บทที่ 325 ไหน้ำส้มสายชู(ความหึงหวง)ของเขาเทกระจาดอีกแล้ว

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 325 ไหน้ำส้มสายชู(ความหึงหวง)ของเขาเทกระจาดอีกแล้ว
ผู้ปกครองชายคนนั้นมีความกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นเธอมา เพราะก่อนหน้านั้นได้เห็นแครอทที่แต่งตัวสวยงามไปแล้ว จึงคิดว่าเส้นหมี่ไม่น่าจะใช่แม่ของเด็กๆ

ดังนั้น ต่อหน้าของแสนรักที่ยืนอยู่ตรงคันนา เขาก็จับมือของเธอแล้วสอนวิธีการทำให้เธอ

“คือแบบนี้ ในทุ่งนานี้ เพราะว่ามีน้ำที่เอ่อท่วมอยู่ทำให้เกิดการลอยตัว ตอนที่เราปักลงไป ต้องกดไปที่ฐานของต้นกล้า ออกแรงไปด้วยนิดหน่อย”

“ออกแรงไปด้วย ?ต้องแรงแค่ไหนคะ?”

“อย่างน้อยนิ้วของคุณก็ควรจะลงไปถึงที่ตำแหน่งนี้”ผู้ปกครองชายคนนี้ยื่นมือไปแล้วกุมไปที่มือของเส้นหมี่ กะจะสาธิตให้ดู ว่าแรงต้องประมาณไหน

เมื่อเห็นภาพนี้ คนที่อยู่ตรงคันนา ก็อดรนทนไม่ไหวอีกต่อไปตวาดด้วยความโมโห“เส้นหมี่ เธอย้ายมานี่เลยนะ!แค่ดำนาก็ทำไม่เป็น นี่เธอโง่ขนาดนี้เลยหรือไง?”

เส้นหมี่“……”

สักพัก ก็ทำได้เพียงยิ้มแห้งให้กับผู้ปกครองคนนั้น“ ขอโทษด้วยนะคะ พ่อของเด็กนิสัยไม่ค่อยจะดี”

ผู้ปกครองชายตะลึง

พ่อของเด็ก ? เธอไม่เกี่ยวอะไรกับเขาไม่ใช่เหรอ ? แล้วทำไมต้องมาดุด่าเธอแบบนี้ ?

และแล้วเส้นหมี่ก็กลับมาภายใต้การจ้องมองที่สับสนของผู้ปกครองคนอื่นๆ พอกลับมา เธอก็มีอารมณ์ด้วยเล็กน้อย ดวงตากลมโตจ้องเขม็งมองไปที่ชายหนุ่มอย่างไม่พอใจ

“แสนรัก คุณทำอะไร ? ตัวเองไม่ลงมาทำงานก็ช่าง ยังจะมาอารมณ์เสียอีก นี่คุณอยากให้เด็กๆไม่ได้กินอาหารกลางวันหรือยังไง?”

“ผมอารมณ์เสีย ? เพราะคุณมันโง่ต่างหาก แค่เรื่องเล็กแค่นี้ก็ไม่รู้ ยังมีหน้าไปถามคนอื่นอีก?”

ชายคนนี้ไม่เพียงไม่รู้สำนึก แต่กลับยโสโอหังกว่าเส้นหมี่ ปากคอก็เราะร้ายด้วย

เส้นหมี่โกรธอย่างมาก ขว้างต้นกล้าไปตรงหน้าเขา“คุณฉลาด งั้นคุณก็มาทำสิ ? อย่าไปยืนโชว์อยู่ตรงนั้น เก่งนักก็มาทำเองเลย !”

คำพูดของเส้นหมี่นั้นพูดไปเพราะอารมณ์โมโห

เพราะชายชั่วคนนี้วอนหาเรื่องจริงๆ

แต่ที่ทำเอาเธอต้องตะลึงก็คือ ทันทีที่เธอพูดจบ ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงคันนาก็ถอดรองเท้าและถุงเท้าของตัวเองออก เผยให้เห็นข้อเท้าที่ขาวเนียนอย่างชัดเจน

เส้นหมี่อ้าปากค้าง

คิวคิวกับชินจังสองคน ดวงตากลมโตที่ราวกับลูกองุ่นดำก็เบิกกว้าง จ้องมองไปที่คนเป็นพ่ออย่างตะลึงงัน

แด๊ดดี้จะลงมา ?

นี่มันเป็นภาพที่หาดูได้ยากยิ่ง เมื่อกี้ยืนอยู่กับน้าแครอทตั้งนานสองนาน แค่จะลงมาใบหน้าก็เต็มไปด้วยความรังเกียจและขยะแขยง หนำซ้ำยังถูกกลุ่มคุณน้าคุณอาทั้งหลายต่างพากันหัวเราะเยาะอยู่ตั้งนาน

ตอนนี้กลับจะลงมาแล้วจริงๆ ?

