ตอนที่ 533 ตัวซวยของโชคชะตา

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น

นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 533 ตัวซวยของโชคชะตา
ฮ่อหยุนเฉิงมองดูเบอร์แปลกที่ส่งข้อความมาให้กับซูฉิง คำพูดง่ายๆ ก็คือว่าตนยังมีรูปของหลิวเสี่ยวหนิงกับเฉินจุนเหยียน

จุดมุ่งหมายก็คือให้ทางสตาร์เอ็นเตอร์เทนเพิ่มเงินซื้อรูปนี้กลับไป เวลานี้ถือเป็นกฎของวงการบันเทิงไปโดยปริยายแล้ว

ซูฉิงหน้าลูบแก้ม งอนิ้วเคาะโต๊ะเบาๆ แล้วยิ้มออกมา

เพียงไม่นานเธอก็หาชื่อบัญชีของนักข่าวคนนั้นได้ ล่าสุดเวยป๋อของเขาก็แสดงรูปค้อน ด้านล่างก็เป็นคอมเมนท์เกี่ยวกับหลิวเสี่ยวหนิงทั้งหมด

พอดูมาถึงตอนนี้ซูฉิงก็หมดความอดทน เธอไม่รู้จริงๆ ว่าตอนนี้ในหัวของทั้งสองคนกำลังคิดอะไรอยู่

ถึงแม้ว่าต่อมาหลิวเสี่ยวหหนิงกับเฉินจุนเหยียนจะออกมาอธิบายแล้วว่าเป็นเพียงแค่บทละครในฉาก แต่ว่าอธิบายอย่างนี้ใครที่ได้ยินก็รู้สึกว่าไม่น่าเชื่อถือ

และบวกกับทางหลิวเสี่ยวหนิงพึงประการเรื่องความรัก

ซูฉิงนวดขมับอย่างรู้สึกเหนื่อย

“ต้องการเรียกนักข่าวมาแถลงข่าวมั้ย “ฮ่อหยุนเฉิงมองเห็นซูฉิงแสดงอารมณ์ออกมาอย่างนี้ก็เอ่ยถาม

“จัดงานแถลงข่าวก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าไม่มีเงิน พวกนักข่าวพวกนั้นก็จะยังเขียวข่าวมั่วอยู่ดี”

ซูฉิงบิดขี้เกียจแล้วเข้าไปกอดฮ่อหยุนเฉิง หาที่พักสายตาที่สบาย

“เรื่องนี้ฉันได้สั่งการไปแล้ว แม้แต่เรื่องนักข่าวคนนี้ ถ้าหากเขายังกล้าพูดอะไรอีก ก็รอการฟ้องร้องจากทางบริษัทเถอะ”

ซูฉิงเงยหน้าขึ้นก็เห็นปลายคางของฮ่อหยุนเฉิงแล้วพูดพึมพำ:”วันหยุดทั้งทีก็ยังไม่ได้หยุด”

ฮ่อหยุนเฉิงเหลือบตามอง แล้วจูบที่ริมฝีปากซูฉิง

……….

หลิวเสี่ยวหนิงที่ตอนนี้มานั่งอยู่ที่โรงแรมท่ามกลางที่มีข่าวเสียหายอยู่ ตรงหน้าก็เป็นผู้จัดการที่ทำหน้าเคร่งขรึม

เธอเม้มปากเหมือนกำลังจะพูด แต่สุดท้ายก็ได้แต่ปิดปากไม่พูด

“พวกเธอสองคน นี่จริงๆ เลย…..ฉันยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว”แม้เรื่องครั้งที่แล้วจะผ่านไปแล้วหลายวันแต่ตอนนี้ก็ยังมีข่าวในโลกออนไลน์ออกมาอีก ผู้จัดการก็รู้สึกปวดหัวมาก

“ไม่ใช่บอกไปแล้วหรอ….ว่าพวกเราสองคนก็แค่ซ้อมบทเอง และตอนนี้บรรยากาศก็เหมาะด้วย”หลิวเสี่ยวหนิงกัดปลายลิ้น หลังจากคืนวันนั้นเธอก็อึ้งทึ่ง

