออะไรก็ได้ที่เป็นชิ้นส่วนของร่างกายมันมาให้ข้า”
น่าจือเหยียนหวาดกลัวจนใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีเขียว อีกฝ่ายคือเฉวียนคงหมิงเชียวนะ!