ตอนที่ 113 ฉันไม่ได้พูดอะไรกับเขาเลย

The rise of the white lotus

ตอนที่ 113 ฉันไม่ได้พูดอะไรกับเขาเลย

 

การโทรดำเนินไปเป็นช่วงสั้น ๆ ก่อนที่อีธานจะกล่าวลาในที่สุด

 

” ผมใกล้จะถึงจุดหมายแล้ว คงต้องวางสายแล้วล่ะ “ อีธานพูดด้วยความไม่เต็มใจ เล็กที่ไม่ได้ตอบกลับทันที ในขณะที่เธอพยายามที่จะซึมซับคำโกหกที่เห็นได้ชัดของอีธาน

 

“ อ่า….ได้สิ ” ด้วยข้อความดังกล่าว สายก็ถูกตัด

 

อีธานถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาวางโทรศัพท์ลงขณะที่เขาตบหน้าอกเพื่อให้หัวใจเต้นแรงสงบลง หลังจากการปรึกษาหารือโดยไม่ได้ตั้งใจกับคริสหยูเพื่อนรัก อีธานก็ต้องให้ความสำคัญเรื่องนี้อย่างยิ่ง

 

ดังนั้นเขาจึงนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาทั้งหมดกับเล็กซี่ ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเธอ ใบหน้า ท่วงท่าของเธอ ความจริงที่ว่าเธอเต็มไปด้วยความน่าประหลาดใจและวิธีที่ทำให้เขารู้สึกพอใจกับการอยู่กับเธอ อีธานอดไม่ได้ที่จะกรีดร้องในใจ

 

ถ้าสิ่งที่คริสหยูพูดนั้นเป็นความจริง อีธานก็ตกหลุมรักเล็กซี่แล้วน่ะสิ! อย่างไรก็ตามเมื่อคิดถึงความสัมพันธ์ของเธอกับมอริสหลิว และอุปสรรคที่ไม่หยุดยั้งในตระกูลลู่ของเขา อีธานก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกปวดหัวขึ้นมา

 

เขาเป็นอะไรกัน? การตกหลุมรักไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เขาทุกข์ใจ แต่เป็นคนที่เขาตกหลุมรักต่างหาก! เขาจะยืนมิตรภาพอย่างไม่ใส่ใจได้อย่างไร? และยังเรียกร้องให้เธอเรียกเขาว่าพี่ใหญ่อย่างไร้ยางอายหากเขาจะตกหลุมรักเธอ?

 

นอกจากนี้ เขายังตกหลุมรักเล็กซี่ พระเจ้าต้องการอะไรกันแน่! อีธานเห็นได้ชัดว่าการตามจีบหญิงสาวและหวังว่าจะได้คำว่า “ใช่” แสนหวานของเธอนั้นเป็นไปไม่ได้ยิ่งไปกว่าเห็นหมูบินได้

 

“ไอ้ !! ไอ้โง่ ฉันมันโง่ !!” อีธานบ่นและกระทืบเท้าด้วยความหงุดหงิด

 

เขาไม่เคยรู้สึกผิดหวังมาตลอดชีวิต นั่นคือเหตุผลที่เขาต้องการความสบายใจ อย่างไรก็ตามแม้ว่าเขาจะกลัว เขากังวลว่าเล็กอาจคิดว่าเขาหนีหายจากเธอโดยไม่พูดอะไร

 

แน่นอนว่าการกระทำนั้นเพียงอย่างเดียวของเขา ทำให้เขาผิดหวังเพราะคิดถึงเธอมากขึ้นเท่านั้น!

 

“ นายน้อย…ทำไมคุณเป็นแบบนี้? คุณเหนื่อยกับการทำงานจนเต็มใจที่จะไปบวชเป็นพระตอนนี้เลยหรือ?” ตามปกติผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการตัดสินใจอย่างกะทันหันของอีธานในการค้นหาจิตวิญญาณคือผู้ช่วยที่ภักดีของเขาสิริคเจียง ถ้าเขาสามารถร้องไห้ที่นี้ได้ ตอนนี้เขาคงทำ

 

ลิริคเฉียงรู้สึกไม่สบายใจเมื่ออีธานคู่ออกจากห้องรับรองที่มีการประชุมลับเกิดขึ้น แน่นอนว่าเขาเดินตามเจ้านายหนุ่มไป แต่ด้วยความตกใจอีธานทิ้งระเบิดขนาดมหึมาด้วคำพูด “ เคลียร์ตารางงานของฉันทั้งเดือน ฉันต้องออกตามหาจตวิญญาณของฉัน”

 

ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากเมื่ออีธานรีบลงจากห้องหรู ตอนแรกลิริคคิดว่านี่คือวิญญาณที่อีธานพูดถึง แต่เขากลับพูดไม่ออกเมื่ออีธานมุ่งหน้าไปยังร้านบูติกหรูหราสำหรับผู้หญิง

 

