ทำไร่ไถนาเหรอ
แน่นอนว่า หลังจากที่เส้นหมี่ได้ยิน ไม่เพียงไม่สงสัย แต่กลับรู้สึกว่ามันเป็นโครงการที่ดีอย่างมาก
เด็กในเมืองหลวงสมัยนี้ถูกโอ๋มาตั้งแต่เด็ก ไม่รู้จักพืชพรรณธัญญาหาร ให้พวกเขาได้ไปเปิดหูเปิดตาที่แถบชนบท เป็นอะไรที่ดีอย่างมาก
ในที่สุดเส้นหมี่ก็ตอบตกลง
“ได้ ดีเหมือนกัน งั้นคืนนี้จะกลับไปเตรียมของให้ทุกคนนะ ”
“ครับ หม่ามี๊ก็ต้องเตรียมตัวด้วยนะ คุณครูบอกว่า ผู้ปกครองก็ต้องไปด้วย บ้านเรามีเด็กสามคน หม่ามี๊กับแด๊ดดี้ก็ต้องไปด้วย”
คิวคิวก็รีบอธิบายให้หม่ามี๊ฟังเกี่ยวกับการเตรียมการของคุณครู
ผลปรากฏว่า ทันทีที่เส้นหมี่ได้ยิน อารมณ์ที่ลิงโลดเมื่อครู่ ทันทีทันใด ก็แข็งทื่อขึ้นมา
ยังจะให้เธอกับแด๊ดดี้ของพวกเขาไปด้วย ?
ช่างมันแล้วกัน เขาไม่ไปกับเธอด้วยแน่ เมื่อคืนทะเลาะกันซะขนาดนั้น วันนี้ทั้งวันก็ไม่เห็นหน้า พูดตามตรง เขาไม่ได้ให้คนมาไล่เธอออกไปก็ถือว่าดีมากแล้ว
เส้นหมี่มีท่าทีทุกข์ใจเล็กน้อย และไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้อีก
พาเด็กๆกลับมาถึงที่คฤหาสน์ และแล้ว คืนนี้ก็ยังไม่เห็นแสนรักกลับมา ได้ยินพี่ภาบอกว่า ไม่แม้แต่จะโทรกลับมาด้วยซ้ำ
สงสัย ก็คงไม่อยากจะกลับมานั่นแหละ
เมื่อเส้นหมี่เห็น จึงทำได้เพียงไปพูดคุยกับพี่ภา“พี่ภา พรุ่งนี้เด็กๆต้องไปเที่ยวฤดูใบไม้ผลิ พี่โทรหาคุณผู้ชายของพี่ได้ไหม ให้เขาจัดสรรเวลาหน่อย ”
พี่ภามองมาที่เธอด้วยความประหลาดใจ“คุณไม่ไปเหรอ ? พี่ได้ยินเด็กๆพูดว่า พ่อกับแม่ต้องไปด้วย”
เส้นหมี่ยกยิ้มอย่างขมขื่น“เขาไม่อยากให้ฉันไปด้วยหรอก ไม่เป็นไร ให้เด็กๆไปกับเขาก็พอ ฉันจะไปจัดเตรียมของให้พวกเขา”
จากนั้นเธอก็เตรียมตัวจะขึ้นไปชั้นบน เพื่อเก็บสัมภาระของวันพรุ่งนี้ให้เด็กๆ
และในตอนนี้เอง จู่ๆพี่ภาก็มาดึงเธอไว้
“คุณเส้นหมี่ คุณทำแบบนี้ไม่ถูกต้องนะ ปัญหาของคุณกับคุณผู้ชายมันคนละเรื่องกัน เด็กๆไม่รู้เรื่องด้วย ที่คุณมาที่นี่ ก็เพื่อมาดูแลพวกเขาไม่ใช่เหรอ ? ในเมื่อเป็นแบบนี้ กิจกรรมที่สำคัญของเด็กๆ คุณจะไม่เข้าไปมีส่วนร่วมได้ยังไงกัน ?”
