กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 663
“พี่หญิง ข้ามาแล้ว”

ไกลออกไป เสียงของจอมมารได้มาถึงก่อนที่เขาจะปรากฏตัวขึ้น

“พี่หญิง ตาเฒ่าซือคงล่ะ เอ๊ะ นี่คือเหวินเส่าอี๋ไม่ใช่หรือ? เหตุใดเขาถึงอยู่ที่นี่ พี่หญิง ต้องการให้ข้ากำจัดเขาทิ้งหรือไม่”

“ไม่ต้องสนใจเขาก่อน ไปไล่ตามรองหัวหน้าเผ่าซือคง อย่าให้เขาหนีไปได้”

“ได้เลย ข้าจะไปเดี๋ยวนี้”

จากนั้นเงาสีแดงแวบหายไปชั่วพริบตา ทุกคนยังไม่ทันได้เห็นหน้าของจอมมารอย่างชัดเจน แต่จอมมารก็ได้หายตัวไปเสียแล้ว

กู้ชูหน่วนกวาดสายตาไปยังทิศทางที่จอมมารจากไป และในที่สุดก็จ้องมองไปที่เหวินเส่าอี๋ด้วยสายตาที่เยือกเย็น

เยี่ยจิ่งหานและจอมมารต่างออกไปไล่ล่ารองหัวหน้าเผ่าซือคง หากเจอตัวเขา เช่นนั้นก็สามารถนำตัวกลับมาได้

หากหาไม่พบ เช่นนั้นก็ปล่อยเขาไป เพราะไม่มีประโยชน์อะไรมากนัก

อีกทั้งคาถาเวทมนตร์ของเผ่าเพลิงฟ้านั้น คนธรรมดาทั่วไปมักไม่สามารถหาเจอได้

แม้แต่เยี่ยจิ่งหานและจอมมารร่วมมือกัน เช่นนั้นก็ไม่เสมอไปที่จะบรรลุเป้าหมายได้

กู้ชูหน่วนโกรธมากที่เหวินเส่าอี๋เข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องนี้

และต้องการได้ตัวของเหวินเส่าอี๋มา เพื่อจะดูว่าเหวินเส่าอี๋มีวิธีหารองหัวหน้าเผ่าซือคงหรือไม่

ดังนั้น กู้ชูหน่วนจึงยกดาบอ่อนขึ้นเหนือศีรษะของเขา ทำให้เกิดสายฟ้าสวรรค์ชักนำอัคคีพสุธา และชี้นำไปยังเหวินเส่าอี๋

ฟ้าร้องสั่นสะเทือน ท้องฟ้าเดิมทีที่สว่างแจ่มใสก็กลับกลายเป็นเมฆมืดเนื่องจากการกระทำของนางจึงทำให้เกิดฟ้าร้องฟ้าผ่า

เหวินเส่าอี๋ที่นั่งอยู่ไกลออกไปกำลังนั่งดีดฉินด้วยสองมือ ภายใต้หน้ากากผีเสื้อเต็มไปด้วยความประหลาดใจในดวงตาที่ใสบริสุทธิ์

“เจิงๆๆ……”

เสียงฉินเปลี่ยนไป และในขณะที่เหวินเส่าอี๋ดีดฉินอยู่นั้น สายอักขระก็กลายเป็นดาบสังหารและปะทะพุ่งชนเข้ากับเสียงฟ้าร้องของกู้ชูหน่วน

“ปัง……”

ใบไม้ที่อยู่บริเวณใกล้เคียงต่างตกลงมาด้วยเสียงกร่อบแกร่บ

ต้นไม้ใหญ่ที่แข็งแกร่งต่างก็ล้มลงเกิดเป็นเสียงดังกึกก้อง

เหวินเส่าอี๋ไม่พอใจและกล่าวว่า “ตอนที่อยู่ที่ขั้วโลกเหนือได้ช่วยชีวิตเจ้าไว้ แต่เจ้ากลับไม่รู้จักขอบคุณ ตอนนี้เจ้ากลับต้องการกำจัดข้าอย่างนั้นหรือ”

