ตอนที่ 238 ดินแดนลึกลับ

บุตรอสูรบรรพกาล

“รถม้านี้ ช้าจังเลยนะ”ไปจูเหวินพูดพลางมองออกมาจากหน้าต่างรถม้าของตระกูลโรซารี่

“แต่นี่เป็นรถที่เร็วที่สุดของเราแล้วนะท่าน พี่” แมรี่ตอบพลางเอียงคองงๆ ม้าที่ลากรถกว่า 8 ตัวเป็นม้าพันธุ์ดีที่วิ่งท่ามกลางหิมะได้อย่างคล่องแคล่ว ซ้ํายังสามารถวิ่งบนพื้นธรรมดาได้ไม่แพ้ม้าขนสั้นเลย เรียกได้ว่ารถม้าคันนี้เป็นรถม้าที่เร็วที่สุดของตระกูลโรซารี่เลยก็ได้

“งั้นเหรอ”ไปจูเหวินตอบพลางยื่นหน้าออกไปนอกหน้าต่าง ไม่รู้สิ แต่มันรู้สึกว่าภาพรอบๆผ่านไปช้าเหลือเกิน แต่ก็คงช่วยไม่ได้เพราะยามปกติไปจูเหวินเดินทางด้วยอสูรของตนตลอด ไม่ว่าจะหลินหลิน ปิงปิง หรือ หงเยว่ ต่างก็มีความ เร็วสูงมากทั้งนั้น ขาของพวกนางสามารถเดินบนเส้นทางอะไรก็ได้ ยิ่งหลินหลินที่รู้เส้นทางต่างๆดีแทบจะไม่จําเป็นต้องบังคับอะไรเลย แค่บอกนางว่าจะไปไหนนางก็ พาไปในพริบตา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความเร็วของพวกน้าๆอย่างไก่ฟ้าหงอนทองกับพยัคฆ์อัสนีที่เร็วจนน่าขนลุกหรือให้ลดระดับลงมารถม้าของกลุ่มนักล่าอสูรต่างก็ใช้อสูรที่มีความ เร็วมากกว่าม้าลากเอาทั้งสิ้นทําเอารถม้าที่ลากด้วยม้าธรรม ดาดูช้าไปเลย

“วากกกกกก” เมื่อพูดถึงความเร็วของพวกท่านน้าแล้วก็คงหนีไม่พ้นความเร็วของพยัคฆ์อัสนี ทําเอาเพิร์ลตัวจริงที่อยู่บนหลังของมันขนลุกชูชันไปทั้งตัว

“ไม่ต้องกลัวน่า ข้าอยู่ทั้งคนไม่ปล่อยเจ้าตกลงไปหรอก”ราชสีห์เพลิงว่าพลางตบบ่าเพิร์ลเบาๆ ความเร็ว ระดับนี้ไปจูเหวินนั่งได้สบายท่าทางเพิร์ลจะไม่เหมือนไปจู เหวินเสียที่เดียวกระมัง

“ท่านพยัคฆ์ๆ” เพิร์ลพยายามเรียกพยัคฆ์อัสนี้เอาไว้แต่ดูเหมือนเสียงของมันจะไม่ดังพอเสียนี้

“มีอะไร หรือเจ้าไม่ไหวแล้ว” ราชสีห์เพลิงถามด้วยท่าทิ้ง

“ปะ เปล่าขอรับ พวกเราเลยมาแล้ว” เพิร์ลพูดพลางชี้ไปด้านหลังของพยัคฆ์อัสนี

“อะไรนะ” พยัคฆ์อัสนีขมวดคิ้ว ก่อนจะกระโดดขึ้นสูงก่อนจะใช้เท้ายันพื้นเบื้องหน้าอย่างแรงเพื่อชะลอความม เร็วของตนเอง

“เมืองกลางทุ่งหิมะที่เราผ่านนมานะเหรอ” พยัคฆ์อัสนีถามพลางหันหลังกลับไปทางเดิม

“ขอรับ ครอบครัวของข้าอยู่ในปราสาททางเห นื่อขอรับ”เพิร์ลว่าพลางหายใจเข้าลึกๆ มันรู้สึกเหมือนพึ่งดิ่ง พสุธามาไม่มีผิด

“ได้” พยัคฆ์อัสนีว่าพลางกระโจนกลับไปทางเดิม ทําเอาเพิร์ลแทบร้องลั่นอีกรอบ แต่โชคดีที่ระยะห่างเหลือไม่มากพยัคฆ์อัสนีวิ่งมาไม่กี่วินาทีก็ถึงที่หมายแล้ว

