เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 329
เย่หนานเทียนทำท่าทางเหมือนกับถือไข่มุกไว้ในมือ ดูมั่นใจเป็นอย่างมาก
เขาได้ศึกษาหยางเฟิงไว้ดีแล้ว
หยางเฟิงมีจุดอ่อนที่สามารถฆ่าได้อย่างหนึ่ง ก็คือเย่เมิ่งเหยียนภรรยาของเขา!
ทุกเรื่องที่เกี่ยวพันกับเย่เมิ่งเหยียน หยางเฟิงจะไม่นิ่งดูดาย!
“หึ!”
ในเวลานี้
เฉินป้าเซียนก็ทำเสียงเย้ยหยันออกมา : “ฉันขอเตือนทั้งสองท่านเอาไว้เลย จุดประสงค์ของเราคือจัดการหยางเฟิง! หากทำเรื่องสำคัญของผู้นำตระกูลให้ล่าช้าล่ะก็ ตระกูลเย่ของพวกคุณแบกรับไม่ไหวอย่างแน่นอน!”
จากมุมมองของเฉินป้าเซียน การโจมตีตงไห่ซ่องโจรของหยางเฟิง จึงจะเป็นวิธีการที่ถูกต้อง
แต่ไม่ใช่การพูดพล่ามอยู่ที่นี่
เสียเวลากับอีแก่เพียงคนเดียว!
หลันซินจะมีประโยชน์อะไร?
เป็นเพียงแค่แม่บ้านไร้ประโยชน์คนหนึ่ง!
ใช้เธอมาข่มขู่หยางเฟิง ช่างน่าตลกสิ้นดี!
เย่หนานเทียนตอบโต้กลับอย่างหยิ่งยโส : “เฉินป้าเซียน ถ้าแกมีความสามารถเช่นนั้น ก็จัดการหยางเฟิงด้วยตนเองสิ! ถ้าแกจัดการหยางเฟิงได้ แก๊งฟ้าดินก็คงไม่พินาศย่อยยับ และแก——ก็คงไม่กลายเป็นหมาไม่มีเจ้าของอย่างนี้หรอก!”
“แก……”
ได้ยินคำพูดนี้
เฉินป้าเซียนก็โมโหเดือดดาลอย่างฉับพลัน
แก๊งฟ้าดินถูกทำลายจนสูญสิ้น มันคือความเจ็บปวดในใจเขาเสมอมา
แต่เย่หนานเทียนคนนี้ มักจะสะกิดบาดแผลของตนเองอยู่บ่อยๆ!
ช่างน่ารังเกียจซะจริงๆ!
“ดีๆๆ! กูไม่สนใจหรอก! ถ้าถึงเวลานั้นแล้วงานที่รับผิดชอบไม่สำเร็จ ดูสิว่าพวกแกจะอธิบายกับผู้นำตระกูลว่าอย่างไร?” เฉินป้าเซียนหัวเราะด้วยความโกรธ
พูดจบ เขาก็ออกออกไปด้วยความฉุนเฉียว
เย่หนานเทียนมีสีหน้าเย้ยหยันถากถาง
ท่านบอสแก๊งฟ้าดินเหมือนหมาไม่มีเจ้าของตัวหนึ่ง กล้ามาเห่าหอนอยู่ตรงหน้าตนเอง รนหาที่ตายซะแล้ว!
ถ้าไม่ใช่เห็นแก่คนตระกูลเฉิน!
กล้ามาชี้โบ๊ชี้เบ๊ต่อหน้าตนเอง เย่หนานเทียนก็ฆ่าเขาไปนานแล้ว!
หลังจากที่เฉินป้าเซียนออกไป
เย่โหรวก็กล่าวอย่างกังวลใจ : “พ่อคะ ถึงอย่างไรเฉินป้าเซียนก็เป็นคนของตระกูลเฉิน เราผิดใจกับเขา เขาไปฟ้องเฉินเป่ยเสวียนแล้วจะทำอย่างไร?”