“เรื่องที่ขั้วโลกเหนือข้าไม่ได้ขอร้องให้เจ้าช่วยชีวิตข้า เจ้ารอดชีวิตและไม่ตาย แต่ดันมาที่นี่เพื่ออะไร”

“เขาเป็นรองหัวหน้าเผ่าของเผ่าเพลิงฟ้า ข้าในฐานะที่เป็นนายน้อยเผ่าเพลิงฟ้า ข้าไม่สามารถเห็นเขาตายลงต่อหน้าต่อตาโดยไม่ช่วยเหลือไม่ได้”

ถึงแม้ว่าทั้งสองจะกำลังสนทนากัน แต่การเคลื่อนไหวในมือนั้นก็ไม่ได้ลดละลงเลย

ไม่ง่ายเลยที่กู้ชูหน่วนจะจับตัวของรองหัวหน้าเผ่าซือคงมาได้ แต่เป็นเพราะเขาทำให้รองหัวหน้าเผ่าซือคงหนีไปได้ แม้แต่เบาะแสของไข่มุกมังกรก็ไม่มีเหลืออยู่ ในใจของนางจึงมีความโกรธอย่างมาก

เป็นเพราะกู้ชูหน่วนไม่สำนึกในบุญคุณของเหวินเส่าอี๋ แถมยังลงมือกับเขา ทำให้ความโกรธของเขาปะทุขึ้น

เขาคิดว่าต่อให้กู้ชูหน่วนไม่ได้รู้สึกดีกับเขา อย่างน้อยนางก็น่าจะดีใจที่เขายังไม่จาย

แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น……

นางไม่ได้คิดเช่นนั้น……

ผู้หญิงที่ไร้มนุษยธรรมคนนี้……ช่างทำให้เขารู้สึกโมโหอย่างมาก……

“ตู้มๆ……”

ไม่รู้ว่าเสียงฟ้าร้องและเสียงดีดฉินปะทะชนเข้าด้วยกันกี่ครั้งและการปะทะกันนั้นยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง จนทำให้สวีหู่และคนอื่นๆ ต่างพากันถอยหลัง

“นายท่านแสดงพลังโกรธแล้วหรือ? เพียงฝีมือระดับสามแต่กลับมีพละกำลังความสามารถมากเช่นนี้? และสามารถใช้กำลังต้านทานนายน้อยของเผ่าเพลิงฟ้าได้โดยไม่พ่ายแพ้”

“พละกำลังของนายท่านไม่สามารถเทียบได้กับยอดฝีมือระดับสามทั่วไปได้ ต่อให้พวกข้าที่มีฝีมือระดับสี่ก็ไม่แน่เสมอไปที่จะชนะนายท่านได้ แต่การต่อสู้ของเหวินเส่าอี๋ช่างอ่อนด้อยมากเกินไปแล้ว”

“หากเจ้าไม่พูดข้าก็ไม่สังเกต เหตุใดฝีมือการต่อสู้ของเหวินเส่าอี๋ถึงเปลี่ยนไปมากเช่นนี้?”

“ข้าจะรู้ได้อย่างไร”

“และยังมีเทพแห่งสงครามและจอมมาร ดูเหมือนว่าฝีมือการต่อสู้ของเขาจะอ่อนด้อยลงด้วย แต่ก็ไม่แย่เท่ากับเหวินเส่าอี๋ที่แย่มากเช่นนี้หรอก”

ทุกคนต่างเงียบสงบ

และในที่สุดสวีหู่ก็ตบต้นขาของเขา

“จะไปสนใจพวกเขาทำไม ถึงอย่างไรเสียนายท่านของเรายิ่งเก่งกาจสุดยอดมากขึ้นเรื่อยๆ ก็พอแล้ว ข้าหวังเหลือเกินว่าฝีมือการต่อสู้ของนายท่านจะฟื้นกลับไปถึงขั้นสูงสุดเสียที”

