ตอนที่ 223 : เดตกับประธานเอเวล

นิตยาสารแฟชั่นออรี่

ห้องทํางานประธาน

เอเวลประธานสาวสวยลูกครึ่งกําลังถือนิตยสารแฟชั่นรายสัปดาห์ที่มีรูปของเจียงเฉินอยู่บนหน้าปก เธอมองดูอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่ดวงตาของเธอจะขยับเล็กน้อยก่อนจะหันไปคุยวีแชทกับเจียงเฉิน

“คุณเจียงเฉินใช่ไหมคะ? ฉันเอเวล ลาวีนจากนิตยสารแฟชั่นออรีค่ะ ”

“ครับ”

เจียงเฉินเองก็ยังจําประธานลูกครึ่งสาวสวยจากนิตยาสารออรีได้อยู่

 

เธอมีผมสีบลอนด์ธรรมชาติ ดวงตาสีดํา เต็มไปด้วยความงาม จากทั้งแบบตะวันตกและตะวันออก ใบหน้าที่สวยงามและรูปร่างที่เพรียวบาง

 

รวมคะแนนแล้วอยู่ประมาณ 96 คะแนน!

 

“เรื่องครั้งก่อนฉันยังไม่ได้ขอบคุณ คุณเลยคุณพอจะมีเวลาว่างบ้างไหมคะ?”

เอเวลปัดปอยผมสีบลอนด์ของเธอเอาไปทัดไว้ที่หลังหูของเธอ ก่อนจะถามออกมา

 

เจียงเฉินยิ้มและตอบ “ขอบคุณครับ เรื่องนั้นไม่จําเป็นหรอกครับ แค่ไปเดินเล่นด้วยกันแค่นั้นก็พอแล้วครับ”

เอเวล ลาวีน “ก็ได้ค่ะ”

ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ทั้งสองก็มาพบกัน

เจียงเฉินเองก็อยากจะเที่ยวที่เมืองเก่าที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์เพื่อไปเดินชอปปิ้งและชมวิวทิวทัศน์มานานแล้ว

และวันนี้โอกาศนั้นก็มาถึง

 

เจียงเฉินกับเอเวลกําลังนั่งอยู่บนรถสามล้อโบราณทั้งสองพูดคุยกันระหว่างที่รถกําลังเคลื่อยไปเรื่อยๆ

รถนั้นเคลื่อนไปตามตรอกริมน้ําให้ผู้คนได้สัมผัสถึงวิถีชีวิตของคนโบราณ

 

นอกจากนี้ก็ยังทําให้คนมีความสุขไปกับความเงียบสงบที่ไม่สามารถหาได้จากในเมืองหลวง

วาเชอรอง กงสตองแตง]!”

 

เมื่อมาถึงตรอกแห่งหนึ่งจู่ๆเอเวลก็ชี้นิ้วออกไป

 

เจียงเฉิน “ร้านของวาเชอรอง กงสตองแตง?”

“ใช่แล้ว [วาเชอรอง กงสตองแตง] เป็นร้านที่แตกต่างจากร้านอื่นนะ พวกเขาจะไม่เปิดสาขาในห้างแต่พวกเขาจะเลือกเปิดตามเมืองเก่า โดยเฉพาะวิลล่าเก่าๆน่ะของชอบของพวกเขาเลย!”

 

เอเวลดูเหมือนจะคุ้นเคยกับสถานที่นี้เป็นพิเศษ

 

เดินเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาไปไม่นานก็พบกับบ้านอีกหลังหนึ่ง

“วิลล่าหลังนี้สร้างขึ้นมาตั้งแต่ ปีค.ศ. 1920 เป็นวิลล่าสไตล์ตะวันตกสองชั้น ในช่วงนั้นมันเป็นบ้านของพ่อค้าผู้มั่งคั่งคนหนึ่ง จนกระทั่งยุคนี้กลุ่มบริษัทสินค้าหรูจากประเทศสวิสก็ได้เช่าพื้นที่นี้ไว้ และเข้ามาออกแบบและเปิดเป็นร้านเสื้อผ้าส่วนอาคารก่อนหน้านี้ก็เป็นร้านนาฬิกาที่ฉันเพิ่งจะพูดถึงไป”

 

“ผู้ชายที่มีความสามารถก็ต้องคู่กับนฬิกาจากแบรนด์ดังจริงไหม ”

 

เอเวลนั้นเป็นผู้หญิงที่มีรสนิยมและระดับมาก เธอนั้นรู้ว่าคนชั้นสูงนั้นมักจะให้ตาสกับนาฬิกาข้อมือที่มีชื่อเสียง และผู้ชายเกือบจะทุกคนนั้นให้ค่ากับนาฬิกามากกว่าเสื้อผ้าของพวเขา

เจียงเฉินขยับข้อมือของตัวเองเบาๆและเผยนาฬิกาปาเต็ก ฟิลิปส์ของเขา “แล้วคุณคิดว่าชิ้นนี้เป็นยังไงบ้างครับ?”

