ตอนที่ 107 ขอคําปรึกษากับคริสหยู
อีธานลู่กําลังพลิกหน้าเอกสารที่เขาขอมาจากมอริสอย่างเคร่งขรึม ตามที่คาดไว้การโทรสั้น ๆ ที่เล็กซี่เป็นคนรับสาย เห็นได้ชัดว่าทําให้มอริสหลิวไม่พอใจ ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่ปรากฏตัวโชคดีที่ มอริสมีความเป็นมืออาชีพมากพอที่จะส่งผู้ช่วยของเขาไปมอบเอกสารให้กับสถานที่ประชุมที่บอก
“ เฮ้พี่ ตอนนี้เหลือแค่เราสองคนนะ…ใครคือผู้หญิงคนนั้นอ่ะ?” ทันใดนั้นความสงบสุขรอบตัวของอีธานคู่ก็แตกเป็นเสี่ยง ๆ เมื่อคริสหยูตัดสินใจเปิดปากและเปลี่ยนโหมดเป็นคนชอบยุ่งเรื่องคนอื่น
อีธานจ้องมองรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ของคริสหยุที่อยู่ตรงข้ามเขา อีธานลู่ขมวดคิ้วและเขาตอบอย่างไม่กระตือรือร้นว่า “ทําไมทุกคนถึงอยากรู้ว่าเธอเป็นใคร เธอเป็นเพื่อนไง – ไม่มีอะไรสําคัญทั้งนั้น”
” แน่นอนสิ! พี่เรียกเธอว่าเพื่อนของพี่ นั่นเป็นเหตุผลเดียวที่ทําให้ทุกคนสนใจยังไงล่ะ!” คริสหยูมองเขาอย่างดูถูกเหยียดหยาม ราวกับว่าอีธานลู่เป็นคนโง่ที่สุดที่เขาเคยรู้จัก
เขาลืม ลืมความเชื่อของตัวเองไปแล้วหรือ? ผู้หญิงและผู้ชายไม่สามารถเป็นเพื่อนกันได้? เขาลืมไปหรือเปล่าว่าเขาใช้มิตรภาพของเพื่อนส่วนใหญ่กับผู้หญิงคนอื่น ๆ อย่างไรและคาดเดาว่า
พวกเขาจะลงเอยด้วยที่เตียง? แม้ว่าสิ่งที่เขาพูดจะเกิดขึ้นจริง แต่ตอนนี้ถึงตาของเขาที่จะเป็น “เพื่อนที่ดีที่สุด” แห่งปี แต่นั่นหมายความว่าพวกเขาถึงคราวที่จะทําลายมิตรภาพของเขาเสียแล้ว
อย่างไรก็ตาม มุมมองของคริสหยูค่อยๆเปลี่ยนไป เมื่อใดก็ตามที่เขาอยากเจอกับอีธานลู่ เขาไม่สามารถระบุได้ว่าเขาอยู่ไหน แต่คริสหยูแน่ใจว่ามีบางอย่างเปลี่ยนไปเพราะ “มิตรภาพ” นี้เพื่อนรัก อย่างเขายืนยันได้
“ฉัน อีธานลู่ไม่จําเป็นต้องให้ความสนใจกับความอยากรู้อยากเห็นของทุกคนซะหน่อย! ให้ความส่วนตัวด้วย!” เมื่อเดาถึงความคิดที่วนเวียนอยู่ในหัวของคริสหยูได้ อีธานรู้สึกรําคาญใจอย่าง ที่สุดในจิตใจที่มุ่งร้าย เมื่อครุ่นคิดถึงบางสิ่งบางอย่าง อีธานกล่าวเสริมขณะที่เขาเอนหลังพิงโซฟาหรูหราของเลานจ์
“ ในตอนแรกฉันคิดว่าฉันหลงไหลเธอ แต่นั่นแหล่ะ มันจะหมดลงหลังจากผ่านไปสัก หนึ่งหรือสองสัปดาห์ เป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น”
