ตอนที่ 518 เทียบเชิญจันทราปี ศาจ
พลังอํานาจของสามสํานักจันทราถือว่าเร้นลับ บางคนกล่าวว่าพวก
นางเป็นสํานักที่เป็นตัวตนเปรียบดั่งสํานักเซียน ขณะที่ผู้อื่นก็บอกว่า
ไม่ต่างอะไรกับห้าสํานักดวงดาว
โดยสรุป สามสํานักจันทรามีแต่ศิษย์หญิง และห้าสํานักเซียนก็ไม่
เคยมีข้อพิพาทกับพวกนางมาก่อน
หากเกาะจันทราปี ศาจคิดช่วยเหลือเรื่องการว่าจ้าง ก็เท่ากับเป็นหลัก
ประกันได้ ผู้คนในแดนวิญญาณอ้างว้าง ย่อมต้องเชื่อถือพวกนาง
ในช่วงบ่าย สตรีจากเกาะจันทราปี ศาจเดินทางมาถึง นางเป็นยอดยุทธ์
หรือก็คือขอบเขตวรยุทธ์ลึกลํ้า
นางสวมใส่ชุดสีขาวราวหิมะ มีผ้าปิ ดบังที่ใบหน้า และมีหางยาวสี
ขาวฟูออกจากช่วงเอว นางเป็นภูติจิ้งจอก
แม้ว่ายอดยุทธ์จากเกาะจันทราปี ศาจจะมีผ้าคลุมปิ ดบังใบหน้า กระนั้น
ดวงตาจิ้งจอกทรงเสน่ห์ของนางก็ไม่อาจปิ ดบังได้มิด
“นายน้อยฉิน ข้าคือผู้อาวุโสของเกาะจันทราปี ศาจ ฮูจิงเซียน!”
“พวกเราขอคุยกันเป็นส่วนตัวได้หรือไม่? แม้ว่าข้าเป็นภูติจิ้งจอก แต่
ก็ไม่เคยคิดกินเนื้อมนุษย์ ดังนั้นอย่าได้หวาดเกรงอะไรไป!”
เสียงของฮูจิงเซียนนุ่มนวล รอยยิ้มหวานปรากฏที่ใบหน้าของนาง
“ย่อมได้!”
ฉินหยุนทําท่าเชื้อเชิญนางเข้าสู่ด้านใน ก่อนจะนํานางสู่ห้องของเขา
เมื่อนางเข้ามาแล้ว นางจึงกล่าวหัวเราะคิกคัก “ฉินหยุน ข้าไม่นึกว่า
พอเจ้ามาที่นี่แล้วยังเป็นเช่นเดิม!”
“ท่านรู้จักข้าหรือ?” ฉินหยุนเผยสีหน้าดํามืดขณะเอ่ยถาม
“คงเป็ นเรื่องยากนักที่พวกเราจะไม่ทราบวีรกรรมของเจ้าที่แดนยุทธ์
อ้างว้าง!” ฮูจิงเซียนหัวเราะเบา “อย่าได้กังวลไป! แม้ว่าขั้วอํานาจใหญ่
ทั้งหลายทราบเรื่อง แต่พวกเขาหาได้มีเวลามาจัดการเจ้าไม่ พวกเขา
มีเรื่องอื่นสําคัญกว่าให้ต้องทํา!”
“ในสายตาพวกเขา เจ้าก็เป็นมารน้อยที่อ่อนแอ ตราบเท่าที่ยังไม่ใช่
ราชันยุทธ์ พวกเขาก็จะไม่นําเรื่องของเจ้ามาใส่ใจ!”
“สายเลือดราชสีห์สววรรค์ของข้า รวมถึงโทเทมราชสีห์สวรรค์ และ
หม้อราชสีห์สวรรค์สะกดมังกรก็ด้วยหรือ? พวกเขาไม่คิดกังวลเรื่อง
พวกนี้?” ฉินหยุนเอ่ยถามอย่างไม่อาจเชื่อ
“เรื่องนั้นข้าคงไม่ทราบ! แต่โดยสรุปแล้ว พวกเขากําลังวุ่นวายถึง
เรื่องอื่น ดังนั้นพวกเขาจึงเก็บงําเรื่องของเจ้าที่แดนยุทธ์อ้างว้างเอาไว้
พวกเขาคงคิดจัดการเจ้าภายหลังหากรับมือเรื่องราวขณะนี้เรียบร้อย
แล้ว!”
