“พี่สาว หากพวกเรากลับไปที่โลกแห่งเมฆาในตอนนี้และเจ้ามนุษย์นั่นสัมผัสได้ถึงพลังอำนาจของพวกเรา เขาจะต้องรู้สึกหวาดกลัวเพียงใดกัน?” ทู่หลิงหลงกลอกพร้อมกับมองไปที่ชิงหลวน

“จะต้องหวาดกลัวจนหัวหดอย่างแน่นอน ถึงอย่างไรโลกแห่งเมฆาก็เล็กเกินไป ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดก็อยู่เพียงแค่ระดับกายาศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น”

ชิงหลวนพูดออกมา “ยิ่งไปกว่านั้นในระยะเวลาสองปีนี้ ต่อให้เจ้ามนุษย์นั่นจะมีพรสวรรค์ที่สุดยอดแค่ไหน คาดการณ์ได้ว่าเขาก็คงจะเลื่อนขั้นขึ้นมาในระดับสมปรารถนาเท่านั้น ทว่าหากไม่ใช่เช่นนั้นและยังเหนือกว่าจินตนาการของพวกเรา อย่างมากที่สุดก็คงจะก้าวเข้าสู่ระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ ทว่าเทียบกับพวกเราที่ได้เลื่อนขั้นขึ้นมาในระดับหล่อหลอมสมบัติแล้วนั้น ตอนนี้พลังอำนาจของพวกเราและเขาคงจะแตกต่างกันราวกับฟ้ากับเหว”

เธอคิดว่าต่อให้เจ้ามนุษย์นี่จะร้ายกาจแค่ไหน สุดท้ายก็คงจะพัฒนาขึ้นมาได้เพียงแค่ระดับกายาศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น

นี่ไม่ใช่เป็นการดูถูกดูแคลนเจ้ามนุษย์นี่ ทว่าด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจำกัดในโลกแห่งเมฆาและด้วยกฎธรรมชาติของโลกแห่งนั้น ไม่ว่าจะมีพรสวรรค์ที่สุดยอดแค่ไหน สุดท้ายก็เลื่อนขั้นขึ้นมาได้เพียงแค่ระดับกายาศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น

การที่ต้องการจะพัฒนาไปไกลกว่าระดับนั้น หากไม่ออกไปจากโลกแห่งเมฆา ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

ทว่าการที่พวกเธอออกมาจากโลกแห่งเมฆาได้ก็เป็นเพราะความช่วยเหลือของวัดปีศาจ ซึ่งเป็นไปได้อย่างไรที่เจ้ามนุษย์นั่นจะหาวิธีออกมาเองได้ ตอนนี้ก็คงจะอาศัยอยู่ในโลกแห่งเมฆา ไม่ได้รู้ถึงความกว้างใหญ่ของจักรวาล

“ข้าก็คิดว่าตอนนี้หากพวกเรากลับไปที่โลกแห่งเมฆา ก็อาจจะถึงขั้นทำให้เจ้ามนุษย์ไร้ยางอายนั่นหวาดกลัวจนตายไปได้” ทู่หลิงหลงพยักหน้า พูดออกมาอย่างภาคภูมิใจในตนเอง

จากนั้นเธอก็ลองจินตนาการถึงสถานการณ์ตอนที่เธอกลับไปที่โลกแห่งเมฆาและได้เจอเจ้ามนุษย์บัดซบเซี่ยปิงอีกครั้ง

เจ้าเซี่ยปิงที่ไม่รู้ถึงความน่าสะพรึงกลัวของเธอก็คงจะรีบเข้ามาทำร้ายเธออย่างสิ้นคิด ต้องการที่จะลองดีกับเธอ ทว่าใครจะไปรู้กันว่าในตอนนี้เธอแตกต่างไปจากช่วงเวลาที่ผ่านมาแล้ว เพียงแค่ฝ่ามือเดียวที่ตบออกไป ก็ทำให้เจ้ามนุษย์เซี่ยปิงกระเด็นปลิวออกไป ไม่มีพลังอำนาจที่จะต้านทานแม้แต่น้อย ล้มลงกระอักเลือดออกมา เหมือนกับเป็นเต่าหงายท้อง แม้แต่จะคลานก็ทำไม่ได้