ดวงตาของเอเวลเป็นประกายขึ้นมาทันที่เธอปิดปากตัวเองด้วยความตกตะลึง “นี่มันนาฬิกาแพลตตินั่ม 5002 P ของปาเด็ก ฟิลิปส์ที่ราคา 17.6 ล้าน นาฬิกานี้มีแต่คนที่มีสถานะที่ไม่ธรรมดา เป็นผู้ครอบครองพวกมัน เจียงเฉิน คุณ…”

เอเวลอายากจะพูดต่อแต่เมื่อคิดว่าเจียงเฉินนั้นเป็นถึงผู้ถือหุ้นของกุชชี่สาขาเอเชียแปซิฟิกแล้ว ดังนั้นความแข็งแกร่งของเขานั้นจึงไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน!

“นาฬิกานี้ถือว่าดีมากจริงๆค่ะ” ใบหน้าของเอเวลดูแข็งที่อและเขินอายเล็กน้อย

เดิมที่เธอนั้นต้องการที่จะซื้อนาฬิกาข้อมือให้เจียงเฉินสักหนึ่งเรือน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะไม่จําเป็นจริงๆ

เจียงเฉินนั้นก็มีความเข้าใจทางอารมณ์ของผู้หญิงเป็นอย่างดีเขาจึงสามารถล่วงรู้ความคิดของเอเวลได้เขาจึงยิ้มออกมา “คุณพูดถูก แต่ผมก็สวมนาฬิกานี้มานานแล้ว ดูเหมือนว่าคุณเองก็เก่งเรื่องแฟชั่นไม่น้อย ตอนนี้ผมอยากจะซื้อเรือนใหม่ คุณพอจะแนะนําให้ผมได้ไหม?”

“ด้วยความยินดีค่ะ” ใบหน้าสวยของเอเวลแดงขึ้น เธอเม้มริมฝีปากและยิ้ม

ทั้งสองเดินเข้าไปในวิลล่าของ [วาเชอรอง กงสตองแตง]

 

เอเวลยิ้มออกมาอย่างมั่นใจในตัวเองเธอค่อยๆเดิน และแนะนํานาฬิกาให้เจียงเฉิน

 

“วาเชอรอง กงสตองแตงถูกก่อตั้งโดยฌอง-มาร์ค วาเชอรองในเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ในปี 1755”

“วาเชอรอง กงสตองแตงนั้นสืบทอดแก่นแท้ของการผลิตนาฬิกาแบบดั้งเดิมของสวิสเซอร์แลนด์ ทั้งรูปแบบที่เรียบง่ายแต่ยังมีความสวยงามอยู่การออกแบบที่วิจิตรบรรจงและซับซ้อน แสดงให้เห็นถึงการแสวงหาเทคโนโลยีและสุนทรียภาพพจนทําให้มันติดอันดับจาก 500 อันดับแรกของโลก!”

“นาฬิกานั้นก็เป็นเหมือนกับสินค้าหรูหราแบบอื่นๆ มันมีการแบ่งระดับต่างๆออก”

“มีตั้งแต่เกรดธรรมดาจนไปถึงระดับที่คนธรรมดาไม่อาจสัมผัสได้ ราคานั้นก็จะเริ่มตั้งแต่หลายหมื่นจนไปถึงหลายแสนและหลายสิบล้าน”

“ดังนั้นสําหรับคนที่มีสถานะระดับของนาฬิกา พวกเขานั้นก็จะเป็นตัวแบ่งแยกชนชั้นกันได้อย่างชัดเจน!”

 

“เจียงเฉิน นาฬิกาของคุณนั้นเป็นถึงผลงานชิ้นโบว์แดงของปาเต็ก ฟิลิปส์และแน่นอนว่าวาเชอรองกงสตองแตงก็ต้องมี…”

 

เอเวลหยิบหนังสือออกมาแล้วพูดอย่างจริงจัง “นี่คือคอลเลคชั่นผลิตภัณฑ์ของวาเชอรอง กงสตองแตงที่ถูกจัดไว้อยู่ระดับบนๆ ถ้าจะให้พูดตรงๆก็คือคอลเลคชั่นนาฬิกาที่มีมูลค่าเรือนละกว่าสิบล้าน! ทุกๆเรือนนั้นเป็นนาฬิกาที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เป็นสมบัติที่นักสะสมต่างใฝ่ฝันอยากจะครอบครอง เจียงเฉิน หากคุณต้องการที่จะซื้อนาฬิกาใหม่ ดังนั้นตัวเลือกของคุณก็คือนาฬิกาพวกนี้”

 

เจียงเฉินพยักหน้า

 

จากตําพูดของเอเวลนาฬิการาคาหลักล้านก็เป็นเพียงแค่ผลิตภัณฑ์ทั่วๆไป แต่เรือนที่มีราคาหลักสิบล้านขึ้นไปพวกมันคือของสะสมและงานศิลปะ!

