228 : ปล่อยความรักให้เป็นไปตามธรรมชาติ

เป็นมหาเศรษฐีระดับพระเจ้าด้วยระบบลงชื่อ

ตอนที่ 228 : ปล่อยความรักให้เป็นไปตามธรรมชาติ

 

ในเวลานี้เจียงเฉินขับรถออดี้พาเอเวลออกมาเดินเล่นในเมือง

 

ภายใต้การโน้มน้าวของเจียงเฉินมันทำให้เอเวลนั้นรู้สึกมีความสุขขึ้นมา ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้มเธอเริ่มจับมือของเจียงเฉินและเดินไปตามถนน

 

แต่ในเวลานี้ก็มีสายตาที่จับจ้องมาที่พวกเขาอย่างลับๆโดยที่ทั้งสองนั้นไม่รู้ตัว

 

“จริงๆด้วยนะ”

 

เจ้าชายจอห์นที่มีดวงตาสีเขียวจ้องมองไปที่ร้างของเอเวลที่กำลังเดินจับมือกับเจียงเฉิน-

 

“คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะเป็นเรื่องจริง!”

 

“เอเวล ฉันไม่รู้เลยจริงๆว่าเธอรักตัวเองบ้างไหม?! ทำไมเธอถึงต้องมาอยู่กับไอ้พวกผู้ชายจีน!”

 

เจ้าชายจอห์นนั้นแอบชอบเอเวลมาตั้งแต่ยังเด็กเขานั้นไล่ตามเธอมานานแต่คำตอบที่เขาได้รับมาจากเธอก็คือ…

 

“ฉันไม่ชอบผู้ชาย!”

 

แต่เขาก็คิดว่ามันคงไม่เป็นอะไรเพราะถ้าเป็นแบบนั้นจริงเอเวลก็คงไม่มีทางชอบคนอื่นอย่างแน่นอน!

 

และตอนนี้เขานั้นก็รู้สึกว่ามันถึงเวลาแล้ว เขานั้นบินตรงมาที่จีนก็เพื่อที่จะมาสารภาพรักกับเอเวล!

 

แต่สุดท้ายเจ้าหญิงที่เขาแอบรักกลับไปตกหลุมรักกับผู้ชายชาวจีน!

 

จอห์นพลิกโต๊ะ

 

“ได้ เธอไม่สนใจผู้ชายงั้นสินะ?”

 

เขานั้นรู้สึกว่าตัวเองถูกหลอก!

 

รู้สึกว่าตัวเองถูกทรยศ!

 

ปอดของจอห์นนั้นแทบจะระเบิดออกมา

 

แต่!

 

เจ้าหญิงเอเวลนั้นเป็นถึงรัชทายาทลำดับที่หนึ่ง!

 

ในฐานะที่เขาเป็นเจ้าชาย ถ้าเขาอยากขึ้นเป็นราชาเขานั้นจะต้องแต่งกับเอเวลเท่านั้น!

 

“ไอ้สารเลว ไอ้จีนนี่จะต้องพูดหลอกล่อเอเวลแน่ๆ!”

 

จอห์นกัดฟันของเขา

 

เขานั้นทำอะไรเอเวลไม่ได้ ได้แต่โยนความผิดทั้งหมดให้กับเจียงเฉิน

 

จอห์นนั้นอยากจะเข้าไปหาเจียงเฉินแล้วแยกทั้งคู่ออกจากกันทันที

 

แต่-

 

ผู้ช่วยเกลี้ยกล่อมเขาเอาไว้

 

“ฝ่าบาท ทำอย่างนั้นมันเผด็จการเกินไปมันไม่ใช่ตัวตนของท่านนะครับ ท่านไม่ควรทำแบบนั้น”

 

จอห์นที่ได้ฟังก็คิด

 

ใช่แล้ว!

 

ตัวตนของเขาเป็นใครกัน?

 

เจ้าชายแห่งโบฮีเมีย!

 

ฉันจะไปมีเรื่องกับคนจีนที่ต่ำต้อยข้างถนนได้ยังไงกัน?!

 

หากเรื่องนี้หลุดออกไปแล้วเป็นข่าวเกรงว่าทั้งราชวงศ์จะต้องเสียหน้า!

 

“แล้วนายว่าฉันควรทำยังไงดี?!”

