ตอนที่ 417 : หายตัว!

Black Tech Internet Cafe System

ในห้องฝึกฝนของฟางฉี ตอนนี้เขากำลังอยู่ในช่วงเวลาการฝึกฝนครั้งสุดท้ายก่อนออกเดินทาง

 

ว่ากันว่าผู้ฝึกฝนและนักรบที่ดินแดนอันแสนไกลนั้นมีความแข็งแกร่งสูงกว่าผู้ฝึกฝนทางดินแดนทะเลทรายร้างดังนั้นฟางฉีจึงต้องเตรยีมตัวให้พร้อม

 

บนหอคอยปีศาจ .. ในคืนพระจันทร์เต็มดวง

 

เงาสีฟ้าปรากฏขึ้น ฟางฉียกมือขึ้นเพื่อปิดกั้น เพียงเสี้ยววิเลือดสาดกระเซ็นมาโดนเขา ใบหน้าของฟางฉีซีดเผือดราวกับไม่มีเลือด เขาพบว่าแขนของเขาถูกปักด้วยดาบหนาสร้างบาดแผลลึกจนเผยให้เห็นกระดูกข้างใน!

 

อย่างไรก็ตามการโจมตีไม่ได้จบลง การถูกโจมตีส่งผลให้ร่างกายของเขาเย็นลงพร้อมกับการมองเห็นที่พร่ามั่ว เวลาเดียวกันพลังงานดาบอันน่ากลัวก็ฟันเข้าที่เขา!

 

ด้วยความเจ็บปวดและทรมานเขาลืมตาขึ้นและพบว่าตัวเองกลับมาอยู่ในจุดเกิดใหม่อีกครั้ง

 

“ชิบ!”

 

 เขาตาย

 

ช่วงเวลาที่ฟางฉีฟื้นขึ้นอีกครั้งเขาก็จำต้องหนีด้วยความรวดเร็ว ทันทีที่ขยับตัวพลังดาบมากมายก็ปรากฏขึ้นและพุ่งเข้าหาเขา!

 

“…” ก่อนที่เขาจะได้หายใจด้วยความโล่งอก ก็ถูกโจมตีโดยที่ยังไม่ทันตั้งตัว

 

“โอ้ย!”

 

มากกว่าครึ่งปี ..

 

เวอร์จิลค่อยๆ วางมือลงบนด้ามดาบของเขา ดาบของเขาดูเหมือนจะค่อยๆ หายไป ขณะเดียวกันฟางฉีค่อยๆ ถอยหลังกลับเล็กน้อยดาบในมือเขาเองก็ค่อยๆ หายไปด้วย

 

พลังดาบปะทะกันต่อหน้าเขาสองคน แรงกระทบของมันก่อให้เกิดประกายไฟทันที!

 

“หือ ..” เมื่อมาถึงอาณาจักรนักรบแล้วฟางฉีที่ยังไม่ได้เตรียมพร้อมปากเหงื่อออกจากหน้าผากของเขา เขามองเวอร์จิลด้วยแววตาดูหวั่น จากนั้นพื้นที่รอบๆ กลับสู่ความมืดมิด “.. มันค่อนข้างยากมากที่จะเชี่ยวชาญ”

 

การฝึกฝนปัจจุบัน : เวอร์จิล

 

การผสานต่อร่างกาย : ร้อยละสามสิบ

 

การผสานโดยรวม : ร้อยละสิบสามจุดเจ็ด

 

ประสบการที่ได้รับ / ความแข็งแกร่งในการฝึกฝนของตัวละคร : 9653/3628

 

หมายเหตุ : ตอนนี้ท่านสามารถใช้เทคนิคนี้ได้อย่างเชี่ยวชาญ

 

ตอนนี้ฟางฉีได้เชี่ยวชาญการใช้สกิลของเวอร์จิลและถึงระดับสองของการใช้รอลยัลการ์ด เมื่อรวมกับเทคนิคการใช้ปืนและดาบอื่นๆ ที่เขาเชี่ยวชาญแล้วความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

 

ในขณะเดียวกันความแข็งแกร่ในการฝึกฝนของเขาเองก็เติบโตขึ้นเป็นระดับสองของอาณาจักรนักรบในที่สุด

