“เจ้า……นังปีศาจ! ”

ในขณะที่มู่เฉียนซีผ่านด่านการทดสอบในชั้นที่เจ็ดนี้ได้อย่างง่ายดาย กลไกวิญญาณก็รู้สึกว่ามู่เฉียนซีเป็นนังปีศาจจริง ๆ

“พลังวิญญาณของเจ้า นึกไม่ถึงเลยว่าจะบริสุทธิ์ได้ถึงเพียงนี้ แม้แต่มารในใจของเจ้ามีพลังที่อ่อนแอนัก ข้า……”

“ข้าหมดคำพูดกับคนวิปริตเช่นเจ้าจริง ๆ! ”

มู่เฉียนซีกล่าวขึ้นว่า “งั้นข้าก็ผ่านด่านแล้วใช่ไหม? ”

“ใช่! ”

“รีบเอาผลกำเนิดเก้าวิญญาณให้ข้าสิ”

“ในส่วนนี้ ข้าเป็นเพียงแค่กลไกวิญญาณ ไม่อาจมอบให้เจ้าโดยตรงได้ หากเจ้าต้องการ เจ้าก็ต้องเป็นคนไปเก็บมันมาด้วยตัวเอง”

ต่อมา มิติในชั้นที่เจ็ดก็ได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ด้านหน้าเป็นภูเขาสูง และเหนือภูเขาขึ้นไปมีผลผลหนึ่งมีลักษณะเป็นรูปวงรี แต่หากจ้องมองให้ดีก็จะพบว่ามันเป็นผลสองผลที่เชื่อมติดกันเป็นผลเดียว นั่นก็คือผลกำเนิดเก้าวิญญาณนั่นเอง

“ต้องการผลกำเนิดเก้าวิญญาณ ก็ไปเก็บสิ! ”

มู่เฉียนซีกล่าว “ข้าไปเก็บเองก็ได้ ข้าผ่านอันตรายมาตั้งเจ็ดด่านแล้ว จะกลัวอะไรการปีนเขา ถึงแม้ว่ามันจะสูงไปหน่อยก็เถอะ! ”

“ปีนเขา? เจ้าคิดง่ายเกินไปแล้ว” กลไกวิญญาณกล่าว

ในขณะที่มู่เฉียนซีวิ่งไปถึงตีนเขา ทันใดนั้นท้องฟ้าในมิติก็เกิดสายฟ้าสีม่วงฟาดลงมานับไม่ถ้วน!

เปรี๊ยง เปรี๊ยง เปรี๊ยงงงงง!

เมื่อรับรู้ได้ถึงอันตราย มู่เฉียนซีก็รีบถอยออกมาก่อนที่จะโดดสายฟ้าฟาดเป็นเถ้าถ่านดิน

มู่เฉียนซีกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “ไหนเจ้าบอกว่าหากผ่านด่านที่เจ็ดแล้วข้าจะได้ผลกำเนิดเก้าวิญญาณไง? แล้วนี่อะไร เจ้าโกงข้าเหรอ! ”

กลไกวิญญาณกล่าวว่า “ข้าก็ไม่ได้ตั้งใจจะโกงเจ้า ตอนนั้นเผ่าเทพหนานอู้ถูกคนทำลายล้าง เจดีย์เทพถูกปิดผนึกเอาไว้ใต้แท่นบูชา เพื่อที่จะไม่ให้คนอื่นมาเอาผลวิญญาณนี้ไปได้ ภูเขาเทพนี้ก็เลยถูกปิดผนึกเอาไว้ในเจดีย์”

“ในขณะเดียวกัน ภูเขาเทพนี้ก็ถูกปิดผนึกเอาไว้ด้วย ใครก็ตามที่เข้าใกล้มันก็จะถูกสายฟ้าฟาด เจ้าเป็นเพียงแค่ราชาแห่งภูตตัวน้อย ๆ หากโดนเข้าแล้วล่ะก็ มีหวังร่างของเจ้าต้องมอดไหม้เป็นเถ้าถ่านแน่”

มู่เฉียนซีกัดฟันแน่นและกล่าวว่า “หากจะพูดอีกอย่างนึง ก็คือเจ้ากำลังเล่นตลกกับข้า เจ้ากำลังหลอกข้า เจ้า……”

“เจ้าเลวมาก! ”

หากกลไกวิญญาณมีร่างกายแล้วละก็ ตอนนี้คงจะโดนมู่เฉียนซีใช้พิษหลายร้อยชนิดเล่นงานแล้วเอาร่างไปฝังดินแล้วแน่

กลไกวิญญาณก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายที่เย็นยะเยือกนั้น เขากล่าวว่า “นี่ข้าก็พาเจ้ามาที่นี่แล้วไม่ใช่หรือไง? ”

“ตอนนี้ข้าอยากจะวางยาพิษให้เจ้าตายไปจริง ๆ! ”

“กลไกวิญญาณไม่กลัวพิษหรอกนะ”

“งั้นข้าก็จะทำให้เจ้ากลัวจนขวัญกระเจิง”

