บทที่ 365 แขนขวาหัวหน้ากองธงกล้วยไม้ถูกฟัน

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 365 แขนขวาหัวหน้ากองธงกล้วยไม้ถูกฟัน
“มุกมังกร…” อี้เฉินเฟยพลันเปลี่ยนสีหน้า คิดไปช่วงชิง ทว่าร่างกายอ่อนแอไร้กำลัง ไม่อยู่ในความควบคุมของเขา

หัวหน้ากองธงกล้วยไม้ไปชิงมุกมังกร มือของที่ยื่นออกมาถูกผ้ามัดเอวของกู้ชูหน่วนรัดไว้อย่างไม่ทันตั้งตัว

นัยน์ตาเย่เฟิงเย็นยะเยือกหนัก ต่อสู้แลกชีวิต ยกมือลงกระบี่ ฟันแขนขวาของหัวหน้ากองธงกล้วยไม้ฉับ

“อ้า…”

หัวหน้ากองธงกล้วยไม้ร้องโอดครวญเสียงหนึ่ง แขนกระเด็นขึ้นกลางอากาศพร้อมกับห่าพิรุณเลือด

เจ็บ…

เจ็บจนหัวหน้ากองธงกล้วยไม้แยกเขี้ยวยิงฟัน

แขนขวาของเขากลับถูกเย่เฟิงฟันขาดไปดื้อๆ อย่างนี้

กู้ชูหน่วนไม่มีเวลาสนใจหัวหน้ากองธงกล้วยไม้ วิ่งโร่ไปทางหน้าผาแบบอัตโนมัติ

“อาหน่วน…”

อี้เฉินเฟยเส้นเลือดฝอยตาแตก หัวใจตกอยู่ที่ตาตุ่ม

เย่เฟิงที่เดิมคิดแต่สังหารหัวหน้ากองธงกล้วยไม้ เมื่อเห็นกู้ชูหน่วนที่ทั้งรู้ว่าด้านหน้าคือหน้าผาทะเลโลหิต ยังคงวิ่งโร่ไปอย่างไม่หันหลังกลับแล้ว ก็อดไม่ได้ละทิ้งหัวหน้ากองธงกล้วยไม้ วิ่งแล่นตามไปด้วย

มุกมังกรกลิ้งตกลงหน้าผา กู้ชูหน่วนวิ่งพลางใช้สายรัดเอวพันมุกมังกร

“พั่ก…”

สายรัดเอวสั้นเกินไป มือหนึ่งนางยันริมหน้าผา กระโดดลงทะเลโลหิต มือหนึ่งดึงมุกมังกรที่อยู่กับสายรัดเอวแน่น

ท่วงท่านางอันตรายเกินไป ทั้งเรือนร่างแทบแขวนอยู่ริมหน้าผาทะเลโลหิต ใช้มือขวาค้ำยันร่างกายเท่านั้น หากไม่ระวังก็จะตกลงสู่ทะเลโลหิต

หากตกลงไป ศพกระดูกสูญสลายเป็นแน่

เย่เฟิงดึงมือขวาของนาง อยากลากนางขึ้นมา กู้ชูหน่วนเอ่ยด้วยเสียงเข้ม “อย่าขยับ! สายรัดเอวยังพันมุกมังกรไม่ได้ ข้ากลัวว่าขยับแล้วมุกมังกรจะตกลงไป”

“มุกมังกรสำคัญอย่างไร จะสำคัญเท่าชีวิตหรือ? เช่นนี้เจ้าอาจตกลงไปได้ทุกเมื่อ!” เย่เฟิงดึงมือนางไว้แน่น ไม่ยอมปล่อยสักนิด

ก้มศีรษะมองไป ก้นบึ้งเป็นทะเลโลหิตพลุ่งพล่าน อุณหภูมิสูงจนน่าสยดสยอง อย่างว่าแต่คน แม้เป็นสิ่งใดในโลก หากตกลงไป ต้องถูกหลอมละลายเป็นแน่

กู้ชูหน่วนไม่คิดสักนิด เอ่ยด้วยความแน่วแน่ “ย่อมสำคัญ มันสำคัญยิ่งกว่าชีวิตข้า พี่เฉินเฟยต้องการมุกมังกร”

มือซ้ายกู้ชูหน่วนหมุนเบาๆ ต้องการพันมุกมังกรให้ดี แต่มุกมังกรอยู่ขอบสายรัดเอว ทั้งเป็นลักษณะทรงกลม หากแรงสมดุลไม่ดีก็อาจกลิ้งตกลงไปได้ทุกเมื่อ เหงื่อกาฬกู้ชูหน่วนซึมออกมาแล้ว

“ขึ้นมาเร็ว!”

“เจ้าปล่อยมือเร็ว ที่นี่อันตรายเกินไป!”

