การฝึกเอาชีวิตรอดตลอดสามวันได้จบลงแล้วและกลุ่มต่างๆก็ได้เดินทางมาถึงจุดนัดพบตามที่กำหนดไว้ตามตารางฝึกของชูฮัน ซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองคือข้อได้เปรียบเพราะมันมีอาหารและพื้นที่มากมาย ส่วนข้อเสียก็คือมันดึงดูดเหล่าผู้รอดชีวิตมากมายให้มาที่นี้เพราะงั้นมันก็จะมีซอมบี้อยู่ตรงบริเวณนี้เป็นจำนวนมาก

 

กลุ่มที่หนึ่งที่มาถึงก่อนกลุ่มอื่นหนึ่งวันครึ่ง เมื่อพวกเขาเข้ามาในซุปเปอร์มาร์เก็ต ทุกคนเต็มไปด้วยความยินดีปรีดา พวกเขาเฉลิมฉลองกินอาหารกันอย่างมีความสุขก่อนที่กลุ่มอื่นๆจะเดินทางมาถึงในวันที่สาม

 

ขณะนี้เป็นคืนที่สามสำหรับพวกเขาในเมืองหลิงเฉิงแล้ว ตอนนี้มีทั้งหมด 13 กลุ่มที่มารวมตัวกันอยู่ตอนนี้ แต่ละคนที่หลังจากห่างไกลกันไปสามวันเมื่อได้กลับมาเจอกันทุกคเริ่มเป็นมิตรต่อกัน เหล่าคนมาใหม่ที่เข้าร่วมกับกองทัพเขี้ยวหมาป่าค่อยๆมีความรู้สึกของความเป็นหนึ่งเดียวกันเพิ่มขึ้น ไม่ใช่แค่เฉพาะกลุ่มที่ร่วมมือกันฆ่าซอมบี้เท่านั้น แต่กลุ่มอื่นๆก็ทำการสอนใช้อาวุธให้ มีความเป็นกันเองกันมากขึ้น

 

เนื่องจากอากาศที่เย็นและความมืดของช่วงเย็นที่มาถึง ตรงพื้นที่ใจกลางภายในซุปเปอร์มาร์เก็ตจึงมีหม้อขนาดใหญ่ตั้งอยู่พร้อมกับไฟที่ลุกโชนและฝูงชนที่ล้อมรอบกองไฟเพื่อหาความอุ่น มีเพียงแค่ชูเซี่ยที่อยู่ถัดออกไปอย่าสงบงนิ่งเพื่อเรียงลำดับข้อมูลที่เก็บรวบรวมตลอดสามวันที่ผ่านมา

 

หลูเหวินเฉิงกำลังกินขนมที่เขาไม่ได้กินมานานก็พลันพูดขึ้น “หลี่บี๋เฟิง ที่นี้น่าจะมีซอมบี้จำนวนมากไม่ใช่เหรอ? ทำไมไม่เห็นมี กลุ่มแรกที่มาถึงไม่ใช่ว่าพวกนายฆ่าซอมบี้หมดแล้วหรอกนะ?”

 

“หึ~” หลี่บี๋เฟิงเงยหน้าขึ้น แสดงให้เห็นถึงกล้ามเนื้อหนาแน่นและแข็งแกร่งของเขา “ฉันฆ่าซอมบี้หลายพันตัวตลอดสามวันที่ผ่านมาและตลอดทางที่มาถึงนี้เมื่อวานตอนบ่าย!”

 

“ไม่มีทาง” หลูเหวินเฉิงตกใจ “ซอมบี้ข้างนอกซุปเปอร์มาร์เก็ตถูกนายฆ่าหมดเลย? อย่ามาล้อกันเล่นเลยหลี่บี๋เฟิง ไม่ใช่แค่สะอาดและเรียบร้อย แต่มันยังเป็นระเบียบอีก เมื่อตอนแรกที่มาถึงฉันตกใจมากที่มีทีมซอมบี้มากขนาดนี้มารอต้อนรับเรา!”

 

อย่างที่หลูเหวินเฉิงพูด ตรงด้านนอกของประตูทางเข้าซุปเปอร์มาร์เก็ต มันมีศพซอมบี้หลายพันตัววางเรียงรายอย่างเป็นระเบียบทั้งสองฝั่งของประตูจนเกิดเป็นเส้นถนนที่ใช้ร่างซอมบี้สร้างขึ้นมา เหมือนกับการต้อนรับแขกที่มาถึง

 

กลุ่มอื่นๆที่ได้ยินต่างแสดงออกถึงความเคารพบูชาทันที พวกเขาต่างสรรเสริญหลี่บี๋เฟิงกันไม่หยุด

 

“ไม่แปลกใจเลยที่นายมาถึงเป็นกลุ่มแรก น่าทึ่งมาก!”