ฮูจิงเซียนยิ้มกว้างอย่างซุกซนขณะนั่งเก้าอี้
“ฉินหยุน เหตุใดไม่เข้าร่วมเกาะจันทราปี ศาจของพวกเรา? พวกเรา
สามารถสร้างข้อยกเว้นแก่เจ้า เพื่อให้เจ้าที่เป็นบุรุษสามารถเข้าสู่ตัว
เกาะได้!”
สายตาของนางจับจ้องที่ฉินหยุน รอยยิ้มซุกซนเลือนหาย ขณะนี้เผย
แต่ความจริงจัง
“เป้าหมายของข้าคือเข้าร่วมหนึ่งในห้าสํานักเซียน!” นี่เป็นสิ่งที่เซี่ย
ฉีโหรวบอกต่อเขาให้กระทํา
ทางด้านเหตุผล เซี่ยฉีโหรวหาได้บอกกล่าวใด และเขาก็ไม่อาจติดต่อ
นางในช่วงนี้ได้
“เกาะจันทราปี ศาจของพวกเรา ย่อมมีความร่วมมือกับวิมานเซียน
ปี ศาจ หลังเจ้าเข้าร่วมเกาะจันทราปี ศาจ เมื่อใดถึงเวลา พวกเราจะ
แนะนําเจ้าให้เข้าร่วมวิมานเซียนปี ศาจ!”
ฮูจิงเซียนทราบว่าฉินหยุนครอบครองศักยภาพเพียงใด หากไม่แล้ว
เกาะจันทราปี ศาจคงไม่ตัดสินใจมอบข้อยกเว้นเรื่องศิษย์ชายให้แก่
เขา
“ข้ายังไม่คิดไป เมื่อคิดได้แล้ว ข้าจะติดต่อท่านอีกครั้งหนึ่ง!”
แม้ฉินหยุนคิดอยากไป ทว่าเขายังคิดอยากเรียนรู้มรดกของหอขุนเขา
ดาบกระบี่ไปอีกช่วงระยะเวลาหนึ่ง
ความเร็วที่เขาใช้เพื่อก้าวถึงขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้า ถือได้ว่า
มากล้น และเขาก็ยังไม่มีเวลาจัดการเรื่องการปรับพื้นฐานการฝึกฝน
ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา
“โดยสรุปแล้ว เกาะจันทราปี ศาจของพวกเรายินดีต้อนรับเจ้าทุกเมื่อ!”
นางถอดผ้าคลุมหน้าออก เผยซึ่งใบหน้าขาวนวลชวนสัมผัส
“ฉินหยุน เชี่ยวเย่ว์หลานเป็ นภรรยาเจ้า นางขณะนี้อยู่ในตําหนักจันทรา
ทมิฬ นี่ถือเป็นการสูญเสียพรสวรรค์ของนางยิ่งนัก! หากได้พบนาง
ทางที่ดีช่วยเกลี้ยกล่อมนางให้เข้าร่วมเกาะจันทราปี ศาจ พวกเราจะ
มอบการดูแลที่ดีแก่นาง และรับประกันได้ว่าจะต้องดีกว่าตําหนัก
จันทราทมิฬ!”
“แม้ว่าเกาะจันทราปี ศาจของพวกเรามีปี ศาจอยู่มาก แต่มนุษย์หญิงก็
ยังมีไม่น้อย! ตราบเท่าที่เป็นหญิงใดซึ่งเจ้าแนะนําให้เข้าร่วมเกาะ
จันทราปี ศาจ พวกเราจะยินดีรับพวกนางทั้งหมดเอาไว้!”
ฉินหยุนจับจ้องใบหน้าอ่อนโยนของฮูจิงเซียนและเอ่ยถามด้วยความ
สงสัย “เหตุใดท่านเชื่อใจข้าเพียงนั้น?”