พรึบ! พยัคฆ์อัสนีกลายร่างเป็นมนุษย์ก่อนจะถึงเมืองเพียงไม่กี่กิโลหลังจากนี้การใช้ร่างของมนุษย์เข้าไปท่าทางจะเหมาะกว่า

“ไปกันเถอะ” พยัคฆ์อัสนีพูดจบก็ใช้มืออีกข้างอุ้มดึงร่างของเพิร์ลที่ยึดแทบไม่ไหวขึ้นบ่า เห็นแบบนี้ทําเอามันนึกถึงไปจูเหวินสมัยพึ่งลองชีหลังมันแรกๆขึ้นมาเลย

“ท่านเพิร์ล กลับมาแล้วหรือขอรับ” ทหารหน้าเมืองถามด้วยสีหน้าเรียบเฉยทําเอาเพิร์ลงงไปครู่หนึ่ง มันโดนจับไปตั้ง 3 เดือนทําไมพวกทหารไม่มีท่าทีตกใจที่ได้ เห็นมันเลย

“ท่านเพิร์ล? ท่านจึงออกเดินทางไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วไม่ใช่หรือขอรับ” ทหารคนหนึ่งถามด้วยความสงสัยแน่นอนว่าเพิร์ลตอบไม่ได้อยู่แล้วเพราะมันไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่เลย

“แปลกจริงๆ”เพิร์ลว่าพลางเดินเข้าไปในเมืองช้าๆไม่มีใครแปลกใจที่ได้เห็นมันเลย ตรงกันข้ามทุกคนพากันตกใจ กับแขนที่ขาดไปมากกว่าแต่สิ่งที่ทําให้เพิร์ลแปลกใจที่สุ ดคือทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่ามันพึ่งออกเดินทางไปเมื่ออาทิตย์ก่อน ทั้งๆที่มันโดนจับไป 3 เดือนแท้ๆ หรือว่าเกิดอะไรขึ้นกับมิติเวลากันแน่นี่ท่านพยัคฆ์คงไม่ได้พามันกระโดดข้ามเวลามานะ

“เพิร์ล เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า หรือว่าโดนเล่นงานกลางทางแล้วแมรี่ละ” ทันทีที่เข้ามาในปราสาทของตระกูลโรซารี่เพิร์ลก็สร้างความประหลาดใจให้กับคนในบ้านอย่างมาก

“พวกท่านพูดอะไรกัน ข้าพึ่งจะกลับมาจากแนวหน้าเอง นะ แล้วแมรี่จะไปกับข้าได้อย่างไร” เพิร์ลถามด้วยความ สงสัย เพราะตั้งแต่มันเข้ามาเรื่องมันก็สับสนไปหมด

“เจ้าว่าอะไรนะ เจ้าพึ่งกลับมาจากแนวหน้า?” พ่อของเพิร์ลเองก็งงไม่แพ้กัน ทําไมบุตรชายของตนที่พึ่งเดินทางไปพร้อมกับบุตรสาวถึงกลับมาในหนึ่งอาทิต ย์ทั้งๆที่มีสภาพแขนขาดข้างหนึ่งได้

“หรือว่าคนที่กลับมาก่อนหน้านี้จะไม่ใช่เจ้า” พ่อของเพิร์ลขมวดคิ้วงุนงงเพราะเพิร์ลคนก่อนหน้านี้ค วามจําเสื่อมมันเลยไม่มีท่าที่ประหลาดใจกับท่าที่แปลกๆของมันแต่พอมีเพิร์ลอีกคนปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าท่าทีของไปจุเหวินนั้นก็แปลกเกินไปจริงๆ

“ก่อนหน้าข้า? มันเรื่องอะไรกัน” เพิร์ลถามอีกครั้งด้วยความสงสัยจะบอกว่ามีคนหน้าตาเหมือนมันมาก่อนหน้านี้หรือจะมีเรื่องบังเอิญแบบนั้นได้อย่างไร

“ก่อนหน้านี้มีชายคนหนึ่งเดินทางมาที่นี่ มันหน้าตาเหมือนเจ้าอย่างกับแกะ แต่ความทรงจําของมันหายไปหมดพวกเราก็เลยเข้าใจว่าเจ้าความจําเสื่อมไปเสียอีก” พ่อของเพิร์ลตอบ พอได้มายืนอยู่ตรงหน้าแบบนี้คนเป็นพ่อก็แยกออกทันที่ว่าใครคือเพิร์ลกันแน่

“หรือว่าจะเป็นงูเอ๋อ” ราชสีห์เพลิงเบิกตากว้างด้วยความตกใจจะว่าไปตอนเด็กไปจูเหวินก็เคยความจําเสื่อมมาก่อนหรือว่าจะมีอาการแบบนั้นอีกแล้ว?

