บทที่ 483 ห้าพญายมแห่งนรก

บัญชามังกรเดือด

“ขยายคำสาปสวรรค์ ?” ได้ยินคำพูดจากฉินเทียน ดวงตาของฉานเจี้ยนก็สว่างจ้า เขาเอ่ยด้วยความตื่นเต้น : “เจ้าสำนัก คุณเตรียมที่จะทำยังไงครับ ?”

ฉินเทียนพูดแผนการที่อยู่ภายในใจออกมา ภายใต้สายตาที่รอคอยของทุกคน

“ก่อนอื่น ผมอยากแบ่งคำสาปสวรรค์ออกเป็นสามหน่วย โดยแยกเป็นทีมฝึก ทีมปฏิบัติการและทีมแนวหลัง”

“ทีมฝึก ประกอบด้วยลุงฉาน พี่หวูฉางและพี่ชุยหมิง โดยให้ลุงฉานเป็นคนรับผิดชอบ พี่หวูฉางและพี่ชุยหมิงเป็นรองหัวหน้าทีม ช่วยงานของลุงฉาน”

“งานฝึกจากนี้ หลัก ๆ ให้พวกคุณมาวางแผนให้สำเร็จ”

“คนที่ฝึกแล้ว จัดสรรไปที่ทีมปฏิบัติการ กลับไปนำแต่ละหัวหน้าทีมย่อย”

ฉานเจี้ยนพยักหน้า พลันบอก : “เรื่องนี้ไม่มีปัญหา”

“ผมยินดีที่จะอยู่รักษาการณ์ที่กองบัญชาการใหญ่”

เถียหนิงซวงคิดถึงอะไรได้ จึงเอ่ยด้วยความตื่นเต้น : “พี่เทียน เมื่อกี้พี่บอกว่า แต่ละหัวหน้าทีมย่อยของทีมปฏิบัติการ ความหมายของพี่ เราจะไม่ได้มีแค่ทีมปฏิบัติการเดียวงั้นเหรอ ?”

ฉินเทียนพยักหน้าแล้วเอ่ย : “ฉันคิดแบบนี้ แบ่งทั้งหมดเป็นห้าทีมปฏิบัติการย่อย ตามลูกมือในตอนนี้”

“ทีมปฏิบัติการหมายเลขหนึ่ง เหล่าหม่าเป็นหัวหน้าทีม”

“ทีมปฏิบัติการหมายเลขสอง เถียหนิงซวงเป็นหัวหน้าทีม เหมยหงเซว่เป็นรองหัวหน้าทีม”

“ทีมปฏิบัติการหมายเลขสาม เถียปี้เป็นหัวหน้าทีม”

“ทีมปฏิบัติการหมายเลขสี่ ถงชวนเป็นหัวหน้าทีม”

“ทีมปฏิบัติการหมายเลขห้า อะเปินเป็นหัวหน้าทีม เถียเจี้ยงเป็นรองหัวหน้าทีม”

“ส่วนหลังจง นายเข้าทีมแนวหลัง ช่วยเหลืองานบูซาน”

“พี่ใหญ่บูซาน ตอนนี้ ผมเชิญพี่เข้าสู่ทีมคำสาปสวรรค์ รับผิดชอบงานหัวหน้าทีมแนวหลังอย่างเป็นทางการ พี่เต็มใจหรือเปล่า ?”

บูซานเอ่ยด้วยความตื่นเต้น : “ขอบคุณพี่เทียนมากครับ !”

“ผมเต็มใจมาก ! ผมจะช่วยเหลือทุกคน และทำงานแนวหลังทุกอย่างให้ดีอย่างแน่นอนครับ”

ฉินเทียนพยักหน้าแล้วเอ่ย : “ทุกคนมีความเห็นไหม ?”

เถียหนิงซวงยิ้มเอ่ย : “นึกไม่ถึงว่าเราจะสามารถเป็นหัวหน้าทีมกับรองหัวหน้าทีม ไม่เพียงไม่มีความเห็น ยังดีใจมากด้วย”

“แต่ว่านะพี่เทียน สมาชิกทีมเราอยู่ที่ไหนเหรอ ?”

ฉินเทียนยิ้มเอ่ย : “ตอนนี้เพียงแค่แบ่งรูปแบบ พวกเธอไม่มีลูกน้อง พึ่งแค่ตัวเอง”

“ส่วนสมาชิกทีม พวกเธอสามารถเลือกเอง และสามารถให้บูซานประกาศรับสมัครจากสังคมได้”

“คนที่มาใหม่ ทั้งหมดมอบให้ทีมฝึก ก็คือลุงฉาน พี่หวูฉางและพี่ชุยหมิงรับผิดชอบการฝึกซ้อม หลังจากได้มาตรฐาน ค่อยจัดสรรไปในทีมย่อยพวกเธอ โดยให้พวกเธอนำ”

“จากนั้นขยายทีมของเรา ทีมฝึกและทีมแนวหลังก็สามารถเพิ่มกำลังคนได้เช่นกัน”