“เพราะศักยภาพของเจ้า! สายเลือดราชสีห์สวรรค์ในกายเจ้า เป็นหนึ่ง
ในสายเลือดจากครั้งโบราณกาล! กระทั่งว่ามีสายเลือดวิหคอมตะ
สายเลือดมังกร และสายเลือดกิเลนในแดนวิญญาณอ้างว้าง รวมถึง
สัตว์โบราณแกร่งกล้าอื่นที่ส่งต่อสายเลือดสืบทอดกันมา แต่มีตัวตน
หนึ่งเดียวที่ไม่เคยปรากฏ นั่นก็คือสายเลือดราชสีห์สวรรค์!”
“พวกเราต้องการค้นหาความลับเบื้องหลังเรื่องนี้!”
ฉินหยุนย่อมไม่เชื่อคํากล่าวของนาง เขานําเอาบัตรผลึกม่วงออกมา
และกล่าว “ข้าต้องการหัวของผู้นําตระกูลหลงและตระกูลหยาง
ตราบเท่าที่ได้รับหัวพวกมัน ข้าจะมอบอุปกรณ์เต๋าให้สองชิ้น!”
“ข้าหาได้ต้องการเหรียญม่วงไม่ เรื่องใบประกาศล่าค่าหัวพวกมัน ข้า
จะจัดการให้!”
มืออ่อนนุ่มงดงามราวกับไร้กระดูก ขณะนี้เกาะกุมพร้อมเขย่ามือของ
ฉินหยุน
ฉินหยุนสาปแช่งภูติจิ้งจอกตนนี้อยู่ภายในใจ เขาทราบดีว่านางทํา
เช่นนี้เพราะมีจุดประสงค์อื่น
ภูติจิ้งจอกย่อมอดไม่ได้ ที่จะหยอกล้อกับวิญญาณชายหนุ่มเล่น
“จริงด้วย แล้วขั้วอํานาจใหญ่เหล่านั้น พวกมันยุ่งกับเรื่องอันใดกัน
อยู่หรือ?” ฉินหยุนเอ่ยถาม
“ข้าไม่อาจบอก!” ฮูจิงเซียนยิ้มอย่างซุกซน
กล่าวจบ นางจึงเร่งร้อนออกจากห้องลับไป
ฉินหยุนตามติดนางไม่ห่าง เขาคิดสอบถามอีกหลายคําถาม ทว่านาง
ก็เร่งรีบออกไปจากสวนแล้ว
ตัวเขาขณะนี้คล้ายสูญเสียสมาธิ เอาแต่ครุ่นคิดถึงสิ่งที่ฮูจิงเซียนบอก
กล่าวออกมา
“น้องหยุน เจ้ากําลังคิดอันใด? หรือทําอะไรกับพี่สาวจิ้งจอกผู้นั้นจน
สบายตัวไปแล้ว?” เย่ว์อู่หลันเผยใบหน้าริษยาขณะตบที่ไหล่ของฉิน
หยุน
“ย่อมไม่ใช่!” ฉินหยุนเร่งรีบส่ายศีรษะ
ท่าทีของเกาะจันทราปี ศาจต่อตัวเขา มันดีเกินไปจนเกิดความเคลือบ
แคลง!
เขายังไม่ทราบสถานการณ์โดยรวม ดังนั้นจึงไม่คิดเข้าร่วมเกาะ
จันทราปี ศาจ
“แล้วสนทนากันเป็นอย่างไรบ้าง?” เทียนรั่วเหลิงเอ่ยถาม
“เรียบร้อยแล้ว!” ฉินหยุนพยักหน้ารับ มองทางเต๋าฟาน “ขอขอบคุณ
เหล่าฟานยิ่งนักขอรับ!”
“จริงด้วย ผู้อาวุโสฟาน ข้ามีเรื่องคิดรบกวนท่าน! ขอท่านประกาศ
ออกไป ว่าในการแข่งขันบุกโจมตีและตั้งรับที่จะถึงนี้ ตราบเท่าที่
บุตรหลานตระกูลหลงและตระกูลหยางพิการทางใดทางหนึ่ง ข้าจะ
ตบรางวัลให้แก่คนผู้นั้นด้วยอุปกรณ์ลึกลํ้า!”