 

ดวงตาของผู้ช่วยเปลี่ยนไปทันที “อีกสองวันจะมีงาน [งานนิทรรศการเครื่องประดับราชวงศ์จีนและยุโรป] ที่ยิ่งใหญ่มากซึ่งถูกจัดโดยประเทศจีนและประเทศจากยุโรป งานนี้จะถูกจัดขึ้นที่พิพิธภัณฑ์เจียงชื่อ!”

 

“โอ้ว”

 

นัยต์ตาของจอห์นเป็นประกาย “ใช่แล้ว ทำไมฉันถึงลืมเรื่องนี้ไปได้ ฉันมาที่จีนก็เพราะงานนี้ไม่ใช่รึไง!”

 

“ประเทศโบฮีเมียและครอบครัวของฉันให้ความสำคัญกับงานนี้มากพวกเขาถึงกับส่ง [มงกุฎราชินี] มาด้วย!”

 

ผู้ช่วยตาเป็นประกาย “มงกุฏนั่นเป็นมรดกตกทอดของตระกูลมีประวัติยาวนานกว่า 300 ปีและราชินีที่มาจากตระกูลนี้ล้วนแล้วแต่สวมมัน! มันเป็นสมบัติระดับชาติ! เป็นหนึ่งในเครื่องประดับที่ล้ำค่ามากที่สุดในงาน!”

 

ดวงตาของจอห์นเป็นประกาย “มงกุฏนั่นเป็นของยายของฉันราชินีเทรซี่! มันมีเพรชประดับอยู่ถึง 27 เม็ด มูลค่าของมันนั้นประเมินค่าไม่ได้!”

 

“แน่นอนอยู่แล้วครับ!”

 

ผู้ช่วยพยักหน้า

 

จอห์น “และแน่นอนว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ไม่รักเครื่องประดับตราบใดที่ฉันมอบมงกุฏนั่นให้กับเธอ ฉันก็จะสามารถเอาชนะใจเธอได้อย่างแน่นอน!”

 

ในเวลานี้จอห์นั้นได้คิดไอเดียเจ๋งๆขึ้นมาด้วยตัวเอง!

 

เขาจะต้องโอ้อวดออกมา!

 

แล้วจัดการคนขับรถคนนั้นให้อยู่หมัด!

 

ให้เจ้าคนขับรถนั่นได้รู้ถึงความแตกต่าง!

 

“ถ้าเอเวลได้ไปที่นั่นไม่ว่ายังไงคนขับรถนั่นก็จะต้องตามไปแน่ฉันจะทำให้มันได้รู้ว่ามันที่เป็นแค่คนขับรถชั้นต่ำไม่คู่ควรกับเจ้าหญิงเอเวล!”

 

และบางที่เอเวลอาจจะยอมรับคำขอแต่งงานของเขาจ่อหน้าสาธารณะชนด้วยก็ได้

 

เยี่ยม!

 

“แต่คำถามคือเอเวลจะเข้าไปในงานได้ยังไง?”

 

แผนการของเขานั้นได้ถูกวางเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

 

แต่ถ้าเกิดเอเวลนั้นไม่เข้าร่วมงาน แผนทั้งหมดก็คงไร้ความหมาย!

 

จอห์นกลอกตาพลางครุ่นคิด

 

เขาเปิดประตูออกมาและเดินตรงไปหาเจียงเฉินกับเอเวล

 

“เจ้าหญิงเอเวล!”

 

จอห์นเดินเข้ามาอย่างเป็นสุภาพบุรุษและทำความเคารพแบบขุนนาง เขานั้นทำในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าสมบูรณ์แบบที่สุด

 

แถมยังให้คะแนนตัวเองอีก 105 คะแนน!

 

สุดยอด!

 

น่าสงสารเอามากๆ

 

บนถนนเต็มไปด้วยคนจีนที่เดินผ่านไปผ่านมา

 

จอห์นที่ดูมีความสูงส่งย่อมดึงดูดความสนใจของคนได้ทันที –

 

“พระเจ้า นี่เขาเป็นคนบ้ารึเปล่า?”

 

“ผู้ชายคนนี้เป็นอะไรรึเปล่าเนี่ย?”

 

“เฮ บางทีน้ำอาจจะท่วมสมองเขาก็ได้นะ?”

 

“หนุ่มน้อยทำไมนายถึงดูไม่ปกติล่ะ?”

 

จอห์น “…”

 

ฟิค!

 

นี่มันเป็นมารยาทในวังของยุโรปนะ!

 

พวกแกที่เป็นคนจีนไม่เข้าใจหรอก!