“อันที่จริงแล้วเจ้าก็ใช่ว่าจะไม่ได้อะไรเลยนะ! ข้าสามารถทำให้เจ้าก้าวขึ้นไปสู่ขั้นสูงสุดได้ ให้เจ้ากลายเป็นยอดฝีมือขั้นจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้า”

“ยอดฝีมือจักรพรรดิแห่งภูตระดับเก้าในอายุสิบหกปี เจ้าสามารถเดินเฉิดฉายได้ทั่วทั้งเซี่ยโจว พรสวรรค์นั้นเป็นความภาคภูมิใจของแดนใต้”

“……”

มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ข้าไม่อยากฟังคำพูดไร้สาระของเจ้า แล้วนี่ไม่มีทางที่จะขึ้นไปบนเขานั้นได้จริง ๆ เหรอ? ”

“เจ้าอยากจะได้ผลกำเนิดเก้าวิญญาณนั้นจริง ๆ เหรอ? ” กลไกวิญญาณย้ำถามอีกครั้ง

“คำถามของเจ้าช่างไร้สาระยิ่งนัก ก็เพราะมัน ข้าจึงต้องมาถึงที่นี่”

“หากเป็นเช่นนั้น ข้าก็ยอมเทหมดหน้าตัก” กลไกวิญญาณกล่าวอย่างแน่วแน่

“อันที่จริง เจ้าได้ทำลายสถิติได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากรางวัลปกติแล้ว ยังมีรางวัลพิเศษด้วย”

“รางวัลพิเศษ คืออะไร? ”

“มันคือสิ่งนี้! ” แผ่นกระดาษสีเหลืองแผ่นหนึ่งลอยอยู่ตรงหน้ามู่เฉียนซี “เคล็ดวิชาเทพ! ” มู่เฉียนซีมองดูตัวอักษรสี่คำบนกระดาษพลางกล่าว

“ใช่ นี่คือเคล็ดวิชาเทพ เป็นเคล็ดวิชาขัดเกลาร่างกายต้านสวรรค์ที่นายท่านของข้าได้ค้นพบ เพียงแค่เจ้าฝึกฝนเคล็ดวิชาเทพนี้ ด้วยพลังวิญญาณราชาแห่งภูตระดับห้าของเจ้าแล้ว สามารถต้านทานสายฟ้าสีม่วงนั้นได้”

มู่เฉียนซีกล่าว “แต่เคล็ดวิชาเทพนี้มันไม่สมบูรณ์ มีเพียงแค่ระดับแรกเท่านั้น”

“เป็นวิชาต้านสวรรค์ ได้มาแค่ระดับแรกก็นับว่าดีมากแล้ว ด้วยพลังความแข็งแกร่งของเจ้าตอนนี้ หากฝึกฝนระดับแรกได้สำเร็จก็เพียงพอแล้ว ตกลงเจ้าจะเอาหรือไม่”

มู่เฉียนซีจ้องมองไปที่ผลกำเนิดเก้าวิญญาณบนภูเขานั้น และกล่าวอย่างเด็ดเดี่ยวว่า “เอา ข้าต้องเอาแน่นอน! ผลกำเนิดเก้าวิญญาณอยู่ตรงหน้าข้าเช่นนี้แล้ว ข้าไม่ยอมปล่อยโอกาสนี้ไปแน่”

หลังจากที่หาผลกำเนิดเก้าวิญญาณเจอ ก็เหลือสมุนไพรวิญญาณชนิดสุดท้ายชนิดเดียวแล้ว นั่นก็คือดอกเก้าพิฆาตลึกลับ และหากหลังจากที่หาดอกเก้าพิฆาตลึกลับได้สำเร็จ ก็จะได้เอาไปปรุงยาแก้พิษ ท่านอาจจะได้กลับมายืนได้อีกครั้ง

“แต่เคล็ดวิชาเทพนี้ใช่ว่าจะฝึกฝนกันได้ง่าย ๆ อย่างมากก็ต้องใช้เวลานานนับสิบปี น้อยสุดก็สามปี เจ้าแน่ใจหรือไม่ว่าจะเสียเวลานานเช่นนั้นสำหรับการฝึกฝนที่นี่”

“ทำไม? เจ้าคิดจะส่งข้ากลับงั้นเหรอ? ” มู่เฉียนซีเลิกคิ้วพลางถาม นางจะไปไหนไม่ได้เด็ดขาดจนกว่าจะเอาผลกำเนิดเก้าวิญญาณนั้นมาได้

กลไกวิญญาณกล่าว “เจ้ามาถึงเจดีย์เทพชั้นที่เจ็ดแล้ว หากเจ้ามั่นใจว่าจะไม่ไป ข้าจะบีบบังคับเจ้าได้อย่างไรกันล่ะ”

“ก็ดี”

“งั้นเจ้าก็ค่อย ๆ ฝึกไปก็แล้วกัน! ”

“ข้าไม่ใช้เวลานานขนาดนั้นหรอก” เมื่อมองไปที่ผลกำเนิดเก้าวิญญาณที่อยู่ไกล ๆ ทำให้มู่เฉียนซีมีแรงและกำลังใจมากขึ้น อีกอย่างการฝึกเคล็ดวิชาเทพนี้ก็ไม่ได้ยากนัก มันถ่ายทอดมาจากสำนักเดียวกันกับเคล็ดเทพต้านสวรรค์ ดังนั้นการฝึกฝนของมู่เฉียนซีจึงเป็นไปอย่างรวดเร็ว!

