“เจ้าอันธพาลนี่ ทำไมถึงแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ เห็นได้ชัดว่าอยู่เพียงแค่ระดับแกนทอง?”

ระยะที่ห่างออกไป ทู่หลิงหลงก็เห็นเหตุการณ์นี้ เธอรู้สึกตกใจกับผลงานครั้งนี้ของเซี่ยปิงมาก “ต่อให้จะมีสายเลือดของอสูรศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่สามารถที่จะบรรลุสิ่งนี้ได้ นี่มันเรียกได้ว่าเป็นยอดฝีมือที่ไร้เทียมทานในระดับเดียวกัน อีกทั้งเขาก็ยังกระโดดข้ามระดับและเอาชนะคู่ต่อสู้ที่มีระดับสูงกว่าได้ นี่มันน่าเหลือเชื่อเกินไป อันที่จริงเขาได้พบเจอกับโชคลาภอะไรมา?”

เธอคิดว่าการที่ตนเองได้รับการสืบทอดมาจากวัดปีศาจนั้น ถือว่าเป็นโชคลาภครั้งใหญ่ในชีวิตแล้ว ไม่มีทางแพ้ให้กับอัจฉริยะคนอื่นๆ ทว่าตอนนี้มีที่ไหนที่เธอจะเทียบได้กับเจ้าเซี่ยปิงได้ เจ้ามนุษย์ที่มีพรสวรรค์ดั่งปีศาจคนนี้ช่างเป็นบุคคลที่ไม่เคยพบไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อน

“เจ้านี่เหนือมนุษย์เกินไปจริงๆ”

ชิงหลวนก็มีสีหน้าที่นิ่งอึ้ง พูดอะไรไม่ออก ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกมา

ปกติแล้วพรสวรรค์ของสิ่งมีชีวิตธรรมดาทั่วไปเป็นสิ่งที่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ อย่างเช่นอัจฉริยะ ผู้มีพรสวรรค์ดั่งปีศาจ อัจฉริยะที่ไร้ใครเทียบเทียม ยากที่จะพบเจอในระยะเวลาหนึ่งร้อยปี แม้แต่หนึ่งหมื่นปีและนอกเหนือจากนั้น

ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีคำศัพท์อธิบายเสมอ ทว่าเธอก็ไม่สามารถสรรหาคำใดมาอธิบายพรสวรรค์ของเซี่ยปิงที่แสดงออกมาในตอนนี้ได้

ในโลกนี้ สิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถสรรหาคำใดมาอธิบายได้นั้นก็มีเพียงแค่พระเจ้าเท่านั้น เป็นตัวตนที่รู้ทุกอย่าง มีอำนาจเหนือทุกอย่าง

ถึงแม้ว่าเซี่ยปิงจะยังไม่ได้พัฒนาขึ้นไปจนถึงขอบเขตนั้น ทว่าผลงานที่เป็นที่ประจักษ์ในตอนนี้ ก็ยังมีวี่แววของพลังอำนาจในระดับเทพเจ้าอยู่

“บัดซบ หากเป็นเช่นนี้ เมื่อไหร่กันที่ข้าจะได้ล้างแค้นเขา ทั้งชีวิตนี้จะไม่มีโอกาสอย่างนั้นหรือ?!” ทู่หลิงหลงกัดฟันอย่างแน่น ยิ่งเซี่ยปิงแสดงพลังอำนาจออกมาอย่างยอดเยี่ยมแค่ไหน ความหวังในการล้างแค้นของเธอก็ยิ่งลดน้อยลงเท่านั้น หรือทั้งชีวิตนี้ของเธอจะต้องทนถูกเจ้ามนุษย์บัดซบนี่ข่มเหงรังแก ไม่มีวันที่จะโงหัวขึ้นมาได้?!

วิซ!

