เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 337
เย่หนานเทียนดูเหมือนไม่สะทกสะท้าน

แต่ความเป็นจริง ก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง!

เขาคาดไม่ถึงว่า หยางเฟิงจะมีศักยภาพที่แข็งแกร่งเช่นนี้

ในมือของเขา มีองครักษ์ติดอาวุธครบมือนับร้อยคน!

ดูท่าแล้ว

ตนเองคงจะประเมินเขาต่ำเกินไป!

หยางเฟิงกล่าวถามด้วยสีหน้าเย็นชาว่า : “คุณคือผู้นำของตระกูลเย่ เย่หนานเทียนใช่หรือไม่?

เย่หนานเทียนกล่าว: “ถูกต้อง ข้าก็คือผู้นำตระกูลเย่!”

บนใบหน้าของเขา ปรากฏความประหลาดใจเล็กน้อย

เขาคาดไม่ถึงว่า หยางเฟิงจะล่วงรู้สถานะของตนเอง?

ไหนเลยจะรู้ว่า

หยางเฟิงเป็นเทพสงคราม ควบคุมดูแลสำนักเทพมรณะ หน่วยข่าวกรองกระจายอยู่ทั่วประเทศ เหตุการณ์เล็กๆ น้อยๆ อะไรก็ยากที่จะรอดพ้นสายตาของเขาไปได้!

“หยางเฟิง!”

ในทันใด

ก็มีเสียงร้องเรียกอันแสบแก้วหูดังขึ้น

“แกทำให้ฉันต้องเสียโฉม วันนี้แกคงหนีความตายไปไม่พ้น!” เย่โหรวจ้องมองหยางเฟิงด้วยสีหน้าที่โกรธแค้น

เผชิญหน้ากับศัตรู ก็ยิ่งโมโหเดือดดาล

เมื่อนึกถึงว่าเพียงแค่ตัวเองออกมาหน้าบ้านก็ยังไม่กล้า

ภายในใจของเธอ ก็แทบอยากจะฆ่าหยางเฟิงทันที!

“หยางเฟิง!”

เสียงตะโกนดังขึ้นอีกครั้ง

“วันนี้ คือวันตายของแก!” เฉินป้าเซียนจ้องมองหยางเฟิงด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น

นับตั้งแต่การต่อสู้กับจินหลิงและเขาจื่อจิน

นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขากับหยางเฟิงได้พบหน้ากันอีกครั้ง

หวนกลับไปนึกถึงในตอนนั้น เขาเป็นท่านบอสของแก๊งฟ้าดินที่มีจิตใจที่เร่าร้อนและฮึกเหิม

ขณะนี้ ต้องพึ่งพาอาศัยคนอื่น อย่างสูญสิ้นศักดิ์ศรี!

กระทั่งเย่หนานเทียนที่เป็นผู้นำตระกูลอันดับสาม ก็กล้าที่จะตะคอกใส่เตนเอง

นี่จึงทำให้ความเกลียดชังภายในใจเขาที่มีต่อหยางเฟิง ยิ่งลึกขึ้นไปอีก!

หยางเฟิงกวาดสายตามอง แล้วกล่าวอย่างเหยียดหยามว่า : “คนหนึ่งอัปลักษณ์น่าเกลียด! คนหนึ่งก็เป็นลูกน้องตกอับ! ทำไม? วันนี้พวกแกนัดกันมาหาที่ตายเหรอ?”

“แก…..”

ได้ฟังคำพูดนี้แล้ว

เย่โหรวกับเฉินป้าเซียน คนทั้งสองโมโหเดือดดาล

“หึๆ!” เวลานี้เย่หนานเทียนก็กล่าวเยาะเย้ยว่า : “ช่างปากคอเราะรายเสียวจริงๆ! หยางเฟิง ไม่ว่าแกจะพูดอะไร ก็ยากที่วันนี้แกจะหนีความตายพ้น”

“ฉันจะทำให้แกได้เห็นว่า ฉันเตรียมอาหารมื้อใหญ่เอาไว้ให้แก!”

