บทที่ 367 นางมีพลังยุทธ์แก่กล้าเช่นนั้นได้อย่างไร

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 367 นางมีพลังยุทธ์แก่กล้าเช่นนั้นได้อย่างไร
ก็ไม่รู้ว่ากู้ชูหน่วนเอากำลังมาจากที่ไหน กระบวนท่าหนึ่งหนักกว่าอีกกระบวนท่าหนึ่ง กระบวนท่าหนึ่งรุนแรงกว่าอีกกระบวนท่าหนึ่ง อัดจนหัวหน้ากองธงกล้วยไม้กระอักเลือด ลุกขึ้นไม่ไหว

นี่ไหนเลยเป็นวรยุทธ์ของระดับหนึ่งระยะกลาง? อย่างนั้นต้องถึงระดับหกกระมัง?

“ปัง…”

หัวหน้ากองธงกล้วยไม้ถูกอัดอีกครั้ง พลังฝ่ามือแกร่งซัดเขาจมดินสามฟุต กระดูกในตัวเกือบหลุดออกจากกันโดยสมบูรณ์

หัวหน้ากองธงกล้วยไม้วาวโรจน์ เขาไม่เคยถูกผู้ใดซ้อมยับเยินเช่นนี้มาก่อน ความอัปยศทำให้เขาระเบิดพลังแฝงมหาศาล มือซ้ายของเขารวมพลัง ใช้พลังมาร อย่างโถมฟ้ากลบแผ่นดิน ลูกไฟมุ่งใส่กู้ชูหน่วน ทุกแห่งที่ลูกไฟผ่าน หญ้าดอกโรยรา ต้นไม้อับเฉา แม้แต่กลางอากาศยังพกพากลิ่นกัดกร่อนด้วย

ปุถุชนหากประสบ ต้องตายอย่างมิต้องสงสัย

แต่ครั้นกู้ชูหน่วนสะบัดแขนเสื้อ ลูกไฟทั้งหมดก็ระเบิดออก ส่งเสียงตูมตาม

ถ้าไม่ใช่เพราะระเบิดจนทำให้พื้นผิวเกิดเป็นหลุมใหญ่เป็นหลุมๆ พวกเขาก็ไม่กล้าเชื่อว่าลูกไฟที่กู้ชูหน่วนโบกไปอย่างนั้น กลับมีอานุภาพมากขนาดนี้

เห็นกู้ชูหน่วนพัดเบาๆ อีกครั้ง อานุภาพที่เหลือของลูกไฟบนพื้นผิวก็กวาดไปทางหัวหน้ากองธงกล้วยไม้

ลูกไฟมีพิษ นำพาการกัดกร่อน หัวหน้ากองธงกล้วยไม้หลบหลีกไม่ทัน ใบหน้าถูกลูกไฟถากไป ใบหน้าถูกกัดกร่อนด้วยความเร็วที่ตาเนื้อมองเห็น

“อ้า…”

เขาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด มือซ้ายกุมใบหน้าที่ผุดเป็นฟองไม่หยุดเพราะการกัดกร่อน ใบหน้าเหี้ยมเกรียม ร้องครวญหวีดหวิว

น่าหลันหลิงลั่วกับเย่จิ่งหานดวงตาหดเล็กเล็กน้อย

พลังแกร่งนัก

รับลูกไฟของหัวหน้ากองธงกล้วยไม้ที่ส่งมาด้วยกำลังเต็มพิกัดได้ด้วยมือเปล่า ทั้งยังทำให้ลูกไฟระเบิดได้หมด…

กู้ชูหน่วนมีพลังแก่กล้าเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไร?

เป็นพวกเขาก็ไม่แน่ว่าจะทำได้

จิตใจทั้งสองมีความฉงนฉงายเป็นปม

น่าหลันหลิงลั่วฉงนใจมากยิ่งกว่า

สองขาของเย่จิ่งหานมิได้พิการหรือ? เหตุใดจึงยืนอยู่ได้?

แล้วมองกู้ชูหน่วนอีก องคาพยพนางยังเป็นเหมือนดั่งวันวาน แต่กลิ่นอายรอบตัวนางกลับเกิดความเปลี่ยนในคุณสมบัติ โดยเฉพาะอารมณ์เคร่งขรึมเย็นชาของนาง ชวนให้ขนลุกโดยไม่หนาว

“กู้ชูหน่วน ข้าจะฆ่าเจ้า…!”

