บทที่ 487 ขโมยคัดลอก

บัญชามังกรเดือด

หม่าจินหยู่มองเซียวเฟิง แล้วพูดด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย : “น้องชาย นายเตรียมตัวพร้อมแล้วหรือยัง ?”

เซียวเฟิงพยักหน้า : “ผมเริ่มได้ทุกเมื่อ”

หยางคุนกับแอนโทนี่ ต่างก็บอกว่าเตรียมตัวพร้อมแล้ว

“งั้นก็ดี ตอนนี้เริ่มจับฉลาก”

 

เหยียนปินให้ทีมงาน มอบสองกล่องจับฉลากไปที่เบื้องหน้าของหยางคุนกับหม่าจินหยู่

หยางคุนยิ้มเอ่ย : “ลูกผู้พี่ก่อนเลยเถอะครับ”

หม่าจินหยู่ก็ไม่ถ่อมตนด้วย หยิบเอาหนึ่งอัน หลังจากเปิดดู บนฉลากด้านในเขียนตัวอักษร “1” อยู่

“หยางคุน เธอไม่ต้องดูแล้วล่ะ เราบรรยายการประมูลก่อน” เขาพูดด้วยเสียงคร่ำเคร่ง

หม่าจินหยู่พยักหน้าให้กับเซียวเฟิง

  

เซียวเฟิงหยิบแฟลชไดรฟ์ออกมาอันหนึ่ง แล้วสาวเท้าไปที่เวทีกล่าวบรรยาย

เขาเอาแฟลชไดรฟ์เสียบที่คอมพิวเตอร์ด้านข้าง ภาพก็ค่อย ๆ เปิดบนจอฉายภาพ

เขาไม่ได้เปิดการออกแบบของตัวเองในทันที แต่แนะนำวิวัฒนาการของอาคาร รวมทั้งมุมมองของตัวเองให้คร่าว ๆ ก่อน

จากนั้น ในภาพเริ่มปรากฏอาคารสไตล์แตกต่างกันหลายประเภท

อาคารพวกนี้ไม่งดงาม ก็โอ่อ่า ไม่แปลกประหลาด ก็นำไปใช้ได้จริง

แม้ว่ามองดูแล้วแต่ละอย่างไม่เหมือนกันเลย แต่ว่าทั้งหมดมีจุดร่วมกัน นั่นก็คือล้วนเป็นอาคารที่มีความเป็นสัญลักษณ์ของท้องที่

หลอมรวมประเพณีพื้นบ้านท้องที่ ได้แสดงบทบาทยิ่งใหญ่ เพื่อยกระดับชื่อเสียงท้องที่

เสียงของเซียวเฟิงทุ้มต่ำ ยังมีคุณสมบัติเป็นแม่เหล็กพิเศษอย่างหนึ่งด้วย เริ่มบรรยายอย่างคล่องแคล่ว ยังมีมุมมองเอกลักษณ์ของตัวเขาเองอีกมากมายในนั้นด้วย

หลังจากฟังจบ เหยียนปินและคนอื่น ๆ อดไม่ได้ที่จะพยักหน้า

ตอนนี้ พวกเขามีความเข้าใจถึงความสำคัญของพื้นที่แลนด์มาร์คในระดับลึกซึ้งยิ่งขึ้นแล้ว

“ผู้นำทุกท่าน ที่ผมกล่าวพวกนี้ไปนั้น อันที่จริงเพื่อเป็นการให้ทุกคนเข้าใจความคิดการออกแบบของผมให้ดีขึ้น”

“จากนี้ ก็คือภาพแนวคิดอาคารที่ผมออกแบบที่ดินหรูอี้ของเมืองจิ่นหู”

“เชิญทุกคนรับชม”

บนจอ ภาพแปรเปลี่ยน อาคารหลังหนึ่งค่อย ๆ สูงขึ้น

เป็นหอคอยไข่มุก มองดูแล้วงดงามประณีตมาก

ที่วิเศษคือ จู่ ๆ แสงไฟหน้าจอเปลี่ยนเป็นมืดสลัว กลายเป็นทิวทัศน์ยามค่ำคืน หอคอยไข่มุกเริ่มสว่างจากบนถึงล่างตามลำดับ

แสงไฟอันงดงามพวกนี้ ประกอบกับน้ำทะเลสาบเขียวมรกตด้านข้าง รวมกับหญิงสาวสมัยโบราณกำลังหวีหน้าแต่งหน้ากับกระจกอยู่เลย

“เยี่ยม !”

“งดงามเหลือเกิน !”

ฉากที่งดงามและหรูหรา ทำให้เหยียนปินและคนอื่น ๆ คนไม่ได้ที่จะเริ่มปรบมือ

เหยียนปินเอ่ยด้วยความตื่นเต้น : “นักออกแบบเซียว ช่วยแนะนำอาคารหลังนี้โดยละเอียดหน่อยได้ไหม ?”