หรือถ้าจะให้พูดก็คือ คนจนเล่นรถ ส่วนคนรวยเล่นนาฬิกา!

“เจียงเฉิน ฉันคิดว่าเรือนนี้น่าจะดีนะ”

เอเวลชี้ไปที่นาฬิกาที่ถูกจัดแสดงไว้อยู่บนตําแหน่งที่โดดเด่นที่สุดของร้าน และยังมีการติดกระจกกันขโมยเอาไว้ด้วย

(นาฬิกา Les Cabinotiers Grande Complication “Crocodile”]

มูลค่า 20.88 ล้าน!

ดวงตาของเจียงเฉินเป็นประกาย

นาฬิกาเรือนละ 20.88 ล้าน!

 

ที่มือของฉันยังราคาแค่ 17.6 ล้านหยวนเอง

ดูเหมือนว่าแต่ละเรือนจะมีข้อดีของตัวเอง!

ไม่ว่าจะฝีมือการแกะสลักหรือการออกแบบ หรือแม้กระทั่งแฟชั่นและน้ําหนักของมัน

 

ของดี!

แต่เพื่อการเปรียบเทียบ เจียงเฉินจึงนํารุ่นมังกร ที่มีราคาประมาณ 10 ล้านหยวนออกมาเทียบกับมัน

 

เอเวลที่อยู่ข้างๆก็อธิบายข้อมูลของมันให้กับเจียงเฉินฟัง

 

คนรวยนั้นไม่เพียงแต่ต้องเป็นเจ้าของสินค้าที่หรูหราเท่านั้น แต่ยังต้องรู้จักชื่นชมมันด้วย!

 

เจียงเฉินสามารถเดาได้ทันทีว่าเธอนั้นไม่ใช่คนธรรมดาๆมาก่อนอย่างแน่นอน

เธอนั้นมีความรู้เกี่ยวกับสินค้าที่หรูหราในระดับที่ไม่ธรรมดา แถมเธอยังมีความรู้เกี่ยวกับศิลปะชั้นนําของโลก

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอ้างอิงและการเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ของยุโรปและเธอก็ยังมีความรู้ต่างๆมากมายของราชวงศ์ต่างๆ ที่สามารถเปิดหูเปิดตาของเจียงเฉินได้อย่างมาก

 

เจียงเฉินจึงอดไม่ได้ที่จะถามเกี่ยวกับภูมิหลังของเธอ “คุณมาที่จีนได้ยังไงหรอ?”

เอเวลยิ้มและไม่ตอบคําถามของเจียงเฉิน

 

ในเวลานี้เอง

 

เศรษฐีคนหนึ่งก็เดินเข้ามา

 

เขาเป็นนักธุรกิจผู้มั่งคั่งและเต็มไปด้วยกลิ่นอายของเงิน

อู่ลี่ปุ่นเขาเป็นเจ้าของเหมืองถ่านหิน เขาเดินสวมสร้อยคอทองคําและชุดจากอาร์มานี่และก็ยังมีสาวสวยคนหนึ่งเดินตามเขาเข้ามา

 

[วาเชอรอง กงสตองแตง] เดิมที่ก็เป็นร้านระดับสูง คนธรรมดาทั่วไปมักจะไม่รู้จักเพราะทางร้านนั้นมักจะไม่มีการโฆษณา แม้ว่าจะมีคนมากมายเดินผ่านที่นี่แต่กลับไม่มีใครรู้เลยว่าที่นี่คือร้านเรือธงของวาเชอรอง กงสตองแตงประจําประเทศจีน และเป็นร้านที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศด้วย!

และด้วยเหตุนี้ที่นี่จึงมีลูกค้าน้อยมาก

ในช่วงเช้าวันนี้คนที่มาที่นี่ก็มีเพียง เจียงเฉิน เอเวลและเจ้าของเหมืองถ่านหินเท่านั้นที่เข้ามาเลือกซื้อ

อู่ลี่ปุ่นมองเจียงเฉินขึ้นลงก่อนจะพ่นลมหายใจเยาะเย้ยออกมา

แท้ว่าเขาจะเป็นเศรษฐีแต่อู่ลี่ปุ่นก็เป็นเศรษฐีที่ชอบหารสนิยม!