ในตอนนี้ เมื่อเซี่ยปิงปล้นชิงทรัพย์สมบัติทั้งหมดมาจากเซียงเทาและคนอื่นๆและประทับตราวิญญาณในเตาทองแดงสุริยะจนเสร็จสิ้นนั้น ร่างของเขาก็กระพริบหายไป จากนั้นก็ปรากฏขึ้นมาข้างกายของทู่หลิงหลงและชิงหลวนอย่างกะทันหัน

“ไปกันเถอะ”

เซี่ยปิงพูดขึ้นมา

“อืม เดินทางต่อเถอะ”

ชิงหลวนพยักหน้า เดิมทีพวกเขาก็ต้องการจะเดินทางไปในทิศทางเหนือ ต้องการที่จะตามหาแก่นไม้มังกร ทว่าพวกเขาก็ต้องมาเสียเวลาล่าช้าเพราะเรื่องของเตาทองแดงสุริยะนี้ ตอนนี้เมื่อทุกอย่างจบลงแล้วนั้น แน่นอนว่าจะต้องดำเนินการเดินทางต่อไป

ไม่นานหลังจากนั้น ทั้งสามก็หายไปจากสายตาของผู้คน มุ่งหน้าไปสู่ทางทิศเหนือ

เมื่อเซี่ยปิงและอีกสองคนจากไป เผ่าพันธุ์ส่วนใหญ่ที่รอบๆก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เผยแพร่ข่าวเรื่องนี้ออกไป ทำให้สิ่งมีชีวิตทั่วทั้งดินแดนไม้มังกรแห่งนี้ได้รับรู้

เพราะว่าทันทีที่เจ้าอู๋ตี่อาชญากรที่เป็นที่ต้องการตัวของเผ่าพันธุ์นกเก้าเศียรได้ปรากฏตัวขึ้นมา เขาก็เริ่มก่อคดีขึ้นมาใหม่ เริ่มที่จะสร้างคลื่นถาโถมกระหน่ำ ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ทั่วทั้งดินแดนไม้มังกร

เพราะว่าถึงอย่างไร หู่หรงและคนอื่นๆนั้นต่างก็เป็นผู้มีพรสวรรค์เยาว์วัยของตระกูลพยัคฆ์ขาว ตระกูลช้างและเผ่าพันธุ์แวมไพร์ การที่พวกเขาถูกสังหารไปเช่นนี้ ผู้อาวุโสของทั้งสามเผ่าพันธุ์จะไม่มีทางปล่อยเรื่องนี้ไปอย่างแน่นอน

………………….

“เจ้าว่าอย่างไรนะ? ยอดฝีมือทั้งหมดที่ได้เดินทางไปพร้อมกับหู่หรง ราร์จและเซียงเทาต่างก็ถูกสังหารไปโดยคนๆเดียวหรือ?! นี่มันตลกสิ้นดี เป็นฝีมือของเฒ่าปีศาจบางคนหรือ?”

“ไม่ใช่ แม้แต่เฒ่าปีศาจก็คงจะไม่อาจหาญถึงขั้นนี้ นี่มันไม่ใช่เป็นการกระทำที่ท้าทายทั้งสามเผ่าพันธุ์ที่ยิ่งใหญ่พร้อมๆกันหรือ? ต่อให้จะมีกี่สิบชีวิตก็ไม่เพียงพอ ผู้ที่สังหารพวกเขาก็คือเจ้าอู๋ตี่อาชญากรที่เผ่าพันธุ์นกเก้าเศียรได้ตั้งประกาศจับในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้”

“อะไรนะ? ที่แท้ก็เป็นเจ้าอู๋ตี่นักบ่มเพาะอิสระของเผ่าพันธุ์อรหันต์ที่ถูกตั้งประกาศจับในดาวไม้มังกรนี่เอง ช่างมีความกล้าหาญที่ใหญ่โตจริงๆ ลำพังเพียงแค่หลบซ่อนตนเองให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของเผ่าพันธุ์นกเก้าเศียรก็ถือว่ายากมากแล้ว ไม่คาดคิดว่าในตอนนี้จะออกมาสร้างปัญหาอีก นี่เขาเบื่อหน่ายกับการที่ตนเองมีชีวิตยืนยาวหรือ?!”

“อย่าดูถูกเจ้าอู๋ตี่นี่ไป การที่สามารถสังหารหู่หรงและยอดฝีมือคนอื่นๆได้นั้น เห็นได้ชัดว่าพลังอำนาจของเขาน่าสะพรึงกลัวเพียงใด อาจเรียกได้ว่าไม่มีใครในระดับต่ำกว่ากฎเทวรูปที่จะเป็นคู่มือให้กับเขาได้ คาดการณ์ได้ว่าเขาคงควบแน่นจิตศักดิ์สิทธิ์ได้แล้วในตอนนี้”

