“ดูเหมือนว่าพวกโยมจะกลายเป็นปีศาจไปแล้ว ความชั่วร้ายฝังลึกในจิตใจ ควรจะส่งไปหาพระพุทธเจ้าเพื่อชำระล้างบาปและกลับตัวกลับใจ” เซี่ยปิงมองไปที่ยอดฝีมือที่ยิ่งใหญ่ของทั้งสามเผ่าพันธุ์ แสดงสีหน้าที่เศร้าอาดูรและเกิดความเจ็บแค้นกับชะตากรรมของโลกนี้ “สบายใจได้ อาตมาจะส่งพวกโยมทั้งหมดไปสู่หนทางแห่งการพ้นทุกข์ ไปสู่สถานที่แห่งความสุข นี่ก็คือความเมตาของอาตมาซึ่งเป็นสาวกของพระพุทธเจ้า”

ปัง!

หลังจากที่พูดจบ เขาก็ตบฝ่ามือออกไป ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ทางพระพุทธศาสนา—ฝ่ามือเมตตามหานิยม!

ทว่าพลังอำนาจของฝ่ามือนี้กลับน่าสะพรึงกลัวกว่าก่อนหน้านี้นับสิบเท่า เพราะว่าเขาได้ไหลเวียนทักษะลมหายใจของช้างศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน ร่างกายของเขาแอบแฝงไปด้วยพลังอำนาจของช้างศักดิ์สิทธิ์ ราวกับมีความแข็งแกร่งในระดับเดียวกับช้างศักดิ์สิทธิ์ก็ว่าได้

จากนั้นเมื่อเขาแสดงฝ่ามือเมตตามหานิยมออกมา ทั้งสองพลังอำนาจก็ผสมผสานกัน เกิดปฏิกิริยาทางเคมี ส่งผลให้พลังอำนาจของฝ่ามือนี้เพิ่มขึ้นมาหลายเท่า น่าสะพรึงกลัวจนฝ่ามือก่อนหน้านี้แทบจะเทียบด้วยไม่ได้

“เวรเอ๊ย เป็นพระแท้ๆ ไม่คาดคิดว่าจะผันตัวมาเป็นฆาตกร!”

หู่หรงของตระกูลพยัคฆ์ขาวสะดุ้งตกใจขึ้นมา เพราะว่าฝ่ามือนี้กำลังเพ่งเล็งมาที่ตัวเขา ตบเข้ามาสู่ยอดฝีมือของตระกูลพยัคฆ์ขาว ร้ายกาจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ มีจิตสังหารที่ไร้ที่สิ้นสุดซ่อนเร้นอยู่

พวกเขารู้สึกได้ถึงความน่าสะพรึงกลัวของฝ่ามือนี้ ฝ่ามือสีทองขนาดยักษ์ที่ควบแน่นขึ้นมา เต็มไปด้วยอักขระของพระพุทธศาสนา เมื่อผสมผสานเข้าด้วยกัน มันก็เป็นเหมือนกับบทสวดของพระพุทธศาสนา แอบแฝงไปด้วยพลังอำนาจในระดับสุดยอด

ฝ่ามือสีทองขนาดยักษ์นี้ได้บดขยี้ลงมา ดูเหมือนกับเป็นการโจมตีของพระพุทธเจ้า ทำลายสวรรค์และโค่นล้างแผ่นดิน กำราบทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลนี้ ไม่มีใครที่จะตั้งตัวเป็นศัตรูได้

เมื่อพวกเขาพยายามที่จะหลบหลีกออกไป ทันใดนั้นออร่าของฝ่ามือสีทองนี้ก็ได้ปกคลุมไปบนอากาศรอบๆ ออร่านี้ได้จมหายไปในส่วนลึกของจิตใต้สำนึกของพวกเขาอย่างกะทันหัน

ในช่วงเวลานี้สติการรับรู้ของพวกเขาขาดหายไปอย่างกะทันหัน ทั่วทั้งร่างกายรู้สึกอบอุ่น เหมือนกับว่าจิตศักดิ์สิทธิ์ได้แยกออกจากร่าง เข้าสู่โลกที่เต็มไปด้วยความสุข ส่วนลึกของจิตใต้สำนึกมีเสียงที่สงบสุขดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง “ปล่อยวาง รู้จักการปล่อยวาง มีเพียงแค่การปล่อยวางเท่านั้นที่จะได้หลุดพ้นไปจากเส้นทางของความทุกข์ ขจัดความกังวลทุกอย่างออกไปจึงจะสามารถบรรลุธรรมเป็นพุทธะได้”