เด็กน้อยสองคนถอยหลบหลังออกไปอย่างพร้อมเพรียง เพื่อแสดงความยินดีต้อนรับคนเป็นพ่อ

และเส้นหมี่เองก็ยืนอยู่ตรงนั้น ในที่สุดก็ได้เห็นชายหนุ่มผู้สูงส่งเอาขาอันทรงเกียรติจุ่มลงไปในดินโคลน

“ยี้——”

ทันทีที่เข้าไป แปลงนาที่ดินโคลนดำเลอะ กับผิวที่ขาวเนียนของคนผู้นี้ ความแตกต่างก็เกิดขึ้นอย่างชัดเจน

และผู้ชายคนนี้ ไม่ผิดไปจากที่คิด คิ้วที่ได้รูปของเขาก็ย่นเข้าหากัน ริมฝีปากอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงยี้ออกมาอย่างนึกรังเกียจ

ผู้ชายคนนี้ เป็นคนที่รักความสะอาด ตอนนี้มาอยู่ในสถานที่แบบนี้ มันยากสำหรับเขาจริงๆ

ความโกรธที่มีของเส้นหมี่ก็ค่อยๆจางหายไป

“พอเถอะพอได้แล้ว ฉันแค่ล้อคุณเล่นเฉยๆ คุณขึ้นไปเถอะ ฉันจัดการเอง”จากนั้นเธอก็หยิบต้นกล้าที่อยู่ตรงหน้าเขาขึ้นมา และเตรียมจะลงแปลงนาไป

แต่ว่า สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจก็คือ ชายคนนั้นกลับมองมาที่เธออย่างเย็นชา แล้วเดินลงไป

เส้นหมี่“……”

“ดีเลยๆ แด๊ดดี้ลงมาแล้ว แด๊ดดี้ เรามาดำนาด้วยกันดีไหม?”

มือน้อยๆของคิวคิวปรบมือด้วยความดีอกดีใจ

ชินจังก็ดีใจเช่นกัน เขานั่งยองๆลง แล้วหยิบเอาต้นกล้ายื่นไปให้คนเป็นพ่อ“แด๊ดดี้ อ่ะนี่”

แสนรักรับมันมา ในตอนนี้ ชายหนุ่มที่โลดแล่นอยู่ในวงการธุรกิจ นี่เป็นครั้งแรกที่รู้สึกปลาบปลื้มกับการที่ทำความดีและได้รับการชมเชย

ช่างเป็นอะไรที่หาดูได้ยากยิ่ง

ใบหน้าของเส้นหมี่ก็เบิกบานใจยิ่งขึ้น

เธอไม่กล้าไปพูดชมผู้ชายคนนี้แน่ ไม่อย่างนั้น คนที่รักหน้าตาตัวเองอย่างเขา ไม่แน่ก็อาจจะชักสีหน้าใส่เธอก็เป็นได้

เส้นหมี่ก็ลงไปด้วยเช่นกัน หยิบเอาต้นกล้ามาและกำลังจะสอนชายหนุ่ม กลับพบว่า ชายหนุ่มคนนี้แม้จะยืนอยู่ที่คันนา แต่ต้นกล้าต้นแรกที่เขาปักลงไป ก็ฝังแน่นอยู่กับที่อย่างมั่นคง

“แด๊ดดี้ เก่งที่สุดเลย!ปักได้แน่นมากๆเลย !”เมื่อคิวคิวเห็น ก็พูดชมแด๊ดดี้อย่างไม่ปิดบัง

แสนรักก็ยิ่งลำพองใจมากขึ้น

“แกคิดว่าฉันเหมือนแม่แกเหรอ ? โง่ไม่มีสมองจริงๆ!”

“……”

อีกแค่นิดเดียว เส้นหมี่ก็เกือบจะปาต้นกล้าใส่หน้าชายหนุ่มไปแล้ว !

เหยียบจมูกขึ้นหน้าแล้วใช่ไหม ไม่พูดแขวะเธอแล้วเขาจะตายหรือยังไง ?

เส้นหมี่อดทนเอาไว้

แต่ความจริงก็คือ ความสามารถของผู้ชายคนนี้ไม่ได้ธรรมดาเลยจริงๆ ต่อให้จะเพิ่งเข้ามามีส่วนร่วมในทีหลัง แต่เขาก็เข้าใจมันอย่างรวดเร็ว ปักต้นกล้าลงไป ก็ฝังแน่นอยู่ตรงนั้น

ในฝั่งของเส้นหมี่ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะมือของหญิงสาวเล็กเกินไปหรือเปล่า ก็ยังคงมีบางส่วนที่ลอยโผล่ขึ้นมา

“คุณหลบไป ไปแบ่งต้นกล้าตรงนั้นกับลูก ”

เมื่อแสนรักเห็น ก็ไปแย่งต้นกล้าจากมือเธอมาด้วยความรังเกียจ จากนั้นก็ออกปากพูดไล่เธอ

เส้นหมี่ความสามารถไม่เท่าคนอื่น ก็จึงต้องไปอยู่กับลูกชายแต่โดยดี

ผู้ปกครองคนอื่นๆในแปลงนาถัดไปเห็นเข้า อดไม่ได้ที่จะพูดคุยกัน“ครอบครัวของเด็กแฝด ทำกันเร็วจริงๆ พอคนเป็นพ่อลงมา ก็ทำได้ดีกว่าคนเป็นแม่ซะอีก ”