“ปัง……”

มีเสียงดังกึกก้องขึ้นอีกครั้ง

สวีหู่และคนอื่นๆ เงยหน้าขึ้น แต่พวกเขากลับเห็นว่ากู้ชูหน่วนและเหวินเส่าอี๋ รวมไปถึงฉินและดาบอ่อนต่างปลิวขึ้นไปตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ และฝ่ามือทั้งสองแตะกันทำให้เกิดประกายไฟเป็นชั้นๆ

กำลังภายในของเหวินเส่าอี๋ไหลเข้าสู่ร่างกายของกู้ชูหน่วนอย่างต่อเนื่อง แน่นจนทำให้ร่างกายของกู้ชูหน่วนเปล่งประกายเปลวเพลิง

นางทำหน้าบูดเบี้ยว ราวกับกำลังอดทนกับความเจ็บปวด แต่ระดับขั้นของนางได้เพิ่มขึ้นแล้ว จากระดับสามเบื้องต้นได้พัฒนาเพิ่มไปเป็นระดับสามกลาง

และเมื่อมองไปยังเหวินเส่าอี๋ เขากลับ……กลับลดระดับขั้นลง……

นี่ๆๆ……

นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

เหตุใดวิทยายุทธของเหวินเส่าอี๋ถึงเคลื่อนย้ายไปสู่ร่างกายของนายท่าน?

เมื่อสักครู่เกิดอะไรขึ้นกันแน่?

“นายท่าน……”

สวีหู่เดินเข้าไปและต้องการจะช่วยเหลือเจ้านายของเขา แต่เสี่ยวลู่ได้ดึงเขากลับไป

“ตอนนี้พวกเขาอยู่ในช่วงเวลาสำคัญ หากเจ้ายื่นมือเข้าไปตอนนี้จะเป็นการทำร้ายนายท่านได้ อีกอย่างตอนนี้นายท่านกำลังดูดรับกำลังภายในของเหวินเส่าอี๋อยู่ คนที่โชคร้ายเสียเปรียบไม่ใช่นายท่านของเราเสียหน่อย”

“เอ่อ……ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น เผ่าเพลิงฟ้าไม่มีดีเลยสักนิด ดูดรับวิทยายุทธกำลังภายในของเขามาให้หมดเลยยิ่งดี”

ร่องรอยของความโกรธปรากฏบนใบหน้าอันอบอุ่นของเหวินเส่าอี๋

“ปล่อยเดี๋ยวนี้ รีบปล่อยมือเดี๋ยวนี้”

ผู้หญิงคนนี้ นางได้ดูดกำลังภายในของข้าไปเท่าไรแล้ว

เขาอุตส่าห์พากเพียรฟื้นฟูฝีมือการต่อสู้ขึ้นมาได้ แต่กลับถูกนางดูดไปอีกครั้ง

หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาจะมีหน้ากลับไปเป็นนายน้อยแห่งเผ่าเพลิงฟ้าได้อย่างไร

กู้ชูหน่วนต้องการดึงกลับ แต่ร่างกายของนางไม่สามารถควบคุมได้เลย

กำลังภายในอันทรงพลังหลั่งไหลเข้ามาหานางและนางรู้สึกว่าร่างกายของนางร้อนมาก จนนางแทบกำลังจะระเบิด

“เจ้าปล่อยมือเองไม่ได้หรือ”

เหวินเส่าอี๋ร้อนรนกระวนกระวาย

หากเขาสามารถปล่อยมือได้ เช่นนั้นเขาปล่อยไปนานแล้ว จะยังปล่อยให้นางดูพลังวิทยายุทธไปมากมายเช่นนี้หรือ

ครั้งก่อนก็ถูกนางดูดพลังไปมากมายอย่างไม่ทราบสาเหตุ

ครั้งนี้เมื่อฝ่ามือประสานชนเข้าด้วยกัน กลับถูกนางดูดพลังกำลังภายในไปได้อีก ร่างกายของนางเป็นเช่นไรกันแน่?

