ตอนที่ 409 : เหล่าปีศาจ

Black Tech Internet Cafe System

ตามกฏของการแข่งขันการแต่งตัวแบบตัวละครในเกมนั้นผู้ชนะไม่เพียงแต่จะแข่งเรื่องเสียงโหวตเท่านั้น แต่ตัวละครที่แต่งนั้นจะได้คะแนนพิเศษสำหรับความยากในการแต่งตัว

 

ฟางฉีได้เขียนรายละเอียดและกติกาบนกระดานดำเล็ก

 

“ข้าวางแผนไว้แล้ว สำหรับรายละเอียดเฉพาะ ..” เซียวหยูโบกพัดในมือและพูดด้วยความภูมิใจ “ข้าขอเก็บเป็นความลับก่อนได้ไหม”

 

“อืม! ดูเหมือนเจ้าจะมีความมั่นใจเหลือเกินนะ”

 

“กงซีจ่าวขอแสดงความยินดีด้วย!” มูตงไลจับมอเขา “เป็นเวลานานมากแล้วครั้งสุดท้ายที่เจอเจ้าตอนนี้ ตอนนี้เจ้าได้เป็นคนดูแลที่นี่! วันนี้ข้าอยากเล่นคิงออฟไฟเตอร์ เจ้าเล่นด้วยกันมั้ย?”

 

ใบหน้าของเซียวหยูกระตุก “ไว้คราวหน้าดีกว่า ..”

 

 

“นั่นไงหยู! ข้าได้ยินมาว่านิยาย Diablo ที่เขียนโดยเฉินชิงชิงได้รับการตรวจสอบและเผยแพร่โดยเจ้าใช่มั้ย?” เห็นได้ชัดว่าองค์หญิงให้ความสนใจกับนิยายเรื่องนี้มาก “ข้าอ่านงานของเจ้าแล้วรู้สึกทึ่ง! ข้าสงสัยว่าพวกเจ้ามีแผนที่จะตีพิมพ์นิยายเรื่องอื่นๆ หรือไม่!?”

 

“เอ่อ ..” หยูซีเว่ยกล่าวว่า “ท่านต้องไปถามเจ้านายเราน่ะ!”

 

ข้างๆ พวกเขาเจียงเสี่ยวหยูตบหน้าผากของเธอคล้ายว่าเธอเพิ่งนึกอะไรได้ “ใช่! นิยาย!”

 

เธอพูดกับหยูซีเว่ยว่า “พี่หยูข้าต้องการนิยายหลายชุด!”

 

“ทำไม? เจ้าได้เป็นของขวัญไปแล้วไม่ใช่หรอ?” หยูซีเว่ยถามด้วยความสงสัย

 

“เจ้านายบอกข้าว่าข้าจะได้เพื่อนใหม่ๆ มากมายที่สำนักสวรรค์ เขาบอกข้าอีกว่าข้าสามารถให้ของขวัญเพื่อนได้เพื่อสร้างความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น” เจียงเสี่ยวหยูกอดอกและยืนขึ้น “ถ้าข้าไม่เอาหนังสือให้พวกเขา พวกเขาจะรู้ได้ไง Diablo ของเรามีพลังมากแค่ไหนกัน”

 

ฟางฉีลูบคางและพูดว่า “ข้ากำลังคิดว่าเดี๋ยวนี้เด็กสมัยนี้เขาทำอะไรกัน”

 

 

งานเลี้ยงปีใหม่จัดขึ้นวันที่สองหลังจากทั้งสองร้านเปลี่ยนโฉมใหม่

 

แม้อากาศจะอุ่นขึ้น แต่วันนี้ที่จิวหัวหิมะสุดท้ายในปีนี้กำลังตก

 

ณ ที่ตั้งทำเลลของเมืองอยู่ทางตอนใต้หิมะจึงไม่ตกหนักเท่าที่เมืองครึ่ง อย่างไรก็ตามความวุ่นวายของเกล็ดหิมะเพิ่มบรรยากาศวันหยุดในร้านให้น่านอนมากขึ้น

 