นี่คือเสียงเทศนาของพระพุทธศาสนา เป็นเหมือนกับเสียงของพระพุทธเจ้า ดูเหมือนกับเป็นเสียงระฆังในตอนเช้า เสียงกลองในยามเย็น ดังก้องไปในจิตใจ เจาะเข้าไปในห้วงลึกของจิตวิญญาณ

“ใช่ พวกเราจะต้องรู้จักการปล่อยวาง”

“ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จ ความรุ่งโรจน์ ความร่ำรวย ความสูงส่ง ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแต่เป็นจิตปรุงแต่ง”

“หลังจากที่ตายไป สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ไม่มีความหมาย แม้แต่ซากศพก็จะต้องย่อยสลายหายไปตามกาลเวลา”

“พวกเราจะต้องดิ้นรนไปทำไมกัน จะต้องแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นไปทำไม สิ่งเหล่านี้ไม่ได้มีความสำคัญแม้แต่น้อย”

ยอดฝีมือจำนวนมากของตระกูลพยัคฆ์ขาวต่างก็รู้สึกว่าตนเองกำลังได้รับความรู้และสติปัญญาจนแตกฉาน ได้รับการชี้แนะทิศทางจากพระผู้อาวุโส เข้าสู่สภาวะเห็นแจ้ง มีเพียงแค่การปล่อยวางจิตใจเท่านั้นที่จะสามารถหลุดพ้นจากเส้นทางแห่งความทุกข์และบรรลุธรรมเป็นพุทธะ

ภายใต้ออร่าของพระพุทธศาสนาสีทองที่กำลังโอบล้อมร่างกายของพวกเขา พวกเขารู้สึกได้ถึงคุณค่าที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เหมือนกับว่าส่วนลึกของความรู้สึกจะถูกเติมเต็ม ได้รับความพึงพอใจอย่างไร้ที่สิ้นสุด

“ไม่!”

พลังวิญญาณของหู่หรงทรงอำนาจกว่าคนอื่นๆมาก เขาก็รู้สึกได้ว่าตนเองกำลังจะดับสลายไปอย่างรวดเร็ว จะต้องหลุดลอยขึ้นไปสู่โลกแห่งความสุข ทว่าภายใต้วิกฤติชี้เป็นชี้ตายนี้ เซลล์ภายในร่างกายของเขาก็ได้ส่งสัญญาณเตือนขึ้นมา ทำให้เขาตาสว่างขึ้นมาอย่างกะทันหัน หลุดพ้นออกมาจากภวังค์ของพระพุทธศาสนา

ทว่าการที่เขาได้สติขึ้นมาในช่วงเวลานี้ มันก็สายเกินไปเสียแล้ว

ฝ่ามือนี้ได้ตบเข้าไป ปัง พื้นที่ในระยะหนึ่งร้อยกิโลเมตรสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เกิดการสั่นสะเทือนนับแสนครั้ง สร้างพลังทำลายล้างที่น่าสะพรึงกลัวขึ้นมา ระเบิดใส่กลุ่มของยอดฝีมือตระกูลพยัคฆ์ขาวเหล่านี้

ตึบ!

หู่หรงและยอดฝีมือคนอื่นๆของตระกูลพยัคฆ์ขาวต่างก็ไม่มีทางที่จะส่งเสียงร้องอย่างน่าสมเพชออกมาได้ ร่างของพวกเขาสั่นสะเทือนจนระเบิดออกมาภายในเสี้ยววินาที กลายเป็นก้อนเนื้อบด ตายไปอย่างน่าสลดต่อหน้าต่อตาทุกคน เลือดปริมาณมหาศาลไหลลงไปที่พื้น ย้อมพื้นกลายเป็นสีแดง

“แม่เจ้า กลุ่มของหู่หรงตายกันไปทั้งหมด ถูกฝ่ามือตบเข้าไป เปลี่ยนกลายเป็นก้อนเนื้อบด”

“นี่คือผู้ที่เดินอยู่ในเส้นทางของพระพุทธศาสนาหรือ? เป็นพระจากเผ่าพันธุ์อรหันต์จริงๆหรือ? ทำไมถึงโหดเหี้ยมยิ่งกว่าเผ่าพันธุ์อสุราเช่นนี้”

“มีที่ไหนที่นี่คือพระ เห็นได้ชัดว่าเป็นปีศาจ โหดเหี้ยมยิ่งกว่าพวกเราเสียอีก”

“ท่าไม่ดีแล้ว เจ้าลาหัวโล้นนี้แข็งแกร่งเกินไป ไม่มีทางที่จะต่อกรได้ หลบหนีเร็ว! พวกเราไม่ใช่คู่มือของเขา”

“ล่าถอย ล่าถอยทันที ไม่สามารถต่อสู้กับเจ้าลาหัวโล้นนี่ไปจนตายได้ อย่าให้ใครต้องเสียสละชีวิตอีก”