เฉินจุนเหยียน……เป็นตัวซวยที่ไม่ถูกกับเธอจริงๆ

“เธอคิดว่าเรื่องนี้พูดออกมาใครจะเชื่อ หืม” ผู้จัดการเหลือบตามองบนให้กับหลิวเสี่ยวหนิง คำพูดข้ออ้างอย่างนี้ทำให้คนคิดว่าเป็นเรื่องโกหก

หลิวเสี่ยงหนิงปลายลิ้นดันเพดานทำแก้มป่องไม่กล้าพูดอะไร

“ทางบริษัทได้ส่งทีมไปจัดการแล้ว ถ่ายฉากที่อยู่ร้านบาร์แล้วตัดทำเป็นโฆษณาแล้ว”ผู้จัดการได้ยื่นบทละครที่แก้ใหม่ไปตรงหน้าของหลิวเสี่ยวหนิง

“ตอนบ่ายหลังจากที่ถ่ายโฆษณาเสร็จ ก็ไปที่ร้านบาร์เลยนะ”

หลิวเสี่ยวหนิงก็ไม่ได้พูดอะไร มองบทละครที่วางอยู่บนโต๊ะ เกร็งเท้าตลอดเวลา

“เสี่ยวหนิง เธอบอกความจริงกับฉันมาเลยนะ เธอชอบคุณหมอจินจริง ๆ หรอ”ทันใดนั้นผู้จัดการก็มองไปที่หลิวเสี่ยวหนิงแล้วเอ่ยถามออกมา

หลิวเสี่ยวหนิงที่ยกแก้วขึ้นมาก็หยุดชะงักแล้วเงยหน้าขึ้นมองผู้จัดการที่มีสายตาจริงจัง ก็รู้สึกร้อนตัวขึ้นมา

“ใช่แล้ว……ถ้าฉันไม่ชอบเขา ทำไมฉันจะต้องเป็นแฟนกับเขาด้วยละ”หลิวเสี่ยวหนิงยิ้มแล้วรีบยกน้ำขึ้นดื่ม

ผู้จัดการจ้องหลิวเสี่ยวหนิงอยู่นาน จากนั้นก็ถอนหายใจแล้วพูด:”จินจิ่นหรานนี่ก็จริงๆ เลย กล้าที่จะมาสารภาพรักตอนงานเปิดกล้อง ตอนนี้เธอยังมีชื่อเสียงอยู่ เรื่องความรักถูกเปิดเผยออกมาทำให้มีผลกระทบมาก แล้วเขาคิดยังไง”

“พี่อย่าพึ่งว่าเขาเลย “หลิวเสี่ยวหนิงพูดออกมา

“รู้จักปกป้องเขาด้วยนะ พวกเธอสองคนนี้…..”ผู้จัดการที่กำลังจะพูด เสียงโทรศัพท์ของหลิวเสี่ยวหนิงก็ดังขึ้น ผู้จัดมองเห็นชื่อที่บันทึกไว้ก็ยิ่งเบะปาก

“คนรักของเธอจะมารับเธอแล้วหรอ”

“พี่เฉิน!”หลิวเสี่ยวหนิงที่ถูกผู้จัดการพูดเหน็บแนมก็รู้สึกผิด เธอยู่ปาก แล้วตอบกลับจินจิ่นหราน

“เอาละๆ พวกเธอก็คุยกันเถอะ เดี๋ยวสักครู่ฉันจะมารับเธอ”ผู้จัดการที่พูดจบก็เดินออกไป

จินจิ่นหรานที่พอได้รับข้อความก็โทรกลับทันที หลิวเสี่ยวหนิงจ้องหน้าจออยู่นานถึงได้กดรับสาย

“ฮัลโหล”

“กำลังยุ่งอยู่หรอ ฉันรบกวนเธอรึเปล่า”จินจิ่นหรานถามมาตามสายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“ไม่หรอก เมื่อกี้กำลังดูบทอยู่ ขอโทษด้วยนะ วันนี้ไม่ได้ไปกินข้าวกับนาย ทีมกองถ่ายได้มีการเพิ่มบทน่ะ”หลิวเสี่ยวหนิงที่เอ่ยออกมาด้วยความรู้สึกผิด

“ไม่เป็นไร ดูแลตัวเองด้วยนะอย่าทำงานหนักเกินไปละ”