“ เอ๋? เอ๋ หลงใหลเหรอ? ทําไม ทําไม บอกฉันมาเลยนะ! ฉันเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความรักนี้เป็นโอกาสของพี่สําหรับการปรึกษาฟรีเลย!” เมื่อได้ยินคําสารภาพของเขา ดวงตาของคริสหยูก็สว่างขึ้นขณะที่เขากระโดดเข้าหาอีธานลู่อย่างกระตือรือร้นด้วยความสนใจในความรู้สึกที่อีธานไม่เคยยอมรับมาก่อน
“ไม่ละ ฉันขอผ่าน คนสุดท้ายที่บอกว่าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความรักแนะนําให้ฉันทําเรื่องที่ผิดศีลธรรม ” อีธานลู่สั่นศีรษะอีกครั้งพร้อมกับคําแนะนําของปู่ที่เขาอยากจะลืม
” ไม่ ไม่ พี่หมายถึงความหลงใหลเช่น พี่แอบชอบเธอหรือเปล่า พรืดด ฮะๆ “ คริสหยูกหัวเราะขณะที่เขาจินตนาการถึงอีธานลู่ เพลย์บอยขั้นสุด พระเจ้ารู้ดีว่าแฟนเก่าของเขาร้อนแรงและงดงามเพียงใดและเขาไม่เคยยอมรับว่าเขามีความรู้สึกทางอารมณ์ใด ๆ กับพวกเธอ
หลังจากเรียกสติของเขากลับมาแล้ว คริสหยูกตรวจสอบเพิ่มเติม “ ผมหมายความว่าพี่คิดว่า เธอเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่พี่เคยเห็นมาเหรอ? “
หรอก ” อันที่จริงอีธานไม่เคยคิดว่าเล็กซี่สมบูรณ์แบบเพราะเดิมที่เธอเป็นคนที่มีข้อบกพร่องที่ถูกปกคลุมด้วยฉากหน้าที่สวยงามและน่าภาคภูมิใจของเธอ
“ เอ๊ะ? แล้วพี่ชอบเธอตั้งแต่แรกเห็นหรือเปล่า? ” การขมวดคิ้วของเขาและน้ําเสียงของคริสหยูค่อยๆเปลี่ยนไปอย่างเคร่งขรึม ราวกับว่าตอนนี้เขากําลังให้ความสําคัญกับ “การปรึกษาหารือ แน่นอนว่าเขายังคงรู้สึกถึงกับสภาพหัวใจของอีธาน
“ไม่” เมื่อนึกถึงครั้งแรกที่อีธานพบกับเล็กซี่ เธอถูกยามของมอรริสหลิวไล่ตาม พวกเขาห้ามไม่ให้เธอขึ้นไป ในตอนแรกอีธานลู่ไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะเบื่อความรู้สึกที่มีในตอนนี้เพราะในตอน นั้นเขามีแผนซุกซนที่จะกวนประสาทมอริสหลิวโดยพาเล็กไปหาเขาไม่มีอะไรมากหรือน้อยไปกว่านี้
หลังจากนั้น การเผชิญหน้าของพวกเขาเท่านั้นที่ทําให้เขาเห็นด้านดีและด้าน “ชื่อเสียงที่บ้าคลั่ง” ของเธอ และมันทําให้เขาชื่นชมเธอ
“หือ? ให้ผมถามหน่อยว่า … พี่ชอบสัมผัสเธอหรือเปล่า? ผมหมายถึงใต้ร่มผ้าน่ะ?” ตอนนี้ ความสนใจอย่างเต็มที่ของคริสหยูกําลังพุ่งปรื้ดเมื่อได้ยินคําตอบที่ตรงไปตรงมาจากอีธาน
“ เรื่องไร้สาระ! เราเป็นเพื่อนกันโดยไม่หวังผลประโยชน์อะไร! เธอแทบไม่รับฉันเป็นเพื่อนเธอด้วยซ้ํา – ฉันจะทําลายมันลงได้ยังไง?” หลังจากได้ยินคําถามที่ไร้สาระของเพื่อนของเขา อีธานลู่ก็ลืมตาขึ้นทันทีและหันไปมองข้างกายอย่างดูถูกเหยียดหยาม