คํากล่าวของฉินหยุนทําเอาเต๋าฟานถึงกับอึ้งไปวูบ
เทียนรั่วเหลิงและเย่ว์อู่หลัน พบว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอันใด เพราะพวก
นางทราบว่าฉินหยุนคืออาจารย์จารึกวิญญาณราชัน
ตราบเท่าที่ก้าวถึงขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ เขาย่อมสามารถสร้าง
อุปกรณ์ลึกลํ้า
ย้อนกลับไปครั้งฉินหยุนอยู่ในนครโบราณยุทธ์เต๋า เขาได้สังหารผู้
ฝึกตนไปมาก ดังนั้นจึงมีอุปกรณ์ลึกลํ้าจากการเก็บเกี่ยวครั้งนั้น
ไม่ใช่น้อย
“ย่อมได้!” หลังตื่นตะลึงไปครู่ เต๋าฟานจึงยิ้มรับ “ตระกูลหลงและ
ตระกูลหยางเสนอค่าหัวต่อเจ้า และเจ้าเองก็เสนอค่าหัวพวกมันเช่นกัน!”
สถาบันกระบี่ที่เต๋าฟานเป็นผู้นํา มีศิษย์เพียงสามคน แต่แล้วพวกเขา
ยังมีการตามล่าโดยตระกูลหลงและตระกูลหยาง เป็นปกติที่เต๋าฟาน
จะมีโทสะ ทว่าเขาไม่มีทางเลือกใดให้โต้ตอบ
ขณะนี้ ฉินหยุนคิดใช้อุปกรณ์ลึกลํ้าเป็นรางวัล แก่ศิษย์ที่สามารถล่า
ตัวศิษย์ของตระกูลหยางและตระกูลหลงมาได้!
การแข่งขันดาบกระบี่บุกโจมตีและตั้งรับกําลังจะเริ่มขึ้น ขณะนี้มี
ประกาศออกมา ส่งผลให้ศิษย์หลายคนของทั้งหอกระบี่และหอดาบ
เกิดความตื่นเต้นกันขึ้นมา!
คราแรก ตระกูลหลงและตระกูลหยาง ได้ประกาศล่าค่าหัวทําฉินหยุน
เทียนรั่วเหลิง และเย่ว์อู่หลันให้พิการ
ผู้ใดมีส่วนร่วม จะได้รับยี่สิบล้านเหรียญม่วง
แต่แล้วเพียงไม่นาน คําประกาศล่าค่าหัวของฉินหยุนจึงปรากฏ
ตราบเท่าที่คนของตระกูลหลงหรือตระกูลหยางพิการ เช่นนั้นจะ
ได้รับรางวัลเป็นอุปกรณ์ลึกลํ้า!
หากเป็นสถาบันใหญ่ที่มีศิษย์กว่าสิบคนและได้รับอุปกรณ์ลึกลํ้า
เมื่อใดพวกเขานําออกขาย พวกเขาจะได้รับเหรียญม่วงหลายสิบล้าน
คํ่าคืนหลังคําประกาศล่าค่าหัวของฉินหยุนถ่ายทอดออก ผู้คนของ
ตระกูลหลงและตระกูลหยาง จึงไม่คิดเข้าร่วมการแข่งขันเป็นการ
ชั่วคราว
ที่สามารถไม่เข้าร่วมเป็นการชั่วคราว ก็เพราะมีผู้อาวุโสของทั้งสอง
ตระกูลอยู่ภายในหออาวุโส พวกเขาจึงสามารถถอนตัวออกมาได้
หากเป็นผู้อื่น คงไม่มีทางถอนตัวออกมาได้ง่ายดายเพียงนี้เป็นอันขาด
ชัดเจนว่าตระกูลหลงและตระกูลหยาง ไม่อาจรับเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนี้
ได้ไหว
คําประกาศล่าค่าหัวของฉินหยุนจูงใจจนเกินไป มันมากพอขนาดที่
จะทําให้ผู้อื่นยินดีเสี่ยงเพื่อลอง
“สารเลวนัก ศิษย์ตระกูลหยางและตระกูลหลงถอนตัวได้อย่างไร
กัน?” เต๋าฟานสบถรุนแรงอยู่ในห้องโถงเล็ก
“เหล่าฟาน ผลกระทบที่ข้าต้องการถือว่าสําเร็จผลแล้วขอรับ!”
“ข้าคิดอยากให้ตระกูลหลงและตระกูลหยางได้ทราบ ว่าพวกเราก็
ไม่ใช่รังแกได้ง่าย!”
