บทที่ 140 พวกเจ้าถึงกับซึมไปเลยหรือ ? (ปลาย)

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์

บทที่ 140 พวกเจ้าถึงกับซึมไปเลยหรือ ? (ปลาย)

หลีซิ่วจ้องหน้าเยี่ยฉวน แววตาเต็มไปด้วยความกระหายแห่งการฆ่า ชั่วเสี้ยววินาทีที่กำลังจะจู่โจมพลันบังเกิดเสียงดังขึ้นจากด้านข้าง “ฮ่าฮ่า คราแรกศิษย์แห่งสถานศึกษาฉางมู่ท้าทายให้เข้ามาสู้กันตัวต่อตัว ทว่า ในตอนนี้ท่านกลับหมายจะข่มเหงผู้ที่ด้อยอาวุโสกว่าเช่นนั้นหรือ ?”

หลีซิ่วหันขวับมาทางต้นเสียง เผยให้เห็นว่าที่ไม่ไกลออกไปนั้นมีชายชราผลักรถเข็นซึ่งมีหญิงสาวผู้หนึ่งนั่งบนรถเข็นนั้น พวกเขาเคลื่อนที่ออกมาเบื้องหน้าอย่างช้า ๆ เสียงของหญิงสาวผู้มีเปลือกตาปิดสนิทนั่นเอง

ชายกลางคนเขม้นมองทางหญิงสาวในชุดดำผู้มาใหม่ ทว่านางมิได้หวาดหวั่นแต่อย่างใด “สถานศึกษาฉางมู่จับตัวน้องสาวของเขาหวังให้พี่ชายตามมาที่นี่ พวกท่านทำเช่นนี้ได้อย่างไร ? สนุกนักหรือกับการข่มเหง ผู้ที่ด้อยอาวุโสกว่า ? หรือว่าเวลานี้ฉางมู่ไม่อาจตั้งความหวังกับคนรุ่นใหม่ได้เสียแล้ว ?

เมื่อได้ยินคำพูดของผู้มาใหม่ กลุ่มคนที่รายล้อมต่างออกความเห็นวิพากษ์วิจารณ์เสียงเซ็งแซ่ หลาย สายตาที่มองมายังรองอาจารย์ใหญ่มีหลากหลายความรู้สึก

“ข่มเหงผู้ด้อยอาวุโส ?”

“เป็นเรื่องที่น่าละอายใจจริง ๆ!”

ในตอนนั้นเอง บนเส้นทางขึ้นเขาฉางซานได้ปรากฏร่างของคนผู้หนึ่ง และที่เบื้องหลังคนผู้นั้นก็ได้มี ศิษย์แห่งฉางมู่ติดตามมาด้วยนับสิบคน !

ก่อนที่ในชั่วอึดใจนั้น ร่างที่ว่าพลันมาปรากฏต่อหน้าเยี่ยฉวน เขาคือเฟินเจี๋ย !

ส่วนกลุ่มคนที่ตามหลังเฟินเจี๋ย พวกมันเป็นศิษย์แห่งสถานศึกษาฉางมู่

เฟินเจี๋ยกวาดตามองเยี่ยฉวน จากนั้นหันหน้าไปทางหลีซิ่วซึ่งยืนใกล้กัน “รองอาจารย์ใหญ่ ข้าขอสู้กับ เขาได้หรือไม่ขอรับ ? ปล่อยเขาให้เป็นหน้าที่ของข้า !”

รองอาจารย์ใหญ่พยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต พลางกล่าวสำทับ “อย่าประมาทฝีมือของศัตรู !”

