เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 323
“นายท่าน!”
เวลานี้ ด้านนอกมีเสียงหนางดังเข้ามา
ชั่วขณะ
ฟู๋โป๋เพียงแค่ผลักประตูเข้าไป
จึงเห็นชายคนนั้นมองดูผู้หญิงในรูปภาพอย่างเงียบๆ
เขาไม่ได้รบกวน
เพราะว่าฉากนี้ ฟู๋โป๋ไม่รู้ว่าเคยเห็นมากี่ครั้งแล้ว
ชายคนนี้ ดำรงตำแหน่งเป็นผู้นำตระกูลหยาง เป็นพ่อของหยางเฟิง——หยางติ่งเทียน
และผู้หญิงในรูปภาพ ก็คือแม่ของหยางเฟิง!
ก็ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว
ท้ายที่สุดหยางติ่งเทียนได้กล่าวอย่างช้าๆ ว่า : “เขายังไม่ยอมกลับมาใช่ไหม?”
ฟู๋โป๋พยักหน้ากล่าวว่า : “ใช่ครับ! คุณชายยังจำฝังใจกับเรื่องราวในปีนั้น จึงไม่ยอมยกโทษให้ท่าน!”
“ช่างเถอะ!” หยางติ่งเทียนถอนหายใจเบาๆ และกล่าวด้วยใบหน้าหงอยเหงา : “อย่างไรเสีย ในปีนั้นเป็นฉันที่ทำผิดต่อเขา เขาจะเกลียดชังฉันก็สมควรแล้ว”
เห็นสีหน้าหงอยเหงาของหยางติ่งเทียน ฟู๋โป๋ยิ้มแล้วกล่าวว่า : “นายท่าน ถึงแม้ว่าคุณชายจะไม่กลับมา! แต่ฉันมีข่าวดีมาบอก คุณชายได้แต่งงานแล้ว และยังมีลูกสาวหนึ่งคน……”
ไม่รอให้ฟู๋โป๋พูดจบ
หยางติ่งเทียนหันหน้ากลับมาทันที และดวงตาทั้งคู่มีแสงประกายวาววับออกมา
เขาเอ่ยถามด้วยสีหน้าตื่นเต้น : “แกพูดว่าอะไรนะ? แกบอกว่าฉันมีลูกสะใภ้กับหลานสาวแล้วใช่ไหม?”
ฟู๋โป๋ยิ้มแล้วพยักหน้า : “ถูกต้องแล้วครับ!”
“ฮ่าๆๆ!” หยางติ่งเทียนหัวเราะเสียงดังอย่างมีความสุข : “ดีๆๆ! ในที่สุดตระกูลหยางของฉันก็มีรุ่นที่สามแล้ว!”
พูดจบ เขามองฟู๋โป๋แล้วเอ่ยถามว่า : “ลูกสะใภ้กับหลานของฉันเป็นยังไง?”
ฟู๋โป๋กล่าว : “คุณนายน้อยชื่อเย่เมิ่งเหยียน ตอนนี้เป็นประธานของเย่ซื่อกรุ๊ป หน้าตาสะสวยมาก แถมยังจิตใจดี เหมือนกันกับนายหญิงในตอนนั้นไม่มีผิดเลยครับ……”
“เหมือนกันกับเยียนเอ๋อร์เลยเหรอ?”
ได้ยินเช่นนั้น หยางติ่งเทียนจึงหันกลับไปมองผู้หญิงในรูปภาพอีกครั้งหนึ่ง ในแววตาเต็มไปด้วยความรักอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
“เจ้าหญิงน้อยชื่อหยางพั่นพั่น หน้าตาเหมือนคุณชาย เฉลียวฉลาดน่าเอ็นดูมากเลยครับ……”
ไม่รอให้ฟู๋โป๋ได้พูดจบ จู่ๆ หยางติ่งเทียนก็ตะโกนเสียงดัง : “ดี! แกไปเตรียมเครื่องบินส่วนตัวให้ฉันเดี๋ยวนี้เลย ฉันต้องการจะไปตงไห่ตอนนี้ ฉันอยากจะเจอลูกสะใภ้กับหลานสาวของฉัน……”
พูดจบ หยางติ่งเทียนก็เดินออกจากห้องหนังสือไปอย่างรีบร้อน
ทันใดนั้น
เขาได้หยุดลงอีกครั้ง
หยางติ่งเทียนหัวเราะเยาะตัวเอง : “ช่างเถอะ! เกรงว่าฉันไปแล้ว เขาจะต้องฆ่าฉันอย่างแน่นอน!”