สุดท้ายเจ้ามนุษย์เซี่ยปิงนั่นก็ร่ำไห้ปาดน้ำตา รีบขอโทษขอโพยเธออย่างรวดเร็ว “ข้าขอโทษ คุณหญิงทู่หลิงหลง ดวงตาที่ต้อยต่ำของข้าไม่สามารถเห็นได้ถึงความยิ่งใหญ่ตรงหน้า ไม่รู้ว่าคุณหญิงทู่หลิงหลงมีพรสวรรค์ที่สูงส่งเช่นนี้ มีพลังการต่อสู้ที่ทรงอำนาจอย่างมาก ตอนนี้ไม่คาดคิดว่าข้าจะกล้าพุ่งกระโจนเข้าไปอย่างสิ้นคิด ช่างเป็นความผิดที่ไม่ควรให้อภัย ไม่ควรให้อภัยจริงๆ”

“ก่อนหน้านี้ข้าได้ก่อเรื่องที่ล้ำเส้นมากมาย ทำเรื่องบัดซบมากมายกับคุณหญิงทู่หลิงหลง หวังว่าคุณหญิงจะให้อภัยความผิดทั้งหมดของข้าน้อยได้ ให้อภัยชีวิตสุนัขของข้า”

จากนั้นเธอก็แสยะออกมาพร้อมกับมองอย่างดูถูก “เหอะ ตอนนี้เมื่อสำนึกผิดได้ก็ต้องการที่จะอ้อนวอนขอความเมตตาหรือ? จดจำได้หรือไม่ว่าก่อนหน้านี้เจ้าได้รังแกอสูรศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้อย่างไร? การที่ต้องการให้ข้าอภัยเจ้าง่ายๆ ช่างเป็นความคิดที่เพ้อฝันสิ้นดี”

“คิดว่าอสูรศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้จะให้อภัยเจ้าง่ายๆรึ ในอนาคตเจ้าจะต้องทำงานอย่างหนักเพื่อข้า กลายเป็นทาสรับใช้ของข้า ทุกๆวันจะต้องซักเสื้อผ้าให้กับข้า รินน้ำชารินน้ำให้ข้าดื่ม มีเวลาว่างให้ข้าตลอดเวลา เจ้าจะต้องนอนอยู่ในคอกวัว ทุกๆวันจะต้องสวมใส่ชุดเสื้อผ้าที่ทรุดโทรมและเป็นรู”

“ขอบคุณคุณหญิงทู่หลิงหลงที่ไว้ชีวิตข้า ข้าเต็มใจที่จะทำงานอย่างหนักเพื่อรับใช้คุณหญิงทู่หลิงหลงไปตลอดทั้งชีวิต ช่างเป็นผู้ที่มีจิตใจเมตตากรุณาจริงๆ” เจ้ามนุษย์เซี่ยปิงไม่ใช่แค่ไม่โมโหเท่านั้น ทว่ากลับหลั่งน้ำตาแห่งความซาบซึ้งออกมา คิดว่าเธอทู่หลิงหลงเป็นคนมีจิตใจเมตตา ให้อภัยกับเรื่องเลวร้ายต่างๆที่เขาได้ทำไว้

หลังจากนั้น เธอก็จะได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายโดยมีเจ้ามนุษย์นี่เป็นทาสที่ทำตามคำสั่งของเธอทุกอย่าง จบบริบูรณ์

เมื่อคิดได้เช่นนี้ ทู่หลิงหลงก็เริ่มน้ำลายไหลออกมา หัวเราะมาอย่างเสียสติ ตื่นเต้นอย่างถึงที่สุด ปรารถนาที่จะกลับไปยังโลกแห่งเมฆาทันที กลับไปวางมาดใหญ่โตต่อหน้าเจ้ามนุษย์ที่ไร้ยางอายนั่น

“แม่กระต่ายน้อย เจ้ากำลังหัวเราะเรื่องอะไรกัน?”

ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งที่ดังขึ้นมา

“ไม่ได้หัวเราะเรื่องอะไร ข้าเพียงแค่กำลังคิดถึงท่าทางเจ้ามนุษย์บัดซบนั่นที่ถูกข้าใช้งานตามอำเภอใจ” ทู่หลิงหลงตอบกลับไปโดยที่ไม่รู้ตัว ทว่าในพริบตาเดียวหลังจากนั้นเธอก็ค้นพบว่านี่ไม่ใช่เสียงของชิงหลวน

จากนั้นเธอก็มองออกไปและสะดุ้งตกใจขึ้นมาอย่างกะทันหันเมื่อเห็นว่ามีชายที่แปลกหน้ายืนอยู่ข้างหลังของตนเอง

ไม่ เจ้านี่ไม่ใช่ชายแปลกหน้า หนำซ้ำยังรู้สึกคุ้นเคยอย่างมาก เหมือนกับเป็นบุคคลที่ฝังลึกอยู่ในความทรงจำของเธอ เพราะว่าชายคนนี้คือเจ้ามนุษย์เซี่ยปิงที่เธอกำลังคิดที่จะอัดอย่างป่าเถื่อนนั่นเอง!

“เซี่ย..เซี่ยปิง?!”

ทู่หลิงหลงรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที ดวงตาเบิกโพลง เธอรีบก้มหัวลง ไม่คาดคิดว่าจะมาพบเจอกับเซี่ยปิงในสถานที่แห่งนี้ได้

“นี่มันเรื่องอะไรกัน? ทำไมเจ้าถึงปรากฏตัวขึ้นมาในสถานที่แห่งนี้ได้?”

ชิงหลวนก็สะดุ้งตกใจเล็กน้อย เพราะว่าก่อนที่เซี่ยปิงจะปรากฏตัวขึ้นมานั้น เธอไม่ได้รู้สึกถึงออร่าใดๆทั้งสิ้น แม้แต่สัญชาตญาณของชิงหลวนที่มักจะส่งสัญญาณเตือนล่วงหน้าก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาใดๆ ราวกับตาบอดสนิท

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอพบเจอกับเรื่องเช่นนี้

“ทำไมถึงปรากฏตัวขึ้นมาที่นี่? ง่ายมาก เพราะว่าข้าต้องการที่จะเข้าไปในดินแดนไม้มังกร”

เซี่ยปิงเผยรอยยิ้มออกมา

ทว่าในสายตาของทู่หลิงหลงนั้นมันเหมือนกับเป็นรอยยิ้มมีเลศนัยของปีศาจชั่วร้าย เป็นฝันร้ายยาวนานของเธอ “เจ้ามนุษย์ไร้ยางอาย ในที่สุดก็ได้มาพบกับเจ้าอีกครั้ง ครั้งนี้ข้าจะต้องแก้แค้นเจ้าให้ได้ ตายไปด้วยน้ำมือข้าเถอะ!”

ตอนแรกเธอรู้สึกประหลาดใจและสงสัย ทว่าในตอนนี้เธอกลับรู้สึกตื่นเต้นและดีใจอย่างมาก

เพราะว่าการที่ได้เห็นเจ้ามนุษย์เซี่ยปิงที่นี่ มันไม่ใช่เป็นการหยิบยื่นโอกาสล้างแค้นให้กับเธอหรือ? นี่คือการที่สวรรค์ทรงเมตตา นี่มันคือความโชคดีประเภทใดกัน?!

“อย่า! หลิงหลง..”

ชิงหลวนก็คิดที่จะขัดขวางทู่หลิงหลงไม่ให้ทำอะไรวู่วามออกไป เพราะว่าสัญชาตญาณของเธอสัมผัสได้ว่าร่างกายของเซี่ยปิงมีออร่าที่ทรงอำนาจมาก เป็นเหมือนกับภูเขาที่สูงตระหง่าน หนักแน่นและมั่นคง ไม่มีวันสั่นคลอน พวกเธอไม่ใช่คู่มือของเจ้ามนุษย์นี่แม้แต่น้อย

ทว่ามันก็สายเกินไป เพราะว่าทู่หลิงหลงได้ใช้ลูกเตะออกไปแล้ว

วิซ!

