ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 319 ฆ่าแล้ว
เขาคิดไม่ถึงว่าผู้หญิงที่เขาเกลียดชังตำหนิต่อว่าเมื่อไม่นานมานี้ สุดท้ายแล้วจะกล้าทำเรื่องที่สะท้านฟ้าอย่างนี้!
อาของเขากล้าที่จะวางยาลูกชายเขาหรอ?
เพราะอะไร?
เพื่อให้ลูกชายที่ไร้ศีลธรรมของเขาได้ตำแหน่งหรอ?
จัดการลูกของแสนรักให้สิ้นซาก แล้วให้คณะกรรมการหิรัญชากรุ๊ปคิดว่าเขาเป็นโรคประสาท หลังจากนั้นก็ให้ลูกชายเขารับช่วงหิรัญชากรุ๊ปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย?
เขาคิดไปถึงคำพูดที่ผู้ถือหุ้นมาหาเขาเมื่อเช้าบ่ายที่บริษัท
ทันใดนั้นเสียง “กร๊อบ” ก็ดังขึ้น นิ้วมือที่บีบใบผลการตรวจสอบให้ส่งเสียงของกระดูกจนทำให้รู้สึกขนพองสยองเกล้า!
พระเจ้า!
เส้นหมี่เห็นฉากที่น่าหวาดกลัวอย่างนี้ ก็ตกใจกลัวจนพูดไม่ออก
“คุณอยู่บ้านนะ อย่าออกไปไหน!”
แสนรักกัดฟันพูดทิ้งท้ายให้กับเธอ หลังจากนั้นก็เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกไปอย่างรวดเร็ว
เส้นหมี่มองอย่างเหม่อลอย
ผ่านไปอยู่นานจนกระทั่งกลิ่นอายของความน่ากลัวก็หายไปจากหน้าเธอ เธอถึงค่อยๆได้สติ หลังพิงประตูแล้วถอนหายใจยาวๆ
เธอรู้ว่าเขาไปทำอะไร
และมันก็เป็นสิ่งที่เธอต้องการด้วย
แต่ในเวลานี้ เธอยังคงอดไม่ได้ที่จะกระวนกระวายใจ อยากที่จะตามเขาไปด้วย
เส้นหมี่กลับห้องของตัวเอง ไม่สามารถระงับจิตใจให้สงบได้ก็เลยหยิบเศษของขนมหวานออกมาแช่ลงไปในแก้วน้ำ แล้วเริ่มศึกษาสิ่งนี้อยู่บนโต๊ะ
แครอทได้ตรวจสอบความร้ายแรงของพิษที่อยู่ในสิ่งนี้ออกมาแล้ว
แต่ว่าเธอยังคงหาวิธีการแก้พิษนี้ไม่ได้ ถ้าขืนเป็นอย่างนี้ต่อไปก็ไม่รู้ว่าลูกชายจะตกนรกทั้งเป็นเมื่อไหร่?
เส้นหมี่ตัดสินใจลองด้วยตัวเอง
“คุณเส้นหมี่ คุณยังไม่กินอาหารค่ำ ดึกอย่างนี้แล้วลงมากินข้าวสักหน่อยเถอะค่ะ”
“ค่ะ พี่ภา”
เส้นหมี่ที่กำลังมุดหัวอยู่ที่หน้าโต๊ะนั้น ได้ยินความห่วงใยของคนรับใช้ก็ให้พูดตอบรับไปอย่างนั้น
พี่ภาเห็นก็ไม่มีทางเลือก เลยทำได้แค่ถอนหายใจแล้วเดินออกมา
ตอนที่แสนรักกลับบ้านมาร่างเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด ไฟในวิลล่า ได้ดับลงไปแล้ว เว้นแต่ที่ชั้นสองห้องนั้นที่ยังมีแสงสว่างอยู่
เธอยังไม่นอนหรอ?
แสนรักสาวเท้ายาวเดินเข้ามา
แต่พอไปถึงชั้นบน เขาก้มลงมองสองมือของตัวเอง แล้วสุดท้ายก็ไปล้างมือที่ห้องน้ำชั้นล่าง
หลังจากนั้นเขาก็ขึ้นข้างบนต่อ
เข้าไปในวิลล่ายามค่ำคืน แม้ว่าจะเป็นช่วงแรกในฤดูใบไม้ผลิ แต่ในเวลานี้ยังคงหนาวเย็น แสงพระจันทร์สีนวลสาดส่องเข้ามา ขนาดไออุ่นๆของลมหายใจยังสามารถเห็นเป็นหมอกขาวๆบางๆ
หนาวขนาดนี้ ทำไมเธอยังไม่นอน?