 

จอห์นยิ่งโกรธมากกว่าเดิมเมื่อเห็นคนจีนที่เดินผ่านไปผ่านมา

 

เอเวลก็ตกใจทันทีที่เห็นจอห์นที่อยู่ๆก็ปรากฏตัวต่อหน้าเธอ!

 

“จอห์นนายมาที่นี่ได้ยังไง?”

 

เอเวลขมวดคิ้วด้วยความรังเกียจ

 

พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มาจริงๆ

 

เธอนั้นเพิ่งพูดกับเจียงเฉินว่าชายที่น่ารังเกียจคนนี้กำลังจะมาแต่คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะมาปรากฏตัวต่อหน้าเธอแล้ว

 

“เจ้าหญิงเอเวล สิ่งที่คุณพูดออกมามันทำให้ผมเสียใจนะครับ”

 

จอห์นนั้นถือว่าตัวเองเป็นสุภาพบุรุษและกริยามารยาทของเขานั้นเป็นสุภาพบุรุษที่สมบูรณ์แบบ เขาพูดออกมาอย่างอุ่นเคือง “พวกเราโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก และเราต่างก็เป็นทายาทของตระกูลฮับส์บวร์คและตระกูลจอห์น เรานั้นถือว่าเป็นรัชทายาทลำดับที่หนึ่งและสอง แต่คุณพูดแบบนั้นกับผมได้ยังไง”

 

ขณะที่เขาพูดกับเอเวลเขาก็เข้ามาใกล้เอเวลเอต้องการที่จะจูบมือของเธอ

 

การจูบมือนั้นเป็นมารยาทของทางยุโรป

 

เอเวลยังไม่ทันได้พูดอะไรจอห์นก็คุกเข่าลงและเริ่มจูบมือ

 

เขาหลับตาลง

 

ยืม

 

มือของเอเวลรั่งอบอุ่นจริงๆ

 

เอ๊ะ? ทำไมถึงมีกลิ่นเหม็นด้วย?

 

เขาลืมตาขึ้นมาด้วยความตกใจ–

 

คนอ้วนที่เดินผ่านมาก็มองหน้าเขาด้วยความตกใจ

 

สิ่งที่เขาจูบเมื่อกี้ไม่ใช่มือเล็กๆของเอเวล แต่เป็นมือของชายอ้วนที่เพิ่งเก็บขี้หมามา!!

 

ทันใดนั้นชายอ้วนคนนั้นก็ตะโกนออกมา “คนโรคจิต!!”

 

จอห์นเห็นสุนัขตัวหนึ่งอยู่ข้างๆเขาและกองอุจจาระที่อยู่บนพื้นเขาก็เข้าใจมันได้ทันที ใบหน้าของเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นน่าเกียจและกลายเป็นสีเขียว!

 

“อ้วก!”

 

“อ้วกออกมาด้วยความขยะแขยง -”

 

เอเวลที่มองดูอยู่ก็หัวเราะออกมาจนน้ำตาไหล

 

ปรากฏว่าจอห์นที่กำลังจะทำตามมารยาทของราชวงศ์ยุโรปและจูบมือของเอเวละ

 

มือของเจียงเฉินก็ไปคว้าเอามือของชายอ้วนที่กำลังทำความสะอาดอุจจาระของสัตว์เลี้ยงตัวเองอยู่ข้างๆและผลัดให้กับจอห์น

 

และจอห์นที่จูบไปได้ซักพักก็เพิ่งจะรู้ตัว

 

มือที่เขากำลังจูบเป็นมือของคนอ้วนแถมคนอ้วนคนนั้นยังถือกระดาษที่ห่ออุจจาระของสัตว์เลี้ยงของเขาอยู่ด้วย

 

อ้วก อ้วก อ้วก—

 

จอห์นอ้วกออกมาจนหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีเขียว!

 

“นาย นาย นาย!”

 

จอห์นลุกขึ้นมาด้วยความโกรธและชี้ไปที่เจียงเฉิน “นายทำอะไรของนาย?!”

 

เจียงเฉินตอบกลับ “ผมควรถามมากว่าไหมว่าคุณน่ะกำลังทำอะ ไร?”

 

“ฉันก็จูบมือของเอเวลไงล่ะ!”