ความเร็วของลูกเตะนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถคาดฝันได้ พลังอำนาจของห้วงมิติปกคลุมอย่างรวดเร็ว อากาศรอบๆเกิดคลื่นระรอกขึ้นมา หลบหนีเข้าไปในห้วงอวกาศ มีพลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัว

ยิ่งไปกว่านั้นมันก็แอบแฝงไปด้วยพลังอำนาจทางสายเลือดของกระต่ายห้วงมิติ เดิมทีเพียงแค่พลังอำนาจของลูกเตะนี้อย่างเดียวก็ถือว่าทรงอำนาจทีเดียว ต่อให้เป็นภูเขาสูงหนึ่งหมื่นเมตรก็สามารถที่จะบดทำลายจนแตกกลายเป็นเสี่ยงๆได้

อย่าพูดถึงว่าลูกเตะนี้มีพลังอำนาจของห้วงมิติเช่นกัน

หากเป็นผู้คนปกติธรรมดาที่คิดจะรับลูกเตะที่แอบแฝงไปด้วยพลังอำนาจของห้วงมิตินี่ล่ะก็ จะต้องถูกเตะจนกระเด็นปลิวออกไปอย่างง่ายดาย

ทว่าเซี่ยปิงไม่ใช่คนปกติธรรมดา เขาเป็นยอดฝีมือในระดับแกนทอง อีกทั้งยังเป็นบุคคลที่สังหารยอดฝีมือในระดับแตกฉานได้

ถึงแม้ว่าพลังอำนาจของลูกเตะนี้จะยอดเยี่ยมจริงๆ ไม่สามารถคาดเดาได้ แอบแฝงไปด้วยพลังงานห้วงอวกาศ ทว่าภายใต้จิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ของเขานั้น มันก็ยังคงเชื่องช้าเหมือนกับหอยทาก

เขายกมือขึ้นมา จากนั้นตบลงไปอย่างเรียบง่าย

ฝ่ามือนี้ตบเข้าไปที่เท้าขวาของทู่หลิงหลงอย่างกะทันหัน

ตึบ!

วินาทีต่อมา ทั่วทั้งร่างกายของทู่หลิงหลงก็เผชิญกับพลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัวที่ไม่อาจต่อกรได้ ถูกตบจนกระเด็นลงไปกับพื้นอย่างกะทันหัน กระแทกเข้าไปจนกลายเป็นหลุมลึกกว้างหลายเมตร ทั่วทั้งลานบ้านแห่งนี้สั่นสะเทือน เศษหินกระจุยกระจายออกไป

ทว่าจากการที่เซี่ยปิงยั้งมือไว้และทู่หลิงหลงเองก็มีร่างกายของอสูรศักดิ์สิทธิ์อยู่ พลังอำนาจนี้จึงไม่สามารถที่จะทำให้เธอบาดเจ็บได้ เธอคลานออกมาจากหลุมลึกนี้อย่างกะทันหัน

“นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?!”

ทู่หลิงหลงงุนงงอย่างมาก เธอไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น “ไม่ใช่ว่าเจ้าอยู่ในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์หรือ? ทำไมถึงต้านทานลูกเตะของข้าได้อย่างง่ายดายเช่นนี้?”

“ระดับกายาศักดิ์สิทธิ์? นั่นมันเมื่อนานมาแล้ว”

เซี่ยปิงยิ้มออกมาเล็กน้อย เผยฟันขาวออกมา ในเวลาเดียวกันร่างกายของเขาก็มีออร่าที่ยิ่งใหญ่และมหาศาลแผ่ออกมา

บนศีรษะของเขามีภาพเงาของแกนทองปรากฏขึ้นมาลางๆ กำลังหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง แสงสีทองเปล่งประกายออกมารอบทิศ เหมือนกับว่าจะควบแน่นเป็นสสาร ดูเหมือนกับเป็นดาวเคราะห์ขนาดเล็กก็ว่าได้

“ระดับแกนทอง!”

ทู่หลิงหลงตกใจจนล้มลงไปกับพื้นอย่างกะทันหัน มีสีหน้าที่ตกตะลึงจนพูดไม่ออก ไม่กล้าที่จะเชื่อสายตาของตนเอง

“นี่มัน..นี่มัน!”

ชิงหลวนก็ช็อกอย่างมาก ไม่สามารถรักษาสีหน้าที่สุขุมเยือกเย็นไว้ได้อีก นี่มันเป็นเรื่องที่เหนือจินตนาการเกินไป