“ใช่ ก่อนหน้านี้เผ่าพันธุ์นกเก้าเศียรได้ปิดกั้นพื้นที่ทั่วทั้งดาวไม้มังกร สำรวจหาทั่วทั้งบริเวณ ส่งกองทัพออกมา ทำการสำรวจอย่างละเอียด ทว่ากลับไม่พบเบาะแสใดๆของเจ้าอู๋ตี่แม้แต่น้อย ความสามารถในการหลบซ่อนของเขาถือว่าล้ำเลิศยิ่งนัก แม้แต่ยอดฝีมือที่ยิ่งใหญ่ก็จับตัวเขามาไม่ได้”

“ใช่ ตอนนี้พวกเรารอดูการแสดงที่สนุกสนานเถอะ การที่หู่หรงและคนอื่นๆถูกสังหารไป ตระกูลพยัคฆ์ขาว ตระกูลช้างและเผ่าพันธุ์แวมไพร์จะต้องไม่พอใจอย่างแน่นอน จะต้องส่งผู้อาวุโสออกมาไล่ล่าเจ้านั่นเป็นแน่”

“ไม่รู้ว่าเจ้านั่นจะมีชีวิตอยู่ได้อีกแค่ไหน พวกเราตั้งหน้าตั้งตารอเถอะ”

ในช่วงเวลานี้ ภายในดินแดนไม้มังกร ผู้คนต่างก็พูดคุยกันด้วยอารมณ์ที่ล้นหลาม พวกเขาก็รู้ข่าวการตายของหู่หรงและคนอื่นๆผ่านทางช่องทางต่างๆนาๆ ข่าวนี้เป็นเหมือนกับพายุเฮอริเคนที่ซัดเข้าใส่หูของทุกๆคนก็ว่าได้ ส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์ที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมา

โดยเฉพาะผู้อาวุโสจำนวนมากของตระกูลพยัคฆ์ขาวที่ได้ยินข่าวนี้ พวกเขาต่างก็มีอารมณ์โมโหรุนแรง เดือดระอุขึ้นมาทันที

“เจ้าลาหัวโล้นบัดซบ กล้าที่จะสังหารผู้มีพรสวรรค์ในตระกูลพยัคฆ์ขาวของข้า เบื่อหน่ายกับชีวิตรึ?!”

“สังหารเขา จะต้องสังหารเจ้าพระนั่น จะปล่อยให้ผู้มีพรสวรรค์ในตระกูลพยัคฆ์ของพวกเราตายไปอย่างสูญเปล่าไม่ได้”

“ส่งสายลับออกไป สำรวจหาเขาทั่วทั้งดาวไม้มังกร หากพบร่องรอยของเขา ทำการประหารได้ทันที!”

“ไม่มีใครที่จะเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของตระกูลพยัคฆ์ขาวของข้าได้ เจ้าพระนั่นจะต้องตาย”

ผู้อาวุโสแต่ละคนของตระกูลพยัคฆ์ขาวต่างก็คำรามออกมา ร่างกายมีออร่าที่ชั่วร้ายแผ่ออกมา ส่งผลกระทบออกไปในพื้นที่ระยะหลายหมื่นกิโลเมตร ไม่ว่าสิ่งมีชีวิตใดๆที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงต่างก็หวาดกลัวจนหัวหด

แม้แต่บรรดาสิ่งมีชีวิตที่อยู่ใกล้เกินไป พวกมันต่างก็ถูกออร่าดุจดั่งดาบแหลมคมเสียดแทงเข้าไป สิ้นชีวิตโดยที่ไม่สามารถดิ้นรนได้

…………..

ต่อมาก็เป็นเหล่าผู้อาวุโสของตระกูลช้างที่รับรู้ถึงเรื่องนี้ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้มีอารมณ์ฉุนเฉียวเหมือนกับตระกูลพยัคฆ์ขาว ทว่าข่าวนี้ก็ส่งผลให้พวกเขาเกรี้ยวกราดขึ้นมาเช่นกัน

“เจ้าพระอู๋ตี่ บังอาจสังหารผู้มีพรสวรรค์ในตระกูลช้างของข้า นี่คือการตั้งตัวเป็นศัตรูคู่อาฆาตกับตระกูลช้าง!”