เมื่อกล่าวคำพูดนี้ สีหน้าเขาเผยความเจ็บปวดออกมา
หยางติ่งเทียนทราบดีว่า หยางเฟิงเกลียดชังเขามากแค่ไหน!
หากตนเองไม่ใช่พ่อของเขา เกรงว่าเขาคงจะฆ่าตนเองตายไปนานแล้ว เพื่อล้างแค้นให้แม่ของเขา!
เมื่อฟู๋โป๋เห็นเช่นนี้ จึงกล่าวปลอบโยน : “นายท่าน สักวันหนึ่ง คุณชายจะต้องเข้าใจถึงความอึดอัดใจของท่าน”
หยางติ่งเทียนโบกไม้โบกมือและกล่าวว่า : “ช่างเถอะ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องเหล่านี้แล้ว ได้ยินมาว่าเขาสร้างเรื่องอยู่ที่ตงไห่ ทางภาคใต้ของต้าเซี่ยทั้งหมดถูกเขาก่อกวนจนไม่สงบ แม้แต่จงโจวก็ได้รับผลกระทบไปด้วย เป็นเช่นนั้นใช่ไหม?”
“ใช่ครับ!” ฟู๋โป๋พยักหน้าตอบ : “คุณชายได้กวาดล้างตัวแทนของตระกูลเย่แห่งจงโจวในมณฑลเจียงหนาน กำจัดแก๊งเขียวแห่งหู้ไห่ และยังทำลายแก๊งฟ้าดินแห่งจินหลิง……ได้ยินมาว่าตอนนี่จะไปที่ฉงโจว เพื่อลงมือกับตระกูลเฉ่าของที่นั่นอีกด้วย……”
“หึหึ!”
หยางติ่งเทียนหัวเราะเบาๆ : “ไอ้เด็กบ้าคนนี้ ช่างเหมือนตอนที่ฉันเป็นวัยรุ่นจริงๆ เลย ไปถึงที่ไหน ที่นั่นล้วนหาความสงบไม่ได้”
ถึงแม้จะหัวเราะเยาะและต่อว่า
แต่ความภาคภูมิใจบนใบหน้านั้น มันมากมายจนสุดจะบรรยาย!
ฟู๋โป๋รู้สึกกังวลเล็กน้อย : “นายท่านครับ แก๊งฟ้าดินแห่งจินหลิงนี้เป็นอิทธิพลมืดของตระกูลเฉินแห่งจงโจว คุณชายทำลายแก๊งฟ้าดินไปแล้ว เกรงว่าตระกูลเฉินจะไม่ยอมวางมือยุติเรื่องราวอย่างแน่นอน!”
“หึ!”
ทันใดนั้น
หยางติ่งเทียนทำเสียงเย้ยหยัน : “ตระกูลเฉินเล็กๆ ตระกูลเดียว แค่พลิกฝ่ามือก็ดับสูญแล้ว มีประโยชน์อะไรละ?”
ตระกูลเฉินแห่งจงโจวอะไรกัน?
เขาไม่ได้ใส่ใจเลยสักนิด!
อยู่ต่อหน้าตระกูลหยาง ตระกูลเฉินเป็นเพียงตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น!
ฟู๋โป๋กล่าวอย่างลังเลใจ : “แต่เฉินเป่ยเสวียนผู้นำตระกูลเฉินคนนี้ ตลอดหลายปีมานี้มีความฮึกเหิมทะเยอทะยาน ที่สุดแล้วก็ไม่ง่ายที่จะจัดการ……”