ผู้ฟังเหยียดมุมปากพลางสายตากวาดมาทางเยี่ยฉวน “ข้าคิดว่าเจ้าจะไม่มาตามหาน้องสาวเสียแล้ว นับว่ากล้าหาญไม่น้อย เจ้า…”

ทันใดนั้น ร่างของเยี่ยฉวนพลันหายวับไปจากจุดตรงหน้า

อีกฝ่ายเห็นเช่นนั้นพลันสีหน้าแปลกไปเพียงเล็กน้อย เขาเคลื่อนที่ว่องไวเฉกเดียวกันเมื่อปลายกระบี่ ของเยี่ยฉวนสะบัดตรงเข้ามาที่หน้า ทำการเบี่ยงหลบออกได้อย่างทันท่วงที ขณะเดียวกันมือก็ได้ตวัดกระบี่ แหวกอากาศออกไปพุ่งตรงในระดับเอวของเยี่ยฉวน

ควับ !

พลังลมแห่งคมกระบี่ซึ่งทะยานผ่านทางฝ่ามือ พุ่งเข้าหาจุดตายกึ่งกลางลำตัวของเยี่ยฉวน !

เยี่ยฉวนพลิกฝ่ามือ เหวี่ยงกระบี่ด้วยหลังมือพร้อมฟาดลงไปตรง ๆ

ตู้ม !

พลังลมแห่งกระบี่กระจายออกด้วยพลังปะทะของกระบี่ !

เสี้ยววินาทีนั้นเองเฟินเจี๋ยปรากฏกายขึ้นเหนือศีรษะเยี่ยฉวนอย่างกะทันหัน ก่อนพลันบังเกิดใบมีดลมพุ่งจากทุกทิศทางตรงหาเยี่ยฉวนอย่างรวดเร็ว

เยี่ยฉวนที่เห็นดังนั้นจึงกระทืบฝ่าเท้าลงบนพื้นดินผลักร่างทะยานขึ้นสู่อากาศ โดยไม่รอช้าเขาตวัด กระบี่ฟาดลงเบื้องล่างทันที !

หนึ่งกระบี่ชี้ชะตา !

หลีซิ่วผู้อยู่ใกล้เห็นสถานการณ์อย่างชัดเจน เมื่อเห็นเยี่ยฉวนออกพลังปะทะแห่งกระบี่ พลันสีหน้าแปร เปลี่ยนอย่างเห็นได้ชัด ด้วยความกล้าแกร่งของพลังนั้นหาใช่ผู้ที่มีขั้นพลังหลอมรวมลมปราณพึงใช้ได้ !

เฟินเจี๋ยไม่แตกต่างจากชายกลางคนด้วยสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เพราะมันเป็นสิ่งที่นอกเหนือความ คาดหมาย แท้จริงแล้วพลังกระบี่ของเยี่ยฉวนนั้นน่ากลัวยิ่งกว่าที่พวกเขาคิดมากนัก !

หากกระบี่ที่เยี่ยฉวนผลักออกครั้งก่อนเป็นพลังปะทะที่ว่ารุนแรงแล้ว งั้นพลังแห่งกระบี่ครานี้ก็นับว่า สามารถทำลายล้างโลกได้เลยทีเดียว !

ความแตกต่างสองพลังในหนึ่งกระบี่ได้สร้างความกังขาขึ้นภายในใจของเฟินเจี๋ยอย่างยิ่งยวด ทว่าเขา ไม่อาจหยุดคิดได้นาน เขาประกบฝ่ามือเข้าหากันโดยแรงในทันทีทำให้เกิดกระแสลมพัดหมุนวนอย่างรุนแรงอยู่รอบตัว ฉับพลันกระแสลมหมุนก็ได้แปรเปลี่ยนเป็นใบมีดลมมากมายพุ่งไปในทิศทางคมกระบี่ของเยี่ยฉวน !

อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นจังหวะเดียวกับที่เยี่ยฉวนฟาดกระบี่ตัดลงกลางใบมีดลมจนแตกกระจัดกระจายไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน

ก่อนที่วินาทีต่อมา เยี่ยฉวนจะผลักออกลำแสงกระบี่พุ่งตรงเข้าหาคนเบื้องหน้า !!!!

ตู้ม !

ภาพที่ปรากฏพร้อมเสียงระเบิดกึกก้อง ร่างของเฟินเจี๋ยถอยกรูดราวกับมีแรงผลักมหาศาลจนไถลออก ไปไกลหลายจั้ง !