“อ๊ากกก สารเลวเอ๊ย ผู้คนในตระกูลช้างของข้าก็ยิ่งมีอยู่น้อยนิด ต่อให้ตายไปเพียงคนเดียวก็อาจจะรับมือกับความสูญเสียไม่ได้ ทว่าตอนนี้กลับถูกสังหารไปกว่าสิบคน นี่คือความอาฆาตแค้นที่ไม่มีที่สิ้นสุดอย่างแน่นอน”

“เซียงเทาหลานชายของข้าก็ถูกสังหารไปเช่นกัน ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นหลานชายไม่เอาไหน ทว่าฆาตกรก็จะต้องตาย ใครที่กล้าขัดขวางการแก้แค้นของตระกูลช้างของข้า มันผู้นั้นจะต้องตายไปเช่นกัน ตัดหัวทั้งตระกูล ประหารทั้งเก้าชั่วโคตร”

ผู้อาวุโสแต่ละคนของตระกูลช้างต่างก็มีน้ำโหอย่างมาก สำหรับตระกูลช้างของพวกเขาที่มีสมาชิกอยู่ไม่มากนัก การที่ตายไปเพียงคนเดียวก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะว่าถึงอย่างไรความสามารถในการสืบพันธุ์ของพวกเขาก็ด้อยกว่าเผ่าพันธุ์อื่นๆ ต้องใช้ระยะเวลาหลายปีกว่าจะมีทายาทถือกำเนิดขึ้นมาได้

เห็นได้ชัดว่าการที่ผู้มีพรสวรรค์ของตระกูลช้างตายไปกว่าสิบคนนั้น นี่มันเป็นความสูญเสียที่ร้ายแรงแค่ไหน นี่เป็นความสูญเสียที่เพียงพอให้พวกเขาฆ่าล้างทั้งตระกูลอื่นๆได้ ทำสงครามชี้เป็นชี้ตาย เชือดไก่ให้ลิงดู

พวกเขาเคลื่อนไหวออกไปทันที มุ่งหน้าออกไปในแต่ละทิศทางภายในดินแดนไม้มังกร ตามหาเบาะแสของเจ้าอู๋ตี่

…………….

นอกเหนือจากนี้ ผู้อาวุโสจำนวนมากของเผ่าพันธุ์แวมไพร์ก็รู้เรื่องนี้เช่นกัน ทว่าพวกเขาก็เป็นสิ่งมีชีวิตแห่งความมืด ไม่ได้มีอารมณ์อ่อนไหว ไม่ได้เห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มากนัก ไม่ได้โมโหเหมือนอย่างตระกูลพยัคฆ์ขาวหรือว่าตระกูลช้าง

ทว่าพวกเขาก็ต้องการที่จะสังหารเซี่ยปิงใจจะขาดเช่นกัน

“ไม่คาดคิดว่าจะสังหารราร์จและยอดฝีมือคนอื่นๆกว่าสิบคนไปได้ ดูเหมือนว่าเจ้าพระของเผ่าพันธุ์อรหันต์นั่นจะมีฝีมืออยู่เหมือนกัน”

“หึหึ ไม่รู้ว่าเลือดของเจ้าพระนั่นจะซ่อนเร้นพลังงานไว้มากแค่ไหน บางทีอาจจะมีสายเลือดทองคำของพระอรหันต์อยู่ สามารถที่จะเสริมสร้างพลังอำนาจให้กับข้าได้มาก”

“ไล่ล่าและสังหารยอดฝีมือ เติบโตขึ้นมาจากความตายและซากศพ นี่คือวิธีการพัฒนาของพวกเราเผ่าพันธุ์แวมไพร์ หากสังหารเจ้าพระอู๋ตี่นั่นได้ จะต้องมีผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่กับข้าอย่างแน่นอน”

“ถึงแม้ว่าราร์จและคนอื่นๆจะเป็นพวกโง่เขลา ทว่าก็ไม่ใช่ว่าใครก็จะสังหารพวกเขาได้”

“ตามล่าเจ้าอู๋ตี่นั่นทันที ค้นหาตำแหน่งของเขา ชีวิตของเขาจะต้องเป็นของเผ่าพันธุ์แวมไพร์ของพวกเรา”

ผู้อาวุโสจำนวนมากของเผ่าพันธุ์แวมไพร์เผยสายตาที่เสียดแทงออกมา ร่างกายเต็มไปด้วยออร่าจิตสังหารสีเลือดที่น่าสะพรึงกลัว ควบแน่นเป็นสสาร รอบๆมีวิญญาณอาฆาตมากมายที่วนเวียนอยู่ เหมือนกับเป็นวิญญาณของสิ่งมีชีวิตที่ตายตาไม่หลับ ยังคงตามอาฆาตเผ่าพันธุ์แวมไพร์เหล่านี้