 

“ใช่ ไม่เพียงแค่กลุ่มแรกที่มาถึงแต่ยังรวดเร็วจนน่าเหลือเชื่อ”

 

“แถมยังฆ่าซอมบี้อีกมากมาย!”

 

“ทีมต้อนรับซอมบี้พวกนี้กลิ่นแรงชะมัด แรงเกินไป!”

 

ขณะที่ทุกคนกำลังสรรเสริญหลี่บี๋เฟิงกันอยู่ มันก็มีอีกกลุ่มเดินทางมาถึง พวกเขาได้ยินเสียงของหลี่ชวนก่อนเจ้าตัวจะเข้ามาด้านในซะอีก “อ๊ากกก! ใครเป็นคนทำทีมต้อนรับซอมบี้แบบนี้? นี่มันบ้าไปแล้ว!”

 

ทุกคนในซุปเปอร์มาร์เก็ตต่างหัวเราะกันใหญ่

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า! ฉันคิดว่านั่นน่าเป็นเสียงของหลี่ชวน” “ยินดีต้อนรับการมาถึงของกลุ่มที่สี่!” “กลุ่มที่สี่ของพวกนายช้าพอแล้ว มาถึงเป็นลำดับที่สิบสี่และเป็นสามทีมสุดท้าย”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า! ไม่น่าเลย น่าอับอายจริงๆ!” หลังจากที่สมาชิกของกลุ่มที่สี่เข้ามา กูเหลียงเฉินยังคงมีท่าทีเย็นชานิ่งเฉยดังเดิม ส่วนหลี่ชวนก็พาสมาชิกในกลุ่มเข้ามาเจอกับอีกสิบสามกลุ่ม

 

“เฮ้! ถึงแม้จะเป็นลำดับที่สิบสี่แต่อัตรารอดของกลุ่มเราก็สูงแค่เพราะมันมีคนทรยศ” หลี่ชวนพูดอย่างผิดหวัง

 

“อย่ามาอ้าง กลุ่มที่แปดของเราไม่มีคนทรยศและอัตราการรอดคือ 100%!” “กลุ่มที่เก้าของเราก็เช่นกัน”

 

“แม่ง!” หลี่ชวนกรอกตาและรีบเปลี่ยนเรื่องทันที “ศพซอมบี้ด้านนอกก็มากพอแล้วที่จะกลบกลิ่นพวกเราโดยเฉพาะเพื่อต้อนรับฉัน ใครฆ่าพวกมัน?!”

 

“เฮ้ย เฮ้ย! นายไม่รู้อะไร” บางคนเดินเข้ามาพูด “กลุ่มที่หนึ่งมาถึงกลุ่มแรก พวกเขาฆ่ามัน ไม่ใช่เล่นๆเลยใช่มั้ยล่ะ?”

 

“จะให้ฉันเชื่อ? หลี่บี๋เฟิง!” หลี่ชวนมองไปที่กลุ่มที่หนึ่งอย่างตกใจ

 

แกร๊ก! แกร๊ก!

หลี่บี๋เฟิงเกาหัว “ฉันบอกว่าฉันฆ่าซอมบี้หลายพันตัวตลอดทางแต่ไม่ได้บอกว่าพวกข้างนอกนั้นคือฝีมือฉัน”

 

“อ่า…”

 

ไม่เพียงแค่หลี่ชวนเท่านั้นแต่เหล่าสมาชิกของกลุ่มอื่นๆต่างตะลึงกันหมด เสียงต่างๆเริ่มจางหายไปอย่างรวดเร็วจนกระท่ังกลายเป็นเงียบสนิท ทุกคนมีสีหน้าซีดเผือด หลังจากผ่านไปสักพักหนึ่งมันก็ระเบิดขึ้นด้วยเสียงดังเซ็งแซ่ของฝูงชน

 

“แต่นายเป็นคนพูดเองไม่ใช่เหรอไง?!

 

“ถ้าไม่ใช่นายแล้วใครกัน? นายบอกว่านายมาถึงกลุ่มแรก ตอนนายมาถึงมันมีศพซอมบี้กองไว้อยู่แล้วงั้นเหรอ?”

 

“อืม ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน” หลี่บี๋เฟิงมองทุกคนด้วยท่าทีอึดอัด เขาเองก็หวังว่าซอมบี้พวกนี้จะเป็นฝีมือของเขาเหมือนกัน!

 

มันก็แค่ว่าหลี่บี๋เฟิงคิดว่าตัวเขาไม่เคยพูดจริงๆแต่ปฏิกิริยาของทุกคนเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

 

“นายไม่รู้?!” “แล้วตอนนั้นนายเห็นใครรอบๆมั้ย?”