พอพูดจบ

ตึกตักๆ!

เสียงฝีเท้าดังขึ้นติดต่อกันอย่างไม่ขาดสาย

ชั่วประเดี๋ยวเดียว

ชายชุดดำจำนวนมาก ก็ออกมาจากทั่วทุกสารทิศของกาสิโน!

จำนวนคน

ราวๆ หนึ่งพันคนขึ้น

พวกเขาแต่ละคน เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความกล้าหาญ

ความคิดที่จะฆ่าโดยปริยาย แสดงให้เห็นด้วยเลือดที่เปื้อนมือของพวกเขา!

ชัดเจนอย่างมากว่า

คนเหล่านี้ล้วนเป็นผู้ที่มีฝีมือสูง

เย่หนานเทียนและคนอื่นๆ มีสีหน้าที่ลำพองใจ

คนเหล่านี้ คือกำลังสุดท้ายของตระกูลเย่

เพื่อจัดการหยางเฟิง

ครั้งนี้

เย่หนานเทียนก็หยิบทุนเดิมของตัวเองออกมา!

เขามองหยางเฟิงแล้วกล่าวอย่างลำพองใจว่า : “แกเห็นแล้วหรือยัง? คนเหล่านี้ล้วนเป็นคนของฉัน องครักษ์ร้อยคนนั้นของแก ใช่คู่ต่อสู้ของฉันหรือ?”

เขาเชื่อว่า เพียงแค่ตัวเองออกคำสั่ง

องครักษ์นับร้อยข้างกายของหยางเฟิง ก็เป็นเพียงแค่ฝูงไก่กระเบื้องดินเผาเท่านั้น

เผชิญหน้ากับชนชั้นนำตระกูลเย่นับพัน หยางเฟิงก็มีสีหน้าไม่แสดงออก

นี่จึงทำให้เย่หนานเทียนรู้สึกใจเต้น

เขาแฝงกายอยู่ทุกแห่งหนมานานหลายปี ผ่านคนมาก็นับไม่ถ้วน จะมีพวกบุญหนักศักดิ์ใหญ่ประเภทใดที่เขาไม่เคยเห็นหรือ? แต่หยางเฟิงที่อยู่ตรงหน้า จู่ๆ ก็ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวอย่างอธิบายไม่ถูก

มองเสื้อผ้าที่สวมใส่แล้ว ก็ดูธรรมดาๆ

แต่พลังของคนที่ส่งออกมา กลับล้ำเลิศอย่างไม่มีอะไรเทียบได้!

ความคิดที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ ทำให้เย่หนานเทียนต้องขมวดคิ้ว

ตกลงมันคืออะไรกัน?

ดวงตา!

ใช่

คือดวงตาของหยางเฟิง!

ดวงตาทั้งคู่ของเขา ที่เมินเฉยไม่สะทกสะท้าน ธรรมดาไม่มีอะไรพิเศษ แสดงให้เห็นถึงความสงบนิ่งไม่ตื่นตระหนก!

คนแบบนี้ ถ้าไม่ใช่คนโง่ไม่รู้เรื่องรู้ราว ก็จะต้องเป็นผู้นำที่มีความสามารถยอดเยี่ยม!

แล้วหยางเฟิงจะเป็นคนโง่หรือ?

“เย่หนานเทียน คนเหล่านี้ก็คือทุนสุดท้ายของแกใช่ไหม?” จู่ๆ หยางเฟิงก็กล่าวอย่างนิ่งๆ

“ทำไม ยังไม่พอเหรอ?” สายตาของเย่หนานเทียนมืดมน มองตรงไปที่หยางเฟิง : “บอกแกตามตรงเลยนะว่า แม่ยายของแก ถูกฉันสั่งให้คนไปจับตัวมา จุดประสงค์ก็คือต้องการล่อให้แกเข้ามา! ตอนนี้ดูๆ แล้ว แกก็คงโง่จริงๆ คาดไม่ถึงว่าจะมาตกหลุมพรางอย่างง่ายดาย!”