เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1257 มังกรดาบที่ดุร้าย

 

แปลโดย iPAT

 

 

ไท่เป่ยหยุนเฉิงบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งกาลเวลาเป็นหลักแต่วิญญาณอมตะบุรุษคนก่อนหน้าและวิญญาณอมตะพื้นที่ก่อนหน้าของเขาถูกใช้เป็นของแลกเปลี่ยนกับทรัพยากรของฟางหยวน ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะบ่มเพาะบนเส้นทางแห่งเมฆาเนื่องจากเขามีพื้นฐานด้านนี้อยู่แล้ว ขณะเดียวกันนิกายเงาก็ไม่ขาดแคลนมรดกบนเส้นทางแห่งเมฆา ดังนั้นวิธีป้องกันของชายชราจึงค่อนข้างดี

 

 

อย่างไรก็ตามหลังจากไท่เป่ยหยุนเฉิงสร้างวงแหวนเมฆา การแสดงออกของเขายังไม่ดีนัก

 

 

เมื่อผู้อมตะใช้ท่าไม้ตายอมตะในกำแพงภูมิภาค พวกเขาจะได้รับผลกระทบย้อนกลับ

 

 

การใช้ท่าไม้ตายอมตะห้าครั้งทำให้มิติช่องว่างของไท่เป่ยหยุนเฉิงเกิดการสั่นสะเทือนขึ้นห้าครั้ง เขาพบกับความสูญเสียอย่างมาก

 

 

‘น่าสนใจ’ ฟางหยวนเผยรอยยิ้มชั่วร้าย ร่างมังกรดาบบรรพกาลบินขึ้นขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างคล่องแคล่ว

 

 

การแสดงออกของอิงอู๋เซี่ยและคนอื่นๆกลายเป็นมืดมน

 

 

ในกำแพงภูมิภาค ทุกการเคลื่อนไหวของพวกเขาเป็นไปได้อย่างยากลำบากเพราะพวกเขาถูกกดดันโดยพลังงานที่ไร้รูปแบบ

 

 

แต่ฟางหยวนกลับสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ

 

 

ฟางหยยวนบินขึ้นไปด้านบนและสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ทันที เขามองลงมาและส่งลมหายใจมังกรพุ่งลงบนศีรษะของผู้อมตะทั้งห้าราวกับสายฝน

 

 

“ป้องกัน อย่าแยกกลุ่ม เราไม่สามารถต่อต้านเขาเพียงลำพัง!” อิงอู๋เซี่ยตะโกนเตือนทุกคน

 

 

เมื่อเห็นลมหายใจมังกรใกล้เข้ามา อิงอู๋เซี่ยเปิดปากคำราม

 

 

ท่าไม้ตายอมตะเสียงคำรามของภูตผี!

 

 

พลังอำนาจของท่าไม้ตายนี้พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าแต่มันไม่ส่งผลกระทบต่อผู้อมตะที่อยู่รอบๆ นี่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการควบคุมที่โดดเด่นของอิงอู๋เซี่ย

 

 

ลมหายใจมังกรของฟางหยวนถูกผลักดันก่อนจะฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

 

‘ตั้งแต่ข้าวางแผนต่อสู้กับนิกายเงา ข้าจะไม่เตรียมความพร้อมสำหรับการโจมตีทางจิตวิญญาณได้อย่างไร?’ ฟางหยวนเย้ยหยันอยู่ภายใน

 

 

เขาเตรียมใจมาแล้ว

 

 

อย่างไรก็ตามเขาไม่มีวิธีป้องกันการโจมตีทางจิตวิญญาณ แต่รากฐานจิตวิญญาณของเขาแข็งแกร่งมาก เขาสามารถอดทนต่อเสียงคำรามของภูตผีได้อย่างสมบูรณ์ มันไม่สำคัญแม้จิตวิญญาณของเขาจะได้รับบาดเจ็บ เพราะเขามีวิญญาณความเด็ดเดี่ยว!