ฉินหยุนรินนํ้าชาให้แก่เหล่าฟานขณะยิ้มกล่าวอธิบายไป
เต๋าฟานพยักหน้ารับ “ตลอดมา พวกมันเป็นฝ่ ายที่ได้แต่รังแกผู้อื่น
ด้วยเพราะผู้อื่นไม่มีอํานาจพอให้ตอบโต้พวกมัน! ครานี้ ด้วยตัวเจ้า
ตอบโต้อย่างรุนแรง จึงส่งผลกระทบต่อพวกมันอย่างหนักหนา!”
“น่าเสียดายนัก” เทียนรั่วเหลิงเผยเสียงเย็นเยือก “ไม่เช่นนั้น พวกเรา
อาจได้เห็นพวกมันสังหารกันเองระหว่างการแข่งขันก็เป็นได้”
“เหล่าฟาน นี่ไม่ถือเป็นการอยุติธรรมหรือที่มีแต่พวกมันสามารถ
ถอนตัวจากการแข่งขัน หอขุนเขาดาบกระบี่ปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้น
ได้อย่างไรกัน? ถึงกับให้ผู้ที่มีอํานาจถอนตัวได้ตามใจนึกเช่นนี้”
“แล้วบทลงโทษของการแข่งขัน หากพวกมันถอนตัว ไม่เท่ากับพวก
มันไม่อาจหลบเลี่ยงการไปขุดเหมืองหรือ?”
เย่ว์อู่หลันขณะนี้หงุดหงิดไม่น้อย เดิมนางคิด ว่าจะใช้กระบี่หลิวจันทรา
ของนางในการแข่งขันบุกโจมตีและตั้งรับ เพื่อสังหารบรรดาศิษย์
ของตระกูลหลงและตระกูลหยาง
“เรื่องนี้ย่อมต้องมีศิษย์หลายคนทักท้วงและต่อว่าเข้าไป!” ฉินหยุน
กล่าว “ตามปกติ พวกผู้อาวุโสสามารถหลับตาข้างหนึ่งต่อเรื่องใหญ่
เช่นนี้ แต่ข้าไม่เชื่อ ว่าพวกผู้อาวุโสของตระกูลหลงและตระกูลหยาง
จะสะกดเรื่องนี้ไปได้ตลอดรอดฝั่ง!”
เต๋าฟานกล่าว “พรุ่งนี้พวกเราคงได้ทราบกัน! คืนนี้พวกเราควรตัดสินใจ
เรื่องนามสถาบันกระบี่ของพวกเราก่อน ข้าจะได้ไปนําป้ายชื่อมา
แขวนไว้ที่ด้านนอกของสวนฝึก”
“เรียกหาเป็น สถาบันฟานเต๋า อย่างไรแล้วพวกเราก็กําลังฝึกฝนเคล็ด
วิชากระบี่พื้นฐานพอดี!” ฉินหยุนบอกกล่าวออกมา
*ฟานเต๋า หมายความถึง กระบี่พื้นฐาน*
“ข้าเห็นด้วย!” เย่ว์อู่หลันกล่าวขึ้น
เทียนรั่วเหลิงร่วมพยักหน้ารับ
“ตกลงตามนั้น!” เต๋าฟานเองก็ยินดีกับชื่อนี้ เขายิ้มกล่าว “เช่นนั้น
พวกเจ้าไปพักผ่อน พรุ่งนี้ถึงจะเริ่มศึกบุกโจมตีและตั้งรับ!”
เช้าตรู่วันถัดมา ฉินหยุน เทียนรั่วเหลิง และเย่ว์อู่หลันสวมใส่ชุดสีดํา
ยืนหยัดอยู่ภายในลานกว้างที่เป็นสังเวียนอาคมวิญญาณ พวกเขา
กําลังรอคอยให้ผู้อื่นบุกเข้าโจมตี
เต๋าฟานยืนอยู่ที่ภายนอกของลานกว้าง “เมื่อพวกเจ้าโจมตีหรือว่าตั้ง
รับ พวกเจ้าจะสามารถใช้งานอาวุธเพื่อป้องกันตัว! ทว่า อาวุธนั้น
ต้องอยู่ระดับตํ่ากว่าอุปกรณ์ลึกลํ้า!”