“แต่ว่า……”
“พอเถอะค่ะ คุณฟังฉันนะ คุณผู้ชายไม่มีทางไม่ให้คุณไปด้วยแน่ คุณเองก็เก็บข้าวของของตัวเองด้วย พรุ่งนี้เช้าก็ออกเดินทางไปพร้อมกัน”
คนใช้คนนี้ก็พูดยืนยันกับเส้นหมี่อย่างยิ้มแย้ม
เมื่อเห็นดังนั้น เส้นหมี่ก็พูดอะไรไม่ได้อีก
การเที่ยวฤดูใบไม้ผลิในครั้งนี้ แน่นอนว่าเธอย่อมต้องอยากไปด้วยอยู่แล้ว นี่ลูกของนะ เธอไม่อยากจะพลาดแม้สักช่วงชีวิตในการเจริญเติบโตของพวกเขา
และแล้วเส้นหมี่ก็ขึ้นห้องไปเพื่อจัดเก็บสัมภาระของตัวเองด้วยเช่นกัน เพื่อไปด้วยกันในวันพรุ่งนี้
ค่ำคืนเงียบสงัด
เช้าวันรุ่งขึ้น เพราะเรื่องไปเที่ยวฤดูใบไม้ผลิ เส้นหมี่ตื่นแต่เช้า ไปช่วยเด็กน้อยทั้งสามคนแต่งตัวก่อน จากนั้นเธอก็พาพวกเขาลงมาด้วยกัน
“พี่ภา เรา……”
“คุณผู้ชาย ในที่สุดคุณก็กลับมา พวกคุณชายเล็กเตรียมพร้อมกันแล้ว รอแค่คุณคนเดียว ”
พูดไปได้ยังไม่ทันจบประโยค ทันใดนั้น เธอก็เห็นพี่ภาคนใช้ยืนอยู่ที่หน้าบ้าน และชายหนุ่มที่กำลังลงมาจากรถมายบัคสีขาว ท่าทีเธอร้อนรน และหุบปากเงียบ
เขากลับมาแล้วจริงๆ
เด็กน้อยที่ถูกจูงมืออยู่ก็เห็นแด๊ดดี้ด้วยเช่นกัน ทันทีทันใด ทุกคนต่างก็พากันดีอกดีใจ
“แด๊ดดี้กลับมาแล้ว แด๊ดดี้ จะไปเที่ยวฤดูใบไม้ผลิกับรินจังใช่ไหมคะ ?”หนูรินจังที่ราวกับญาติสนิท หลังจากที่เห็นแด๊ดดี้ ก็โผเข้าหาราวกับนกน้อย
มุมปากแสนรักยกหยัก เขาก้มตัวลงแล้วอุ้มลูกสาวขึ้นมา
“อืม แด๊ดดี้จะไปด้วย ”
“ว้าว เยี่ยมไปเลย ครอบครัวของเราจะได้ไปเที่ยวด้วยกันแล้ว พี่คะ หนูดีใจที่สุดเลย ” เด็กน้อยปรบมืออย่างมีความสุข
เมื่อเส้นหมี่เห็น หัวใจที่แขวนห้อยอยู่กลางอากาศก็ถึงวางลงได้
เพราะว่า เธอเห็นสภาพของชายหนุ่ม ก็ไม่ได้ดูแย่อะไร และดูเหมือนไม่ได้โกรธกันแล้ว
เส้นหมี่ก้าวเดินไปตรงหน้าก้าวหนึ่ง ……
“แสนรัก ทำไมคุณเข้ามาคนเดียวล่ะ ? คุณมาช่วยฉันประกอบคาร์ซีทเลยนะ จริงๆเลย อะไรก็ทิ้งให้ฉันทำ นี่คุณเห็นฉันเป็นยอดมนุษย์หรือไง ?”
ทันใดนั้น ก็มีเสียงที่กรุ่นโกรธของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมาจากในรถมายบัคสีขาวที่อยู่ด้านนอก
สีหน้าของเส้นหมี่เปลี่ยนไปทันที ขาที่ก้าวเดินก็ชะงัก
บนรถของเขายังมีคนอื่น ?
คนอื่นๆที่อยู่ในสนามต่างก็ได้ยิน และประหลาดใจเช่นกัน โดยเฉพาะคิวคิวกับชินจัง หลังจากที่ทั้งสองคนได้ยิน ใบหน้าเล็กๆก็มืดมนลงในทันทีอย่างชัดเจน
น้าแครอท?ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ในตอนนี้ ?
ใช่ ผู้หญิงคนนี้ คือแครอท
ในที่สุดแครอทก็ประกอบคาร์ซีทจนเสร็จ เห็นแสนรักไม่คิดจะไปช่วยเธอเลยด้วยซ้ำ เธอก็เดินเข้ามาอย่างโกรธเคือง
“เฮ้ ? อยู่กันครบทุกคนเลยเหรอ แล้วนี่ เตรียมพร้อมกันแล้วหรือยัง ? งั้นก็เร็วเข้า คิวคิว และก็ชินจังพ่อรูปหล่อ มานี่มา น้าจะพาไปที่รถ”
แครอทกวักมือเรียกเด็กน้อยสองคนที่อยู่ข้างๆเส้นหมี่อย่างเป็นธรรมชาติ
เมื่อเส้นหมี่ได้ยิน ใบหน้าก็ซีดเผือดขึ้นมาอีกครั้ง
พี่ภาก็เห็นแล้วเช่นกัน ถามออกไปทันทีว่า“คุณผู้ชาย นี่คุณแครอทเธอ?”
“ฉันขอให้เธอไปกับฉันเอง เด็กน้อยสามคน ต้องมีผู้ใหญ่สองคน”
ชายหนุ่มที่อุ้มลูกสาวอยู่ พูดอธิบายอย่างเรียบเฉย และสายตาของเขา ก็ไม่ได้หันไปมองทางฝั่งเส้นหมี่เลยแม้แต่น้อย