และแล้วนางก็ฝึกฝนได้เล็กน้อยได้ภายในเวลาเพียงแค่สามวัน!

มู่เฉียนซีเดินไปที่ภูเขาเทพนั้น และกล่าวขึ้นว่า “ข้าจะลองดูสักตั้ง! ”

“สาวน้อย ช้าก่อน! ”

“เจ้าแน่ใจแล้วเหรอว่าเจ้าทำได้ในเวลาสามวัน ไม่มีทางเป็นไปได้เด็ดขาด! ข้าว่าเจ้าใจเย็น ๆ ก่อนเถอะ! ”

มู่เฉียนซีเหยียบที่ขอบบริเวณภูเขาเทพ นางยังไม่ได้ขึ้นภูเขาแต่อย่างใด สายฟ้าสีม่วงนั้นก็ฟาดลงมานับไม่ถ้วนอย่างไร้ความปรานี!

เปรี๊ยง เปรี๊ยง เปรี๊ยงงงง!

ครั้งนี้มู่เฉียนซีไม่ได้หลบหลีก แต่นางใช้เคล็ดเทพต้านสวรรค์เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับร่างกายตัวเองเพื่อต้านทานสายฟ้าสีม่วงนั้น กลไกวิญญาณทนร่างของเห็นอัจฉริยะผู้ล้ำเลิศผู้นี้กลายเป็นเศษเถ้าถ่านไม่ได้จึงไม่กล้ามองดู แต่ผลที่ออกมาก็คือ……

เขาแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง ร่างของสาวน้อยตรงหน้าไม่ได้มอดไหม้เป็นเถ้าถ่าน แต่นางยังคงยืนอยู่ตรงที่เดิม หากจะบอกว่านางได้รับบาดเจ็บ อย่างมากก็มีเลือดออกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อย่างอื่นนั้นปกติดีทุกอย่าง

กลไกวิญญาณแทบจะเป็นลม สาวน้อยผู้นี้บอกเขาว่าฝึกฝนวิชานี้ได้ในระดับหนึ่งภายในเวลาสามวัน และนางก็ฝึกสำเร็จภายในสามวันจริง ๆ

เพียงแค่สามวัน หน้าต้องโดนผีหลอกแล้วแน่!

มู่เฉียนซีกล่าว “ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่ได้หลอกข้าจริง ๆ ด้วย เคล็ดวิชาเทพนี้สามารถต้านทานสายฟ้าสีม่วงได้จริง ๆ ต่อไปก็ถึงเวลาที่ข้าต้องขึ้นไปแล้วหล่ะ! ”

“เจ้าช้าก่อนเถอะ! อย่างน้อยก็ฝึกฝนวิชาได้สำเร็จสมบูรณ์ก่อนแล้วค่อยไป เจ้าประมาทเกินไปแล้ว”

มู่เฉียนซีรีบกินยาวิญญาณรักษาบาดแผลและพรวดไปทันที “ไม่ต้องแล้ว สายฟ้านี้ก็คิดซะว่าเป็นการฝึกฝนก็แล้วกัน จะได้พัฒนาและสามารถทะลวงพลังวิญญาณได้เร็วขึ้น อีกอย่างจะได้เอาผลกำเนิดเก้าวิญญาณเร็วขึ้นด้วย”

กลไกวิญญาณหมดคำพูดกับนางจริง ๆ “ก็แค่ผลวิญญาณผลเดียว จำเป็นต้องเสี่ยงชีวิตเช่นนี้เลยเหรอ? ”

สำหรับกลไกวิญญาณนั้น ผลกำเนิดเก้าวิญญาณก็เป็นแค่ผลวิญญาณผลหนึ่งเท่านั้น แต่สำหรับมู่เฉียนซีมันแตกต่างกันมาก มันเป็นอย่างหนึ่งที่สามารถทำให้มู่อวู่ซวงกลับมายืนได้อีกครั้ง มันสามารถให้ชีวิตใหม่กับมู่อวู่ซวงผู้ที่ถูกทรมานจากพิษโบราณนั้นมากว่ายี่สิบหกปี

นอกจากนี้ยังสามารถทำให้มู่อวู่ซวงมีสุขภาพแข็งแรง สามารถจัดการกับกิจการต่าง ๆ ของตระกูลมู่ได้ นางผู้ที่เป็นผู้นำตระกูลมู่รุ่นที่สองก็สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

บูม!

ร่างสีม่วงพุ่งไปที่ภูเขาอย่างไม่เกรงกลัวอันตรายใดใด สายฟ้าสีม่วงฟาดลงมาอย่างไร้ความปรานี ในขณะเดียวกันนั้นมู่เฉียนซีก็ได้ฝึกฝนเคล็ดวิชาเทพอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ร่างกายของตนเองนั้นแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมในการต้านทานกับสายฟ้าสีม่วงนี้