หัวหน้ากองธงกล้วยไม้คำราม ใช้พลังมารอีกครั้ง เผาพลังวิญญาณของตัวเอง ดาหน้าไปทางกู้ชูหน่วนอย่างบังเกิดอสนีบาตฟ้า

กระบวนท่านี้ใช้ชีวิตของตัวเองเป็นค่าตอบแทน ตายพร้อมกับอีกฝ่าย

น่าหลันหลิงลั่วกับเย่จิ่งหานตระหนก ขณะจะออกมือช่วยกู้ชูหน่วน กลับเห็นนางยิ้มเยาะคล้ายมองมดปลวก นางไม่ถอย ไม่โต้ ไม่บุก ฝ่ามือหนึ่งซัดมาทางกู้ชูหน่วนอย่างรุนแรงอีกครั้ง

“อั๊ก…”

ห้าอวัยวะตันหกอวัยวะกลวง เจ็ดเอ็นแปดชีพจรของหัวหน้ากองธงกล้วยไม้แทบแหลกเหลว เลือดสดทะลักออกมา กายตกลงอย่างไร้กำลังเสมือนว่าวสายขาด

เคราะห์ดี กำลังเสริมของเขามาถึง พุ่งไปทางกู้ชูหน่วนด้วยลักษณะมุงล้อม ประวิงเวลาให้เขามีโอกาสหอบหายใจพักหนึ่ง

กู้ชูหน่วนตวัดเท้าขึ้น ตวัดปืนเงินกระบอกหนึ่ง กราดไปทางยอดฝีมือเผ่าปีศาจด้วยท่วงท่ากวาดล้างทหารพันนาย

“ปังๆๆ…”

เดิมเป็นยอดฝีมือคนสนิทที่หัวหน้ากองธงกล้วยไม้บ่มเพาะขึ้นมากับมือด้วยความยากลำบากและเนิ่นนาน ยามนี้แต่ละคนกลับตกตายอนาถด้วยน้ำมือกู้ชูหน่วนราวกับเกี่ยวผักกุยช่าย

นางยกมือลั่นกระสุน จุดที่ผ่านเสมือนอสูรชั่วร้าย ทางที่ไปศัตรูแพ้พ่าย ไร้คนทัดทาน แทบเท้าเป็นศพกองพะเนิน

คนสนิทที่บ่มเพาะมาอย่างยากลำบาก ชั่วคืนเดียวแทบถูกสังหารไปหมดสิ้น หัวหน้ากองธงกล้วยไม้รับกับฝันร้ายนี้ไม่ได้ กระอักเลือดสดออกมาอีกครั้ง

“อั๊ก…”

หลังจากฉีโส่วคนสุดท้ายล้มลง กู้ชูหน่วนอาบเลือดทั่วตัว นัยน์ตาเย็นเยียบ ทั่วสรรพางค์กายแผ่จิตสังหารเย็นเยือกอันชวนสยองเกล้า

นางเดินไปทางหัวหน้ากองธงกล้วยไม้ทีละก้าวๆ จิตสังหารไม่อาจกลบเกลื่อน

นาทีนี้ หัวหน้ากองธงกล้วยไม้อดลนลานไม่ได้

เขาอยากหนี กู้ชูหน่วนจ้องเขาเขม็ง เย่จิ่งหานกับน่าหลันหลิงลั่วหนึ่งซ้ายหนึ่งขวาขวางการไปของเขา ด้านหลังเป็นหินหลอมเหลวเดือดพล่านของทะเลโลหิต ไม่อาจหลบหนี

กู้ชูหน่วนคนเดียวเขายังเอาชนะไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเย่จิ่งหานกับเจ้าหุบเขาตันหุย

อีกอย่าง…

สองขาของเย่จิ่งหานหายดีตั้งแต่เมื่อไร?

ขณะเขาเป็นอัมพาต เขายังสู้ไม่ได้ ยามนี้…

หัวหน้ากองธงกล้วยไม้บังเกิดความสิ้นหวัง มองกู้ชูหน่วนตีประชิดทีละย่างก้าว หลับตาสนิท รอคอยความตาย

เย่จิ่งหานกับน่าหลันหลิงลั่วก็คิดเช่นนั้น ขอเพียงกู้ชูหน่วนใช้อีกกระบวนท่า หัวหน้ากองธงกล้วยไม้ต้องตายแน่

แต่คิดไม่ถึง กลับเกิดเรื่องเหนือคาด

ร่างกู้ชูหน่วนชะงักงัน สีหน้าขาวซีดเหมือนกระดาษมิปานโดยฉับพลัน จากนั้นก็กระอักเลือดสดออกมาคำหนึ่ง ร่างกายระเบิดบุปผาโลหิตเป็นดวงๆ

นัยน์ตาเย่จิ่งหานหดเล็ก แล่นกาย เข้าอุ้มกู้ชูหน่วนในชั่วประกายไฟหินเพลิง

“อาหน่วน…”

“ยัยขี้เหร่…”

ลมหายใจนางแผ่วลงเรื่อยๆ ร่างกายก็เย็นเยียบทุกที หู จมูก มุมปาก รวมไปถึงบุปผาเลือดที่ระเบิดออกมาจากร่างกาย เลือดสดทะลักออกฮวบฮาบราวกับแม่น้ำที่ทำนบพังทลาย

เย่จิ่งหานลนลาน เนื้อตัวสั่นเทิ้มอย่างระงับไม่อยู่ เขาอุดบาดแผลของกู้ชูหน่วนที่มีเลือดพรั่งพรูออกมา เรียกอย่างร้อนรน “อาหน่วน! เจ้าอย่าทำข้าตกใจ! เจ้าตื่นสิ!”