ทันทีที่หยุดชะงัก เยี่ยฉวนพลันทะยานวาบเข้าไปเบื้องหน้า พร้อมกระบี่ในมือฟาดฉับตัดอากาศ

เขาออกกระบี่ด้วยพลังปะทะหนึ่งกระบี่ชี้ชะตะเช่นเดียวกัน !

ความกล้าแกร่งของกระบี่ครั้งนี้ยิ่งกว่าครั้งก่อน ที่แรงผลักกดมหาศาลจนแม้แต่แผ่นดินยังสะท้านแยก แตกพินาศ !

สายตาว่องไวของเฟินเจี๋ยจับความเคลื่อนไหวเต็มสองตา ก่อนจะกระทืบฝ่าเท้าลงกับพื้นโต้ตอบ

เปรี้ยง !

ด้วยพลังต้านทานจากพื้นดิน ส่งร่างให้ล่าถอยจากจุดอย่างรวดเร็ว หากแต่กลับไม่อาจหลบพ้นคม กระบี่ของเยี่ยฉวนที่ฟาดฉับลงมาจากด้านบน

ตู้ม !

พื้นดินบริเวณนั้นแตกระเบิดออก พลังออกปะทะและลำแสงแห่งกระบี่พุ่งอัดร่างของเฟินเจี๋ยกลาง อากาศ ทันทีที่เขาตกกระแทกพื้นดิน เยี่ยฉวนพลันพุ่งวาบมาปรากฏกายต่อหน้าในมือขยับกระชับกระบี่และ ฟาดฉับอย่างรุนแรงที่ร่างของเฟินเจี๋ย !

ทันทีนั้นร่างหนึ่งพลันพุ่งพรวดออกจากด้านข้างเข้าหาเยี่ยฉวน

เป็นศิษย์แห่งฉางมู่คนหนึ่ง !

เหตุการณ์นั้นปรากฏต่อหน้ากลุ่มคนที่มาเฝ้าดู จึงบังเกิดเสียงเอะอะด้วยความไม่พอใจดังอึงอล

“ไหนว่าเป็นการต่อสู้แบบตัวต่อตัว ?”

เยี่ยฉวนเปลี่ยนทิศทางไปยังผู้เข้าขวาง ในขณะนั้นเองเขาจึงเปลี่ยนทิศทางของคมกระบี่ที่กำลังฟาด ออกไปด้านขวามือ

ตู้ม !

พลังกระบี่พุ่งปะทะร่างของเจ้าศิษย์แห่งฉางมู่คนนั้นปลิวกระเด็นไปต่อหน้าต่อตา ก่อนที่ชายหนุ่มจะ เหวี่ยงสะบัดกระบี่ซัดออกหาคนที่กระเด็นไปผู้นั้น

ฉับ !

พลันศีรษะของศิษย์ผู้เคราะห์ร้ายขาดสะบั้นและปลิวหวือออกไปในระยะไกล !

โลหิตสาดกระเซ็นไปตลอดทางที่ศีรษะซึ่งปราศจากร่างกระเด็นตกไปไกลหลายจั้ง !

เยี่ยฉวนสะบัดมือขวา ส่งกระบี่หลิงซิ่วย้อนกลับเข้าสู่อุ้งมือผู้เป็นเจ้าของ ทำให้เฟินเจี๋ยซึ่งล่าถอยออก ไปหลายจั้ง ณ เบื้องหน้าในขณะนี้มีสีหน้าสีตาบ่งบอกว่าพิศวงยิ่ง

หาใช่เฟินเจี๋ยผู้เดียวที่รู้สึก ทว่ากองกำลังศิษย์แห่งฉางมู่ในลานต่างก็รู้สึกเช่นเดียวกัน

แน่ชัดว่าความกล้าแกร่งของเยี่ยฉวนที่พวกเขาเห็นในขณะนี้ เป็นสิ่งเหนือความคาดหมาย !

