กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 657
“กู้ชูหน่วนเจ้ากล้าทำกับข้าเช่นนี้จะมีผู้ที่ไม่ยอมปล่อยเจ้าไปนะ”

กู้ชูหลานไม่กล้าทำให้จอมมารขุ่นเคืองดังนั้นจึงทำได้เพียงจ้องที่กู้ชูหน่วนด้วยสายตาแค้นเคือง

“อ้อ……ผู้ใดที่จะไม่ปล่อยข้าไป? ด้วยพละกำลังในตอนนี้ของข้ายังมีผู้ใดกล้าไม่เคารพข้ากระทั่งข่มขู่ข้า”

“มีแน่นอน ใต้หล้านี้ไม่ได้มีพละกำลังขั้นสูงเพียงแค่ไม่กี่คนนั้น”

“หอวิญญาณทมิฬหรือ? น่าเสียดาย……หลังจากวันนี้ไปหอวิญญาณทมิฬจะถูกกำหนดให้หายไปจากใต้หล้านี้”

“ฮึ่ม หอวิญญาณทมิฬจะนับอะไรได้ ยังมีกองกำลังที่แข็งแกร่งกว่าหอวิญญาณทมิฬเสียอีก”

“เจ้าหมายถึงเผ่าเพลิงฟ้า?”

กู้ชูหลานไม่ได้กล่าวสิ่งใดแต่ดวงตาอันเย่อหยิ่งนั้นได้ยอมรับทุกสิ่งทุกอย่างหมดแล้ว

กู้ชูหน่วนยิ้ม

หญิงผู้นี้ไม่ใช่กู้ชูอวิ๋น นางมีจิตใจอันเรียบง่ายและแขนขาซึ่งพัฒนาเต็มที่และได้ผ่านเรื่องราวมาอย่างโชกโชนแต่ก็ยังโง่เขลาเบาปัญญาเช่นดังเดิม เพียงแค่ลองไม่กี่คำก็ทำให้นางพูดออกมาได้

เมื่อมองไปที่รูปร่างเหมือนราวกับกู้ชูหลาน จู่ๆกู้ชูหน่วนก็มีความคิดที่กล้าหาญชาญชัยอย่างหนึ่งในใจ

“ให้ข้าเดาว่าเหจุใดจู่ๆเจ้าถึงได้ปรากฏตัวในหอวิญญาณทมิฬ เป็นคนของหอวิญญาณทมิฬมาหาเจ้าใช่หรือไม่? พวกเขาจัดการผู้หญิงที่เหมือนกับเจ้าราวกับคนเดียวกันในเรือนหลังเก่ามาแทนที่เจ้า”

“คนของหอวิญญาณทมิฬต้องการให้เจ้าทำเรื่องบางอย่างแต่แม่ของเจ้าไม่เห็นด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงสังหารแม่ของเจ้าอย่างเงียบๆ ส่วนเจ้าก็ได้กลายเป็นฆาตกรสังหารแม่เจ้าทางอ้อมใช่หรือไม่?”

“ไร้สาระ ข้าจะสังหารท่านแม่ของตัวเองได้อย่างไร” สีหน้าของกู้ชูหลานเปลี่ยนไปพร้อมกล่าวตะคอก

ยิ่งนางตื่นเต้นมากเท่าใดกู้ชูหน่วนก็ยิ่งมั่นใจการคาดเดาในใจของนางมากขึ้นเท่านั้น

“เจ้าไม่ได้คิดที่จะสังหารท่านแม่ของเจ้าแต่หลังจากที่ท่านแม่ของเจ้าถูกขังอยู่ในเรือนหลังเก่าไร้ซึ่งความสุขและร่างกายแต่ละวันก็ไม่ดีเท่าแต่ละวัน เมื่อถูกคำพูดของเจ้ายั่วยุหรือว่าหอวิญญาณทมิฬอาจจะกระทำบางสิ่งบางอย่างท่านแม่ของเจ้าจึงได้สิ้นไป”

“พูดจาไร้สาระ”

กู้ชูหน่วนเพิกเฉยต่อความโกรธเคืองของนางและวนรอบนางสองสามรอบโดยใช้มือขวาจับคางของนางทำท่าครุ่นคิดแล้วกล่าวว่า

“เจ้าเป็นเพียงแค่ลูกสาวอนุที่สูญเสียความโปรดปรานซึ่งกล่าวได้ว่าช่างไร้คุณค่า เหตุใดคนของหอวิญญาณทมิฬถึงได้มาหาเจ้าและเหตุใดเจ้าถึงรู้จักเผ่าเพลิงฟ้าได้ ให้ข้าลองคิดเดาดูอีกนะ”

ดวงตาของจอมมารเต็มไปความรักใคร่ เขาชอบกู้ชูหน่วนที่แก่นแก้วเช่นนี้ ทุกการเคลื่อนไหวและทุกการขมวดคิ้วพร้อมรอยยิ้มนั้นช่าวทำให้ผู้คนรู้สึกประทับใจ ทำให้ผู้คนอดไม่ได้ที่จะแสดงความอ่อนโยนในใจออกมา