 

 

“บัดซบ!” อิงอู๋เซี่ยสาปแช่งขณะป้องกันตัวจากลมหายใจมังกร

 

 

เขารู้ว่าฟางหยวนมีวิญญาณความเด็ดเดี่ยว

 

 

ลมหายใจมังกรยังร่วงหล่นลงมาราวกับสายฝน ผู้อตะทั้งห้าถูกกำหราบอย่างสมบูรณ์

 

 

วิธีที่ดีที่สุดในการต่อต้านการโจมตีนี้คือการแยกย้ายและหลบเลี่ยง แต่หากพวกเขาทำเช่นนั้น ฟางหยวนจะมีโอกาสโจมตี

 

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่ซื่อหนิวกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะ

 

 

“ครืน…”

 

 

เสียงแผ่นดินสั่นสะเทือน มือยักษ์ที่เกิดจากดินและหินโผล่ขึ้นมาจากพื้น

 

 

มือยักษ์ปกป้องกลุ่มของอิงอู๋เซี่ยจากลมหายใจมังกร

 

 

แม้มันจะส่งสัญญาณของการพังทลายแต่ไห่ลั่วหลันยังสามารถใช้โอกาสนี้ปลดปล่อยท่าไม้ตายอมตะของนาง

 

 

นางผลักฝ่ามือขึ้นสู่ท้องฟ้า

 

 

“บึม!”

 

 

เพลิงสีแดงทะลุผ่านมือยักษ์และพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวนอย่างรวดเร็ว หากฟางหยวนไม่ระวัง เขาจะถูกลอบโจมตีอย่างแน่นอน

 

 

อย่างไรก็ตามเพลิงสายนี้กลับไม่ส่งผลกระทบต่อฟางหยวน เขาสามารถหลบเลี่ยงได้อย่างง่ายดาย

 

 

“ไม่ได้ผล!” หัวใจของไห่ลั่วหลันจมดิ่งลง

 

 

ภาพอนาคตสามลมหายใจ!

 

 

ไห่ลั่วหลันไม่รู้ว่าฟางหยวนมีท่าไม้ตายอมตะสายตรวจสอบนี้

 

 

‘แปลก ไห่ลั่วหลันเป็นผู้อมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งแต่นางสามารถใช้วิธีบนเส้นทางแห่งไฟโดยไม่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าที่แตกต่างกัน ดูเหมือนนิกายเงาจะมีวิธีการบางอย่าง ท้ายที่สุดวิญญาณทารกอมตะก็ถูกสร้างขึ้นโดยเทพปีศาจจิตวิญญาณ’ ฟางหยวนค้นพบรายละเอียดบางอย่างจากการโจมตีของไห่ลั่วหลัน

 

 

ในไม่ช้ามือยักษ์ก็พังทลายลง ลมหายใจมังกรโปรยปรายลงมาอีกครั้ง

 

 

แต่ผู้อมตะทั้งห้าก็ไม่ร้อนรน พวกเขายังสามารถใช้ท่าไม้ตายอมตะเพื่อป้องกันตนเอง

 

 

‘ลองท่าไม้ตายนี้ ให้ข้าดูว่าพวกเจ้าจะจัดการมันอย่างไร?’ ฟางหยวนใช้ท่าไม้ตายอื่น

 

 

ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งกาลเวลา อัญเชิญอสูรปี!

 

 

“โฮก…”

 

 

เสียงคำรามของพยัคฆ์ดังขึ้นก่อนที่อสูรปีขาลจะกระโดดออกมาจากสายธารแห่งกาลเวลาเพื่อช่วยต่อสู้

 

 

ฟางหยวนโยนวิญญาณปีจำนวนมากให้มันเพื่อยกขวัญกำลังใจของอสูรปีขาล

 

 

ซื่อหนิวรู้สึกขมขื่น เพียงลมหายใจมังกรก็ยากที่จะรับมืออยู่แล้ว แต่ตอนนี้ยังมีอสูรปีอีกตัว สถานการณ์เลวร้ายอย่างมาก

 

 

อสูรปีเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระในกำแพงภูมิภาค

 

 

มันคล้ายกับอสูรเมฆาบรรพกาลที่เป็นสิ่งมีชีวิตจากสวรรค์สีขาวและไม่ได้รับผลกระทบจากกำแพงพลังงานของห้าภูมิภาค

 

 

สำหรับอสูรปี พวกมันอาศัยอยู่ในสายธารแห่งกาลเวลา ดังนั้นพวกมันจึงไม่ได้รับผลกระทบจากกำแพงภูมิภาคเช่นกัน

 

 

“ฮืม!” อิงอู๋เซี่ยก่นเสียงเย็นก่อนจะกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะที่คล้ายคลึงกัน

 

 

ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ อัญเชิญอสูรวิญญาณ!