สำหรับผู้ฝึกฝนและนักรบส่วนใหญ่พวกเขามีความแข็งแกร่งในการฝึกฝน พวกเขาไม่เคยมีงานฉลองแบบนี้มานานแล้ว แม้แต่วันเกิดของพวกเขาเองก็แทบไม่ได้ฉลองเช่นกัน พวกเขามักใช้เวลาทั้งหมดไปกับการฝึกฝนอันหนักหน่วง

 

อย่างไรก็ตามปีนี้ช่างแตกต่างจากเมื่อก่อน

 

นอกร้านจิวหัวชายหนุ่มสวมเครื่องแบบสีน้ำตาลทับเสื้อยืดสีขาวเดินออกมาจากสำนักหลิวหยวน ตราดวงอาทิตย์แผดเผาอยู่ด้านหลังบ่งบอกว่ามันคือเครื่องแบบการแต่งตัว

 

ผู้ที่เดินผ่านไปมาดูประหลาดใจ

 

“สุดยอด! โลริยากามิ!” ข้างเขาคือเคียวคุนาซานากิที่เอามือล้วงกระเป๋าาชายหนุ่มผมแดงมองเดินผ่านสายตาหลายคู่ที่จับจ้องมาทางเขา แทนที่จะรู้สึกเขินอายเขากลับหัวเราะอย่างไม่สนใจ

 

“ซง! เรามีพรสวรรค์มากกว่านี้ หากเราไม่ติดสามอันดับแรก เราสามารถไปแข่งใน Diablo ได้อีกข้าคิดว่าเราจะต้องได้สามอันดับแรกแน่นอน!” เคียงคุซานางิและโลริยากามิเดินคู่กัน พวกเขามีทรงผมที่คล้ายกันแตกต่งกันที่สีผมมและการแต่งตัว

 

จากนั้นเขาซ้อมต่อยโดยคัดลอกเสียงพูดว่า “อั๊ยยะ เห้ย!”

 

ผู้คนที่เดินผ่านไปมาทำหน้างุนงงพวกเขาแปลกใจว่าทำไมคนเหล่านี้ถึงได้อยู่ไปทั่วทุกที่

 

“เฮ้อ .. มันดูแย่”

 

“มันเป็นอีกหนึ่งความนิยมของสำนักหลิงหยวนหรือเปล่า?”

 พวกเขาจำได้ว่าครั้งหนึ่งชุดซอมบี้เคยเป็นที่นิยมมในสำนักและนักเรียนพวกนี้เดินไปมาตามถนนราวกับซอมบี้บุกโลก

 

“เฮ้! เฮ้! หลิน! ซง! ดูนั่นสิ!”

 

พวกเขาเห็นปีศาจตัวสูงและผอมกำลังเดินเล่นอยู่บนถนน

 

“เมฟิสโต้!?”

(ผู้แปล : Mephisto เป็นตัวปีศาจในเกม Diablo)

 

ข้างเมฟิสโต้เป็นผู้หญิงผมสีแดงพร้อมกรงเล็บแหลมและหนาวข้างหลังเธอ

 

ผู้คนที่เดินสัญจนไปมาล้วนเดินถอยห่างจากพวกเขา

 

“หืม .. แอนดาเรียล!?”

 

เมื่อพวกเขามาถึงประตูร้านดวงตาของพวกเขาเบิกตาโพลง

 

หน้าร้านเวสเกอร์และจิลกำลังคุยกันถึงความเคลื่อนไหว ภายในร้านตอนนี้มีคนจากต่างต่างที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาพร้อมถ้วยบะหมี่่

 

“อาจารย์จากตระกูลโอหยาง?” ซงฉิงเฟิงตัวแข็งเมื่อเห็นไมเคิลที่อ้วนกว่าตัวละคร

 

จากนั้นเขามองเลยไปเห็นเมฟิสโตอีกคนกำลังเดินเข้ามา

 

ตามมาด้วยบาอัล .. เมฟิสโต้อีกคนเดินตามเข้ามา

 

เมฟิสโต้ทั้งสองมองหน้ากันแล้วก็ต่าซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและเพลิดเพลินกับมันบนโซฟา