หม่าจั๋วชุนเอ่ยด้วยความตื่นเต้น : “นักออกแบบเซียว อย่าตื่นเต้น ค่อย ๆ พูด !”

อันที่จริงคนที่ตื่นเต้นคือเขา เห็นผลลัพธ์ได้รับการยอมรับจากพวกกรรมการแล้ว เขากำมือด้วยความตื่นเต้น เหงื่อไหลท่วมฝ่ามือ

หม่าจินหยู่ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ที่ยุ่งมาหลายวันหลายวัน ไม่ได้เสียเปล่าอย่างที่คาดไว้เลย

ตอนนี้ ก็คือช่วงเวลาที่ประจักษ์เป็นพยานสิ่งมหัศจรรย์สุดท้ายแล้ว

โดยเฉพาะแสงไฟงดงามนี้ เขาคิดออก หลังจากที่เขากับเซียวเฟิงเปิดดูอาคารมากมายจากในและต่างประเทศเพื่อค้นคว้าประกอบ

เขาเชื่อว่าสามารถเอาชนะหัวใจของเหล่ากรรมการได้แน่

เซียวเฟิงกล่าวเสียงดัง : “ทางใต้ของเราเป็นเขตที่กำเนิดของอัจฉริยะบุรุษ กำเนิดหญิงงามมากมายนับตั้งแต่โบราณกาล อย่างที่ทุกคนได้เห็น อาคารหลังนี้ ก็คือการออกแบบโดยเลียนแบบเทพธิดา”

“ผมเตรียมตั้งชื่อเธอว่าเป็นอาคารเทพธิดา”

“ความสูงที่ออกแบบไว้ สี่ร้อยแปดสิบสี่เมตร”

“แม้ว่านี่ไม่ใช่ความสูงที่สูงที่สุด แต่ผมเชื่อว่า หลังจากสร้างเสร็จ สามารถเป็นตัวแทนเมืองจิ่นหูให้ชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วโลกได้แน่ครับ”

“รายละเอียดโดยเฉพาะเจาะจง สามารถรอรายงานรายละเอียดหลังจากประชุมได้ครับ”

“ผมได้กล่าวเสร็จสิ้นแล้วครับ”

ณ ที่แห่งนี้ เหยียนปินและคนอื่น ๆ กู่ร้องด้วยความยินดีอีกครั้ง พวกเขากระซิบแสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยนถึงคะแนนที่ตั้งใจอยู่ในใจไว้กัน

“หยางคุน ตอนนี้ตาพวกเธอแล้ว”

“ฉันเองอยากรู้เหมือนกัน ปรมาจารย์นักออกแบบชื่อดังระดับสากล จะมีผลงานแบบไหนกัน” หม่าจินหยู่เอ่ยด้วยความจริงใจ

เผชิญหน้าผลงานที่งดงามจนน่าตกใจของคู่แข่ง หยางคุนไม่สะทกสะท้าน เหมือนมีความมั่นใจอยู่ตั้งนานแล้ว เขายิ้มเอ่ย : “แอนโทนี่ ขึ้นอยู่กับนายแล้ว”

แอนโทนี่พูดด้วยความหยิ่งผยอง : “ฉันจะให้พวกคุณได้รู้ ว่าอะไรคือผลงานที่แท้จริง”

เขาไม่ได้ใช้คอมพิวเตอร์ของเวทีกล่าวบรรยาย แต่ตัวเองเอาโน้ตบุ๊คมา แล้วเรียกร้องให้ทีมงานเอาสายจอฉายภาพไปที่โน้ตบุ๊คของเขา

เห็นเขาวางมาดใหญ่ขนาดนี้ ทุกคนเลยต่างนิ่งเงียบ อยากรู้ว่าผลงานของปรมาจารย์ระดับนานาชาติ จะเป็นแบบไหน

เหยียนปินชะงักไป พร้อมกับภาพที่ปรากฏบนจอฉายภาพ จึงอดไม่ได้ที่จะพูด : “คุณแอนโทนี่ ผลงานนี้ของคุณ ทำไมดู ๆ แล้ว คล้ายคลึงกับผลงานที่เซียวเฟิงออกแบบเลยล่ะ”

ที่แท้ ที่แอนโทนี่ออกแบบ ถึงกับเป็นรูปแบบหอคอยไข่มุกหลังหนึ่งเหมือนกัน

เพียงแต่ว่า พอดูแล้วสูงกว่าหน่อย งดงามกว่าหน่อยด้วยเช่นกัน

หยางคุนรีบเอ่ย : “หัวหน้าเหยียน ความหมายของคุณคือเซียวเฟิงขโมยคัดลอกผลงานของแอนโทนี่เหรอ ?”

เซียวเฟิงหน้าแดงฉานพร้อมกับเอ่ย : “ประธานหยาง นี่คุณหมายความว่าไง !”