หากว่าใจของนางเป็นของเขาเช่นนั้นจะดีมากเพียงใด

จู่ๆกู้ชูหน่วนก็กล่าวขึ้นว่า “หอวิญญาณทมิฬมีความเกี่ยวข้องกับเผ่าเพลิงฟ้าใช่หรือไม่ ระหว่างพวกเขานั้นไม่ก็มีความร่วมมือต่อกัน ไม่ก็หอวิญญาณทมิฬแท้จริงเป็นสาขาภายนอกส่วนหนึ่งของเผ่าเพลิงฟ้า”

กู้ชูหลานฟังนางอยู่อย่างเงียบๆ ใบหน้าอันซีดเซียวไม่ได้แสดงความรู้สึกออกมามากนัก

“ดูเหมือนว่าตสถานะของเจ้าไม่เพียงพอหรือว่าก็ยังไม่รู้ถึงความเกี่ยวข้องกันของพวกเขา”

“กู้ชูหน่วนเจ้าคิดว่านอกจากเจ้าแล้วทุกคนในโลกนี้โง่เง่ากันหมดหรืออย่างไร?”

“ผู้อื่นข้าไม่กล้ากล่าวแต่ว่าเจ้าอยู่ในสายตาของข้าช่างเป็นผู้โง่เง่าซื้อบื้อจริงๆ”

“เจ้า……”

“เหตุผลที่พวกเขาตามหาเจ้าก็มิใช่เนื่องจากเกี่ยวข้องกับข้า ร่างกายของเจ้าคล้ายคลึงกับข้ามากเช่นนี้ไม่ใช่ว่าหาเจ้าแสร้งแต่งกายเป็นข้าหรอกนะ?”

ชู่ว์……

ร่างกายของกู้ชูหลานสั่นเทา แม้ว่านางจะพยายามสงบสติอารมณ์อย่างดีที่สุดแต่การเคลื่อนไหวของมือและความประหลาดใจที่แว๊บผ่านในแววตาของนางก็ได้ทรยศนางเสียแล้ว

เดิมทีกู้ชูหน่วนเพียงแค่บังอาจแกล้งสร้างเรื่องทว่าไม่เคยคิดว่าพวกเขาจะให้กู้ชูหลานแต่งกายเป็นนาง

ในตอนนี้……

นางกลับไม่ตรวจสอบใหม่อีกครั้งไม่ได้ซะแล้ว

เผ่าเพลิงฟ้านอกจากจะหากู้ชูอวิ๋นแล้วก็ยังหากู้ชูหลานด้วย

“แม่ทัพใหญ่เซี่ยวไม่ได้ถูกกู้ชูอวิ๋นสังหารแต่เป็นเจ้าที่สังหารใช่หรือไม่ เป็นเจ้าที่ลงมืออย่างลับๆต่อแม่ทัพใหญ่เซี่ยวและร่วมมือกับคนของเผ่าเพลิงฟ้าเพื่อเอาชีวิตเขาและชิงไข่มุกมังกรลูกที่เจ็ดไปใช่หรือไม่?”

“ข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังพูดถึงสิ่งใดอยู่”

กู้ชูหลานพยายามลุกขึ้นคิดที่จะหนีจากที่นี่ทว่าที่นี่มีคนของกู้ชูหน่วนเต็มไปหมดซึ่งนางไม่มีทางที่จะหลบหนีไปได้

กู้ชูหน่วนคว้าข้อมือของนางอย่างแรงซึ่งเรีายวแรงอันแข็งแกร่งทำให้กู้ชูหลานเจ็บปวดจนสูดหายใจอันเย็นเข้าลึก

“กู้ชูหน่วนเจ้าต้องการทำสิ่งใด ปล่อยข้า ปล่อยข้านะ…”

นางตื่นตระหนกอย่างอธิบายไม่ถูก แววตาของกู้ชูหน่วนเย็นยะเยือกซะจนไม่มีร่องรอยของอุณหภูมิแม้แต่น้อยโดยที่เย็นยะเยือกกว่าอสูรร้ายบางส่วน

นางมีความรู้สึกอย่างหนึ่งว่าหากวันนี้นางกล่าวสิ่งใดผิดกู้ชูหน่วนจะต้องสังหารนางเป็นแน่ และจะใช้วิธีการที่โหดร้ายทารุณมาสังหารนาง กู้ชูหน่วนไม่ใช่ผู้ที่มีเมตตาใจอ่อนมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

“บอกข้ามาว่าเจ้าเป็นผู้สังหารแม่ทัพใหญ่เซี่ยวใช่หรือไม่”

“เจ้าไม่มีหลักฐานอย่าได้ปรักปรำคน ข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังพูดถึงอะไร”

“เจ้าต้องการหลักฐานใช่หรือไม่? อาม่อข้าคิดว่าวิธีที่เจ้าบอกเมื่อครู่นี้ดีนัก อันดับแรกตัดแขนขาของนางก่อน ทำให้นางเสียโฉม ควักลูกตาของนางออกมา ตัดจมูกของนางเสียแล้วส่งไปยังเผ่าปีศาจให้พวกพี่น้องของเจ้ายินดีเปรมปรีดิ์กัน”

จอมมารยิ้มอย่างเคร่งขรึมพร้อมกับมองไปยังกู้ชูหลานราวกับมองดูผู้คนตายผู้หนึ่ง เขาสั่งลูกน้องของกู้ชูหน่วนอย่างไม่เกรงใจเลยสักนิดว่า “ยังยืนเฉยอันใดกันยังไม่ทำตามที่พี่หญิงบอกอีกหรือว่าต้องการให้มือของข้าสกปรก?”