เมื่อเห็นเหวินเส่าอี๋มีสีหน้าแย่ กู้ชูหน่วนก็กลอกตาขาวใส่เขา

“เจ้าปล่อยไม่ได้ ข้าก็ปล่อยไม่ได้ เช่นนั้นเจ้าพูดมาสิ ว่าควรทำเช่นไร”

เหวินเส่าอี๋พยายามรวบรวมกำลังภายในเพื่อต้องการดึงพลังฝ่ามือของตัวเองกลับมา แต่เมื่อเขารวบรวมได้บ้างแล้ว กลับถูกนางดูดพลังกลับไปอีก

ร่างกายของผู้หญิงคนนี้ราวกับหลุมลึกที่ดูดรับกำลังภายในของเขาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

“เป็นเพราะเจ้าดูดรับพลังของข้า เช่นนั้นก็ควรเป็นเจ้าที่คิดหาวิธีหยุดยั้งไม่ใช่หรือ?”

“ข้าไม่มีวิธีหยุดยั้งหรอก เจ้าคิดหาวิธีเอาเองก็แล้วกัน หากเจ้าคิดวิธีที่ดีไม่ได้และถูกดูดกำลังภายในออกมาจนหมด นั่นก็เป็นเรื่องของเจ้า”

กู้ชูหน่วนกัดฟันรับความเจ็บปวดที่โถมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และโยนปัญหาให้กับเหวินเส่าอี๋หาทางออก

เหวินเส่าอี๋ร้อนรนกระวนกระวายใจอย่างมาก

ในที่สุด……

เขาอยู่ในระดับเดียวกับกู้ชูหน่วนแล้ว ก็คือระดับสามกลาง

ซือ……

กำลังภายในยังคงถูกดูดอย่างต่อเนื่อง เพียงชั่วพริบตา เขาเหลือเพียงระดับสามเบื้องต้นเท่านั้นและฝีมือการต่อสู้ของเขาก็เทียบไม่ได้เลยกับกู้ชูหน่วน

เขากล้าสาบานเลยว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาต้องตกลงไปถึงระดับสอง ระดับหนึ่ง หรืออาจจะถูกดูดพลังไปจนหมด

“นายท่าน……ไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่? ทนรับพลังของเขาได้หรือไม่?” เสี่ยวลู่มองไปยังกู้ชูหน่วนที่มีสีหน้าแย่ลงเรื่อยๆ และรู้สึกถึงความผิดปกติบางสิ่ง

“ไป……ไปตามผู้อาวุโสหกมา ให้ผู้อาวุโสหกช่วยแยกพวกข้าออกจากกัน”

“ข้าน้อยช่วยแยกท่านเอง”

“ห้ามเข้ามา หากเจ้าเข้ามา เช่นนั้นเจ้าก็จะถูกดูดกำลังภายในไปด้วย”

ฝีเท้าของเสี่ยวลู่ค่อยๆ หยุดชะงักลง นางโบกมือและจากนั้นก็มีคนไปเชิญผู้อาวุโสหกมา

เหงื่อเย็นของเหวินเส่าอี๋หยดลงทีละหยด

ในที่สุด……

เขาก็ตกลงไปถึงระดับสอง

รอยยิ้มอันขมขื่นผุดขึ้นที่มุมปากของเหวินเส่าอี๋

ราวกับกำลังเหน็บแนมเยาะเย้ยตัวเอง

เมื่อเห็นรอยยิ้มอันขมขื่นนี้ กู้ชูหน่วนก็รู้สึกไม่ดีนัก

นางก็ไม่ต้องการดูดพลังกำลังภายในของเขาเช่นกัน