 

 

เทพปีศาจจิตวิญญาณเป็นผู้สร้างเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ ดังนั้นนิกายเงาจึงมีความเชี่ยวชาญบนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณมากที่สุด ไห่ฟานสามารถอัญเชิญอสูรปี นิกายเงาก็สามารถอัญเชิญอสูรวิญญาณ

 

 

วิธีการของอิงอู๋เซี่ยถือว่าไม่ธรรมดาเพราะเขาสามารถอัญเชิญอสูรวิญญาณได้สามตัวพร้อมกัน

 

 

“อสูรวิญญาณของข้าไม่ได้รับผลกระทบจากกำแพงภูมิภาคเช่นกันเพราะพวกมันมาจากประตูแห่งชีวิตและความตาย!”

 

 

แต่ความพึงพอใจของอิงอู๋เซี่ยอยู่ได้ไม่นานเมื่อฟางหยวนพุ่งมาข้างหน้า

 

 

มังกรดาบบรรพกาลบินไปรอบๆอย่างรวดเร็ว

 

 

มันใช้กรงเล็บมังกรทำลายศีรษะของอสูรวิญญาณโดยตรง

 

 

หางของมันตัดขาของอสูรวิญญาณอีกตัว

 

 

ขณะที่ลมหายใจมังกรทะลวงผ่านร่างกายของอสูรวิญญาณตัวที่สาม

 

 

มังกรดาบบรรพกาลมีพลังการต่อสู้ที่โดดเด่น สิ่งสำคัญคือฟางหยวนยังมีท่าไม้ตายอมตะของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ ผนึกภูตผี!

 

 

สิ่งนี้ทำให้อสูรวิญญาณไม่สามารถสัมผัสถึงการคงอยู่ของเขา

 

 

ดังนั้นฟางหยวนจึงมีข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ในการต่อสู้กับอสูรวิญญาณ

 

 

อสูรวิญญาณเหล่านี้ไม่สามารถตอบสนองได้ก่อนที่ฟางหยวนจะโจมตีพวกมันจนได้รับบาดเจ็บสาหัส

 

 

โชคดีที่อสูรวิญญาณไม่มีจุดอ่อนที่ชัดเจน มิฉะนั้นพวกมันจะถูกทำลายโดยการโจมตีเดียวของฟางหยวน

 

 

แต่ถึงกระนั้นพวกมันก็อ่อนแอลงมาก ร่างกายของพวกมันโปร่งใสมากขึ้นเรื่อยๆ

 

 

การแสดงออกของอิงอู๋เซี่ยกลายเป็นไม่น่ามอง แต่เขาทำได้เพียงเฝ้าดูฟางหยวนทำลายอสูรวิญญาณทั้งสามเท่านั้น

 

 

อิงอู๋เซี่ยคิด ‘มันไม่สำคัญ แม้เจ้าจะกำจัดอสูรวิญญาณทั้งสามตัว แล้วอย่างไร? ข้าสามารถอัญเชิญพวกมันอีกครั้ง! มีอสูรวิญญาณมากมายอยู่หลังประตูแห่งชีวิตและความตาย!’

 

 

แต่ในจังหวะนี้ฟางหยวนกลับเลิกโจมตีอสูรวิญญาณและกระตุ้นใช้วิญญาณอมตะดาบทะลวงมิติ

 

 

ความเร็วของเขาพุ่งสูงขึ้นอย่างกะทันหัน

 

 

เร็ว! เร็วมาก! เร็วอย่างไม่น่าเชื่อ!