 

“ชิบ!” ซงฉิงเฟิงและคนอื่นๆ ตกตะลึงจนแทบตาจะถลน

 

หิมะอันหนาแน่นกองเต็มท้องถนนด้านนอกร้านที่เมืองครึ่ง แม้แต่ที่จับประตูของร้านยังมีน้ำแข็งค้างติดอยู่ เวลาเช้าตรู่ร้านยังคงเงียบสนิทมีกลุ่มคนไม่น้อยยืนคอยอยู่

 

ผู้คนด้านนอกมากันเป็นกลุ่ม กลุ่มหนึ่งใส่ชุดคลุมสีดำพวกเขาเรียกตัวเองว่าสาวกของราชาผี

 

“ท่านปีศาจดำทำไมร้านยังไม่เปิดอีก!?” ชายท่าทางดูเป็นนักวิชาการสวมเสื้อคลุมสีเขียวซีดถาม

 

“ท่านจินเราควรจะตะโกนดูดีหรือไม่ว่าเจ้าของตื่นหรือยัง?” ผู้ฝึกฝนที่สวมชุดคลุมสีดำเป็นสาวกจากกลุ่มราชาผีเอ่ยถาม

 

เรียกข้าว่า “มังกรเขียว!” นักวิชาการหนุ่มเอ่ย

 

ปีศาจดำกล่าวเสียงขรึมว่า “เรียกข้าว่าหัวหน้ากลุ่มราชาผี!”

 

ทันทีที่พวกเขาพูดร่างสีเขียวก็พุ่งขึ้นจากท้องฟ้าพร้อมตะโกนด้วยความโกรธ “ปรมาจารย์ราชาผีอยู่ที่ไหน!?”

 

“ฟู่ว!” เมื่อผู้เล่นใหม่เห็นปีศาจดำพวกเขาแทบจะกระอัก ทันใดนั้นเขาเอาผ้าสีดำพันรอบตัวเองทันที “ไม่มีราชาอะไรทั้งนั้น! ข้าเป็นผี”

 

ด้วยผมสีดำยาวพลิ้วไปตามสายลมชุดสีเขียวกระพือท่ามกลางหิมะ ใบหน้าของเธอดูสูงสง่าแต่เต็มไปด้วยความเย็นชา

 

คนอื่นๆ คิดว่าไป่เหยานั้นฟื้นขึ้นมาซะแล้ว

(ผู้แปล : ราชาผีคือพ่อของไป่เหยาในเรื่องกระบี่เทพพิชิตมาร)

 

“หนิง .. หนิงไป่”

 

“เรียกข้าว่าไป่เหยา!”

 

“…”

 

“ฮ่าๆๆๆๆ” ร่างสีขาวร่อนลงจากท้องฟ้า เสื้อคลุมสีขาวผมสีขาวคิ้วยาวคล้ายราชาผู้กลับชาติมาเกิดถูกส่งมาโดยปีศาจ

 

คลื่นแสงดาบพราวแวบผ่านกลางท้องฟ้า

 

ปรมาจารย์แห่งดวงจันทร์, หลิวซีฉี, พี่สาวอาวุโสเวิ่นหมิน, หวันเจียนยี่และคนอื่นๆ ค่อยๆ ลงมาทีละคน

 

ตวนยื่อเดินผ่านไป “อาจารย์ซีชิ! ยินดีที่ได้พบท่าน!”

 

“ข้าคือราชินีแห่งดวงจันทร์ เจ้าเห็นข้าเป็นใครกัน!?”

 

“…” ตวนยื่อ

 

ขณะเดียวกันฟางฉีที่อยู่ในชุดผ้าฝ่ายดิบเดินลงมาพร้อมกับเอ้อหูในอ้อมแขน

 

เขามองไปรอบๆ และพบกับความแตกต่างในร้าน พวกเขาต่างเป็นปีศาจกันดูแปลกหูแปลกตา

 

ฟางฉีขมวดคิ้ว “คนดูแลร้านข้าหายไปไหน ทำไมวันแรกแบบนี้เขาถึงมาสาย!?”