มีเงินก็ต้องมีรสนิยมสักหน่อยสิ!

รสนิยมของแกอยู่ตรงไหน?

 

แม้ว่าเครื่องบินส่วนตัว เรือยอทช์ คฤหาสน์ส่วนตัวหรือเกาะส่วนตัวฉันจะหาไม่ได้แต่ฉันก็ยังทํางานอย่างหนักเพื่ออาหารเสื้อผ้านาฬิการถยนต์และไวน์!

ฉันทํางานหนักทั้งกลางวันและกลางคืนคอยรับโทรศัพท์จากบริษัทใหญ่ๆด้วยตัวเอง!

 

เรียกได้ว่าหากสมัยตอนที่เขานั้นยังเรียนอยู่และยังทุ่มเทขนาดนี้ เขาคงจะสอบติดมหาลัยอันดับต้นๆได้อย่าง่ายดาย!

 

และไม่ว่าจะเป็นสินค้าหรูหราชิ้นไหนอู่ลี่ปินคนนี้ก็จะซื้อเอาไว้น

และอีกจุดประสงค์ของเขาก็คือเอาไว้ใช้ตบหน้าคนจน และเพิ่มหน้าตัวเองเมื่ออย่าต่อหน้าคนรวย!

อู่ลี่ปุ่นนั้นได้ยินคนพูดมาว่าวิลล่าสุดคลาสสิกหลังนี้เป็นร้านของ วาเชอรอง กงสตองแตงเขาจึงมาที่นี่พร้อมกับผู้หญิงของเขา เพื่อทําการซื้อของทันที

 

และด้วยความที่เสื้อผ้าของเจียงเฉินนั้นเป็นชุดสั่งตัดจากกุชชี่

 

อู่ลี่ปินที่ไม่เคยเห็นก็เยาะเย้ยออกมาในใจ

 

เสื้อผ้าแบรนด์ไหนก็ไม่รู้?

เด็กนี่มันเป็นคนจนแน่นอน

 

ทั้งๆที่ไม่มีแต่กลับกล้าพาแฟนสาวมาที่วาเชอรอง กงสตองแตงเนี่ยนะ?

เอ๊ะ? แฟน?

สายตาของเขาจับจ้องไปที่เอเวล!

บถลนออกมา!

เอเวลนั้นเป็นหญิงสาวลูกครึ่ง ผมสีบลอนด์ เสื้อผ้าของเธอเต็มไปด้วยความแฟชั่น หุ่นก็เป๊ะมาก! และด้วยกลิ่นอายของการผสมผสานทําให้เธอนั้นดูมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว!

อู่ลี่ปืนตกตะลึง–

เขามองดูเอเวลที่ยืนอยู่ข้างๆเจียงเฉินที่ยังดูหนุ่มและหล่อเหลา จากนั้นมองไปที่ผู้หญิงของตัวเองที่ชอบทําตัวหยาบคายและสวมเครื่องประดับเงินทองตลอดเวลาจิตใจของอู่ลี่ปินก็เริ่มไม่สมดุลทันที

 

แม่งเอ๊ย!

ฉันใช้เงินไปตั้ง 5 ล้านกับเวลาอีก 1 ปีกว่าจะได้ตัวเธอมา!

 

แต่เมื่อเทียบกันผู้หญิงลูกครึ่งคนนั้นแล้วเธอมันก็แค่แม่ไก่!

ทั้งหน้าตา กลิ่นอาย รูปร่าง ความรู้

 

ทุกอย่างๆ!

 

เมื่อเห็นว่าเอเวลนั้นทําดีต่อเจียงเฉินมากแต่ไหน เธอนั้นเลือกนาฬิกาให้กับเจียงเฉินด้วยความอ่อนโยนและเอาใจใส่ ในสายตาของเธอเต็มไปด้วยความรักมันทําให้อู่ลี่ปินยิ่งรู้สึกไม่พอใจมากกว่าเดิม

ก็แค่เด็กยากจนที่ไม่มีวันซื้อนาฬิกาของวาเชอรอง กงสตองแตงได้มันจะไปคู่ควรกับเทพธิดาได้ยังไง?

ดวงตาของอู่สี่ในสว่างขึ้นมาทันที!

 

ฉันต้องแสดงความแข็งแกร่งและเสน่ห์ความเป็นชายออกมา!

 

บางที่สาวงามลูกครึ่งคนนี้อาจจะได้พบความจริงว่าใครดีกว่ากัน และเธอก็อาจจะหันมาเลือกฉันคนนี้!