 

จอห์นพูดออกมาด้วยความมั่นใจ “นี่คือมารยาทชั้นสูงของโบฮีเมียเรา! นายไม่มีวันเข้าใจหรอก”

 

“ใช่ ผมไม่เข้าใจจริงๆ”

 

เจียงเฉินพูดออกมาอย่างเฉยเมย “แต่น่าเสียดายที่ ที่นี่คือบนถนนของประเทศจีน! ไม่ใช่ยุโรปของคุณ! ผมเองก็เห็นว่าเอเวลก็ไม่ได้เต็มใจ แต่คุณกลับยังพยายามทำมันต่อซึ่งมันถือว่าเป็นการล่วงละเมิดผู้อื่น! ผมจะลองโทรหาทนายความดูก็แล้วกันว่าพวกเขาจะว่ายังไง?!”

 

จอห์นคิด

 

เวรเอ๊ย! แผนล้มเหลว!

 

เขานั้นต้องการที่จะใช้มารยาทในวังหลวงเพื่อเป็นข้ออ้างในการจูบเอเวลแต่เจียงเฉินนั้นตบหน้าเขาจนแทบจะตาย! แถมยังต้องไปจูบมือสกปรกของคนอ้วนอีก!

 

แต่เมื่อคิดดูดีๆแล้วยังไงซะชียชนะมันก็จะมาอยู่ที่เขาอยู่แล้วการที่เขานั้นจะใช้กริยาที่มันหยาบคายก็คงดูล้ำเส้นเกินไปหน่อย

 

เขายิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มที่สดใส “นายเป็นเพื่อนของเอเวลงั้นหรอ ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันคือเจ้าชายจอห์น เป็นเพื่อนของเอเวล!”

 

ตอนแรกเขานั้นอยากจะบอกว่าเขานั้นเป็นแฟนของเธอแต่หลังจากที่ได้เห็นแววตาอาฆาตของเอเวลเขาก็เปลี่ยนคำพูดทันที

 

จอห์น “แล้วนายล่ะ?”

 

เจียงเฉินพูดออกมาอย่างเฉยเมย “ผมเป็นแฟนของเอเวล! สวัสดีครับ!”

 

เจียงเฉินจงใจเน้นเสียงตรงคำว่าแฟนออกมาดังๆ!

 

เมื่อเอเวลได้ยินแบบนั้นเธอก็รู้สึกดีใจและเขินขึ้นมา

 

ใบหน้าของจอห์นดูมืดมนลงทุนที่ที่ได้ยิน–

 

ฟิค!

 

ฉันยังไม่กล้าพูดคำว่าแฟนออกมาแต่แกกลับกล้างั้นหรอ?!

 

“ฮึ่ม! แฟนงั้นหรอ? นายเข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่า?”

 

จอห์นเยาะเย้ยออกมา “ฉันคือเจ้าชายผู้มีสิทธิ์ในราชบัลลังก์ลำดับที่สอง! ส่วนเอเวลคือเจ้าหญิง! นายกล้าดียังไงถึงได้เรียกตัวเองว่าแฟนของเจ้าหญิงทั้งๆที่ตัวเองเป็นแค่สามัญชนชาวจีน!”

 

“เจ้าหญิง?”

 

เจียงเฉินพูดออกมาอย่างเฉยเมย “บางที่ในโบฮีเมีย เธออาจจะเป็นเจ้าหญิง แต่ต่อหน้าฉันเธอมีเพียงสถานะเดียวเท่านั้นนั้นก็คือแฟนของฉัน!”

 

หลังจากพูดจบเจียงเฉินก็กอดเอวของเอเวลแน่นเพื่อประกาศสิทธิของเขา

 

“นาย!”

 

จอห์นทำได้แต่ดูด้วยความโกรธจัด!

 

ด้วยฐานะที่สูงส่งของฉัน ทำไมแกถึงยังกล้าเมินฉัน?!

 

แกไม่เห็นฐานะเจ้าชายของฉันในสายตาเลยรียังไง?!

 

เมื่อเห็นว่าเจียงเฉินนั้นประกาศสิทธิของแฟนหนุ่มออกมา จอห์นนั้นก็รู้สึกราวกับว่าทุ่งหญ้าเขียวขจีเหนือศรีษะของเขาขยายตัวออกไปอย่างรวดเร็ว..

 

“ฉันต้องทน ฉันต้องทนเอาไว้!”