เย่หนานเทียนโบกมือ พูดอย่างไม่ไยดี : “ไม่เห็นจะเป็นไรเลย! ก็แค่หงส์ตกยากตัวหนึ่งเท่านั้น ยังคิดว่าตนเองเป็นท่านบอสแก๊งฟ้าดินเหมือนในตอนนั้นอยู่อีกเหรอ?”
“ตราบใดที่เราทำภารกิจสำเร็จ ฆ่าหยางเฟิงได้ เฉินป้าเซียนก็จะต้องให้ความสำคัญตระกูลเย่ของเราเป็นพิเศษ! ถึงเวลานั้น จะอาศัยความแข็งแกร่งของตระกูลเฉิน ตระกูลเย่จะได้เป็นตระกูลอันดับสองในจงโจว ก็ไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้!”
พูดคำพูดนี้จบ
ดวงตาทั้งคู่ของเย่หนานเทียน เผยให้เห็นแสงแห่งความชาญฉลาด
เขาเป็นผู้นำตระกูลเย่ผู้สง่าผ่าเผย เป็นธรรมดาที่จะไม่สามารถทำงานให้เฉินเป่ยเสวียนได้อย่างสุดจิตสุดใจได้
ตระกูลเย่ไปขอที่พึ่งพาอาศัยตระกูลเฉิน เพียงแค่เป็นผลประโยชน์ร่วมกันก็เท่านั้น
“ตอนนี้ ก็รอแค่หยางเฟิงเข้าโกศก็เท่านั้น!”
“หึหึ!”
นำเสียงเพิ่งจบลง มุมปากของเย่หนานเทียน เผยให้เห็นรอยยิ้มอันชั่วร้าย……
ในขณะนี้
สนามบินนานาชาติของเมืองกาสิโน
เครื่องบินพิเศษสีเขียวเข้ม บินวนและลดระดับลงสู่พื้น
เฝ้าระวังและเข้มงวดทั้งสนามบิน
พลทหารหลายพันนาย ตั้งแถวต้อนรับ
แม้แต่ผู้ว่าการเมืองกาสิโน ยังมาต้อนรับด้วยตนเอง
นี่ทำให้หลายๆ คนต่างคาดเดา
วันนี้ ท้ายที่สุดแล้วคนมีชื่อเสียงมายังเมืองกาสิโนเพราะอะไร?
ไม่นาน
เครื่องบินก็ลงจอด
ประตูห้องโดยสาร ค่อยๆ เปิดออกมา
หยางเฟิงกับเย่เมิ่งเหยียนทั้งสองคนเดินออกมา
เพื่อให้มาถึงโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้
หยางเฟิงจึงเรียกใช้เครื่องบินทหารเป็นการส่วนตัว
ไม่เพียงเท่านี้
เขายังให้เสือขาวติดต่อท่านผู้ว่าการเมืองกาสิโนเพื่อให้มาต้อนรับด้วยตนเอง
ประสบการณ์ในฉงโจว บอกหยางเฟิงว่า เขายังคงทำตัวค้อมต่ำเกินไป
ฉะนั้นจึงได้มีพวกสวะอีกมากมายที่รนหาที่ตาย อยากมาท้าทายกับตนเองอยู่เสมอ
ครั้งนี้
เขาจะทะยานสูงให้ถึงขอบฟ้าเลย!
เห็นหยางเฟิงกับเย่เมิ่งเหยียนลงจากเครื่อง
ท่านผู้ว่าการ เมืองกาสิโน ลั่วเจิ้นตงรีบเข้ามาต้อนรับทันที
“ลั่วเจิ้นตงผู้ว่าการเมืองกาสิโน คารวะท่านแม่ทัพ!”
ลั่วเจิ้นตงมีสีหน้าเคร่งขรึม ไม่กล้าขาดความเคารพเลยแม้แต่น้อย
อยู่ต่อหน้าผู้อื่น เขาเป็นผู้ว่าการที่สูงส่งสง่าผ่าเผย
บทที่ 328