หลิวเสี่ยวหนิงลังเลอยู่ชั่วครู่ เธอก้มหน้าลงนิ้วกำชายเสื้อเบาๆ ผ่านไปสักพักเธอก็เอ่ยขึ้นว่า:”จิ่นหราน

“หืม? “จินจิ่นหรานตอบกลับมา

“ฉันอยากเจอนาย”หลิวเสี่ยวหนิงพูดเสียงเบา “อยากเจอตอนนี้’

จินจิ่นหรานที่อยู่ปลายสายที่ทำอะไรอยู่ก็หยุดชะงัก:”โอเค”

หลิวเสี่ยวหนิงยืนอยู่ริมหน้าต่างของโรงแรม มองออกไปทางถนน ด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก

ผ่านไปสักพัก รถของจินจิ่นหรานก็ขับเข้ามาจอดและอยู่ในสายตาของหลิวเสี่ยวหนิง เธอหันหลังวิ่งออกไปจากห้อง

จินจิ่นหรานที่พึ่งเข้ามาในโรงแรมก็เห็นหลิวเสี่ยวหนิงเดินวิ่งมาทางตน เขาก็รีบอ้าแขนออกรับหลิวเสี่ยวหนิงเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด

หลิวเสี่ยวหนิงเอาหน้าซบที่คอของจินจิ่นหรานไม่พูดอะไร เอาแต่กอดเขาอยู่เงียบๆ

“เป็นอะไรไปหรอ “จินจิ่นหรานลูบผมยาวของหลิวเสี่ยวหนิงแล้วเอ่ยถามเสียงเบา

ในโรงแรมนอกจากทีมกองถ่ายแล้วก็ยังมีพวกลูกค้าคนอื่นๆ ด้วย พอเห็นทั้งสองคนกอดกันต่างก็หยุดการกระทำ

จินจิ่นหราน กวาดสายตามองไปรอบๆ ก็เห็นคนยกโทรศัพท์ขึ้นมาเขาเลยใช้มือขึ้นมาปิดบังหน้าของหลิวเสี่ยวหนิงไว้

ขณะเดียวกันก็สัมผัสได้ถึงสายตาโดยรอบ แต่หลิวเสี่ยวหนิงก็ไม่สนใจ เธอเขย่งเท้าขึ้นจูบจินจิ่นหราน

จินจิ่นหรานที่คิดไม่ถึงว่าหลิวเสี่ยวหนิงจะทำอย่างนี้ก็ตัวแข็งทื่อ แววตาของเขาวาวขึ้นแล้วสุดท้ายเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

หลังจากที่จูบเสร็จแล้ว ทั้งสองก็กลับเข้ามาในห้อง นิ้วของจินจิ่นหรานก็เช็ดแก้มของหลิวเสี่ยวหนิงแล้วกดเบาๆ :”ไม่ดีใจหรอ”

นั่งอยู่บนเตียงหลิวเสี่ยวหนิงก็ส่ายหน้าไม่พูดอะไร

จินจิ่นหรานเห็นอย่างนั้นก็คุกเข่าตรงหน้าเตียงแล้วเงยหน้ามองหลิวเสี่ยวหนิง แววตาดวงนั้นสามารถมองเข้าไปถึงจิตใจทำให้หลิวเสี่ยวหนิงรู้สึกเจ็บที่หัวใจ

แววตาของหลิวเสี่ยวหนิงสั่นระริก เธอก้มหน้าหมายจะจูบจินจิ่นหรานอีกแต่คิดไม่ถึงว่าครั้งนี้จินจิ่นหรานจะเบี่ยงหน้าหลบ

จินจิ่นหรานจับหน้าของหลิวเสี่ยวหนิงแล้วมองหน้าเธออย่างจริงจัง

เขาชอบหลิวเสี่ยวหนิง แต่ตอนนี้หลิวเสี่ยวหนิงกลับขังตัวเองอยู่ในเปลือกหอยแข็ง ทำให้เขาไม่มีโอกาสได้สัมผัสของหัวใจของเธอจริงๆ

“ทำไม…….”

ทันใดนั้นหลิวเสี่ยวหนิงก็โผเข้าไปกอดจินจิ่นหรานแล้วพูดเสียงเศร้า

“ทำไมนายถึงดีกับฉันขนาดนี้”