DC บทที่ 234: ข้าทำอะไรลงไป…

 

“แต้มถูกโอนเรียบร้อยแล้ว” ผู้อาวุโสเจ้ายื่นป้ายประจำตัวคืนให้กับซูหยางหลังจากที่โอนแต้มนิกายให้กับเขาสามพันแต้ม

 

แม้ว่าเขาอาจจะดูลังเลในการให้สามพันแต้มนิกายแก่ซูหยางสำหรับน้ำมันรัญจวน นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาคิดว่ามันไม่มีค่า

 

ตามจริงแล้วการจ่ายสามพันแต้มนิกายให้กับสิ่งที่มีความประสิทธิภาพเช่นเดียวกับโอสถหยินพ้นพิสัยอันล้ำค่าอีกทั้งมีประสิทธิภาพสูงกว่าถึงสามเท่า นั่นเหมือนกับการขโมยอีกฝ่ายได้อย่างเหลือเชื่อในใจของผู้อาวุโสเจ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโอสถหยินพ้นพิสัยเพียงเม็ดเดียวก็มีค่าสามพันแต้มนิกายแล้วสำหรับศิษย์

 

“ถ้าข้าแยกมันออกเป็นหลายขวดและขายแต่ละขวดให้ได้ราคาเท่ากับโอสถหยินพ้นพิสัยหนึ่งเม็ด เช่นนั้นข้าสามารถได้คืนสิ่งที่ข้าต้องใช้จ่ายไปได้อย่างง่ายดาย” ผู้อาวุโสเจ้าหัวเราะในใจ

 

“ถ้าไม่มีอะไรที่เจ้าต้องการแล้ว ก็กลับไปซะ” ผู้อาวุโสเจ้ากล่าวกับเขาหลังจากยื่นส่งป้ายประจำตัวให้กับเขา “ส่วนสำหรับข้อตกลงของเรา ข้าจักติดต่อเจ้ายามเมื่อข้าพร้อมแล้ว”

 

ซูหยางสามารถบอกได้ว่าผู้อาวุโสเจ้าไม่ต้องการเห็นหน้าเขาอีกต่อไป แต่โชคร้ายเขายังจำเป็นต้องซื้อวัตถุดิบเพื่อที่จะผลิตน้ำมันรัญจวนมากกว่านี้

 

“ข้าต้องการทุกอย่างในรายการนี้” ซูหยางแสดงใบรายการให้เขาอีกครั้ง

 

“…”

 

ผู้อาวุโสเจ้าไม่ได้พูดอะไรกับเขาเพียงหยิบใบรายการ

 

“เจ้าช่วยจัดวัตถุเหล่านี้จากด้านหลังให้ข้าหน่อยสิ” ผู้อาวุโสเจ้าร้องขอซุนจิงจิงขณะที่เขายื่นส่งแผ่นกระดาษให้เธอ

 

ซุนจิงจิงพยักหน้าและกลับเข้าไปด้านหลังอีกครั้ง

 

สองสามนาทีหลังจากนั้น ซุนจิงจิงก็กลับมาพร้อมถุงใบใหญ่ใส่วัตถุดิบ

 

“ทุกสิ่งที่เจ้าจดไว้อยู่ในนี้ ตรวจสอบอีกครั้งถ้าเจ้าต้องการ”

 

ซูหยางไม่ต้องเปิดถุงเพื่อดูวัตถุดิบภายใน และเพียงแค่สูดดมครั้งเดียวเพื่อตรวจดูว่ามีอะไรภายในถุง

 

“นั่นมิจำเป็น” เขากล่าวกับเธอขณะที่เขาถ่ายโอนแต้มสองพันแต้มนิกายคืนให้ผู้อาวุโสเจ้า

 

หลังจากขายน้ำมันรัญจวนให้กับผู้อาวุโสเจ้าหนึ่งขวดได้มาสามพันแต้มนิกายและใช้สองในสามของแต้มซื้อวัตถุดิบพอสำหรับน้ำมันรัญจวนสองขวด ซูหยางก็ออกจากคลังมุกพิสุทธิ์พร้อมหนึ่งพันแต้มนิกายที่คงเหลืออยู่สำรองไว้ในอนาคต

 

วัตถุประสงค์ทั้งหมดของเขาได้รับการเติมเต็มโดยไม่สะดุด ยิ่งไปกว่านั้นการเดิมพันเล็กน้อยกับผู้อาวุโสเจ้าซึ่งประกันว่าสมบัติมีค่าจากคลังมุกพิสุทธิ์อยู่ในกระเป๋าเขาแน่นอน

 

กล่าวไปแล้วถึงแม้ว่าเขาจะได้รับวัตถุมีค่ามากที่สุดที่คลังมุกพิสุทธิ์เสนอ มันก็ยังไม่มีประโยชน์อะไรมากกับคนอย่างซูหยาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขามีพลังการฝึกปรือถึงระดับเก้าเขตปฐพีวิญญาณ

 

ยามเมื่อซูหยางกลับถึงบ้าน เขาก็นำวัตถุดิบทุกอย่างออกมาจากถุงและเริ่มผลิตน้ำมันรัญจวนมากกว่าเดิม

 

ในเวลานั้นย้อนกลับไปยังคลังมุกพิสุทธิ์ ผู้อาวุโสเจ้าถามซุนจิงจิงว่า “เจ้าจำวัตถุในใบรายการทั้งหมดได้หรือไม่”

 

ซุนจิงจิงพยักหน้า

 