ยอดฝีมือจำนวนมากของเผ่าพันธุ์แวมไพร์ที่เห็นยอดฝีมือของตระกูลพยัคฆ์ขาวถูกฆ่าตายไปอย่างโหดเหี้ยมนั้น ทันใดนั้นก็รู้สึกหวาดกลัวจนจิตวิญญาณแทบหลุดออกจากร่าง ไม่หลงเหลือความกล้าหาญอีกต่อไป เซี่ยปิงแสดงให้เห็นถึงพลังการต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวอย่างสุดขีด ไม่มีทางที่จะต่อกรด้วยได้

พวกเขานั้นเป็นกลุ่มผู้คนที่ข่มเหงรังแกผู้ที่อ่อนแอและหวาดกลัวผู้ที่แข็งแกร่ง เมื่อเห็นยอดฝีมือในระดับนี้ พวกเขาก็รู้ทันทีว่าหากตนเองอยู่ต่อในจุดๆเดิม นั่นก็คือการรอคอยความตาย แต่ละคนต่างก็หลบหนีออกไปอย่างรวดเร็ว

โดยเฉพาะราร์จ เขาเป็นคนแรกที่หลบหนีออกไป ส่งผลให้คนอื่นๆเป็นเหมือนฝูงสัตว์ที่แตกกระเจิงกันออกไป

“อัคคีศักดิ์สิทธิ์โชติช่วง เผาผลาญเพียงธุลี อย่ามัวหลงระเริง แม้ตายไม่เสียดาย ทำดีละเว้นชั่ว ให้แสงธรรมนำทาง ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ สูงสุดย่อมคืนสู่สามัญ โยมทุกๆคนไม่เข้าใจถึงความจริงข้อนี้หรือ? ความตายไม่ใช่หนทางสิ้นสุดของทุกอย่าง ทว่าเป็นการเริ่มต้นใหม่ ปล่อยให้อาตมาผู้นี้ส่งพวกโยมไปสู่ชีวิตใหม่เถอะ เจอกันใหม่ในโลกหน้า”

เซี่ยปิงตบฝ่ามือออกไปอีกครั้ง พลังอำนาจของฝ่ามือเมตตามหานิยมเพิ่มขึ้นมาจนถึงขีดจำกัด ครอบคลุมพื้นที่ในระยะ500กิโลเมตร แสงสีทองส่องว่างเจิดจ้า เหมือนกับเป็นพระอรหันต์ที่แท้จริง ร่างกายเปล่งประกายด้วยแสงสีทอง

ปัง!

ราร์จและยอดฝีมือของเผ่าพันธุ์แวมไพร์คนอื่นๆต่างก็ส่งเสียงร้องออกมาอย่างน่าสมเพช พวกเขาไม่ทันได้หลบหนีไปถึงหนึ่งกิโลเมตรด้วยซ้ำ ฝ่ามือสีทองนี้ก็ตบเข้ามาอย่างรวดเร็ว พลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัวได้ระเบิดพื้นที่รอบๆอย่างบ้าคลั่ง

แม้แต่แสงสว่างแห่งพระพุทธเจ้าก็ทะลวงผ่านความว่างเปล่า เจาะเข้าไปสู่ร่างกายของพวกเขา กัดกร่อนความมืดมิดภายในร่างกายของพวกเขา ขจัดความชั่วร้ายออกไป ชำระล้างความชั่วร้ายทั้งหมดในร่างกายของพวกเขา

วินาทีต่อมา พวกเขาก็สลายหายไปในกลีบเมฆ เปลี่ยนกลายเป็นเถ้าธุลีภายใต้แสงสว่างสีทองนี้

ในช่วงเวลานี้ราร์จรู้สึกผิดอย่างถึงที่สุด เขาเป็นขุนนางของเผ่าพันธุ์แวมไพร์ มีศักยภาพที่ไร้ที่สิ้นสุด เป็นตัวตนที่ถูกลิขิตให้กลายเป็นยอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าในอนาคต เขาไม่เต็มใจที่จะมาตายอยู่ที่นี่

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเขาจะไม่เต็มใจยอมรับเพียงใด สุดท้ายภายใต้ฝ่ามือนี้ เขาก็เปลี่ยนกลายเป็นเถ้าถ่านและหายไปจากการดำรงอยู่

แม้แต่ที่พื้นดินก็ถูกฝ่ามือยักษ์นี้กระแทกเข้าไป ปรากฏเป็นหลุมรูปฝ่ามือขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางกว่าสิบกิโลเมตรขึ้นมาอย่างกะทันหัน รอยนิ้วมือแต่ละนิ้วเป็นเหมือนกับหุบเหวลึกที่น่าสะพรึงกลัว ไม่สามารถที่จะมองเห็นเบื้องลึกของหลุมนี้ได้

ภูเขาจำนวนมากที่อยู่ในระยะรัศมีของฝ่ามือนี้ต่างก็ถูกบดทำลายไปเหมือนกับเต้าหู้ ถูกตบเข้าไปจนแบนราบไปอย่างกะทันหัน สลายกลายเป็นผุยผง

“ปีศาจ เจ้าลาหัวโล้นนี่คือปีศาจที่แท้จริง”

“จบสิ้นกัน จบสิ้นอย่างแท้จริง พวกเราไปท้าทายพระที่โหดเหี้ยมเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?”