หึหึ –

 

เจียงเฉินที่กําลังดูนาฬิกากับเอเวลและคิดว่านาฬิกาซีรีย์ [หลง ฮุย] นั้นก็ดูดีมากเลยทีเดียว

เทมหนาตาสวยงามคน

มาและแนะนํามัน

“สายตาของคุณลูกค้าดีจริงๆเลยนะคะนาฬิกาซีรีย์ [หลงฮุย] ของวาเชอรอง กงสตองแตงนั้นได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษสําหรับลูกค้าระดับสูงในจีน หน้าปัดนั้นถูกแกะสลักขึ้นมาเป็นมังกรจีนที่กําลังเล่นมุกอยู่บนก้อนเมฆ ลักษณะของมันนั้นดูเหมาะสมกับยอดชายเป็นที่สุดค่ะ

เจียงเฉินพยักหน้า เขาเองก็รู้สึกว่านาฬิกาซีรีย์ [หลงฮุย) นั้นดูเหมาะกับาไตล์ของตัวเองอย่างมากเขาก็เลยถามราคาออกไป

 

แต่จู่ๆอู่ลี่ปินก็เดินเข้ามา “ฉันชอบนาฬิกาเรือนนี้ ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันขอซื้อเลยก็แล้วกัน!”

 

พนักงานตกใจ “แต่คุณสุภาพบุรุษท่านนี้ (เจียงเฉิน) กําลังดูอยู่นะคะ”

 

“เขาดูแล้วจะไปมีประโยชน์อะไร?” อู่ลี่ปินหัวเราะเยาะออกมาก่อนจะพูดออกมา “เขาจะซื้อได้จริงๆหรอ? สาวน้อยเธอทําธุรกิจก็ต้องดูคนดีๆ!”

 

เขายังพูดต่อไป “หนุ่มน้อย ในเมื่อนายยังอายน้อยแถมยังไม่มี

เงินก็อย่ามาวุ่นวายดีกว่า มันทําให้ธุรกิจของคนอื่นต้องล่าช้านะ รู้ไหม มีแต่คนอย่างฉันเนี่ยแหละที่จะสามารถซื้อนาฬิกาที่มีชื่อเสียงของที่นี่ได้!”

 

พูดจบเขาก็เอาบัตรธนาคารออกมา

 

“รูดบัตรให้ฉัน”

พนักงานสาวถอนหายใจออกมา “คุณคะ คุณจะไม่สอบถามราคาของนาฬิกาเรือนนี้หน่อยหรอคะ?”

 

อู่ลี่ปินที่รีบร้อนอยากจะแสดงความแข็งแกร่งต่อหน้าเอเวลลูกครึ่งสาวสวย เขาก็โบกมืออย่างเย่อหยิ่ง “ฉันจะซื้ออยู่ดี ไม่ว่ามันจะราคาเท่าไหร่ก็ตาม!”

 

“ถามราคามันเป็นการกระทําของคนจน! คนรวยไม่จําเป็นต้องถามราคา!”

เอเวลขมวดคิ้วของเธอ

 

คนๆนี้ปวยรึยังไงกัน?

 

เอเวลเธอไม่ทําตัวสุภาพอีกต่อไป “คุณเป็นโจรยังไงคะ? ทําไมถึงต้องทําพฤติกรรมหยาบคายแบบนี้ด้วย? มีเงินไม่มีเงินมันก็เรื่องส่วนตัวของเขา แต่การกระทําของคุณนะทั้งไร้การศึกษาและมารยาท! ต่อให้ซื้อนาฬิกาของวาเชอรอง กงสตองแตง มันก็ไม่ทําให้คุณดูแฟชั่นมากขึ้นหรือเป็นคนชั้นสูงแม้แต่น้อย!”

 

อู่ลี่ปินนั้นคิดไม่ถึงว่าการโอ้อวดต่อหน้าเอเวลและการย่งชิงนาฬิกาของเจียงเฉินนั้นไม่เพียงแต่จะไม่สามารถสร้างความชอบให้กับหญิงสาวได้แต่

 

ยังโดนสาวงามสั่งสอนจนแทบกระอักเลือดออกมา!

 

โกรธ!!

 

“หึ! แฟชั่นอะไร ชนชั้นสูงอะไร?”

อู่ลี่ปุ่นพูดออกมาด้วยความโกรธ “ฉันมีเงิน! นั่นก็ถือว่ามีเหตุผลมากพอที่จะซื้อได้แล้ว! และไม่ว่าชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆเธอจะดูดีมากแค่ไหน ก็จ่ายเงินซื้อไม่ได้หรอก และอีกไม่นานเธอก็จะได้เห็นว่าแท้จริงแล้วเขามันก็แค่คนไร้ประโยชน์!!”

 

ในเวลานี้เองพนักงานสาวสวยก็เดินกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มอย่างอายๆแต่ก็สุภาพ “ขอโทษนะคะคุณลูกค้า แต่ว่ายอดเงินที่เหลืออยู่ของคุณไม่พอค่ะ”

 

“อะไรนะ?!”