“ข้าต้องการให้เจ้าเก็บใบรายการและน้ำมันรัญจวนนี้ไว้เป็นความลับจากทุกคน แม้ว่าจะเป็นผู้อาวุโสนิกายก็ตามถ้าพวกเขาถามถึง จนกว่าผู้นำนิกายจะมีคำสั่งว่าพวกเราควรทำอย่างไร”

 

“ข้าเข้าใจแล้ว” เธอตอบกลับอย่างรวดเร็ว

 

“ดีมาก ช่วยบอกปู่ของเจ้าให้มาหาข้าภายในสองวัน เพราะว่าข้ามีเรื่องสำคัญที่จะปรึกษากับเขา”

 

“ข้าจักบอกเขาเช่นนั้น”

 

“สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ เจ้ามิจำเป็นต้องคิดมาก ในเมื่อมันเป็นเรื่องค่อนข้างปกติภายในนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย และเมื่อสุดท้ายเจ้าพบคู่ฝึก เจ้าจักทำเรื่องที่น่าอายยิ่งกว่าในห้องนั้น” ผู้อาวุโสเจ้าไม่ต้องการให้ซุนจิงจิงใส่ใจกับการกระทำของตัวเธอเองในวันนี้ เพราะว่ามันอาจจะมีผลต่อการฝึกวิชาของเธอเอง

 

“ข้า…” แม้ว่าเธอจะประทับใจกับการปลอบโยนของอีกฝ่าย ซุนจิงจิงก็ไม่รู้ว่าจะตอบสนองกับผู้อาวุโสเจ้าอย่างไร ในเมื่อนั่นยิ่งจะทำให้เธอรู้สึกอายและกระอักกระอ่วนยิ่งกว่าเดิม

 

“เจ้าสามารถไปได้แล้ววันนี้” ผู้อาวุโสเจ้าพลันกล่าวกับเธอ

 

มีเพียงคนไม่กี่คนภายในนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัยที่จะได้รับการดูแลแบบซุนจิงจิงจากผู้อาวุโสเจ้า เพราะว่าเธอเป็นหลานสาวของผู้อาวุโสซุน ซึ่งเป็นเพื่อนกับผู้อาวุโสเจ้านับตั้งแต่วันที่พวกเขาเป็นศิษย์นอก ผู้อาวุโสเจ้าไม่ได้มองดูซุนจิงจิงเพียงแค่เป็นศิษย์

 

ตามจริง ทั่วทั้งนิกายกุสุมาลย์พ้นพิสัย ซุนจิงจิงเป็นศิษย์เพียงคนเดียวที่สามารถทำตัวสบายๆเมื่ออยู่ใกล้กับคนเช่นผู้อาวุโสเจ้า

 

กล่าวไปแล้ว ซุนจิงจิงก็รู้ดีว่าผู้อาวุโสเจ้าดูแลเธออย่างลำเอียง แต่เธอก็ตัดสินใจที่จะทำเหมือนว่าเธอไม่สามารถแยกแยะได้ ในเมื่อเธอไม่ต้องการให้ศิษย์คนอื่นเริ่มต้นข่าวลือที่เป็นอันตราย

 

หลังจากที่ได้รับการบอกให้กลับไปได้ ซุนจิงจิงก็ออกจากคลังมุกพิสุทธิ์กลับไปยังบ้าน

 

ยามเมื่อเธอกลับถึงห้องของเธอเอง ซุนจิงจิงก็ปิดห้องขังตนเองแม้ว่าจะมีเพียงคนเดียวอาศัยอยู่ในบ้านนั้น

 

เมื่อเธอมั่นใจว่าไม่มีใครอยู่รอบๆ ซุนจิงจิงก็นำเอาขวดเล็กๆทีซ่อนอยู่ในเสื้อผ้าของเธอออกมาและจ้องมองดูมันด้วยท่าทางสำนึกผิด

 

“ข้าเสียใจจริงๆ ท่านผู้อาวุโสเจ้า…” เธอถอนหายใจ

 

ซุนจิงจิงได้แอบเอาน้ำมันรัญจวนใส่ในภาชนะของเธอเองออกมาบางส่วนเมื่อเธอยังอยู่ภายในอีกห้อง และนำกลับมาบ้าน

 

เมื่อเธอได้เรียนรู้ถึงความพึงใจที่น้ำมันรัญจวนมีผลต่อร่างของเธอ เธอไม่อาจต่อต้านความกระหายอยากจนทำให้ขโมยบางส่วนออกมาเพื่อตัวเธอเองใช้ที่บ้านยามเมื่อเธออยู่คนเดียว

 

“ข้าทำอะไรลงไป… เมื่อคิดว่าข้าจักทำอะไรเช่นนี้…ข้าต้องบ้าไปแล้ว”

 

ซุนจิงจิงถอนหายใจเมื่อผู้อาวุโสเจ้าไม่ได้สงสัยเธอหลังจากที่เห็นว่าหนึ่งในสามของน้ำมันรัญจวนหายไป กระทั่งยอมรับคำขอโทษของเธอมิเช่นนั้นเธอคงต้องฆ่าตัวตายด้วยความอับอาย และถึงแม้ว่าเธอจะเหยียดหยามการกระทำของตนเอง แต่เธอกลับไม่มีความเสียใจแม้แต่น้อย

 

ยามเมื่อซุนจิงจิงเตรียมตัวด้วยการเปลือยกายบนเตียงแล้ว เธอก็ทำการลูบไล้น้ำมันรัญจวนบางส่วนบนส่วนที่ไวต่อความรู้สึกที่สุดของเธอ

 

สองสามวินาทีหลังจากนั้น ซุนจิงจิงก็เริ่มครวญครางขณะที่สร้างความรัญจวนให้กับตัวเอง