“แข็งแกร่งจริงๆ”

เมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงของกระต่ายมังกรตัวนี้ เซี่ยปิงก็เผยสายตาเป็นประกาย เดิมทีกระต่ายมังกรที่ดูธรรมดาอย่างมาก ทว่าหลังจากที่กลายเป็นทาสรับใช้ของอสูรซากศพ ทันใดนั้นก็เกิดความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่กับมัน

เหมือนกับว่าในช่วงเวลานี้ ขีดจำกัดการเจริญเติบโตของมันได้หายไป สามารถที่จะพัฒนาตนเองได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งเซลล์ทั่วทั้งร่างกายก็เปลี่ยนไป ราวกับเปลี่ยนกลายเป็นอีกสายพันธุ์หนึ่ง

ทว่านี่ก็มีผลเสียอยู่เช่นกัน อันดับแรกกระต่ายมังกรที่กลายเป็นทาสรับใช้ของอสูรซากศพนั้น ร่างกายของมันไม่ได้มีพลังอำนาจในการแพร่เชื้ออยู่ ในอีกคำพูดหนึ่งก็คือกระต่ายมังกรที่กลายเป็นซอมบี้นั้นจะไม่สามารถเปลี่ยนสิ่งมีชีวิตอื่นๆให้กลายเป็นทาสรับใช้ของมันได้ ไม่สามารถที่จะแพร่เชื้อออกไปด้วยตนเอง

ทว่าผู้ที่สามารถสร้างทาสรับใช้ได้นั้น มีเพียงแค่ลูน่าเท่านั้น

อีกทั้งพลังอำนาจของทาสรับใช้ก็มีขีดจำกัดเช่นกัน มันจะต้องมีพลังอำนาจที่ต่ำกว่าอสูรซากศพไปตลอดกาล มีเพียงแค่การที่ลูน่าพัฒนาตนเองขึ้นไปเท่านั้น ไม่อย่างนั้นพวกมันก็จะไม่มีโอกาสได้พัฒนาตนเองขึ้นไปอีก

ทว่าเมื่อคิดพิจารณาอย่างรอบคอบ นี่ก็ถือว่าเป็นผลดีเช่นกัน

เพราะว่าถึงอย่างไรเซี่ยปิงก็ต้องการที่จะสร้างกลุ่มของลูกน้อง เป็นลูกน้องระดับสูง ไม่ใช่เป็นการสร้างศัตรูที่มีโอกาสจะพัฒนาเหนือกว่ากว่าตนเอง ไม่อย่างนั้นมันจะอยู่เหนือการควบคุม

การที่ไม่มีความสามารถในการแพร่เชื้อก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ต้องการกลายเป็นผู้ก่อการร้ายและทำสงครามชีวเคมี

ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากที่กลายเป็นทาสรับใช้ ความเป็นความตายของพวกมันก็อยู่ในการควบคุมของลูน่าทั้งหมด ตราบใดที่ลูน่าเพียงแค่ใช้ความคิด ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด ทาสรับใช้เหล่านี้ก็จะตายได้ในทันที

นี่คือการควบคุมที่สมบูรณ์แบบ

“น่าสนใจจริงๆ”

ในขณะเดียวกันเซี่ยปิงก็ค้นพบปรากฏการณ์ที่น่าสนใจบางอย่าง เหมือนกับว่าเมื่อทาสรับใช้ได้กลืนกินอาหารไปอย่างมหาศาลและได้รับพลังงานเข้ามานั้น มันจะถ่ายทอดพลังงานครึ่งหนึ่งให้กับลูน่า เสริมสร้างพลังอำนาจของลูน่า ช่วยให้เธอพัฒนาได้อย่างเร็วขึ้น

ในอีกคำพูดหนึ่งก็คือ ทาสรับใช้เหล่านี้เทียบเท่าได้กับร่างโคลนของลูน่า ยิ่งเธอมีร่างโคลนมากแค่ไหน ความเร็วการพัฒนาของเธอก็จะรวดเร็วเพียงนั้น ทรงอำนาจขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย ไม่จำเป็นที่จะต้องทำการบ่มเพาะอย่างขยันขันแข็ง