 

อู่ลี่ในกระโดดขึ้นมาทันที “ในบัตรของฉันมีเงินตั้ง 8 ล้านหยวนนะ! ทําไมยอดเงินถึงไม่พอได้กัน?!”

โกรธ!!

พนักงานสาวพูดออกมาอย่างระมัดระวัง “แต่คุณผู้ชายคะ นาฬิกา [หลงฮุย] เป็นซีรีย์พิเศษของวาเชอรอง กงสตองแต่งของเราซึ่งเป็นนาฬิกาเกรดสะสมราคาอยู่ที่ 12 ล้านหยวนค่ะ!”

 

“อะไรนะสิบล้าน?!”

 

อู่ลี่ปุ่นตกตะลึง!

แม้เขาจะมีเงินแต่เขาก็ยังต้องลังเลที่จะซื้อมัน!

เขานั้นใช้เงินเลี้ยงผู้หญิงของเขาปีละแค่ 5 ล้านก็เท่านั้น!

 

แต่นาฬิกาเล็กๆ เรือนนี้ราคา 12 ล้าน?!

 

เขานั้นได้ยินชื่อของร้านวาเชอรอง กงสตองแตงเขาก็เลยรีบมาทันทีและคิดว่าจะใช้เงินเพียง 1 ล้านเพื่อซื้อนาฬิกาสักเรือนเท่านั้น

 

แต่สุดท้ายเขาก็คาดไม่ถึงว่านาฬิกาเพียงหนึ่งเดือนกลับมีค่านับสิบล้าน?!

 

ตอนนั้นเขาก็คิดเพียงแค่เรื่องดึงดูดความสนใจของหญิงสาวมาจากเจียงเฉินเขาเลยไม่ได้ถามราคาของมันแม้แต่น้อย!

 

แต่เมื่อเขาได้รู้ราคาแล้ว…

อับอายมาก!

ตอนนั้นเขายังพูดถากถางประชดประชันว่าเจียงเฉินนั้นไม่สามารถจ่ายเงินซื้อมันได้แต่สุดท้าย

เขากลับตบหน้าตัวเอง!

 

พรูด–

เจียงเฉินกับเอเวลอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

ตลกมาก

ใบหน้าของอู่ลี่ปินแดงก่ําไปด้วยความโกรธ “นาฬิกาบ้าอะไรแพงเป็นสิบล้าน? นี่มันจะต้องเป็นร้านเถื่อนแน่ๆ! ฉันเคยไปที่ห้าง แล้วถามว่านาฬิกาของวาเชอรอง กงสตองแตงราคาเท่าไหร่พวก เขาก็บอกว่าแค่ 1 ล้านเท่านั้น!”

 

พูดจบเขาก็ปิดปากทันที

วาเชอรอง กงสตองแตงมีร้านเถื่อนด้วยหรอ? อู่ลี่ปินเพิ่งจะรู้ตัวว่าเขาพูดอะไรโง่ๆออกไป

“คุณสุภาพบุรุษคะ…”

พนักงานสาวสวยคิดว่าคนๆนี้ไร้สาระมากเธอนั้นอยากจะพูดดูถูกออกมาแต่สุดท้ายก็ได้แต่อธิบายอย่างสุภาพ “วาเชอรอง กงสตองแตงมีซีรีย์นาฬิกามากมายหลายแบบและยังมีการจัดเกรดสินค้า และเคาน์เตอร์ที่อยู่ตามห้างสรรพสินค้านั้นมักจะนําแต่สินค้าระดับเริ่มต้นไปวางจําหน่าย แต่ร้านแห่งนี้เป็นร้านเรือธง! ดังนั้นนาฬิกาของที่นี่จึงมีระดับที่สูงกว่ามากค่ะ! ที่นี่มีแต่สินค้าที่มีมีจัดจําหน่ายที่เคาน์เตอร์และสําหรับซีรีย์ [หลงฮุย] ตัวนี้ถูกจัดเป็นเกรดสะสมดังนั้นมันจึงมีราคาแพงมากค่ะ!”

ใบหน้าของอู่ลี่ปินแดง

 

เขานั้นคิดว่าตัวเองรวยเขาก็เลยสามารถดูถูกร้านวาเชอรอง กงสตองแตงได้แต่สุดท้ายเขานั้นก็คิดไม่ถึงว่าร้านที่ตัวเองได้มาเข้าวันนี้ จะเป็นร้านเรือธงของแท้และร้านนี้มีนาฬิกาเกรดสะสมขาย!

แถมนาฬิกาของที่นี่ยังเริ่มต้นที่ราคาหลักล้านจนไปถึงหลักสิบล้าน!