ความร้อนของหินหลอมเหลวปะทุขึ้นมาไม่หยุด อีกทั้งเย่เฟิงไม่มีอะไรเป็นแรงเสริมได้ ฝืนอยู่ตรงนั้น รังแต่ถูกนางถ่วง

“เจ้าไม่ขึ้นมา ข้าก็จะไม่ปล่อยมือ”

หัวหน้ากองธงกล้วยไม้กุมแขนขวาที่ถูกฟันขาดของตัวเองแน่น เขามีพลังมาร สามารถฟื้นฟูร่างกายได้อย่างรวดเร็ว แต่กลับไม่อาจฟื้นฟูแขนขวาที่ถูกฟันขาด

มองคู่ชายหญิงเป็นตายร่วมกันตรงริมหน้าผา โทสะทั้งหมดของหัวหน้ากองธงกล้วยไม้ถูกกระตุ้นออกมาจนหมด

เขาที่เดิมคิดหมายเพียงมุกมังกร ยามนี้ละทิ้งโดยสิ้นเชิง

เขาเค้นประโยคหนึ่งออกมาจากร่องฟัน “ชายหญิงสารเลว ในเมื่อพวกเจ้าอยากตายเช่นนี้ ข้าก็จะสงเคราะห์ให้!”

ว่าแล้วมือขวาเขาก็รวมลูกไฟหลายสิบดวง กวาดซัดไปทางเย่เฟิงกับกู้ชูหน่วนโครมคราม

อานุภาพของลูกไฟมากเกินไป อีกทั้งอาณาเขตการโจมตีก็กว้าง หากถูกเข้า พวกเขาต้องจบชีวิตแน่

กู้ชูหน่วนตวาดเสียงดัง “รีบปล่อยข้า!”

“ข้าไม่ปล่อย!”

เห็นลูกจะคลุมเหนือศีรษะตัวเองประเดี๋ยวนี้แล้ว ทันใดนั้นเสียงขลุ่ยก็ดังขึ้น ลูกไฟทั้งหมดรวมอยู่กลางอากาศ ไม่อาจขยับได้อีกแม้เพียงเล็กน้อย

กลับเป็นผู้เป่าขลุ่ยควบคุมลูกไฟมิใช่ผู้ใดอื่น เป็นอี้เฉินเฟยที่ชุดขาวเปื้อนเลือด บาดเจ็บสาหัสปางตายนั่นเอง

อี้เฉินเฟยยืนอยู่ริมหน้าผา ชุดขาวหิมะคลี่บานดอกบัวเลือดอันมีเสน่ห์เป็นดวงๆ

กายเขาหยัดตรง ท่าทางสง่างาม แม้บาดเจ็บสาหัส แผ่นหลังอันยืดตรงของเขาไม่โค้งงอสักนิด ตรงจนราวกับสนเขียวเลาไผ่

ลมหน้าผาพัดมา พัดจนเสื้อผ้าเขาดังขึ้น พัดจนเส้นผมขาวของเขาลอยตัวพลิ้ว เสมือนจะเหินหาวได้ทุกเวลา

อารมณ์โทสะหัวหน้ากองธงกล้วยไม้ทวีความรุนแรงเรื่อยๆ

“อี้เฉินเฟย ในเมื่อเจ้าอยากตายขนาดนี้ เช่นนั้นข้าก็จะส่งเจ้าไปลงนรกก่อนแล้วกัน!”

“โครม…”

หัวหน้ากองธงกล้วยไม้หมุนกาย การโจมตีระลอกแล้วระลอกเล่า

ลูกไฟที่เป็นดวงเล็กๆ ในตอนแรก กลับขยายใหญ่ขึ้นด้วยความเร็วที่ตาเนื้อมองเห็น ส่องแสงประกายแยงตา พุ่งมาทางอี้เฉินเฟยอย่างโถมฟ้าคลุมแผ่นดิน

เสียงขลุ่ยอี้เฉินเฟยเร็วขึ้น แม้ยังคงยืนตรงอยู่ริมหน้าผา แต่เลือดสดตรงมุมปากเขาไหลลงมาเป็นหยดๆ พื้นดินใต้เท้าที่เขายืนอยู่ก็แยกออกเป็นเสี่ยงแล้วเสี่ยงเล่า เห็นได้ว่าเขารับกับแรงกดดันมากแค่ไหน

กู้ชูหน่วนฝืนให้ตัวเองใจเย็น หมุนมุกมังกรให้มาอยู่กลางสายรัดเอว

เห็นมุกมังกรจะสะบัดขึ้นไปได้แล้ว อี้เฉินเฟยกลับทัดทานไม่ไหวอีก เสียงขลุ่ยอันตรธาน ร่างระเบิดหมอกโลหิตครั้งแล้วครั้งเล่า กรอบตาอี้เฉินเฟยแดง มองทิศทางของกู้ชูหน่วน มุมปากเผยรอยยิ้มเศร้าหมอง