ยังก่อน เยี่ยฉวนไม่หยุดยั้งเพียงเท่านี้ เขาก้าวเดินตรงเข้าหาเฟินเจี๋ยรวมทั้งศิษย์แห่งฉางมู่กลุ่มใหญ่ เบื้องหน้า

ทุกคนในที่นั้นมองเขาด้วยสายตาตกตะลึง

“เขาคิดต่อสู้กับคนทั้งกลุ่มเช่นนั้นหรือ ?”

เฟินเจี๋ยคำรามจากด้านหน้า “วันนี้ไม่ข้าก็มันจะต้องตายกันไปข้างหนึ่ง !”

สิ้นเสียง เขากดนิ้วมือลงบริเวณหว่างคิ้ว ทันใดนั้นกระแสพลังชี่ฉายวาบออกจากร่างกาย !

ตู้ม !

กระแสพลังชนิดหนึ่งปะทุขึ้นเหนือชั้นอากาศบริเวณลานกว้าง

“พลังขั้นสันโดษ !”

เสียงใครบางคนตะโกนด้วยความตื่นเต้น “เขาต้องใช้ไม้ตายเป็นแน่ !”

ขณะที่เฟินเจี๋ยเดินตรงเข้าหาเยี่ยฉวนทีละก้าว แสงพลังเปล่งรัศมีล้อมรอบกายและยิ่งทวีความแรงขึ้น ทุกขณะ

ทว่าช่วงเวลานั้น ดูเหมือนว่าไม่มีใครทันสังเกตพลังบางอย่างที่ค่อยแทรกซึมเข้าสู่กายของเยี่ยฉวนจากล่างขึ้นบน…

ไม่นานนักระยะห่างของคนทั้งสองลดน้อยลงทุกขณะ เฟินเจี๋ยกำหมัดและพุ่งตรงออกไป

หมัดที่ผลักออกบรรจุพลังมหาศาลเทียบได้กับแรงอัดระเบิดของภูเขาไฟ สามารถสกัดเยี่ยฉวนให้ชะงักด้วยแรงปะทะฉับพลัน !

ขณะนั้นกระแสพลังปฐพีพลันแทรกซึมขึ้นสู่ร่างกายจากล่างขึ้นบนเต็มเพียบ เสี้ยววินาทีนั้นชายหนุ่ม พลันตวัดกระบี่ฟาดลงตรงทันที !

ตู้ม !

พลังต้านทานแห่งกระบี่กระแทกพลังหมัดของเฟินเจี๋ยแตกออกทันที อีกทั้งร่างของมันยังกระเด็นไปไกล และทันทีที่ตกกระแทกพื้นดิน ร่างของเยี่ยฉวนพลันปรากฏยืนค้ำอยู่ตรงหน้า เขายกกระบี่ฟันตรงใส่ร่างคนบนพื้นอย่างไม่ลังเล

“เยี่ยฉวน !”

จังหวะนั้น เสียงของหลีซิ่วดังก้องเข้าโสตประสาทของชายหนุ่ม “ถ้าเจ้าสังหารเขาวันนี้ สถานศึกษา ฉางมู่จะทำทุกวิถีทางให้ทั้งเจ้าและน้องต้องตายอย่างอนาถ เจ้า…”

ทันใดนั้น เยี่ยฉวนพลันตวัดฟาดกระบี่ลงเบื้องหน้าอย่างรุนแรง

ฉัวะ !

ร่างของเฟินเจี๋ยขาดสะบั้น

ชายหนุ่มเหวี่ยงสะบัดกระบี่ ตัดร่างของเฟินเจี๋ยจนแหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย โดยชิ้นเนื้อจัดเรียงเป็นตัวอักษรคำหนึ่งว่า ‘ฉาง’

เยี่ยฉวนเงยหน้าขึ้นมองไปยังกลุ่มศิษย์แห่งสถานศึกษาฉางมู่ เสียงคำรามราวสัตว์ป่าเล็ดรอดไรฟัน “เป็นอะไรไป ? พวกเจ้าถึงกับซึมไปเลยหรือ ? เข้ามาเลย ไอ้พวกชาติชั่ว !”