แสนรักเห็นแสงที่รอดรำไรออกมาจากประตูห้อง อยากที่จะให้เคาะประตู
แต่ว่าพอเขามาถึงกลับพบว่าประตูไม่ได้ปิด มันถูกแง้มๆเอาไว้จนเห็นคนที่อยู่ด้านในอย่างชัดเจน ในเวลานี้เธอกลับนั่งคุกเข่าบนพื้นที่ปูกระดาษสีขาว ก็ไม่รู้ว่าทำอะไรเหมือนกัน?
“เส้นหมี่?”
“ห๊ะ?”
เส้นหมี่รีบเงยหน้าขึ้นมาทันที มองไปที่ประตู
กลับมาแล้วหรอ?
เธอดีใจมากผุดลุกขึ้นมาจากพื้น เธอไม่สนใจสิ่งของเหล่านั้นที่อยู่บนพื้นเลย ให้รีบวิ่งไปที่ประตูแล้วเปิดมันออก “แสนรัก คุณกลับมาแล้วหรอ?”
แสนรักยืนอยู่ที่ปากทางเข้า มองท่าทางของเธอที่โผเข้ามาด้วยความดีใจก็ใจลอยหน่อยๆ
“อื้ม กลับมาแล้ว คุณกำลังทำอะไร?”
“ฉันกำลังหายาถอนพิษให้คิวคิว แครอทยังหายาฉีดที่รักษาเชื้อราไม่ได้ ฉันเลยอยากลองทำยาสมุนไพร แต่ฉันวิเคราะห์มาจวนจะทั้งคืนแล้ว มันเป็นเพราะขนมแตกเป็นเศษๆเกินไป ทำให้หายไปไม่น้อยเลยยังหาไม่เจอ”
เธอพูดมาถึงตอนนี้ก็รู้สึกเฟลนิดหน่อย
แสนรักมองดูอย่างเงียบๆ และตอนนั้นเองเสียงที่อยู่ในใจของเขาบอกเขาว่าอย่าคาดหวังใดๆกับผู้หญิงคนนี้ อ่อนๆลงเสียบ้าง
“ไม่เป็นไร มันพูดออกมาแล้ว”
“ห๊ะ? จริงหรอ? เขายอมพูดออกมาหมดแล้วหรอ? ยอมรับเรื่องที่วางยาลูกชายพวกเราแล้วใช่ไหม?”
เธอได้ยินคำนี้ก็ให้ตื่นเต้นจนขนาดสองมือน้อยๆที่เย็นยะเยือกอดไม่ได้ที่จะจับแขนของเขา
แสนรักก้มหน้าลงกวาดตามอง ริมฝีปากที่บางเบานั้นก็ได้เอ่ยขึ้น “อื้ม ยอมรับแล้ว และผมฆ่ามันเรียบร้อยแล้ว”
เขาพูดอย่างสบายๆ
ทันใดนั้นเส้นหมี่ก็เบิกตาทั้งสองขึ้นทันที!
ฆ่าแล้ว?
เร็วอย่างนี้เลยหรอ?!!
เธอจ้องมองเขาอย่างอ้าปากค้าง ความรู้สึกสะพรึงเสียวสันหลังได้เข้ามาทันที
ผู้ชายได้เห็น จากใบหน้าที่หล่อเหลาที่ดูผ่อนคลายลงก็กลับขรึมขึ้นทัมานใด “ทำไม? ไม่แฮปปี้หรอ?”
“ห๊า?”
เส้นหมี่ได้สติรีบโบกมือขึ้นทันที “เปล่าๆๆ ฉันไม่ได้ไม่แฮปปี้ ฉันแค่….แค่รู้สึกว่าคุณฆ่าเขาเร็วอย่างนี้ แล้วพ่อคุณไม่ว่าอะไรหรอ?”
แสนรักพูดแซะ “เขาจะว่าอะไรได้? เขาจะฆ่าหลานเขาอยู่แล้ว แล้วเขาอยากให้ตัวเขามีชีวิตอยู่บนโลกนี้อีกหรอ?”
เส้นหมี่ “……”
คำพูดนี้มีเหตุผล
แต่เส้นหมี่รู้สึกว่ารับไม่ได้นิดหน่อย
ไม่ใช่เพราะไอสัตว์นรกนั่นไม่สมควรตาย แต่เพราะเรื่องการฆ่าคนของผู้ชายคนนี้ดูธรรมดาเรียบง่ายเกินไป สีหน้าของเขาที่ดูไม่แยแสเหมือนฆ่าสัตว์ปีกตายไปตัวนึง
ในหัวของเส้นหมี่นั้นให้มีภาพสองเหตุการณ์หนองเลือดในวัยเด็กเกิดขึ้นมา