ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 431

ฮาร์วีย์ พูดอย่างมั่นใจว่า “อาจจะสำเร็จครับ”

“ถึงจะไม่สำเร็จ อย่างน้อยก็แสดงให้เห็นว่าพวกเรามีความจริงใจกับพวกเขา”

“ผมคิดว่าแม้ว่าท่านประธานของ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ จะไม่มีเหตุผล แต่เขาก็คงจะใจเย็นลงหลังจากเห็นรองประธานของตระกูลซิมเมอร์คุกเข่าลงตรงหน้าสำนักงานของเขา จริงไหมครับ?”

“แต่ถ้ามันไม่ได้ผลล่ะ?”

ผู้อาวุโสซิมเมอร์ขมวดคิ้วมุ่น

“เกียรติยศศักดิ์ศรีของตระกูลซิมเมอร์จะไม่สูญเปล่าไปด้วยหรือไง?”

“คุณปู่ครับ”

ฮาร์วีย์พยายามเกลี้ยกล่อมเขาอย่างใจเย็น

“แม้ว่าจะไม่มีทางแก้ไขได้ แต่อย่างน้อยเราก็สามารถแสดงความจริงใจของเราให้พวกเขาได้เห็น!”

“ถึงเราจะแก้ปัญหาไม่ได้ เราก็ยังมีเวลาช่วยกันหาทางออกด้วยกันได้อีกสองสามวัน จริงไหมครับ?”

“นอกจากนี้ ยังไงก็เคยมีคนบางคนคุกเข่าในงานแสดงโบราณวัตถุแล้ว อีกอย่างมันก็ไม่ได้เลวร้ายมากขนาดนั้น จริงไหมครับ?”

ผู้อาวุโสซิมเมอร์ครุ่นคิดอยู่ลึก ๆ เขารู้สึกสับสนกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

“แน่นอน มันอาจจะดีกว่านี้ถ้าท่านประธานของตระกูลซิมเมอร์ไปด้วยตัวเอง”

ฮาร์วีย์ใช้โอกาสนี้เกลี้ยมกล่อม

“ถ้าผมทำได้ ผมจะไปที่หน้าประตูบ้านพวกเขาและคุกเข่าโดยไม่คิดอะไรเลยด้วยซ้ำ”

“แต่ผมเป็นแค่ลูกเขยที่ไร้ค่าของตระกูลซิมเมอร์ ผมไม่ได้เป็นตัวแทนของตระกูลซิมเมอร์ ผมคุกเข่าไปก็คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง!”

ฮาร์วีย์พูดอย่างมั่นใจ

สีหน้าของผู้อาวุโสซิมเมอร์เปลี่ยนไป

เขาอายุมากแล้ว และแน่นอนว่าเขาจะต้องให้ความสำคัญในเกียรติและศักดิ์ศรีของเขา

เขายอมที่จะแขวนคอตัวเองมากกว่าที่จะต้องคุกเข่าให้กับคนที่อายุน้อยกว่า

แต่ฮาร์วีย์พูดถูก…

เพื่อพิสูจน์ความเชื่อมั่นและความจริใจของตระกูลซิมเมอร์ต่อท่านประธานของ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ คนที่จะต้องคุกเข่าขอโทษ คน ๆ นั้นควรเป็นคนที่มีสถานะความสำคัญในตระกูล

ให้คนอื่นไปทำแบบนั้นคงไม่ได้ผล

ยอร์ก เอนเทอร์ไพรส์ อาจคิดว่าพวกซิมเมอร์กล้าทำให้พวกเขาขุ่นเคืองแล้วยังให้ใครก็ไม่รู้มาคุกเข่าขอโทษ ซึ่งนั่นมันจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี

โดยไม่ต้องคิดอะไรให้มากความ ผู้อาวุโสซิมเมอร์ได้ตัดสินใจขั้นสุดท้ายของเขาแล้ว

“เอาล่ะ! ฉันตัดสินใจแล้ว!”

“แซ็ค ซิมเมอร์ จะต้องเสียสละเพื่อตระกูลของเรา ไปขอโทษพวกเขาตอนบ่ายนี้ซะ!”