“ขอรับ”

“ไม่ ไม่ได้นะ เจ้าจะทำกับข้าเช่นนี้ไม่ได้ กู้ชูหน่วนข้าเป็นน้องสาวแท้ๆของเจ้านะ”

“หึ……น้องสาวอันใดกัน ในใจของเจ้ารู้ดีไม่ใช่หรือ? ข้าไม่ได้กำเนิดจากเสนาบดีกู้หรือถึงแม้ข้าจะกำเนิดจากเสนาบดีกู้ข้าก็ตัดขาดความสัมพันธ์ดับเขาตั้งนานแล้ว อย่าได้มานับญาติที่นี่”

สีหน้ากู้ชูหลานซีดเผือดพร้อมกับความเย็นยะเยือกในใจอย่างไร้เหตุผล

ใช่สิ ตามรายงานนางไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆของท่านพ่อ นางเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของจักรพรรดิพระองค์ก่อนกับพระสนมอวี้เพียงแค่อาศัยอยู่ในจวนเสนาบดีก็เท่านั้นเอง

หลายปีที่ผ่านมาจวนเสนาบดีไม่เคยญาติดีต่อนางเลยแล้วนางจะไว้หน้าจวนเสนาบดีได้อย่างไร

กู้ชูหลานคาดความหวังสุดท้ายอันริบหรี่ว่าจะไม่ทักข์ทรมานมากนักแต่นางก็ผิดหวังเสียแล้ว

คนรับใช้ของกู้ชูหน่วนรั้งมือรั้งเท้าของนางเอาไว้จากนั้นยกเคียวเล่มหนึ่งขึ้นแล้วฟันลงไปที่มือขวาของนางอย่างโหดเหี้ยม

“อ่า…..อย่า……อย่านะ……ข้าบอกแล้วข้าบอกแล้ว……”

กู้ชูหน่วนหัวเราะเยาะด้วยสายตาอันน่ารังเกียจ

ไม่รู้จริงๆว่าคนของเผ่าเพลิงฟ้าพบเจอคนโง่เขลาเช่นนี้ได้อย่างไร

ยิ่งไม่รู้ว่าคนของหอวิญญาณทมิฬเหตุใดถึงได้เก็บนางไว้มาจนถึงตอนนี้

น่าจะเป็นพวกเขายังไม่ทันได้จัดการกับกู้ชูหน่วน หอวิญญาณทมิฬก็ได้ถูกนางกวาดล้างให้สิ้นซากสินะ

กู้ชูหน่วนใช้สายตาให้พวกเขายั้งมือขณะที่ตนเองมองไปยังกู้ชูหลานที่ตกใจจนใบหน้าซีดเผือดไร้สีและเต็มไปด้วยเหงื่ออันเย็น

“บอกมาข้าไม่ค่อยมีความอดทนนัก แม่ทัพใหญ่เซี่ยวตายได้อย่างไรกันแน่แล้วไข่มุกมังกรลูกที่เจ็ดหายไปที่ใดกัน?”

“ไข่มุกมังกรอันใดข้าไม่รู้แต่ว่าคนของเผ่าเพลิงฟ้าได้นำลูกปัดลูกหนึ่งออกมาจากหัวใจของแม่ทัพใหญ่เซี่ยว”

อุณหภูมิในร่างกายของกู้ชูหน่วนลดลงกะทันหันและมือสีหยกทั้งคู่ก็กำเสียงดังขึ้น

แท้จริง……

แท้จริงว่าคนของเผ่าเพลิงฟ้าได้ชิงไข่มุกมังกรไป

“เป็นผู้ใดของเผ่าเพลิงฟ้าที่ชิงไป?”

“อันนี้……ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน เขาปิดหน้าเอาไว้ข้าดูไม่ออกรู้เพียงแค่ว่าเขาเป็นคนของเผ่าเพลิงฟ้า”

“อายุประมาณเท่าใด”

“อันนี้……ข้าก็ไม่รู้เช่นเดียวกัน เขาสวมชุดดำทั้งตัวรู้เพียงแค่ว่าเป็นบุรุษและอายุก็ไม่น้อนแล้ว”

“งั้นแม่ทัพใหญ่เซี่ยวตายได้อย่างไร”

เรื่องมาจนถึงตอนนี้กู้ชูหน่วนไม่มีเวลาว่างที่จะไปใส่ใจเรื่องเสียหายของกู้ชูอวิ๋น

นางเพียงแค่อยากรู้ว่าผู้ใดสังหารแม่ทัพใหญ่และไข่มุกมังกรไปอยู่ที่ใดแล้ว