 

ทางด้านพนักงานชายก็ทนดูไม่ไหวจนพูดดูถูกออกมา “คุณผู้ชาย ช่วยดูที่ตั้งร้านเราหน่อยเถอะครับ! ที่นี่มันใจกลางเมืองหลวงเลยนะครับ! แมคฤหาสน์หลังนี้ก็ยังสร้างมาตั้งแต่ปี 1930 มันไม่ต่างกับโบราณสถานเลยนะที่นี่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของประวัติศาสตร์ ราคาค่าเช่าพวกมันต่อเดือนก็หลักล้านแล้วครับ แล้วถ้านาฬิกาเรือนละ 12 ล้านมันทําให้คุณรู้สึกว่ามันแพงผมก็หานาฬิกาที่มีราคาต่ํากว่า 8 ล้านให้ก็ได้นะครับ!”

 

ใบหน้าของอู่ลี่ปินแดงก๋

น่าอายมาก!

 

เจียงเฉินเองก็ดูการแสดงละครฉากนี้อยู่เงียบๆ

อู่ลี่ในตอนนี้ก็แทบจะอยากมุดดินหนีให้รู้แล้วรู้รอด

ส่วนเอเวลนั้นก็อดมาได้ที่จะหัวเราะจนต้องกุมท้องของเธอ

 

“แม่งเอ๊ย!”

อู่ลี่ในหันไปทางเจียงเฉินที่กําลังมองดูการแสดงอยู่ ก่อนจะพูดออกมาอย่างอารมณ์เสีย “ถ้าแกมีความสามารถุจริงแกก็ซื้อสิวะ!”

เขาไม่เชื่ออย่างเด็ดขาดว่าคนแบบนี้จะซื้อนาฬิกาเรือนนี้ได้

 

เจียงเฉินนั้นไม่ต่างจากนักศึกษษที่เพิ่งจะเดินออกมาจากประตูรั้วมหาลัยดูสดใสและหล่อเหลามาก แม้แต่ผู้หญิงของเขายังต้องแอบมองอยู่ตลอดเวลา คนอายุน้อยแบบนี้จะไปมีเงินมากได้ยังไง? หรือต่อให้มีนิดหน่อยก็ไม่พอจ่ายนาฬิกาเรือนละกว่า 10 ล้านได้แน่!”

 

แต่ใครจะรู้…เจียงเฉินกลับส่ายหัวออกมา

อู่ลี่ในหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง “ฉันว่าแล้ว แกไม่มีวันจ่ายได้หรอก! ต่อหน้าฉันแกจะโอ้อวดได้ยังไง…”

เขายังไม่ทันจะพูดจบเจียงเฉินก็พูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจ “นาฬิกาซีรีย์ [หลงฮุย] แม้แต่คนอย่างคุณยังสนใจ แค่นี้ก็เห็นได้ชัดแล้วว่านาฬิกาเรือนนี้ยังดีไม่พอ…”

 

อันที่จริงเจียงเฉินเองก็รู้สึกว่านาฬิกา [หลงฮุย] นั้นถูกผลิดขี้นมาเป็นพิเศษโดยวาเชอรอง กงสตองแตงเพื่อเอาใจชนชั้นสูงของจีน ซึ่งมันทําให้เจียงเฉินนั้นไม่ค่อยจะชอบมันมากเท่าไหร่

 

เสียงในร้านเงียบลง-

“ฉันเข้าใจแล้ว งั้นก็พิสูจน์สว่านาฬิกาเรือนนี้มันยังดีไม่พอสําหรับนาย!” อู่ลี่ปุ่นระเบิดอารมณ์ออกมาทันที “นายซื้อนาฬิกาที่มีราคาแพงมากกว่านี้สิ!”

 

“ฉันเจออันที่ชอบแล้ว…” เจียงเฉินค่อยๆชี้ไปที่นาฬิกาที่ถูกเก็บไว้ในกระจกกันขโมยที่อยู่กลางร้าน

[นาฬิกา Les Cabinotiers Grande Complication “Crocodile”!]

 

จากทั้งวิลล่ามันเป็นนาฬิกาที่สําค่าที่สุดและสูงส่งที่สุด และได้รับการปกป้องอย่างดีที่สุด!

“คุณผู้ชายครับ คุณแน่ใจหรอครับว่าคุณผู้ชายต้องการนาฬิกาเรือนนี้ ราคาของนาฬิกาเรือนนี้อยู่ที่ 20.88 ล้านนะครับ…”

“ตามที่ผมพูดไปนั่นแหละครับ”

อะไรนะ?!

20.88 ล้าน?!!

อู่ลี่ปุ่นจ้องเขม็ง!