ได้ยินการจัดการแบบนี้ แม้กระทั่งชุยหมิงที่ปกติเงียบขรึมไม่ค่อยพูดจา ก็อดไม่ได้ที่จะพูด : “เจ้าสำนัก แบบนี้ดีมากเลย”

“แบ่งงานชัดเจน รูปแบบแจ่มชัด”

“คำสาปสวรรค์ที่เจริญรุ่งเรือง กำลังจะมาถึงในไม่ช้านี้”

ทุกคนต่างก็ตื่นเต้นมากเช่นกัน ในเมื่อเป็นแบบนี้ แต่ละคนต่างรับผิดชอบหน้าที่ของตนเอง ทำงานไปพร้อมกัน ทีมมีต้นแบบที่เป็นมาตรฐาน

หม่าหงเทาไตร่ตรองอยู่เล็กน้อย แล้วเอ่ยอย่างคาดหวังหน่อย ๆ : “พี่เทียน เมื่อก่อนผมอยู่ที่เหมียวเจียง เคยมีลูกศิษย์อย่างไม่เป็นทางการอยู่สองสามคน ต่างเป็นคนน่าเชื่อถือมาก”

“ผมชวนพวกเขามาเข้าร่วมทีมย่อยของผมได้ไหม ?”

ฉินเทียนยิ้มเอ่ย : “ได้อยู่แล้ว !”

“เมื่อเป็นแบบนี้ ทีมหมายเลขหนึ่งของนาย ก็เรียกว่าทีมมีดม้งได้แล้ว”

เถียปี้ก็รีบเอ่ยด้วยเช่นกัน : “ผมมีการติดต่อกับพันธมิตรฉู่ทางนั้น สามารถเลือกจากพันธมิตรฉู่ได้สองสามคน”

ถงชวนก็ไม่ยอมให้ตนด้อยกว่า : “ผมเป็นลูกศิษย์โยมพ่อวัดเส้าหลิน ดีที่ศิษย์พี่และศิษย์น้องหลายคนว่างไม่มีอะไรทำ บางคนจำเป็นต้องไปทำหน้าที่ยามเพื่อดำรงชีวิต”

“ผมชวนพวกเขา จากนี้เราก็เป็นทีมอรหันต์เส้าหลิน”

อะเปินพูดเสียงทุ้ม : “ตอนเด็กผมมีสหายที่ล่าสัตว์อยู่สองสามคน งั้นเราก็ชื่อทีมล่าแล้วกัน”

เห็นคนอื่นต่างมีเป้าหมายแล้ว เถียหนิงซวงเร่งให้บูซานรีบไปประกาศสมัครกำลังคนอย่างร้อนใจ

เธอไม่เพียงแค่อยากสัมผัสอำนาจของการเป็นหัวหน้าทีมอย่างอดใจรอไม่ไหว ในขณะเดียวกันนั้น ก็จะตกอยู่ข้างหลังไม่ได้ด้วยเช่นกัน

จะให้ทีมย่อยอื่นมีสมาชิกเต็มแล้ว ส่วนเธอยังคงไม่มีลูกน้อง พึ่งแค่ตัวเอง โดยมีเพียงรองหัวหน้าทีมไม่ได้หรอกนะ

เหมยหงเซว่เม้มปากเอ่ย : “หัวหน้าเถีย ฉันมีข้อเสนอค่ะ”

“ห้าทีมย่อย สี่ทีมอื่น ๆ ต่างเป็นพวกนายท่าน มิสู้เรามุ่งเลือกพี่สาวน้องสาวโดยเฉพาะดีกว่าไหมคะ”

“ทีมสองของเรา จากนี้เป็นทหารหญิง”

เถียหนิงซวงเอ่ยพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ : “พี่เหมย ข้อเสนอนี้ดีมากเลย หึ ใครว่าผู้หญิงสู้ผู้ชายไม่ได้”

“ฉันนามสกุลเถีย พี่นามสกุลเหมย งั้นทีมของเรา ก็ชื่อว่าเถียเหมยฮัว !”

เดิมทีฉินเทียนเพียงแค่เสนอความเห็นปรับปรุงใหม่ กำหนดรูปแบบไว้ชั่วคราว จากนั้นจำเป็นต้องใช้เวลาค่อย ๆ ทำให้ดีพร้อม

แต่ว่านึกไม่ถึง พวกหัวหน้าทีมถึงกับมีเป้าหมายของตัวเองไวปานนี้

แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน

มีเป้าหมายที่แจ่มชัด จากนี้ก็พัฒนาให้เติบโตและเข้มแข็งได้ง่ายยิ่งขึ้นแล้ว

จนถึงตอนนี้ ทีมย่อยคำสาปสวรรค์ แปรเปลี่ยนกลายเป็นทีมที่แท้จริงอย่างเป็นทางการ

ทีมปฏิบัติการย่อยทั้งห้า ก็มีฉายานามของตัวเองด้วยเช่นกัน

ทีมหมายเลขหนึ่งทีมมีดม้ง

ทีมหมายเลขสองเถียเหมยฮัว

ทีมหมายเลขสาม ทีมพันธมิตรฉู่

ทีมหมายเลขสี่ทีมอรหันต์

ทีมหมายเลขห้าทีมล่า

เรียกอีกอย่างได้ว่า ห้าพญายมแห่งนรก

เนื่องจากความกระตือรือร้นอันเปี่ยมล้นของทุกคน ฉินเทียนจึงหยุดงานให้ทุกคน เพื่อให้พวกเขาไปเรียกกำลังคนมารวมตัวโดยเฉพาะ