“ผลงานของผมเป็นต้นฉบับเอง ผมว่าพวกคุณขโมยคัดลอกผมเสียมากกว่าอีก !”

หยางคุนแสยะยิ้ม : “คุณแอนโทนี่เป็นลูกศิษย์คนเก่งของปรมาจารย์ซาโรผู้เป็นนักออกแบบชื่อดังระดับสากล คุณคิดว่าเขาจะขโมยคัดลอกผลงานคุณเหรอ ?”

“อีกอย่าง ผลงานของคุณสามารถเทียบกับผลงานนี้ได้เหรอ ?”

แอนโทนี่ยิ้มเอ่ย : “ทุกคนเงียบ ๆ หน่อยครับ”

“ผมเชื่อว่าผลงานของคุณเซียวเฟิงเป็นต้นฉบับ เพราะลักษณะพิเศษอันสำคัญที่สุดของนักออกแบบ ก็คือความบริสุทธิ์และความซื่อสัตย์”

“หากว่าเขาไม่บริสุทธิ์และซื่อสัตย์พอ ก็ไม่มีทางกลายเป็นนักออกแบบได้หรอกครับ”

“คุณเซียวเฟิง นึกไม่ถึงเลยว่าคุณจะสามารถคิดได้เหมือนกัน อธิบายได้ว่าคุณมีความสามารถอยู่”

“แต่ว่า คุณเทียบความสามารถที่แท้จริงของผมไม่ได้หรอกนะครับ”

“ความสูงของอาคารหลังนี้ของผม คือห้าร้อยห้าสิบห้าเมตร”

“นี่ต่างหากถึงจะเป็นแลนด์มาร์คที่แท้จริง !”

ห้าร้อยห้าสิบห้าเมตร !

พอได้ยินตัวเลขนี้ เลยทำให้ที่แห่งนี้เกิดความวุ่นวาย

หากว่ากลายเป็นแลนด์มาร์คตามความเป็นจริง หนึ่งปัจจัยสำคัญที่สุด ก็คือความสูง คุณสร้างคฤหาสน์หลังเล็กไม่กี่สิบเมตร ออกแบบให้ดีแค่ไหน ก็ไม่สามารถดึงดูดความสนใจจากคนอื่นได้หรอก

ทว่าความสูงที่แอนโทนี่ออกแบบ สูงกว่าที่เซียวเฟิงออกแบบถึงเจ็ดสิบเอ็ดเมตรเลยทีเดียว !

ระยะความต่างนี้ เพียงพอที่จะเอาชนะพวกเขาแล้ว

มีข้อหนึ่งที่เหยียนปินไม่ได้เอ่ย อันที่จริงมาตรฐานที่ผู้นำรัฐบาลประชาชนเมืองให้นั้น คือไม่ต่ำกว่าห้ารอยเมตร

สร้างเป็นความสูงอันดับหนึ่งของโลกไม่ได้ ก็สร้างเป็นความสูงอันดับหนึ่งของเอเชีย ขั้นต่ำสุดก็เป็นความสูงอันดับหนึ่งของประเทศ

พูดจากในแง่นี้แล้ว อันที่จริงเซียวเฟิงได้ตกรอบไปแล้ว

อีกอย่าง ภาพผลลัพธ์ของแอนโทนี่มีอารมณ์งดงามอย่างในภาพการออกแบบของเซียวเฟิงด้วย และมีความหรูหราและความหวั่นไหวมากกว่าหน่อย

เหยียนปินและคนอื่น ๆ เริ่มกระซิบพูดกันอีกครั้ง

เผชิญหน้ากับผลลัพธ์นี้ พ่อลูกตระกูลหม่า สีหน้าเคร่งขรึม

เหมือนถูกคนสาดน้ำเย็นใส่กะละมังหนึ่ง

ส่วนเซียวเฟิงนั้นกรอดฟัน เหมือนกำลังควบคุมอารมณ์ของตัวเองอยู่

แอนโทนี่และหยางคุนกระโดดออกมาเอง บอกว่าเขาไม่ได้ขโมยคัดลอก ทำให้เขารู้สึกเหมือนตกหลุมพรางอย่างไรอย่างนั้น

เขาจ้องหน้าจอไว้ตาเขม็ง ในที่สุดก็อดไว้ไม่ได้ตะโกนออกไป : “ไม่ใช่สิ !”

“พวกคุณต่างหากที่ขโมยคัดลอก !”

“ภาพออกแบบนี้ของพวกคุณ ได้ดัดแปลงจากพื้นฐานของภาพออกแบบของฉัน !”

“พวกคุณขโมยผลงานจากน้ำพักน้ำแรงของฉัน !”

เมื่อพูดจบ คนที่นั่งอยู่โดยรอบต่างตกใจ

บทที่ 486 เตรียมตัวพร้อมแล้วหรือยัง

บทที่ 488 ใบเรือ