“ตึก…”

ขลุ่ยหยกเขียวหล่นลงพื้น กลิ้งบนพื้นสองสามตลบจึงค่อยๆ หยุดลง

ร่างตั้งตรงของอี้เฉินเฟยก็ล้มลงไปทั้งทื่อๆ อย่างนั้น

“อือ…”

เลือดสดตรงมุมปากเขาค่อยๆ ไหลออกมาอีก พลังชีวิตหายไปทุกที

แม้เจ็บใจ แม้ยังอยากทนเพื่อนางอีกหน่อย อี้เฉินเฟยก็ไม่มีกำลังทนอีก

เดิมก็เป็นกายทรุดโทรม ทนมาได้ถึงตอนนี้ก็ที่สุดของเขาแล้ว

ตอนนี้…

แม้แต่หายใจยังลำบาก

“พี่เฉินเฟย…”

รูม่านตากู้ชูหน่วนหดเล็ก ตะโกนเสียงหนึ่ง ยกมือซ้ายสะบัดมุกมังกรขึ้นไป ส่วนคนก็อาศัยแรงกระโดดขึ้น

แต่อี้เฉินเฟยล้มลง พลานุภาพของลูกไฟม้วนเขามาอย่างไม่ยำเกรงสิ่งใด

พวกเขาอยากโต้กลับ แต่ไม่ทันกาลแล้ว

มุกมังกรที่เพิ่งถูกโยนขึ้น ถูกลูกไฟกระแทกตกลงไปในพริบตา

กู้ชูหน่วนไปรับ กลับไม่ทันเสียแล้ว ได้แต่ปล่อยมือ หวังรับมุกมังกร

เย่เฟิงปวดหัวใจ เขาออกแรงกระชาก กระชากกู้ชูหน่วน ส่วนตัวเองก็โถมตัวกระโดด กระโดดลงทะเลโลหิต รับมุกมังกรด้วยทั้งชีวิตของตนเอง ขว้างมุกมังกรขึ้นมา ขว้างขึ้นบนฝั่ง

ทำเรื่องกระบวนนี้จบ ร่างของเย่เฟิงก็ทิ้งตัวลงทะเลโลหิตตรงๆ

“ไม่…”

กู้ชูหน่วนสะบัดสายรัดเอว รัดเอวของเย่เฟิงอย่างฉับไวอสรพิษเหิน

หัวใจที่ตึงแน่นของหัวหน้ากองธงกล้วยไม้ถึงคลายลงเล็กน้อย

สวรรค์รู้เขาเห็นเย่เฟิงตกลงทะเลโลหิต ในใจตระหนกแค่ไหน กลัวแค่ไหน

กู้ชูหน่วนอยากดึงเย่เฟิงขึ้นมา สายรัดเอวกลับแครกขาดครึ่งหนึ่ง

ทุกคนที่กว่าจะผ่อนคลายอารมณ์ได้ ตื่นตระหนกอีกครั้ง

กู้ชูหน่วนกัดฟันดึงเย่เฟิงไม่หยุด “ข้าไม่ให้เจ้าตายหรอก ข้าจะไม่ให้เจ้าตาย”

มุมปากเย่เฟิงกำลังยิ้ม น้ำตากลับเอ่อล้นออกมา

“ไม่มีประโยชน์ สายรัดเอวจะขาดแล้ว ใช้ชีวิตต่ำต้อยของข้า แลกมุกมังกรช่วยอี้เฉินเฟย คุ้มค่ามาก”

“คุ้มค่าอะไร หากเจ้าตาย ข้าจะไม่ยกโทษให้เจ้า หัวหน้ากองธงกล้วยไม้ เจ้ายังยืนบื้อทำอะไร มาช่วยกันดึงขึ้นมาสิ”

“เขาฟันแขนข้า ฟันแขนของข้า!”

หัวหน้ากองธงกล้วยไม้คำราม มือซ้ายกำลังสั่นเทา อยากไปดึงเย่เฟิง

แต่เขามือขวาที่ถูกฟันยังคงเจ็บจนปอดฉีกหัวใจแหลกลาญ

อีกทั้ง…

เย่เฟิงไม่ได้ขอเขา

หากเย่เฟิงขอเขา บางทีเขาอาจพิจารณาช่วยเขา

เย่เฟิงหัวเราะเย็นเสียงหนึ่ง ความอบอุ่นในดวงตาจางหาย และแทนที่เป็นความเย็นชาไร้ขอบเขต

“ให้เจ้าช่วย ข้ายอมตาย”