ดังนั้นการที่เปลี่ยนสิ่งมีชีวิตให้กลายเป็นทาสรับใช้นั้น นี่คือวิธีการบ่มเพาะที่ดีที่สุดสำหรับลูน่า

พลังอำนาจในการเปลี่ยนสิ่งมีชีวิตให้กลายเป็นทาสรับใช้ก็เรียบง่ายมาก ลูน่าสามารถที่จะเปลี่ยนสิ่งมีชีวิตนับแสนให้กลายเป็นทาสรับใช้ในแต่ละครั้งได้ ทว่าเมื่อเธอพัฒนามากขึ้น จำนวนนี้ก็สามารถที่จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน

“เมื่อกลับไปถึงโลกแห่งเมฆา จะต้องหาทาสรับใช้จำนวนหนึ่ง ดูสิว่าจะมีผลลัพธ์เป็นอย่างไร”

เซี่ยปิงก็รู้สึกพึงพอใจอย่างมาก คิดว่าความสามารถของลูน่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง นี่คือพลังอำนาจของการสร้างกองทัพ หากพัฒนาต่อไป พลังอำนาจที่แสดงออกมาก็ไม่รู้ว่าจะน่าสะพรึงกลัวเพียงใด

นี่คือการสร้างเผ่าพันธุ์ใหม่ก็ว่าได้

“ฮ่าฮ่า นี่คือเด็กหน้าใหม่ที่จะมาอยู่ใต้ข้ารึ?”

วิซ ในตอนนี้เสียงหนึ่งดังขึ้นมา ซึ่งฟังจากเสียงแล้ว เสียงๆนี้ก็คือเสียงของทันเมิงลู่นั่นเอง

เธอก็ปรากฏตัวขึ้นมาในสถานที่แห่งนี้ เหมือนกับจะได้ยินข่าวเรื่องที่อสูรซากศพฟื้นคืนสติ ดังนั้นจึงรีบรุดมาที่นี่อย่างรวดเร็ว

ข้างกายของเธอก็มีไตน้อยติดตามมาเช่นกัน เธอดูเหมือนว่าจะสงสัยใคร่รู้ในสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดที่เพิ่งได้สติขึ้นมานี้

“เจ้านาย”

เมื่อสัมผัสได้ถึงออร่าของทั้งสองนี้ ลูน่าก็เงยหน้ามองเซี่ยปิง จากนั้นก็มองไปที่ไตน้อยและทันเมิงลู่ทั้งสอง มองดูด้วยสีหน้าที่สงสัยอย่างมาก ไม่รู้ว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นมิตรหรือว่าศัตรู

“ไม่ต้องกังวล พวกเธอเป็นมิตร ไม่จำเป็นต้องระหวาดระแหวง”

เซี่ยปิงก็ล่วงรู้ว่านี่คือสัญชาตญาณการป้องกันตัวของอสูรซากศพ บางทีหากเขาไม่ได้อยู่ในสถานที่แห่งนี้ ลูน่าก็อาจจะอาละวาดขึ้นมาและกำจัดสิ่งที่เธอคิดว่าเป็นภัยคุกคามทั้งหมด

ดังนั้นความกังวลของแมวนักปราชญ์และกระทิงสีครามจึงไม่ใช่เรื่องที่ไร้เหตุไร้ผล

อย่ามองเพียงแค่ว่าตอนนี้เธอมีรูปลักษณ์ที่ดูไม่มีพิษไม่มีภัย นั่นเป็นเพราะว่าเขาอยู่ในสถานที่แห่งนี้ ดังนั้นลูน่าจึงไม่ได้แสดงความดุร้ายออกมา หากเป็นลูน่าที่ไม่ได้อยู่การควบคุมนั้น เรียกได้ว่าเป็นสัตว์ประหลาดที่อันตรายอย่างถึงที่สุด

“สหายตัวน้อย เจ้าคงจะไม่รู้ว่าในสถานที่แห่งนี้ข้าเป็นใหญ่ที่สุด ในอนาคตเจ้าเพียงแค่ติดตามข้าก็เพียงพอ ข้ารับประกันได้ว่าเจ้าจะได้อยู่ดีกินดี”