แซ็คก้มหน้าลงเก็บซ่อนความไม่พอใจเอาไว้

เขาไม่กล้าแสดงอาการออกมา เขาพงกศีรษะขึ้นมาถาม

“คุณปู่ ทำไมเราไม่ให้แมนดี้ ไปจัดการล่ะครับ?”

“เธอรับผิดชอบโครงการนี้!”

“จะดีกว่าไหมถ้าเธอไปแทนผม?!”

“แล้วเธอยังมีความสัมพันธ์กับท่านประธานคนใหม่ด้วย?”

“ถ้าเธอไปและท่านระธานอยู่ในห้วงอารมณ์เปลี่ยวเหงา เขาอาจจะยอมปล่อยพวกเราไป”

“แซ็ค ซิมเมอร์!”

แมนดี้ไม่สามารถระงับความโกรธของเธอได้อีกต่อไป

“นายกินยาฆ่าเชื้อทุกวันหรือเปล่า!”

“ทำไมปากของนายสกปรกแบบนี้!”

“นายกล่าวหาว่าฉันวางแผนต่อต้านตระกูลของตัวเอง รวมหัวกับ ยอร์ก เอ็นเทอร์ไพรส์ แล้วยังกล่าวหาว่าฉันมีความสัมพันธ์กับท่านประธานคนใหม่อีกงั้นเหรอ?!”

“ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาหน้าตาเป็นยังไง!”

“ฉันขอเตือน…”

“ถ้าขืนนายยังพูดอะไรแบบนี้อีก ฉันจะไม่สนเรื่องนี้อีกต่อไป!”

ใบหน้าสวยหวานของแมนดี้แสดงออกอย่างชัดเจนวาเธอรู้สึกโกรธมากเพียงใด โกรธจนแทบจะหันหลังเดินจากไป

“แซ็ค! ขอโทษแมนดี้เดี๋ยวนี้!”

ผู้อาวุโสซิมเมอร์จ้องไปที่แซ็คและออกคำสั่ง

เขารู้ว่าลึก ๆ แล้วยังไงเขาก็รักแซ็ค ถ้าแซ็คยอมคุกเข่าและมันคงจะได้ผล งั้นก็ลองดู

ถ้าไม่สำเร็จ พวกเขาอาจต้องพึ่งพาแมนดี้เพื่อแก้ไขสถานการณ์ให้พวกเขาอีกครั้ง

ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ พวกเขาจะทำอะไรได้อีกถ้าแซ็คยังทำร้ายแมนดี้และเธอหนีจากไป?

หากเป็นวันอื่น ๆ ผู้อาวุโสซิมเมอร์คงจะไม่มีวันเข้าข้างแมนดี้

แต่นี่มันเฉียดใกล้ความตาย!

ถ้าผิดไปขั้นตอนเดียว ตระกูลซิมเมอร์คงจะล้มละลาย…

ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ จะไม่ให้เขาเข้าข้างแมนดี้ได้ยังไง?

แซ็คไม่คิดว่าปู่ของเขาจะดุเขา…

แต่หลังจากที่เห็นแววตาของผู้อาวุโสซิมเมอร์เต็มไปด้วยความโกรธ เขาก็ยอมเชื่อฟังเขาแต่โดยดี

แซ็คหลุบมองลงไปที่พื้น

“แมนดี้ ฉันให้ความใส่ใจเรื่องความปลอดภัยของครอบครัวมากที่สุด ฉันกำลังพ่นเรื่องไร้สาระอะไรออกไปไม่รู้”

“ยกโทษให้ฉันด้วย”

แมนดี้จ้องมองเขาอย่างเย็นชา เขาคงจะพูดอะไรแบบนี้ไปอีกหลายร้อยครั้ง

ถ้านี่คิดว่าเขาจริงใจจริง ๆ หมูก็คงจะสามารถปีนต้นไม้ได้ไปแล้ว

“แมนดี้ ยกโทษให้เขาด้วย เขาแค่บุ่มบ่ามเกินไป” ผู้อาวุโสซิมเมอร์กระตุ้นเธอ