สองมือของน่าหลันหลิงลั่วก็อุดปากแผลที่มีเลือดไหลของกู้ชูหน่วนด้วย แต่ปากแผลมากเกินไป ไม่ว่าเขาจะอุดอย่างไรก็อุดได้ไม่ทั่ว

น่าหลันหลิงลั่วชิงตัวกู้ชูหน่วน ถอนเท้าคิดวิ่งลงเขา

เย่จิ่งหานตวาดด้วยโทสะ “ที่นี่ห่างจากตีนเขาขนาดนั้น แบกลงไปนางได้เลือดไหลตายก่อนแน่”

“เช่นนั้นจะทำอย่างไร?”

“เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ ข้าขอสั่งให้เจ้าปรากฏตัวออกมาเดี๋ยวนี้ เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์…”

หัวหน้ากองธงกล้วยไม้เห็นดังนั้นจึงฉวยโอกาสหนี เหลือชีวิตน้อยๆ ของเขาได้อย่างหวุดหวิด

มีหรือที่เย่จิ่งหานกับน่าหลันหลิงลั่วจะไม่รู้ เพียงแต่เวลานี้พวกเขาสนใจกู้ชูหน่วนมากกว่า ก็แค่หัวหน้ากองธงกล้วยไม้คนเดียวเท่านั้น อนาคตค่อยกำจัดก็สิ้นเรื่อง

“ซี่ๆ…”

ไม่รู้เสียงงูดังมาจากแห่งหนไหน แพล็บเดียว สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่มโหฬารก็มาอย่างลมกรดกระแสไฟ

ปรายตามอง กลับเป็นงูยักษ์เก้าหัวร้อยกว่าเมตร

เย่จิ่งหานเอ่ยอย่างร้อนรน “เร็ว! พาพวกเราลงเขาไปหาหมอ!”

“ซี่ๆ…”

หัวโตๆ ของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์โคลงเคลง เห็นสภาพอนาถของกู้ชูหน่วน ร่างกายก็พุ่งไปด้วยความรวดเร็ว ให้กู้ชูหน่วนและคนอื่นๆ ขึ้นหลัง

ครั้นมันมองลงไป ขณะกำลังคิดจะจากไป ก็เห็นอี้เฉินเฟยนอนจมกองเลือดเช่นกัน หางงูตวัดหนหนึ่ง นำอี้เฉินเฟยขึ้นมาด้วย

จากที่ไกลๆ ผู้อาวุโสหลายคนของเผ่าหยกมาถึง เหตุใดสีหน้าแต่ละคนจึงเปลี่ยนพลัน

“อาหน่วน…อาเฉิน…เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ เร็ว! พาพวกเข้ากลับหุบเขา!”

“พวกเจ้าคิดจะทำอะไร?” เย่จิ่งหานเอ่ยเสียงเย็น ดวงตายะเยือกไร้อารมณ์

น่าหลันหลิงลั่วถือพัดเซวียนกู่อยู่ในมือ กระโดดลงจากตัวงู “เจ้าพายัยขี้เหร่ไปรักษาบาดแผลก่อน ข้าจะสกัดพวกเขาไว้”

“เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ ลงเขา” เย่จิ่งหานเอ่ย “อาการของพวกเขา หมอข้างล่างก็รักษาไม่ได้ เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ ยังเฉยอยู่ทำไม ยังไม่รีบกลับหุบเขาอีก!”

หัวเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์หันไปหันมา มองเย่จิ่งหาน แล้วมองเหล่าผู้อาวุโสเผ่าหยก สุดท้ายมันสลัดเย่จิ่งหานทิ้ง แล้วยกผู้อาวุโสเผ่าหยกขึ้น ออกจากภูเขาน้ำเต้าโลหิตราวกับลมหมุน

เย่จิ่งหานกับน่าหลันหลิงลั่วมองกันไปมองกันมา อนุมานความสัมพันธ์ระหว่างเผ่าหยกกับกู้ชูหน่วนในใจ

อาหน่วน…

อาเฉิน…

จากการเรียกของพวกเขา พวกเขาน่าจะรู้จักกันถึงจะถูก

เย่จิ่งหานกุมหัวใจของตัวเองแน่น เค้นคำพูดหนึ่งออกมาจากร่องฟัน “ตาม! ต่อให้สุดหล้าฟ้าเขียว ก็ต้องตามพวกเขากลับมาให้ได้!”