“ใช่ มันต้องเป็นจูเอ๋อแน่ๆ คนในโลกนี้คงไม่มีใครหน้าเหมือนกันถึง 3 คนหรอก” พยัคฆ์อัสนีว่าพลางนํารูปที่ราชสีห์เพลิงวาดออกมา

“คนที่เข้าว่าหน้าตาแบบนี้หรือไม่พยัคฆ์อัสนีนํารูปให้พ่อของเพิร์ลดูแต่พอดูสลับกับเพิร์ลแล้วทั้งคู่ช่างเหมือนกันราวกับแกะ

“ชะ ใช่” พ่อของเพิร์ลตอบพลางพยักหน้าช้าๆ แม้จะอยากถามว่าสองคนด้านหลังเป็นใครแต่เรื่องตรงหน้ามันสับ สนจนถามไม่ถูกเลย

“ถ้าอย่างนั้นหลายของพวกท่านก็ออกเดินทางไปกับแม่เมื่ออาทิตย์ก่อน ท่านพ่อชายคนนั้นไปที่ไหนกัน” เพิร์ลถามด้วยความตื่นเต้นไม่ใช่ว่ามันจะเจอเบาะแสคนของพวก ท่านพยัคฆ์แล้วงั้นหรือ

“มันเดินทางไปหารูบี้คู่หมั้นของเจ้า”ได้ยินคําตอบเช่นนั้นเพิร์ลก็หันไปหาพวกพยัคฆ์อัสนีทันที

“ไปกันเถอะท่านพยัคฆ์ หากไปตอนนี้พวกเราน่าจะไปถึงพร้อมๆหลานของท่านพอดี”ได้ยินเช่นนั้นทั้งพยัคฆ์อัสนีและราชสีห์เพลิงต่างก็ดีใจเป็นอย่างมาก

“ขึ้นมา” พยัคฆ์อัสนีแปลงกายเป็นร่างเสือโดยไม่สนใจท่าที่ตกใจของพวกคนของตระกูลโรซารี่แต่อย่างไรตอนนี้มันสนใจแต่ว่าไปจูเหวินอยู่ที่ๆมันกําลังจะไปเท่านั้น

“ท่านพ่อ ข้าตอบแทนท่านผู้มีพระคุณเสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาท่านใหม่”เพิร์ลพูดพลางกระโดดขึ้นหลังของพยัคฆ์อัสนี้ไป

เปรี้ยง! ราวกับสายฟ้าฟาด ร่างของพยัคฆ์ออัสนีหายวับไปในพริบตามุ่งหน้าไปยังทางตะวันตกเหลือเอาไว้แค่ค วามตกใจของเหล่าชาวเมืองเท่านั้น

“ถึงแล้ว เมืองนี้ไงท่านพี่” แมรี่ที่นั่งอยู่กับไปจูเหวินพูดพลางชี้ไปยังเมืองท่าแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเมืองแห่งนี้เหมือนเมืองที่ไปจูเหวินขึ้นมาเจอเมืองแรกตรงที่มันอยู่คิดทะเล แต่ขนาดเมืองและจํานวนคนห่างกันลิบลับราวกับคนละโลกเมืองของรูนั้นเป็นเมืองค้าขายขนาดใหญ่ที่มีเรือสินค้าจํานวนมากแล่นเข้ามาจอดอยู่ทุกวันทําให้จํานวนคนที่เดินกันไปมาภายในเมืองนั้นมีจํานวนมากกว่าเมืองของเพิร์ลเสียอีก

“ไอ้นั่นมันอะไรกัน”ไปจูเหวินถามพลางมองไปที่บ้านหลังใหญ่ที่สุดในเมืองไม่ใช่ว่ามันตกใจกับขนาดของบ้านแต่ตกใจกับสิ่งที่ลอยอยู่เหนือตัวบ้านต่างหาก