ทุกสิ่งที่ดึงดูดสายตาเจ้านายของเขาถูกส่งให้ห่อในทันที น่าเสียดายที่อีธานดูเหมือนจะเป็นบ้าในขณะที่เขาส่งของแต่ละอย่างไปให้พนักงานไม่กี่คน แล้วในที่ส่วนที่เหลือก็ถูกอุ้มโดยลิริคเจียงหลังจากนั้นอีธานก็ไปที่ร้านดอกไม้ชื่อดังและซื้อดอกไม้ทั้งหมด อย่างไรก็ตามเช่นเดียวกับสิ่งที่เขาทำในการซื้อครั้งแรก เขาส่งเพียงช่อเดียวส่วนที่เหลือจะต้องถูกให้ถือโดยผู้กล้าอย่างลิริคเจียงอีกครั้ง

 

ลิริคเจียงอยากรู้อยากเห็นว่าใครเป็นจะผู้รับ แต่ก็ไม่เป็นประโยชน์ อีธานลูกรอกแบบฟอร์มเป็นอย่างเป็นความลับ และพูดคุยกับผู้จัดการร้านเป็นการส่วนตัว ราวกับว่าที่อยู่นั้นเป็นข้อมูลลับระดับประเทศ

 

เมื่อลิริคคิดว่าเจ้านายหนุ่มอารมณ์ฉุนเฉียวเสร็จแล้ว เขาคงจะกลับไปเป็นตัวเองที่มีประสิทธิภาพ แต่กลับอีธานบอกว่าเขาจะไปอยู่ที่วัด ผู้ช่วยอย่างเขาเกือบล้มลงเมื่อเจ้านายของเขามีท่าทางจริงจัง แล้วการเตรียมการสำคัญของเขาในอีกไม่กี่วันข้างหน้าล่ะ? เขาควรจะต้องยกเลิกทั้งหมดจริงๆหรือ?

 

อีธานไม่ได้พูดอะไรกับเขาแม้แต่คำเดียว ในขณะที่เจ้านายของเขาคุยกับตัวเองและตอนนี้พวกเขาอยู่ใกล้วัดบนภูเขาในขณะที่เจ้านายของเขายังคงปล่อยอารมณ์ความผิดหวังออกมา

 

“ ฟู! ฉันต้องเคลียร์ใจเพื่อจะทำมันให้ถูกต้อง บอกเรื่องนั้นกับปูที่” อีธานลู่หายใจเข้าแล้วหายใจออกอย่างหนักเพื่อสงบสติอารมณ์ที่หงุดหงิดของเขา เมื่อมองขึ้นไปบนบันไดบนภูเขาสูงชันที่ไปยังวิหารอันเงียบสงบ เขามักจะไปทุกครั้งที่ต้องการความสงบแววแห่งความมุ่งมั่นฉายในแววตา

 

อันที่จริงตอนนี้อีธานคู่คิดไม่ออกและเมื่อใดก็ตามที่เขารู้สึกเช่นนี้เขาก็มักจะมาที่นี่เพื่อพักหายใจ หลังจากนี้อีธานลู่มั่นใจว่าเขาจะพบคำตอบและสิ่งที่เขาต้องทำ ไม่ว่ามันจะนำไปสู่การทำลายความเป็นพี่น้องอันศักดิ์สิทธิ์ของเขาหรือไม่ก็ตาม เขามั่นใจว่าการตัดสินใจใด ๆ ที่เขาจะทำอีธานสามารถตัดสินใจได้อย่างชัดเจน

 

“ ได้ครับ “ เขาบ่นพึมพำก่อนจะก้าวย่างไปยังจุดหมาย ในทางกลับกันลิริคเจียงลากเท้าหนักอึ้ง เดินตามเจ้านายหนุ่มของเขาไป จากสถานการณ์ตรงหน้า เขายอมแพ้ที่จะพยายามหยุดเจ้านายของเขาโดยไม่มีอะไรมาทำให้ความมุ่งมั่นของเขาหวั่นไหวได้

 

“ เขาวางแผนจะกลับมาเมื่อไหร่เหรอซู?” ตอนนี้ซูรูรู้สึกกลัว เธออยากจะลากอีธานมาและให้เขาจ้องมองที่เล็กซี่เพื่อค้นหาจิตวิญญาณของเขาแทน

 

“ ไม่รู้สิ ” ขณะที่คิ้วของเธอขมวดเข้าหากัน เล็กซี่สายหัวขณะที่เธอวางโทรศัพท์ลงข้างเตียงก่อนที่เธอจะเริ่มตรวจสอบของขวัญที่อีธานส่งมาให้เธอ ในถุงกระดาษใบหนึ่งนั้น ทำให้รอยยิ้มอ่อนๆ เกิดขึ้นที่ข้างริมฝีปากของเธอขณะที่เธอเห็นเอกสาร

 

เล็กซี่เริ่มพลิกหน้ากระดาษ กิจวัตรและมื้ออาหารของเธอที่เธอต้องทำตลอดทั้งเดือนถูกเขียนไว้ที่นั่นแล้ว ด้วยเหตุผลบางอย่างเธอรู้สึกประทับใจกับท่าทางที่ดูเรียบง่ายนี้มากกว่าความหนูหราฟู่ฟ่า

 

“ ผู้ชายคนนั้น…ฉันไม่ได้พูดอะไรกับเขาเลย” เล็กซี่หัวเราะเบา ๆ ขณะที่เธอพูดไม่ออก ด้วยความพยายามของเขา นอกเหนือจากพ่อแม่ของเธอแล้ว เล็กซี่ไม่เคยมีใครพยายามอย่างนี้โดยไม่ขออะไรตอบแทนจากเธอมาก่อน