“ทำไมเจ้าลาหัวโล้นนี่ถึงได้แข็งแกร่งยิ่งนัก ยิ่งไปกว่านั้นก็อยู่เพียงแค่ในระดับแกนทองเท่านั้น ช่างไม่สมเหตุสมผลแม้แต่น้อย”

“ข้ามั่นใจว่าเขาจะต้องเป็นยอดฝีมือในระดับแตกฉานอย่างแน่นอน เพียงแค่ปกปิดแกนพลังฉีที่แท้จริงของตนเองไว้ แสร้งทำตัวเป็นเสือซ่อนเล็บ”

“ไร้ยางอายอย่างถึงที่สุด เจ้าลาหัวโล้นบัดซบ ไม่ใช่บอกว่าพระไม่พูดปดไม่ใช่หรือ? ทว่าตอนนี้ ทุกๆอย่างที่เกี่ยวข้องกับเขาล้วนเป็นสิ่งโกหกหลอกลวง”

“พวกเราควรทำอย่างไรต่อไป จะต่อสู้หรือว่าจะหลบหนี?!”

ยอดฝีมือจำนวนมากของตระกูลช้างที่เห็นเช่นนี้ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมา หวาดกลัวจนเจียนตาย มีสีหน้าที่สิ้นหวังอย่างมาก

ยอดฝีมือของเผ่าพันธุ์แวมไพร์และตระกูลพยัคฆ์ขาวที่เรียกได้ว่ามีพลังอำนาจที่คู่ควรกับตระกูลช้างของพวกเขานั้น ไม่คาดคิดว่าจะถูกทำลายไปทั้งหมดภายในสองฝ่ามือ ไม่สามารถหลบหนีไปได้ ภาพที่เห็นนี้ทำให้หัวใจของพวกเขาสั่นระรัว

โดยเฉพาะการที่เห็นเจ้าพระเซี่ยปิงนี่ เห็นได้ชัดว่าสังหารผู้คนไปมากมาย ทว่ายังคงมีสีหน้าที่สงบนิ่ง เหมือนกับว่านี่ไม่ใช่การฆาตกรรม แต่เป็นการช่วยให้ฝ่ายตรงข้ามไปผุดไปเกิด สิ่งนี้ทำให้พวกเขาหวาดกลัวจนสั่นเทาไปทั้งตัว คิดว่าตนเองกำลังเผชิญหน้ากับปีศาจไร้หัวใจที่น่าสะพรึงกลัว

พวกเขาปรารถนาที่จะหลบหนีออกไปทันที ทว่าเมื่อเห็นชะตากรรมของเผ่าพันธุ์แวมไพร์แล้วนั้น พวกเขาก็ไม่กล้าทำอะไรวู่วาม

“เดี๋ยวก่อน..เจ้าพระนี่ หรือว่าจะเป็นพระอู๋ตี่ที่สังหารนายน้อยของเผ่าพันธุ์นกเก้าเศียรในดาวไม้มังกร เป็นอาชญากรที่ราชันนกเก้าเศียรออกประกาศจับออกมา?!”

ยอดฝีมือของตระกูลช้างคนหนึ่งก็ได้ตะโกนออกมาทันที ในที่สุดเขาก็นึกถึงเรื่องนี้ได้ ตอนนี้เมื่อปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดและเมื่อเห็นพลังอำนาจที่น่าเกรงขามของเซี่ยปิง อย่างไม่ต้องสงสัย เจ้านี่จะต้องเป็นพระที่สังหารนายน้อยของเผ่าพันธุ์นกเก้าเศียร เจ้านี่คือพระอู๋ตี่ที่ราชันนกเก้าเศียรกำลังควานหาทั่วทั้งดาวไม้มังกร!

ทันใดนั้นกลุ่มของยอดฝีมือตระกูลช้างเหล่านี้ก็ไม่มีความกล้าหาญหลงเหลืออีก เจ้านี่มีชื่อเสียงขึ้นมาด้วยความโหดเหี้ยมของตนเอง การที่กล้าสังหารแม้กระทั่งนายน้อยของเผ่าพันธุ์นกเก้าเศียร จะมีเรื่องใดอีกที่เขาไม่กล้าทำ?!