หญิงสาวที่อยู่ข้างๆเขาก็ทํากระเป๋าตกลงพื้น

 

ไม่น่าเชื่อ!

ชายหนุ่มคนนี้กล้าเลือกนาฬิกาเรือนละ 20 ล้านจริงๆ!

 

อู่ลี่ปินและหญิงสาวสงสัยในชีวิต!

 

พนักงานสาวนั้นรู้สึกประทับใจเจียงเฉินที่ทั้งสุภาพและหล่อเหล่า เธอพยักหน้าและยิ้มออกมา “ฉันจะเอามาให้คุณผู้ชายดูทันทีค่ะ”

เดิมที่นาฬิกา Les Cabinotiers Grande Complication “Crocodile” นั้นเป็นดั่งสมบัตของร้านมันไม่ใช่สิ่งที่ลูกค้าทั่วไปจะสามารถขอดูได้!

แต่ด้วยบุคลิกและการพูดของเจียงเฉินนั้น ทําพนักงานในร้านไม่กล้าดูถูกเขา

 

ถึงอย่างไรก็ตามร้านวาเชอรอง กงสตองแตงก็มีคนรวยเข้ามาเป็นจํานวนมากและหลายๆคนก็แข็งแกร่งกว่าอู่ลี่ปุ่นเป็นอย่างมาก!

พวกเขานํานาฬิกา Les Cabinotiers Grande Complication Crocodile” ลงมาและส่งให้กับเจียงเฉิน

เจียงเฉินเล่นกับนาฬิกาเรือนลํา 20 ล้านอยู่สักพักก่อนจะพูดกับเอเวล “นี่คือเรือนที่คุณแนะนําใช่ไหมครับ?”

“ใช่แล้วค่ะ” เอเวลตอบกลับก่อนจะพูดกับเจียงเฉินต่อ “นาฬิกา Les Cabinotiers Grande Complication

Crocodile” นั้นเป็นนาฬิกาที่แพงที่สุดของวาเชอรอง กงสตองแตง และแน่นอนว่ามันติดสิบอันดับนาฬิกาที่แพงที่สุดในโลกด้วย และด้วยนาฬิกาเรือนนี้ค่อนข้างมีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก และมีอยู่เป็นจํานวนน้อยมาก เพียงแค่มองดูแวบแรกฉันก็คิดว่ามันเหมาะกับคุณมากเลยล่ะค่ะ”

 

เจียงเฉินยิ้ม “ถ้าอย่างนั้น ก็ห่อมันเลยครับ”

 

พูดจบเจียงเฉินก็ยื่นบัตรธนาคารให้กับพนักงานสาว

 

พนักงานสาวตกตะลึง!

 

พนักงานชายที่อยู่ข้างๆก็ตกตะลึงตามไปด้วย!

ตกตะลึง!

นาฬิกาเรือนละ 20 ล้านขายได้ง่ายๆแบบนี้เลยหรอ?!

 

พนักงานทุกคนตื่นเต้น!

 

ค่าคอมมิชชั่นที่พวกเขาจะได้จากการขายนาฬิกาเรือนละ 20 ล้านมันจะสูงถึงขนาดไหนกัน?

 

พนักงานสาวก็รับคําสั่งซื้อมาอย่างตื่นเต้น เธอรูดบัตรและจัดการห่อนาฬิการให้เจียงเฉินก่อนจะกลับมาพูดกับเขาด้วยความเคารพ

“คุณเจียงคะ ทันทีที่คุณได้ซื้อนาฬิกาเรือนนี้ของเราคุณจะกลายเป็นสมาชิกระดับแพลตตินั่มระดับสูงสุดของวาเชอรอง กงสตองแตงโดยอัตโนมัติค่ะ คุณได้รับสิทธิ์ในการซ่อมฟรีตลอดชีวิตกับร้านวา เชอรอง กงสตองแตงของเราค่ะและสําหรับบริการอื่นๆจากวาเชอรอง กงสตองแตงคุณก็สามารถเข้ามาร้องขอได้ทันที ไม่ว่าจะสาขาไหนก็ได้ค่ะ ทางเราจะให้บริการที่ดีที่สุดกับคุณค่ะ”

เจียงเฉินยิ้มและพยักหน้าก่อนจะพาเอเวลออกไป

เศรษฐีอู่ลี่ปินกับหญิงสาวของเขามองเจียงเฉินเดินจากไปด้วยความตกตะลึง–

“คุณลูกค้าครับจะซื้อนาฬิกาของเราไหมครับ?”

 

พนักงานชายจงใจถามออกมาเพื่อทําให้เขาอับอาย

“ฉัน…” อู่ลี่ในวิ่งหนีออกไปทันที

 

อับอายมาก!