 

จอห์นพยายามกลั้นหายใจและยิ้มออกมา “ใช่แล้ว ในอีกสองสามวันตอนเย็นๆจะมีงานแลกเปลี่ยนกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของพวกเราและประเทศของนาย งานิทรรศการสมบัติแห่งชาติจะจัดขึ้นที่พิพิธภัณฑ์เจียงซื่อ ดังนั้นฉันก็ขอเชิญคุณเจียงเข้าร่วมงานอย่างจริงใจ”

 

สายตาของเจียงเฉินหันไปมอง เขานั้นรู้ได้ทันทีว่านายจอห์นคนนี้จะต้องมีเจตนาร้ายซ่อนอยู่

 

เอเวล “พวกเราจะไปทำไม?”

 

“ไม่คุณต้องไป ในฐานะที่คุณเป็นเจ้าหญิงคุณมีหน้าที่ต้องไป!”

 

จอห์นสวมบทบาทกษัตริย์และกดดันเอเวล “เอเวลเธอเป็นเจ้าหญิง เธอมีหน้าที่ต้องเข้ารวมงานนี้!”

 

เอเวลขมวดคิ้วและคิดหนัก

 

อย่างไรก็ตาม เธอนั้นก็เป็นสมาชิกของราชวงศ์จริงๆ อย่างที่รู้กันดีว่าราชวงศนั้นจะได้รับเงินส่วนหนึ่งจากภาษีดังนั้นพวกเขาก็เลยมีหน้าที่ที่จะต้องเข้าร่วมงานสังคมเพื่อเป็นหน้าเป็นตาให้ประเทศ

 

แม้ว่าตัวเธอนั้นจะเป็นเจ้าหญิงและปฏิเสธที่จะรับเงินนี้แต่เธอนั้นก็ยังต้องทำอยู่ดี

 

“ใช่ไหมล่ะ ไม่ว่ายังไงเธอก็ต้องเข้าร่วมอยู่ดีจริงไหม?”

 

จอห์นยิ้มเยาะออกมา

 

เอเวลได้แต่พยักหน้า

 

“แล้วนายล่ะจะไปไหม?”

 

จอห์นมองไปที่เจียงเฉิน

 

เจียงเฉินยิ้มออกมา

 

ในเมื่อเอเวลต้องไปทำไมเขาจะไม่ไป?

 

“ฉันจะไปกับแฟนของฉันอย่างแน่นอน!”

 

เจียงเฉินตอบรับ

 

จอห์นยิ้ม “งั้นก็ตกลงตามนี้!”

 

หลังจากพูดจบเขาก็หันหลังเดินจากไปทันที

 

เพราะเขากลัวว่าเขานั้นจะได้เห็นฉากหวานๆของเจียงเฉินกับเอเวลมากเกินไปจนเขาต้องโกรธจนตายไปก่อน

 

“นายบอกว่านายเป็นแฟนของฉันงั้นหรอ?”

 

เอเวลมองไปที่เจียงเฉินอย่างตั้งใจ

 

เจียงเฉินพยักหน้า “ไม่ต้องไปสนใจหรอก”

 

“ยังไงก็ตาม ฉันก็ยังต้องขอโทษนายอยู่ดีนะที่เอานายมายุ่งกับเรื่องพวกนี้”

 

เอเวลนั้นรู้สึกผิดต่อเจียงเฉินมาก เธอนั้นรู้ดีว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจียงเฉินแม้แต่น้อย..

 

เจียงเฉินยิ้มออกมา “ไม่เป็นไรเพราะฉันเองก็พูดไปแล้วและฉันก็ต้องทำมัน ในฐานะแฟนฉันจะปกป้องเธอเอง!”

 

“ขอบคุณนะ!”

 

เอเวลขยับตัวพิงไหล่ของเจียงเฉินเธอนั้นทั้งรู้สึกปลอดภัยทั้งมีความสุข

 

บางครั้งความรักนั้นก็แค่ปล่อยให้มันไหลไปตามความรู้สึกก็พอ

 

วันต่อมาเจ้าชายจอห์นก็เชิญเพื่อนของเขาที่เป็นขุนนางในยุโรปสองสามคนเพื่อออกไปซื้อของและโอ้อวดกัน

 

พูดคุยกัน!

 

“หึหึ”

 

จอห์นพาเพื่อนของเขามายังย่านการค้าระหว่างประเทศ เมื่อมองไปรอบๆก็จะพบกับตึกระฟ้าเต็มไปหมด

 

เขาพูดออกมาอย่างเสียงดังด้วยความจงใจ “เสียดายจริงๆที่ฉันเป็นเจ้าชายจอห์นแห่งโบฮีเมีย!”

 

คนที่อยู่รอบๆตกตะลึง!

 

คนนับไม่ถ้วยอุทานออกมา

 

“พระเจ้า! เจ้าชาย? จากยุโรป?”

