กำลังภายในที่หลั่งไหลเข้ามาในร่างกายทำให้แด๊กซ์รู้สึกเหมือนตัวกำลังจะระเบิด

คัลลัมกัดฟันของเขาในขณะที่เขาถ่ายโอนพลังบ่มเพาะทั้งชีวิตของเขาไปยังแด๊กซ์ ในทางวรยุทธ์จะไม่สามารถถ่ายโอนกำลังภายในไปยังผู้อื่นได้ แต่คัลลัมได้ฝึกฝนบ่มเพาะวิถีนี้ที่เรียกว่าวิถีปลูกถ่ายลมปราณ วิถีนี้เป็นของนิกายตำหนักอมตะและมีเพียงประมุขนิกายเท่านั้นที่สามารถฝึกฝนบ่มเพาะวิถีนี้ได้

ไม่มีวิถีอื่นใดอีก นอกจากวิถีปลูกถ่ายลมปราณในการถ่ายโอนกำลังภายในของตัวเองไปยังผู้อื่น

คัลลัมรู้ดีว่าเขาใกล้จะหมดลมหายใจได้ทุกเมื่อ แทนที่จะปล่อยให้พลังของเขาทั้งหมดสูญเปล่าเขาจึงเลือกที่จะถ่ายโอนไปให้กับแด๊กซ์เพื่อเป็นการตอบแทนเขา!

“คัลลัม ท่านจะต้องรอด! ผมมีน้องชายที่เชี่ยวชาญในการกลั่นโอสถ เขาช่วยท่านได้!” แด๊กซ์ตะโกน

“ไม่มีประโยชน์! ไม่มีโอสถอะไรที่จะช่วยข้าได้ อย่าขยับ!” คัลลัมดุด่าขณะเขาขบเคี้ยวฟัน

คลื่นกำลังภายในอันแข็งแกร่งยังคงไหลผ่านเข้าสู่ร่างกายของแด๊กซ์ เขารู้สึกว่าเส้นลมปราณของเขาได้รับการชำระล้างด้วยกำลังภายในอันบริสุทธิ์ ระดับของเขาพุ่งทะยานสูงขึ้น!

ปรมาจารย์ยุทธ์ขั้นสี่ ปรมาจารย์ยุทธ์ขั้นห้า ปราชญ์ยุทธขั้นหนึ่ง!

เป็นเรื่องที่น่าหวาดหวั่นเขาบรรลุจากระดับปรมาจารย์อาวุโสไปสู่ปราชญ์ยุทธในเวลาอันสั้น!

หึ่ง!

คัลลัมสูดลมหายใจเข้ายาวและในที่สุดก็ยกฝ่ามือออกจากหัวแด็กซ์ เขามีอาการบาดเจ็บแสนสาหัสอยู่แล้ว แต่หลังจากถ่ายโอนกำลังภายในทั้งหมดของเขาไปยังแด๊กซ์ เขาก็ผอมแห้งลงไปมากจนดูเหมือนกับว่าเขาแก่ขึ้นไปอีกสิบปี เขาดูเหมือนชายชราในวาระสุดท้ายของชีวิต

คัลลัมมองไปที่แด๊กซ์และกล่าวอย่างโรยริน “ระดับของท่านค่อนข้างปานกลาง ฉะนั้นท่านจึงสามารถบรรลุได้ถึงแค่ระดับปราชญ์ยุทธขั้นหนึ่งเท่านั้น ยังมีกำลังภายในบางส่วนที่ท่านยังซึมซาบไม่ได้”

“อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ท่านยังไม่ได้ซึมซาบไปในวันนี้ มันจะค่อย ๆ ถูกปลดปล่อยออกมาอย่างช้า ๆ จากสนามพลังของท่านอาจจะใช้เวลาเป็นปี ๆ การบรรลุระดับของท่านจะพัฒนาขึ้นมากกว่าผู้บ่มเพาะทั่วไปถึงสิบเท่า! หากท่านมีพรสวรรค์ ภายในหนึ่งปี ท่านก็จะสามารถบรรลุถึงระดับจักรพรรดิยุทธได้!”

แด๊กซ์รู้สึกประหลาดใจและปลื้มปริ่ม เขาวิตกกังวลเป็นอย่างมากเมื่อเห็นว่าคัลลัมใกล้จะสิ้นลมหายใจของเขาแล้ว

คัลลัมฝืนยิ้ม “ข้าท่องโลกมาทั้งชีวิต ตอนนี้ข้าไม่มีอะไรค้างคาแล้ว เพราะรู้ว่าพลังของข้าจะไม่สูญเปล่าก่อนที่ข้าจะสิ้นลม ข้าไม่เสียใจเลย! ฮ่าฮ่า!”

แม้ว่าเขาจะดูอ่อนแอ แต่เขาก็กล่าวออกมาด้วยความภาคภูมิใจ

แด๊กซ์มองเขาด้วยความปวดร้าว “ท่านยังมีความปรารถนาอะไรหลงเหลืออยู่อีกไหม? ถ้ามีอะไรที่ยังค้างคาพอให้ผมช่วยได้ ผมยินดี!”

คัลลันหยิบป้ายหยกสีม่วงและจดหมายออกมา

เขามอบมันให้กับแด๊กซ์และกล่าว “จดจำไว้ นี่คือป้ายประจำตัวของข้า ซึ่งมันเป็นสัญลักษณ์ของประมุขนิกายแห่งนิกายตำหนักอมตะ”

“พร้อมกับจดหมายฉบับนี้พินัยกรรมของข้า ท่านต้องนำมันกลับไปที่แท่นบูชาของนิกายตำหนักอมตะและมอบมันให้กับกุนซือพัดกระจ่างเชสเตอร์ วิลสัน”

ดวงตาของคัลลัมค่อย ๆ ปิดลงในขณะที่เขาพยายามจะลืมตาตื่น “จำไว้ให้ดี ท่านจะต้องส่ง… มอบมันให้… เชสเตอร์ บอกกับเขาว่า… แม้ว่านิกายตำหนักอมตะจะถูกหลายคนตีตราว่าเป็นลัทธิมารร้าย แต่ถ้าวันหนึ่งเกิดสงครามระหว่างโลกใหม่และจักรวาลโลก อย่า… อย่าเป็นคนทรยศ ต้อง… ต้อง… ไม่… เป็น… ไส้ศึก… โลกใหม่”

แด๊กซ์เก็บป้ายประจำตัวของคัลลัมและจดหมายไว้ เขาพยักหน้าและให้ความมั่นใจกับคัลลัม “ไม่ต้องห่วง ผมจะเอามันไปมอบให้กับเขาด้วยตัวผมเอง”

คัลลัมพยักหน้าและค่อย ๆ หลับตาลง

หัวใจของแด๊กซ์เจ็บปวดรวดร้าว

ตุ้บ!

เขาคุกเข่าและก้มกราบคำนับคัลลัมสามครั้ง แม้ว่าเขาจะไม่มีความสัมพันธ์แบบอาจารย์กับลูกศิษย์ต่อคัลลัม แต่คัลลัมก็ได้ถ่ายโอนกำลังภายในทั้งหมดของเขาให้ ด้วยเหตุนี้เขาจึงรู้สึกสำนึกในบุญคุณตราบชั่วนิรันดร์