ทันเมิงลู่ก็ตบหน้าอกของตนเอง ต้องการที่จะทาบทามน้องเล็ก

“แค่ก แค่ก”

ไตน้อยก็ไอออกมาพร้อมกับชำเลืองมองด้วยหางตา

ทันเมิงลู่ก็รู้สึกหวาดกลัวในทันที เหมือนกับแมวที่ถูกเหยียบหางก็ว่าได้ เธอก็เกือบลืมไปว่ายังมีเจ้าปีศาจบัดซบที่แข็งแกร่งนี่อยู่ เป็นบุคคลที่เธอทำได้เพียงแค่ยอมจำนน

เธอก็รีบแก้ไขคำพูดของตนเองทันที “แค่ก แค่ก เมื่อครู่นี้ข้าพูดผิดไป อันที่จริงพี่ไตน้อยเป็นพี่ใหญ่สุด ข้าทันเมิงลู่เป็นพี่สอง และหลังจากนี้เจ้าจะเป็นน้องสาม”

ทันเมิงลู่ก็ทำการจัดอันดับทันที วางความสัมพันธ์ระหว่างพวกเธอให้ชัดเจน ตัดสินตำแหน่งระว่างทั้งสองฝ่าย เธอก็จะได้มีน้องเล็กติดตามเธอในอนาคต

เมื่อคิดได้แบบนี้ เธอก็ฉีกยิ้มกว้างออกมา

ลูน่าก็กระพริบดวงตากลมโตอย่างใสซื่อบริสุทธิ์ ดูเหมือนจะไม่ได้เข้าใจเรื่องการจัดอันดับแม้แต่น้อย ทว่าสายเลือดภายในร่างกายของเธอก็เหมือนจะสัมผัสได้ว่าทันเมิงลู่มีความคล้ายคลึงกับเธอ ทำให้เธอรู้สึกใกล้ชิดขึ้นมา

“ลูน่าน้อย ข้าจะปกป้องเจ้าเอง”

ไตน้อยก็พูดกับลูน่า เธอสามารถที่จะสัมผัสได้ว่าจิตวิญญาณของลูน่าและเซี่ยปิงเชื่อมโยงกัน ไม่สามารถที่จะแยกจากกันได้ ซึ่งนั่นหมายความว่าเป็นคนในฝ่ายเดียวกับเธอ

“ท่านแมวนักปราชญ์ เรื่องการสั่งสอนชี้แนะลูน่า ข้าจะมอบให้ท่านทั้งหมด ท่านจะต้องทำให้เธอเข้าใจหลักสามัญสำนึกทั่วไปของโลกใบนี้” เซี่ยปิงก็ไม่ได้ให้ความสนใจทันเมิงลู่ เขาหันกลับไปพูดกับแมวนักปราชญ์

สำหรับลูน่าที่เพิ่งเกิดขึ้นมาใหม่นี้ ทุกสิ่งทุกอย่างต่างก็แปลกประหลาดและน่าสงสัย เป็นเหมือนกับเด็กทารก จำเป็นที่จะต้องมีคุณครูที่คอยชี้แนะและให้ความรู้กับเธอ จะทำให้เธอเติบโตขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว

อย่างไม่ต้องสงสัย ผู้ที่เหมาะสมกับหน้าที่นี้มากที่สุดก็คือแมวนักปราชญ์

เขาไม่ได้เป็นกังวลว่าลูน่าจะไม่สามารถเรียนรู้ได้ เพราะว่าสิ่งมีชีวิตระดับสุดยอดเช่นนี้ ไอคิวก็สูงมากจริงๆ ต่อให้จะไม่มีใครคอยสอน คาดการณ์ได้ว่าภายในไม่กี่วัน เธอก็สามารถที่จะทำความคุ้นเคยกับโลกใบนี้ได้อย่างสมบูรณ์ เข้าใจความรู้ต่างๆนาๆ

