ตอนที่ 527 ไม่ย่อท้อ

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 527 ไม่ย่อท้อ
พนักงานเสิร์ฟเหมือนจะจงใจขึ้นเสียงเพื่อดึงดูดความสนใจจากคนรอบข้าง

“ดูถูกเธองั้นเหรอ?”

เหมือนซูฉิงจะได้ยินอะไรไม่เข้าหูก่อนจะมีสีหน้าแปลกใจ “ฉันแนะนำงานให้เธอด้วยความหวังดี แต่เธอกลับคิดว่าฉันกำลังดูถูกเธอเนี่ยนะ?”

“ในเมื่อฉันเจตนาดีแต่กลับไม่ต้องการ งั้นก็แล้วแต่ เดี๋ยวจะส่งบิลไปให้ ถึงตอนนั้นเธอก็ชดใช้มาแล้วกัน”

เมื่อเทียบกับรูปลักษณ์ที่น่าสงสารของพนักงานเสิร์ฟ ซูฉิงจึงดูก้าวร้าวไปเลย

ยังไงคนบนเรือสำราญก็มีแต่คนรวย เรื่องแบบนี้จึงมีให้เห็นมาก

สุดท้ายก็ไม่มีใครพูดแทนพนักงานเจ้าเล่ห์คนนี้

“คุณ…ทำไมคุณถึงเป็นแบบนี้…” ดวงตาของพนักงานเสิร์ฟเป็นสีแดง แต่รอบข้างก็ยังไม่มีใครสนใจเธอ ดังนั้นจึงมุ่งความสนใจไปที่ฮ่อหยุนเฉิง

“คุณผู้ชายคะ ถ้าคุณต้องการให้ฉันชดใช้ ฉันก็จะชดใช้…”

เมื่อพูดประโยคหลัง เสียงของเธอก็เบาลงเรื่อยๆ ราวกับกำลังวิงวอน แม้แต่ซูฉิงก็ยังรู้สึกไม่สบายใจกับท่าทางนั้น

จากนั้นฮ่อหยุนเฉิงก็ลืมตาขึ้นอย่างเกียจคร้านและตอบอย่างไม่ใส่ใจ “งั้นก็ชดใช้มาแล้วกัน”

อันที่จริงเขาไม่อยากเข้าไปยุ่งกับคนประเภทนี้มากนัก แต่ก็เพื่อซูฉิง

พนักงานคุมสีหน้าไม่อยู่ก่อนจะค่อยๆ จากไป

ซูฉิงมองตามด้านหลังไปก่อนที่ในที่สุดจะอดหัวเราะออกมาไม่ได้ “ช่างน่าสนใจจริงๆ”

“ทำไมต้องไปเกี่ยวกับคนพวกนี้ด้วยนะ” ฮ่อหยุนเฉิงพูดอย่างไม่ใส่ใจด้วยท่าทางปกติ

เมื่อซูฉิงได้ยินจึงกะพริบตา เอนตัวเข้ามาใกล้ฮ่อหยุนเฉิง และพูดด้วยน้ำเสียงค่อนข้างเสแสร้ง “นึกว่านายจะนั่งซื่อตรงอยู่นิ่งๆ ที่แท้ก็รู้จักโปรยเสน่ห์ด้วย…ว๊าย!”

ในท้ายที่สุด ยังไม่ทันพูดจบ ซูฉิงก็ถูกฮ่อหยุนเฉิงดึงเข้าไปในอ้อมแขน

“งั้นก็ดูสิใครนั่งในอ้อมแขนของฉัน” ฮ่อหยุนเฉิงพูดแนบข้างใบหูซูฉิง “มีข้อยกเว้นเพียงข้อเดียวเท่านั้นแหละ”

ลมหายใจร้อนพ่นออกมาถูกแก้มของเธอ ทำให้ซูฉิงคอเพราะรู้สึกจั๊กจี้ มองดูคราบขนาดใหญ่บนหน้าอกของฮ่อหยุนเฉิงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “นายไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถอะ”