“ก็ ของเล่นของพี่รู”นั่นละ” แมรี่ตอบพลางยิ้มกว้างสิ่งที่ลอยอยู่เหนือตัวบ้านของรูขี้คือบอลลูนนั่นเองแม้คนอื่นจะไม่ทราบว่ามันทํางานอย่างไรจนมองว่ามันเป็นเหมือนลูกโป่งยักษ์เท่านั้นแต่แมรี่บอกว่ารูบี้พยายามทําให้มันลอยได้นานๆเพื่อจะข้ามไปยังแผ่นดินลึกลับให้ได้

“แผ่นดินลึกลับ มันที่ไหนกัน”ไปจูเหวินถามด้วยความสงสัย

“มันเป็นพื้นดินที่อยู่ทางตะวันตก หากเดินทางด้วยเรือไปราวๆ 1 เดือน พวกเราจะเจอแผ่นดินของอีกอาณาจักรแต่พวกเราไม่สามารถขึ้นไปได้หรอกนะ” แม่รี่ตอบพลางยิ้ม บางๆเรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าของคนภาคตะวันตกเลยทีเดียว

“ดินแดนลึกลับงั้นเหรอ แล้วทําไมถึงเข้าไปไม่ได้ล่ะ”ไปจูเหวินถามด้วยความสงสัย

“ที่นั่นมีปีศาจจํานวนมากอาศัยอยู่ แผ่นดินทางตะวันตกเฉียงใต้เต็มไปด้วยฝูงปีศาจ ไม่เคยมีใครเข้าไปแล้วออกมาได้ส่วนทางตะวันตกเฉียงเหนือนั้นมีปีศาจขนาดใหญ่ขวางทางเอาไว้ว่ากันว่าหัวของมันสามารถแตะดวงจันทร์ได้เลย” แม่รี่เล่าด้วยท่าที่ตื่นเต้น สําหรับของของอาณาจักรไชน์แล้วอาณาจักรของไปจูเหวินนั้นเป็นดั่งดินแดนลับแลเพราะมีทั้งเขตอสูรของพวกน้าๆและเต่ายักษ์คอยขวางเอาไว้ทําให้คนของอาณาจักรไชน์ไม่สามารถเดินทางเข้าไปได้เลย

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทําให้รูบี้ บุตรสาวของขุนนางเจ้าของเมืองท่าตะวันตกพยายาหาวิธีข้ามไปสํารวจให้ได้ว่าอีกฝั่งของรังปีศาจคืออะไรกันแน่

“ดินแดนลึกลับงั้นเหรอ”ไปจูเหวินว่าพลางมองไปทางทะเลไม่ทราบทําไมมันถึงรู้สึกโหยหามากกว่าที่ปราสาทของตระกูลโรซารี่เสียอีก

“ท่านพี่ เป็นอะไรไปงั้นเหรอ” แมรี่ถามพลางมองไปจูเหวิ นที่กําลังมองไปทางทะเล แม้แต่เสียงของแมรี่ที่สมควรจะเป็นน้องสาวไปจูเหวินก็ยังไม่คุ้นชิน ตรงกันข้าม มันกลับนึกถึงเสียงของเด็กคนอื่นมากกว่า

“ข้าปวดหัวนิดหน่อยนะ”ไปจูเหวินตอบพลางยิ้มบางๆ

“เพิร์ล”อยู่ๆเสียงของพยัคฆ์เมฆาที่ซ่อนอยู่ในเสื้อของไปจูเหวินก็ดังขึ้นนางกระซิบข้างๆหูไปจูเหวินทําให้ไปจูเหวินได้ยินแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น

“มีอะไร”ไปจูเหวินตอบด้วยเสียงที่เบาที่สุดเพื่อไม่ให้แมรี่

“ข้าสัมผัสได้ถึงพลังของปีศาจตนอื่น ข้าจะไปดูหน่อย” พยัคฆ์เมฆาว่าพลางลอยออกไปจากเสื้อของไปจูเหิวนโดยไม่ ให้ใครเห็นหลังจากรถม้าผ่านไปแล้วนางก็คืนร่างกลายเป็นเสือขาวขนาดใหญ่วิ่งตรงไปยังเส้นทางที่ไปจูเหวินเดินทางผ่านมานางไม่ทราบว่าปีศาจสองตนนั่นต้องการอะไรแต่พลังของพวกมันน่ากลัวมากอย่างน้อยหากพบอันตรายนางจะได้กลับไปบอกให้เพิร์ลหนีไปซะ