 

หลี่บี๋เฟิงตะลึง “ไม่”

 

เมื่อทุกคนเริ่มเสียงดังโวยวายกันใหญ่ จู่ๆหลูเหวินเฉิงก็ระเบิดอารมณ์ออกมา “ฉันบอกว่าอย่าเสียงดังไง! หลี่บี๋เฟิงฆ่าซอมบี้มากมายอย่างบ้าคลั่ง แต่เขาไม่ได้คิดถึงวิเคราะห์อะไรเพราะงั้นอันดับแรกพวกเราฉันควรรีบวิเคราะห์สถานการณ์ตอนนี้ก่อน”

 

หลี่บี๋เฟิงถึงไม่เห็นด้วยกับที่หลูเหวินเฉิงพูดแต่เขาเองก็รู้ว่าเขาไม่ได้คิดอะไรให้รอบคอบก่อน เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่ฝีมือของกองทัพใหญ่เพราะมันมีจุดสังเกตมากมายให้เห็น แต่เป็นเพราะเมื่อเขาได้กลายเป็นผู้นำของกลุ่มเขาก็ลืมเลือนกระบวนการคิดทั้งหมดทันที เขารู้แค่วิธีฆ่าซอมบี้มาตลอดทาง

 

“ถ้างั้นก็…” หลี่บี๋เฟิงไม่พอใจและไม่ได้พูดอะไร เขามองดูกลุ่มคนปรึกษากันอย่างตึงเครียดเงียบๆ

 

สีหน้าของหลายพลันเปลี่ยนเป็นจริงจังและกลุ่มที่มาถึงอันดับที่สิบสี่ก็เข้าร่วมบทสนทนาเช่นกัน เพราะถึงอย่างไรแล้วนี่คือเรื่องใหญ่

 

“คนที่สามารถฆ่าซอมบี้จำนวนมากขนาดนี้และวางเรียงอย่างปราณีตเรียบร้อยได้ขนาดนี้จะต้องเป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าพวกเรา สมิกแต่ละคนจะต้องเป็นนักสู้ระดับสูง”

 

“ใช่ แต่มันแปลก ความตั้งใจในการทำแบบนี้ของพวกเขาคืออะไร? อีกฝ่ายคือใครกันแน่?”

 

“ฉันไม่รู้ว่าพวกนายได้เจอกับคนแปลกหน้าบ้างมั้ย แต่ฉันคิดว่าอาจจะเป็นฝีมือของพวกนั้น มันมีคนอื่นอยู่ในเมืองนี้นอกจากพวกเรา”

 

“อะไรน่ะ? พวกนายได้เจอกับคนแปลกหน้า? หลายคนมั้ย? พวกเราเจอสองคน”

 

“พวกนายก็ด้วยเหรอ? พวกเราก็เจอสองคน!”

 

“กลุ่มของเราด้วย! แล้วพวกนายได้เผชิญหน้ากับคนแปลกหน้าพวกนั้นมั้ย?”

 

ไม่ช้าทุกคนก็ตกอยู่ในอาการวิตกกังวล เมื่อพวกเขาได้รู้ว่ามีหลายกลุ่มที่ได้เผชิญหน้ากับคนแปลกหน้าสองคน แสดงว่าคนแปลกหน้าพวกนั้นจงใจปรากฏตัวต่อหน้ากลุ่มพวกเขา?

 

ทันใดนั้นกูเหลียงเฉินที่มีสายตาเย็นวาบก็พูดขึ้น “กลุ่มที่สี่ของเราเจอคนแปลกหน้าสี่คน”

 

และในตอนนั้นมันก็มีอีกกลุ่มพูดขึ้น “พวกเราก็เจอสี่คนเหมือนกัน!”

 

“แสดงว่า จำนวนของฝ่ายตรงข้ามยังคงลึกลับอยู่ แถมพวกเขาก็ได้เจอกับคนของพวกเราแล้ว?” ตาของหลูเหวินเฉิงเป็นประกายเย็นชา “ซอมบี้ข้างนอกก็เป็นฝีมืออีกฝ่าย?”

 

“หลังจากฆ่าซอมบี้ตั้งมากมาย ยังมารอคอยเจอพวกเราทีละกลุ่มอีก ทำไมกัน?”

 

การสาธิต

 

“แล้วยังวางซอมบี้เรียงแบบนี้อีก!”

 

“แสดงว่านี่ไม่ใช่ทีมซอมบี้ต้อนรับเพื่อต้อนรับพวกเรา!” หลี่ชวนตบพื้นดัง แววตาฉายแววถึงจิตสังหารอันรุนแรง “ขณะที่เรากินดื่มกันอยู่ที่ ย่างสบายใจแต่อีกฝ่ายได้ประกาศสงครามกับเราแล้ว!”