เจ็ดวันให้หลัง ก็เป็นการประชุมเพื่อชี้ขาดภาพออกแบบที่ดินหรูอี้ที่แห่งนั้น ฉินเทียนขอให้พวกเขารีบกลับมาก่อนหน้านี้ก็พอแล้ว

ในขณะเดียวกันนี้ ก็ตระหนักได้ว่าลูกมือจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาเลยกำชับบูซาน จะต้องทำงานแนวหลังให้เรียบร้อยล่วงหน้า

รวมทั้งเสื้อผ้า อาหารการกิน ที่พักที่อยู่อาศัยและการเดินทาง ล้วนจำเป็นต้องพิจารณา

ฉานเจี้ยนไตร่ตรองอยู่เล็กน้อย แล้วจึงเอ่ย : “เจ้าสำนักครับ ก่อนหน้าคุณบอกว่า สามารถรับพวกภารกิจให้ทุกคนไปทำ ด้านหนึ่งก็เป็นการฝึกฝนทีม นอกจากนี้ สามารถสร้างรายได้ได้ด้วยเช่นกัน”

“เพียงแต่ว่า เนื่องด้วยสาเหตุนานาประการ จึงไม่ได้ดำเนินการงานนี้เลย”

“ตอนนี้ ผมอยากเสนอส่วนนี้ในกำหนดการ ทีมคำสาปสวรรค์ค่อย ๆ เติบโตและเข้มแข็ง รายจ่ายแต่ละรายการก็จะมากขึ้นเรื่อย ๆ”

“เราต้องเลี้ยงตัวเอง”

ฉินเทียนรีบเอ่ย : “เรื่องนี้ไม่มีปัญหา ช่วงนี้ผมยุ่งมาก มอบสิทธิ์การรับผิดชอบทั้งหมดให้ลุงฉานแล้วกัน”

“ไม่ได้เป็นเพียงภารกิจเว็บมืด พวกฝ่ายรัฐบาลประกาศให้เงินรางวัล ขอเพียงยืนยันผู้ต้องสงสัยเป็นลูกศิษย์ที่ชั่วร้ายจนไม่อาจให้อภัยได้ เราก็สามารถลงมือได้”

“แม้ว่าเงินรางวัลก้อนนี้ไม่มากนัก แต่กำจัดภัยอันตรายเพื่อประชาชน ก็เป็นภารกิจของคำสาปสวรรค์เรา”

ฉินเทียนพูดขนาดนี้ เป็นเพราะจู่ ๆ นึกถึงวิธีทำของพันธมิตรฉู่ นึกถึงตอนแรกที่เขาไปฉู่โจว แล้วพบการยั่วยุของถงชวน

ถงชวนในตอนนั้นเป็นจอมยุทธ์ที่ยึดหลักคุณธรรมพวกนั้นอย่างในนิยายจอมยุทธ์ อาศัยการรับเงินโบนัสจากฝ่ายรัฐบาลเพื่อเลี้ยงดูตัวเอง

จนถึงตอนนี้ มีคนเยอะมากในพันธมิตรฉู่ ก็อาศัยสิ่งนี้ในการดำรงชีวิตด้วยเช่นกัน

ฉานเจี้ยนพยักหน้าแล้วเอ่ย : “เข้าใจแล้วครับ!”

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ชื่อเสียงคำสาปสวรรค์ของเรา ก็จะมีหลายคนรู้ยิ่งขึ้น เถ้าแก่ใหญ่รู้แล้ว จะต้องดีใจอย่างแน่นอนเหมือนกัน !”

ฉินเทียนรู้ว่า การรับภารกิจจากฝ่ายรัฐบาล เท่ากับเป็นการผลักทีมคำสาปสวรรค์จากหลังเวทีไปสู่หน้าเวที

เขารู้สึกว่าแบบนี้ไม่ได้ผิด ชื่อเสียงพี่น้องพวกนี้ที่ทำการเสียสละเพื่อความศรัทธาโดยการนองเลือด เรื่องที่กระทำถูกต้องของพวกเขานั้น ควรจะให้ทุกคนได้ทราบและสรรเสริญ

องค์กรคำสาปสวรรค์ที่กำลังทหารเข้มแข็ง เจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อย ๆ กำลังจะปรากฏท่าทีอันทรงพลังต่อหน้าชาวโลก

มันทำการลงโทษแทนสวรรค์ ลงโทษคนทรยศกำจัดความชั่วร้าย ส่งเสริมความเป็นธรรม คงจะทำให้คนชั่วขวัญหนีดีฝ่อเป็นแน่ และทำให้ผู้ที่ชอบธรรมพอใจ