“หากอาวุธที่เจ้าใช้มีพลังของอักขระลึกลํ้า ค่ายอาคมจะตรวจพบ!”
เต๋าฟานขณะนี้เป็นกังวลถึงศิษย์ทั้งสาม จํานวนศิษย์เท่านี้ถือว่าน้อย
นิด สวนฝึกแห่งอื่นล้วนขนาดใหญ่กว่า อย่างน้อยพวกเขาก็มีสิบคน
ขึ้นไป
กลุ่มคนชุดขาวฉับพลันปรากฏตัวเดินเข้ามาผ่านทางเข้าสวนฝึก!
กลุ่มศิษย์ที่เข้ามาในสวนฝึกขณะนี้ ทั้งหมดต่างสวมใส่ชุดสีขาว!
เมื่อกลุ่มคนชุดขาวเดินเข้ามาใกล้ ชายคนหนึ่งในชุดดําที่ครอบครอง
ออร่าแข็งแกร่งจึงเดินเข้ามา
เซียงเต๋าถึงกับมาที่นี่!
นอกจากพวกเขาเหล่านั้น ยังมีผู้อาวุโสชุดสีทองอีกหลายคนจากหอ
อาวุโส ขณะนี้กําลังเดินเข้ามาภายในสถาบันกระบี่ของพวกเขา
“สถาบันดาบอสนีบาตคราม พวกเจ้าเป็นสถาบันระดับที่สูงกว่า
ถึงกับมีหน้าบุกเข้าโจมตีสถาบันกระบี่ที่ด้อยกว่าเช่นพวกเรา ไม่กลัว
กลายเป็นที่หัวเราะของผู้คนหรืออย่างไร?”
เมื่อเต๋าฟานได้เห็นกลุ่มคนชุดขาวปรากฏตัว เขาจึงหัวเราะเสียงเย็น
แท้จริงแล้ว ศึกแรกของฉินหยุนและคณะ ถึงกับเป็นการโจมตีจาก
สวนฝึกชั้นนํา!
แม้ว่าบรรดาศิษย์ของสวนฝึกจะอยู่ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้า
เช่นกัน แต่พวกเขาต่างเป็นศิษย์ที่เข้าร่วมสถาบันมายาวนานแล้ว
ดังนั้นจึงได้เก็บเกี่ยวทรัพยากรไปอย่างมหาศาล
ทุกเดือนจะมีการแจกจ่ายโอสถลึกลํ้า และให้ผู้ที่ได้รับสามารถใช้
ห้องฝึกฝนหลากหลายประเภท เพื่อเป็นการปูทางก้าวสู่ขีดสุดของ
ขอบเขตวรยุทธ์เต๋าระดับที่เก้า
ผู้คนภายในสถาบันดาบอสนีบาตครามส่วนใหญ่ต่างมีอายุกันไม่
น้อยแล้ว มีเพียงสองคนที่เรียกได้ว่ายังเยาว์
อาจารย์ของสถาบันดาบอสนีบาตคราม เป็นชายชราศีรษะล้านเลี่ยน
เขาเผยรอยยิ้มชั่วร้ายกล่าวคําออก “พวกเราจ่ายไปทั้งสิ้นสิบสามล้าน
เหรียญม่วงเพื่อได้โจมตีก่อน ดังนั้นย่อมต้องคิดหาทางเรียกเงินก้อน
นั้นกลับคืน!”
สถาบันดาบทั้งหลายที่เป็นฝ่ ายโจมตี ย่อมมีการสุ่มจับหมายเลขเพื่อ
ตัดสินลําดับก่อนหลัง
หากจับได้หมายเลขหนึ่ง เช่นนั้นย่อมได้ออกนําทัพเป็นผู้แรก
หากคิดต้องการเป็นฝ่ ายแรกที่บุกโจมตี ก็ยังสามารถใช้เหรียญม่วง
เพื่อซื้อหา!
ด้วยเหตุนี้ จึงกล่าวได้ว่าผู้แรกที่ทําการบุกโจมตี สามารถซื้อหาด้วย
เหรียญม่วง
เมื่อครู่นี้ ภายในหอดาบที่มีสถาบันดาบหลายแห่งรวมตัวกัน ได้เกิด
การประมูลแข่งขันราคาอย่างดุเดือด!