คริสหยูสรุปว่า เล็กซี่และอีธานเป็นเพื่อนกันได้อย่างไร? พวกเขาไม่เข้าใจคําว่า “มิตรภาพหรือ? หรือพวกเขาเชื่อว่าเขาใช้ชีวิตโดยคํานึงถึงความผิดพลาดของเขากัน? แน่นอนว่าอีธานลู่มีรายชื่อแฟนเก่ายาวเป็นหางว่าว อย่างไรก็ตามผู้หญิงที่เขาเคยสัมผัสคือแฟนคนแรกของเขา! หลังจากนั้นเขาก็ไม่เคยไปไกลถึงแฟนเก่าคนอื่น ๆ อีกเลย
” คิคิคิ พี่ต้องโดนลงโทษแล้วพี่ชาย” เมื่อได้รับการตอบสนองที่ก้าวร้าว คริสหยูก็เดาะ ลิ้นของเขาขณะที่เขาเห็นผลลัพธ์ของเพื่อนของเขา เขาเอ่ยต่อ
” อย่าบอกนะ ว่าพี่เริ่มชอบเธอหลังจากใช้เวลาร่วมกับเธอและทุกครั้งที่พบกันความสัมพันธ์ของพวกพี่ดูเหมือนจะลึกซึ้งขึ้นใช่ไหม? นอกจากนี้อย่าบอกนะว่าบางครั้งพี่ก็รู้สึกผิดหวังที่เธอไม่เห็นพี่เหมือนสิ่งที่พี่ต้องการให้เธอเห็น ตัวอย่างเช่นในฐานะผู้ชาย แต่ก็รู้สึกพอใจที่เห็นเธอมีความสุข … “ คริสหยูพูดโดยไม่คาดคิดว่าอีธานลู่จะเห็นด้วยหรือมากกว่าเขาคาดหวังคําตอบที่ “ไม่” อีก
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เขาจ้องมองไปที่ใบหน้าที่ตกใจและพูดไม่ออกของอีธานลู่ ดวงตาของคริสหยูก็เบิกกว้าง แม้ว่าอีธานจะไม่ได้พูดอะไร แต่การแสดงออกของเขาก็เพียงพอที่จะยืนยันคําตอบของเขาแล้ว
“ อะไรนะ?! พี่ พี่เป็นแบบนั้นเหรอ?” ด้วยน้ําเสียงไม่เชื่อ คริสหยูพูดติดอ่างในขณะที่เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาพูดถูกสถานการณ์ที่อีธานกําลังเผชิญอยู่
” นาย – เป็นยังไงบ้าง เอ้ บอกฉันที ว่านายกําลังอ่านไดอารี่ของฉันอยู่ “ หลังจากนั้นไม่นาน อีธานก็ถามด้วยความไม่เชื่อ สิ่งที่เพื่อนของเขาพูดนั้นตรงประเด็น เขารู้สึกถึงความรู้สึกเหล่านั้นที่เขาไม่เคยคิดถึงมันมากนัก ท้ายที่สุดเขาพยายามเบี่ยงเบนความสนใจออกจากมัน ถ้าคริสหยูไม่พูดถึง อีธานลู่ก็จะไม่รู้ด้วยซ้ํา
” คือ พี่กําลังเขียนไดอารี่เหรอ?” คิ้วของคริสหยูกระตุกด้วยคําพูดของอีธานลู่ พวกเขาเป็นเพื่อนกันมานาน แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าอีธานกําลังเขียนไดอารี่เหมือนเด็กสาววัยรุ่น เขาไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะกับเรื่องนี้หรือตั้งคําถามเกี่ยวกับเพศของเขา
“ เปล่า ฉันกําลังตรวจดูว่าหัวของนายยังสบายดีอยู่ไหม” อีธานลู่โบกมือไล่การทดสอบอย่างกะทันหันเล็กน้อยของเขา เขาแค่อยากรู้ว่าคริสหยูไม่ได้พูดเพ้อเจ้อสิ่งที่น่ากลัวอย่างนั้น