 

 

ท้องฟ้สเหนือเมืองครึ่งมักจะมืดมนเป็นเรื่องปก ในช่วงเวลาอันยาวนานที่ฟางฉีหมกตัวอยู่ในเมือง อย่างไรก็ตามแสงแดดที่เคยเจิดจ้าหายไปเนิ่นนานหลังจากหิมะตก

 

ตามปกติแล้วลูกค้าประจำบางคนที่เมืองครึ่งเช่นโมเทียนซิงจะมาที่ร้านในเวลาเช้าเพื่อซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป พวกเขาไม่เคยพลาดแม้แต่วันเดียว

 

“หัวหน้าสมาคมเจ้าจะออกไปข้างนอกหรือ?” ชายชรายังคงเรียกเขาว่าหัวหน้าสมาคมด้วยความนับถือ

 

ตอนนี้เซียนกระบี่พิชิตมารได้มีการย้ายอาวุธต่างๆ ได้ไม่นาน ผู้เล่นบางคนได้เดินทางไปถึงเกาะพระจันทร์สีเลือดทางเดินเต็มไปด้วยซากศพ

 

ฟสงฉียังคงเล่นเกมทุกวันสมาคมท้าทายสวรรค์ของเขายังคงเป็นกลางแม้จะมีการปะทะเล็กน้อยแต่โลกในเกมก็ยังสงบสุขตามปกติ

 

ขณะที่ผู้ฝึกฝนและนักรบจากร้านค้าทั้งสองกำลังพูดคุยเรื่องสมาคมเพื่อเข้าร่วมอย่างดุเดือดบางคนค่อยๆ พัฒนามิตรภาพนอกเกมไปพร้อมๆ กัน

 

หลังจากที่พวกเขาเบื่อกับการฆ่าสัตว์ประหลาดในเซียนกระบี่พิชิตมารแล้วพวกเขาก็จะเปลี่ยนไปขับรถเล่นเที่ยวรอบเมืองใน GTAV แทนเพื่อเพลิดเพลินกับวิถีชีวิตที่แตกต่างกับโลกแห่งความจริงโดยสิ้นเชิง

 

“ใช่!” ฟางฉียืดตัว “ข้าอยู่ในร้านมานานแล้ว ได้เวลาที่ข้าจะต้องออกสำรวจ”

 

“มันไกลมากหรอ!?” รวนหนิงขมวดคิ้ว เธอเคยทะเลาะกับฟางฉีมาตลอดแต่ตอนนี้แววตาเธอดูกังวล “ความแข็งแกร่งและพลังขชองเจ้าตอนนี้เจ้ายังดีอยู่ใช่มั้ย?”

 

“หัวหน้าท่านจะกลับมาเมื่อไร?” ซูโมถามแม้ว่าจะรู้สึกเขินเล็กน้อย

 

ฟางฉีที่นั่งอยู่บนโซฟามองไปทางแสงแดดที่สาดส่องเข้ามาและหัวเราะ “ข้าคิดว่าคงไม่นาน”

 

“การเดินทางไกลในช่วงฤดูใบไม้ผลิ?” หนิงไป่เดินเข้ามาและวางคริสตัลจำนวนหนึ่งบนเคาน์เตอร์ก่อนจะรินชานมด้วยสีหน้าราบเรียบ

 

“ดูแลตัวเอง” หลิวหนิงหยุนผู้นิ่งเฉยและมักจะเพิกเฉยต่อฟางฉีกล่าว

 

หวังปู่เต๋า, นักบวชปีกแดงและคนอื่นๆ จากเมืองมังกรดำยืนขึ้นและจับมือเขา

 

ฟางฉีโบกมือด้วยความใจเย็น

 

 

ในร้านจิวหัวกลุ่มผู้เล่นเก่าตอนนี้ค่อนข้างสงบเพราะพวกเขาเคยมีประสบการณ์จากการพรากจากกันในครั้งก่อน

 

“จะออกไปเปิดร้านที่อื่นใช่มั้ย?” นาหลันฮงวูถามขณะกินบะหมี่

 