 

“น่าทึ่งมาก ไม่คิดเลยว่าเจ้าชายจะมาซื้อของที่นี่!”

 

“แค่มองก็รู้แล้วว่าเป็นคนชั้นสูง! แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเขาเป็นเจ้าชาย!”

 

“ฝ่าบาทเพคะ ฉันขอถ่ายรูปด้วยได้ไหมคะ?”

 

ไม่นานจอห์นก็ได้รับความสนใจจากชาวจีนรอบข้างเขาสูดจมูกอย่างเย็นชาและยิ้มให้กับเพื่อนของเขา

 

“พวกนายเคยเห็นไหม ประเทศจีนล้าหลังมาก! ผู้คนก็ยังโง่เขลาแค่ฐานะของพวกเราก็ทำให้พวกเขาคลั่งไคล้ได้แล้ว!”

 

เขาพูดออกมาด้วยภาษาโบฮีเมียแต่คนจีนที่อยู่รอบๆตัวเขาบางคนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาดังนั้นพวกเขาจึงเข้าใจพวกเขาจึงด่ากลับอย่างโกรธเคือง

 

“พวกคุณพูดเรื่องไร้สาระอะไรกัน เราเป็นคนจีนพวกเราให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นกับพวกคุณแต่พวกคุณกลับคิดว่าเราโง่?”

 

“ พวกแอบด่าลับหลัง!”

 

“สมองยังดีอยู่รึเปล่าเนี่ย?!”

 

เมื่อมีคนแปลข้อความตอนที่จอห์นพูดภาษาโบฮีเมียออกมาคนจีนรอบๆก็พากันโกรธขึ้นมาทันที!

 

“คนจีนแล้วมันทำไม?!”

 

“พวกเราให้การต้อนรับเขาอย่างอบอุ่นแต่เขากลับไม่รู้อะไรเลย!”

 

จอห์นกับเพื่อนของเขาเยาะเย้ยไปเดินไปจนรู้สึกกระหายน้ำ

 

พวกเขาเลยไปซื้อน้ำมากัน

 

แต่ร้านแผงลอยริมถนนไม่รับเงินสด!

 

พวกเขานั้นรับการจ่ายโดยผ่านวีแชท–

 

จอห์นตกตะลึง

 

“นี่คุณไม่เห็นป้ายรียังไง?”

 

จอห์นตกตะลึง “นี่พวกนายไม่รับเงินสด?”

 

“แล้วฉันจะนั่งเกยเงินไปทำไม?”

 

เจ้าของร้านพูดออกมา “จะเกียเงินสดให้มันยุ่งยากทำไมเปลี่ยนมาใช้วีแชทดีกว่าไม่ต้องทอนด้วย!”

 

จอห์นมองดูด้วยความสับสนก่อนจะส่ายหัว

 

เจ้าของร้านปลอบใจ “คุณชาวยุโรป พวกคุณไม่มีการชำระเงินผ่านมือถือหรอ?”

 

จอห์นตอบกลับอย่างว่าเปล่า “ไม่…”

 

คนจีนที่อยู่รอบๆพากันหัวเราะคิกคัก

 

หัวเราะเทบตาย!

 

“ประเทศของพวกเขาไม่มีแม้แต่การชำระเงินผ่านมือถือแต่พวกเขากลับบอกว่าพวกเราโง่และยังล้าหลัง ต่อให้ตายฉันก็ไม่ขอสัญชาติพวกเขาแน่!”

 

“น่าสงสารจริงๆ!”

 

“ช่างน่าสงสารอะไรขนาดนี้!”

 

“ยุคสมัยของพวกเรากำลังพัฒนา แต่พวกยุโรปกับถอยหลังงั้นหรอ?”

 

“ความแข็งแกร่งยังไม่มีแต่เรื่องเสแสร้งเป็นที่หนึ่ง!”

 

“ฉันละเห็นใจจริงๆที่ประเทศพวกเขาล้าหลังขนาดนี้ – มาไว้อาลัยให้พวกเขากันสักสามนาที่ดีกว่า…”

 

คนรอบข้างพากันดูถูก

 

จอห์น “…”

 

เชี่ยเอ้ย!

 

ฉันถูกมองว่าเป็นคนปัญญาอ่อนงั้นหรอ?

 

เขากลอกตาไปมาก่อนจะเริ่มเบี่ยงความสนใจ เขาหยิบรูปเอเวลออกมา….