“คุณหญิงฮ่อไม่ไปช่วยเหรอ?” ฮ่อหยุนเฉิงเงยศีรษะขึ้นและพูดอย่างเฉยเมย

ซูฉิงกลอกตาใส่อีกคนและลุกขึ้นด้วยความหน่ายใจ

ฮ่อหยุนเฉิงที่เห็นอย่างนั้นก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องรับรอง

ซูฉิงยืนอยู่บนดาดฟ้า แหงนมองท้องฟ้า แต่รู้สึกว่าไม่มีแดดเหมือนตอนเช้า และเย็นขึ้นเล็กน้อย

ในขณะนั้นเองก็มีคนแตะไหล่เธอเบา ๆ ซูฉิงหันกลับไปแต่กลับไม่เจอใคร

นั่นทำเธองงเล็กน้อยก่อนจะหันหน้าไปอีกด้าน ก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาจะเข้ามาในดวงตาของเธอจนทำเธอตกใจ

เธอถอยหลังไปหนึ่งก้าว ถึงได้เห็นใบหน้าอีกคนชัดเจน

“ทำคุณตกใจเหรอ? ขอโทษจริงๆ นะครับ” โจเซฟมองปฏิกิริยาของซูฉิงก่อนจะยกยิ้มขอโทษ

“คุณมาที่นี่ได้ไง?” ค่อนข้างคาดไม่ถึงที่ได้เห็นโจเซฟที่นี่

ทักทายซูฉิงอย่างสุภาพบุรุษ โจเซฟจับมือซูฉิงและยิ้มอย่างนุ่มนวล “ผมเคยบอกแล้วว่าจะคอยอยู่ข้างคุณ จนถึงวันที่คุณตกลง”

ขณะที่เขาพูดอย่างนั้นก็กดจูบเบาๆ บนหลังมือของซูฉิง

ชั่วขณะนั้น ซูฉิงก็รู้สึกปวดหัวทันที เธอไม่คิดว่าโจเซฟจะตามเธอมาถึงที่นี่จริงๆ

นี่เป็นเจ้าชายแบบไหนกัน? ว่างมากขนาดนั้นเลย?

เธอขมวดคิ้ว และไม่รู้จะพูดอะไรจริงๆ

โจเซฟที่เห็น รอยยิ้มก็กว้างขึ้นก่อนจะเข้าใกล้อีกคน “คุณชอบวิวที่นี่ไหม?”

ซูฉิงไม่ตอบ โจเซฟเองก็ไม่โกรธ และพูดกับตัวเองต่อไปว่า “บ้านเกิดผม วิวสวยกว่าที่นี่หลายพันเท่า ถ้าคุณแต่งงานกับผม คุณจะได้เห็นทุกวัน เป็นไงครับ เก็บไปพิจารณาหน่อยไหมครับ?”

ขณะที่เขาพูด เขาก็หันศีรษะมากะพริบตาใส่ซูฉิง เป็นดวงตาสีฟ้าสีฟ้าที่เต็มไปด้วยความรัก

“โจเซฟ อย่าทำอย่างนี้อีก” ซูฉิงกล่าวอย่างแผ่วเบา

“ถ้าอย่างนั้นคุณชอบแบบไหน ผมจะทำ ตราบเท่าที่คุณบอก” โจเซฟกุมแก้มตัวเองแล้วหันไปยิ้มให้ซูฉิง

“พรุ่งนี้ไปที่น้ำตื้นกันไหม? ปะการังที่นั่นสวยมาก”

ทว่าไม่ไกลนัก ฮ่อหยุนเฉิงเงยหน้าขึ้นและเห็นฉากนั้นเข้าพอดี คิ้วของเขาขมวดแน่น คนนั้นมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง

“คุณผู้ชายคะ ตรงนั้นแฟนคุณใช่ไหมคะ ทำไมเธอถึงดูสนิทกับคนข้างๆ ล่ะคะ”

คนที่ยืนอยู่ข้างฮ่อหยุนเฉิงคือพนักงานเสิร์ฟที่ถูกซูฉิงดุเมื่อกี้ เดิมที่เธอไม่พอใจอยู่แล้ว พอได้เห็นซูฉิงอยู่ใกล้ชิดคนอื่นก็รีบบอกฮ่อหยุนเฉิงทันที