“เมื่อเจ้าไปถึงที่นั้นแล้วอย่างลืมทำการถ่ายทอดสดอีกละ” ซูเทียนจิเอ่ยเตือนพลางดื่มชานม “อย่างไรก็ตามเรายังไม่เคยเห็นบ้านเกิดของเสี่ยวหยูเลย นั่นน่าสนใจมาก” สาวกกล่าวเสริม

 

“เสี่ยวหยู!” ด้านนอกร้านหลันหยันโบกมือให้เสี่ยวหยูที่ยืนอยู่ข้างๆ เจียงหยวน “อย่าลืมเข้า QQ ด้วยหยกสื่อสารละ เราจะได้คุยกันได้”

 

“เข้าใจแล้ว!”

 

ด้วยพลังของดาบบพาพวกเขาบินขึ้นไปยังท้องฟ้าเพื่อเดินทาง

 

เจียงซวนจับผสานมือเข้าด้วยกัน เขาเอ่ยถามฟางฉี “เจ้าของร้านเจ้ามีความคิดที่จะเปิดร้านที่เมืองของข้าหรือยัง?”

 

เขากล่าวต่อว่า “เรามีเหล่าปรมาจารย์มากมายในกลุ่มของเรา รวมถึงเผ่าอื่นๆ ถึงสิบสองเผ่า นอกจากนี้กองทัพของเรายังมีข้อได้เปรียบ หากท่านเปิดร้านในเมืองเราไม่ต้องกังวลเลยว่าจะมีเหล่าอันธพาลมารบกวน”

 

“ใช่! เจ้านายเปิดร้านใกล้บ้านข้าเลย ข้าจะขอให้ท่านพ่อส่งยามไปที่ร้านเพื่อเฝ้ารักษาไม่ให้ใครมายุ่ง”

 

ฟางฉีส่ายหัว “ไม่จำเป็น”

 

“ทำไมถึงไม่จำเป็น!?” เจียงเสี่ยวหยูรู้สึกไม่พอใจ “เจ้าแค่ไม่อยากให้ข้าไปละสิ!”

 

โดยปกติแล้วปัญหาหลายประเภทมักเกิดขึ้นในเมืองหลว แล้วนับประสาอะไรกับสถานที่ที่เป็นแห่ลงรวมของตระกูลโบราณ

 

นอกจากนี้หากเปิดร้านแถวชายแดนเมือง ประชาชนจากประเทศอื่นๆ ก็จะสามารถเข้าร่วมใช้บริการได้ ถ้ามันเปิดในเมือง มันก็จะสะดวกต่อผู้ฝึกฝนเท่านั้น

 

ฟางฉีอธิบายว่า “คงเป็นเรื่องลำบากมากถ้าเจ้าจะต้องบินไปกลับนอกเมืองในเมืองทุกวัน ข้าจะดำเนินการหาข้อมูลเพื่อจับจองทำเลที่ดีเอง เพื่อเจ้าจะได้บินไปที่ร้านทุกวันหลังเลิกเรียน”

 

“เยี่ยม!” เจียงเสี่ยวหยูรับฟังอย่างเข้าใจ

 

ฟางฉีพยักหน้าว่ารู้กัน .. ใบหน้าของเจียงซวนกระตุก

 

บ้าเอ้ย! ข้าละอยากจะชวนเจ้าของร้านไปเยี่ยมครอบครัว ข้าต้องหาวิธีอื่นแล้ว

 

“ฟางฉีเจ้ารู้จักวิธีผ่านเขตสวรรค์มั้ย?”

 

ฟางฉีพยัหน้า “พอจะรู้จัก”

 

“งั้นข้าจะพาเสี่ยวหยูกลับบ้าน ยัยเด็กดื้อนี่แอบออกไปและไม่ได้กลับบ้านมานานแล้ว” เจียงซวนกล่าว

 

ฟางฉีโบกมือ .. เจียงซวนที่พูดไม่ทันจบประโยคเห็นแสงสีขาววาบต่อหน้าต่อตา

 

เขาตัวแข็ง

 

ฟางฉีหายไปแล้ว