 

 

ไท่เป่ยหยุนเฉิงไม่สามารถตอบสนองได้แม้แต่น้อย

 

 

วงแหวนเมฆาของเขาถูกทำลายลงโดยกรงเล็บมังกรขณะที่ท้องของชายชราถูกเปิดออกและทำให้ลำไส้ของเขาทะลักออกมา

 

 

แต่…

 

 

‘เขายังไม่ตาย?’ ฟางหยวนรู้สึกประหลาดใจ

 

 

ลมหายใจมังกรเป็นอาวุธที่ทรงพลังที่สุดของมังกรดาบ แต่ในช่วงเวลานั้นฟางหยวนไม่สามารถเปิดปาก ดังนั้นเขาจึงสามารถใช้เพียงกรงเล็บเท่านั้น

 

 

เขาเห็นชั้นน้ำแข็งช่วยปิดปากแผลของไท่เป่ยหยุนเฉิงอย่างรวดเร็ว

 

 

‘มันคือไป่หนิงปิง!’ ฟางหยวนตระหนักถึงสิ่งนี้

 

 

ด้วยความเร็วของฟางหยวน ตอนนี้ร่างของเขาอยู่ห่างจากผู้อมตะทั้งห้าไปหลายลี้

 

 

ไป่หนิงปิงมองฟางหยวนด้วยดวงตาสีฟ้าอันเย็นเยียบ

 

 

“รวดเร็วนัก!” ไห่ลั่วหลันลากไท่เป่ยหยุนเฉิงไปด้านหลัง

 

 

จากนั้นนางก็ช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของชายชราแต่กลับไร้ประโยชน์

 

 

อาการบาดเจ็บที่เกิดจากร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ายากที่จะรักษา

 

 

เนื่องจากมันมีความขัดแย้งระหว่างร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าแต่ละชนิด

 

 

ทุกครั้งที่มังกรดาบบรรพกาลโจมตี มันจะทิ้งร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งดาบเอาไว้เป็นจำนวนมาก นี่เป็นเรื่องยากที่ร่างกายอันบอบบางของมนุษย์จะสามารถอดทน

 

 

“โอ้ หากข้ามีวิญญาณอมตะบุรุษคนก่อนหน้า มันจะไม่ลำบากเช่นนี้’ ไท่เป่ยหยุนเฉิงกล่าวก่อนหมดสติ

 

 

“เป้าหมายที่แท้จริงของเขาคือไท่เป่ยหยุนเฉิง!” การแสดงออกของอิงอู๋เซี่ยกลายเป็นมืดครึ้ม

 

 

เขาสามารถมองทะลุความคิดของฟางหยวน

 

 

ฟางหยวนแสร้งต่อสู้กับอสูรวิญญาณ แต่ในความเป็นจริงไท่เป่ยหยุนเฉิงเป็นเป้าหมายหลักของเขาตั้งแต่แรก

 

 

ท้ายที่สุดแล้วไท่เป่ยหยุนเฉิงก็อ่อนแอที่สุดในกลุ่มผู้อมตะทั้งห้า

 

 

กำจัดศัตรูที่อ่อนแอที่สุดก่อนเสมอ!

 

 

“ตอนนี้ไท่เป่ยหยุนเฉิงหมดประโยชน์แล้ว!” การแสดงออกของอิงอู๋เซี่ยแย่ลงเรื่อยๆ พวกเขาจะจัดการฟางหยวนที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?

 

 

“หือ?”

 

 

แต่ในจังหวะนี้ฟางหยวนกลับรู้สึกถึงความผิดปกติ

 

 

เขาค้นพบว่าเกล็ดมังกรของเขาถูกปกคลุมด้วยชั้นน้ำแข็งบางๆที่ไม่รู้ว่าก่อตัวขึ้นตั้งแต่เมื่อใด

 

 

‘สายตาของไป่หนิงปิงแปลกมาก!’ ฟางหยวนตระหนักถึงสิ่งนี้อย่างรวดเร็ว

 

 

“หากเราต้องการโต้ตอบฟางหยวน เราต้องลดความเร็วของเขาเป็นอันดับแรก” ดวงตาของไป่หนิงปิงส่องประกายเย็นเยียบ นางเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดอย่างชัดเจน