แถมยังแสร้งทำเป็นไร้เดียงสาอีกด้วย “แฟนคุณยิ้มแล้วสวยมากนะคะ เมื่อกี้ฉันนึกว่าเธอเป็นคนอารมณ์รุนแรงมากเสียอีก”

ขณะที่เธอพูดอย่างนั้น เธอก็มองไปที่ฮ่อหยุนเฉิง และเมื่อเห็นท่าทางมืดมนของเขา เธอรู้สึกว่าเธอมีโอกาส จึงจะพูดใส่ไฟเพิ่ม แต่กลับถูกอีกคนบีบคอเอาไว้

“ถ้าไม่อยากตายก็อย่ามาให้เห็นหน้าอีก เข้าใจไหม?”

ฮ่อหยุนเฉิงชายตามองอีกคนที่คอยพูดเสียงดังหนวกหูอยู่ข้างๆ อย่างไม่สบอารมณ์

คราวนี้ ดวงตาของพนักงานเต็มไปด้วยความกลัว เธอพยักหน้าด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ

เธอไม่กล้าแม้แต่จะคิดอะไรอีก เพราะสายตาผู้ชายคนนี้คงได้ฆ่าเธอจริงๆ!

ฮ่อหยุนเฉิงพ่นลมก่อนจะปล่อยมือ และก้าวขาไปทางซูฉิงและโจเซฟโดยไม่สนใจพนักงานอีก

อีกด้านหนึ่ง ใบหน้าโจเซฟขยับเข้ามาใกล้ และเอ่ยถามอย่างเคร่งขรึม:

“ไม่เก็บไปคิดหน่อยเหรอครับ? แต่งงานกับผมเถอะนะ ซูฉิง”

ซูฉิงรู้สึกอึดอัดที่โดนทำให้รู้สึกรำคาญ เธอสูดหายใจเข้า และกำลังจะพูด แต่กลับถูกดึงเข้าไปในอ้อมแขน

“ไม่เก็บไปคิดอะไรทั้งนั้น” เสียงของฮ่อหยุนเฉิงดังขึ้นอย่างเย็นชาเหนือศีรษะ ซูฉิงหน้าไปมองพร้อมกับรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้า

เมื่อโจเซฟเห็นฮ่อหยุนเฉิง ก็ส่งเสียงไม่พอใจเบาๆ “ฉันถามความเห็นจากคุณซูฉิง”

“เธอเป็นคู่หมั้นของฉัน ทางที่ดีคุณควรอยู่ให้ห่างจากเธอ” ใบหน้าของฮ่อหยุนเฉิงมืดมนและน่ากลัว

โจเซฟที่เห็นก็กางมือออกอย่างไม่สนใจ “จริงอยู่ที่พวกคุณหมั้นแล้ว แต่พวกคุณยังไม่ได้แต่งงาน ตามกฎหมายคุณซูฉิงยังโสดอยู่ และฉันมีสิทธิ์ในการจีบ”

เมื่อพูดอย่างนั้น โจเซฟก็เลิกคิ้วมองไปทางโจเซฟ และพูดพร้อมรอยยิ้มว่า “ผมอยู่ตรงนี้เสมอ หากคุณคิดได้แล้วก็บอกผมได้เลย เจ้าหญิงที่รัก”

เขาเงยหน้าขึ้น ดวงตาสบกับฮ่อหยุนเฉิงกลางอากาศ และมีกระแสน้ำที่มืดมิดพลุ่งพล่านขึ้นมา

ซูฉิงเปิดปากแต่กลับไม่รู้ว่าต้องพูดอะไร

บางทีเธอก็อยากชมโจเซฟสำหรับความพากเพียรของเขา

“โจเซฟ ฉันกับหยุนเฉิงหมั้นกันแล้ว คุณ…”

จากนั้นทันทีที่ซูฉิงเอ่ยปาก ทั้งสามคนก็รู้สึกว่าเรือสำราญใต้เท้านั้นสั่น

ซูฉิงยื่นได้มั่นคงในอ้อมกอดของฮ่อหยุนเฉิง และได้ยินมีคนส่งเสียงตะโกน:

“นั่นอะไรน่ะ!”