ทว่าการที่มีคนคอยชี้แนะนั้น นี่ก็จะทำให้เธอเข้าใจได้ง่ายและเร็วขึ้นมาก

“สั่งสอนชี้แนะ? ข้าต้องการ ข้าอยากเป็นคนสั่งสอนชี้แนะเธอ ให้ข้าเป็นคนสอนเธอเถอะ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทันเมิงลู่ก็ขออาสา ดวงตาของเธอกลอกไปมา เหมือนกับมีความคิดบางอย่างอยู่ หลังจากนี้เธอจะป้อนข้อมูลของการที่เธอเป็นพี่ใหญ่ของลูน่า ทำการล้างสมองอย่างต่อเนื่อง ทำให้ฝ่ายตรงข้ามเชิดชูนับถือเธอไปตลอดกาล

เมื่อเป็นเช่นนั้น เธอก็จะกลายเป็นพี่ใหญ่อย่างเป็นทางการ ยิ่งไปกว่านั้นก็ยังมีน้องเล็กที่ซื่อสัตย์เช่นนี้อยู่

“ฝันไปเถอะ”

เซี่ยปิงก็พูดอย่างไม่สบอารมณ์ หากปล่อยให้ทันเมิงลู่จัดการและกลายเป็นคุณครูสอนลูน่า บางทีลูน่าอาจจะเติบโตไปในเส้นทางที่ผิด ในอนาคตคาดการณ์ได้ว่าจะกลายเป็นคนตะกละตะกลาม เอาแต่กินในทุกหนแห่ง กลายเป็นบุคคลไร้ค่าอย่างแท้จริง

“อย่าดูถูกผู้อื่นเช่นนี้”

ทันเมิงลู่ก็เกิดอารมณ์ฉุนเฉียวขึ้นมา โมโหจนแยกเขี้ยวใส่เซี่ยปิง

ทว่าเธอก็ถูกปราบปรามโดยเซี่ยปิงอย่างรวดเร็ว ทำลายความหวังของเธอในการสั่งสอนลูน่า หลังจากนั้นเธอก็เปลี่ยนความโศกเศร้าและความไม่พึงพอใจทั้งหมดเป็นความกระหาย กินอาหารเข้าไปหลายสิบตัน

……………

หลังจากนั้นไม่กี่วัน

เซี่ยปิงลืมตาขึ้นมา ในช่วงเวลาหลายวันนี้เขาก็ได้ทำการบ่มเพาะอย่างสงบสุข

ทว่ากระบวนการเรียนรู้ของลูน่าก็พัฒนาขึ้นมาก ในหลายวันนี้เธอได้ติดตามแมวนักปราชญ์เข้าไปในเครือข่ายเสมือนจริง ศึกษาเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับโลกมนุษย์และสามัญสำนึกทั่วไป

คาดการณ์ได้ว่าหลังจากผ่านไประยะเวลาหนึ่ง ลูน่าจะเข้าใจกฎทุกอย่างของโลกใบนี้ เมื่อถึงเวลานั้นก็จะสามารถเดินอยู่ในโลกนี้ได้อย่างอิสระ ไม่จำเป็นที่จะต้องกังวลเกี่ยวกับการเปิดเผยสถานะของตนเอง

จากนั้นเซี่ยปิงก็หยุดการบ่มเพาะและออกมาจากห้องที่เงียบสงบ หลังจากที่ทำการบ่มเพาะมาหลายวันนี้ เลือดลม พลังฉีและจิตวิญญาณของเขาก็อยู่ในสภาวะสูงสุด รู้สึกดีอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ดังนั้นเขาจึงเริ่มออกเดินทางด้วยยานดาราจักรทันที กลับไปสู่โลกแห่งเมฆา

เขาก็ตั้งหน้าตั้งตารออย่างมาก เพราะว่าเขาไม่ได้กลับไปที่โลกแห่งเมฆาเป็นระยะเวลานาน ไม่รู้ว่าตอนนี้โลกแห่งเมฆาจะเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหน

วิซ!

ยานอวกาศก็มุ่งหน้าออกจากดาวฟ้าดินทันที จมหายไปในผืนอวกาศที่เต็มไปด้วยดวงดาวมากมาย

ทว่าสิ่งที่เซี่ยปิงไม่รู้ก็คือว่าในส่วนลึกของความว่างเปล่า มีพลังอำนาจที่ทรงอำนาจและลึกลับที่กำลังล็อกออร่าของยานอวกาศลำนี้ กำลังติดตามไปอย่างใกล้ชิด