ถ้าหลินเจียวมาอยู่ข้างๆ ถังซีตรงนี้ เธอจะกลายเป็นน้ำแข็งไปทันที ด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกของถังซี
ด้วยความตื่นตระหนก หลินเจียวไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายไม่ใช่หลินหรู เธอขมวดคิ้วตะคอกว่า “รู้ไหม ทำไมฉันถึงโทรหาเธอ! เธอกล้าดียังไงถึงสั่งไม่ให้ฟู่เหราอินเตอร์เนชันนัลจ่ายเงินให้ฉัน โอนมาสองแสนหยวนเดี๋ยวนี้! ฉันต้องการเงิน”
เมื่อได้ยินหลินเจียวคุยกับหลินหรูแบบนี้ คุณนายเฉินและคนอื่นๆ ก็เลิกคิ้วด้วยท่าทางประหลาดใจ แม้แต่ถังซีก็ยังเลิกคิ้วสูงและรู้สึกประหลาดใจกับคำพูดของหลินเจียวเช่นกัน หลินเจียวกับพ่อแม่ขอเงินหลินหรูแบบนี้มาตลอดใช่ไหม และคุณแม่ก็ไม่เคยปฏิเสธพวกเขา
เมื่อได้รู้สถานการณ์ เธอก็เข้าใจแล้วว่าทำไมหลินรูถึงได้นึกถึงแต่ผลกำไรขนาดนั้น เพราะต้องส่งเสียให้ครอบครัวโลภมากนี่เอง
ถังซีคำรามและตะคอกกลับไป “เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับฉัน นี่ยังเป็นวันหยุดอยู่ ฝันไปหรือเปล่า ตื่นได้แล้ว!”
หลินเจียวโกรธขึ้นมาทันทีกับคำพูดเย้ยหยันของถังซี เธอเหลือบมองไปทางคุณนายเฉินซึ่งจ้องมองมาอย่างเหยียดหยาม และตะโกนออกมา “หลินหรู แกลืมสัญญาที่ให้ไว้กับแม่แล้วหรือ ตอนที่แม่ตกลงให้แกแต่งงานกับผัวของแก แกบอกไม่ใช่หรือว่าจะช่วยให้ฉันมีชีวิตอย่างสุขสบาย แกบอกไม่ใช่หรือว่าแกจะส่งเสียเลี้ยงดูฉันไปตลอดชีวิต แกไม่กลัวว่าฉันจะฟ้องแม่หรือ ว่าแกทำอะไรกับฉันวันนี้ แกรู้ดีว่าถ้าแม่รู้แกต้องโดนหนักแน่”
เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ ถังซีก็นึกภาพออกว่าหลินหรูต้องเจอกับอะไรมาบ้างก่อนหน้านี้ หัวใจเธอกระตุกอย่างแรงด้วยความรู้สึกเสียใจกับหลินหรู เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบยิ่งขึ้น “ถ้าอย่างนั้นก็ไปฟ้องแม่ที่ไร้ยางอายของแกเลยสิ บอกให้แม่แกมาคิดบัญชีกับเรา ฉัน…เซียวโหรว กำลังรออยู่ ฉันจะรอดูสิว่าแม่แกจะทำอะไรคุณแม่ฉันได้ และแก…หลินเจียว แกมีชีวิตอยู่ด้วยการดูดเลือดจากคุณแม่ฉันมานานแล้ว ถึงเวลาแล้วที่แกจะต้องชดใช้ให้คุณแม่ฉัน…” ถังซีหยุดไปชั่วครู่ ก่อนจะกล่าวต่อไป “แล้วอีกอย่าง ทำไมฉันต้องสนใจด้วยว่าแกจะต้องการเงินหรือเปล่า ถ้าแกอยากได้เงินก็หาเอาเองสิ ตระกูลเซียวของเราไม่ใช่ตู้เอทีเอ็มของแก แกข่มขู่คุณแม่ฉัน แล้วคุณแม่ฉันยังจะต้องให้เงินแกอีกหรือ แกเป็นบ้าไปแล้วหรือไง”
หลินเจียวคิดไม่ถึงว่าจะถูกด่าเช่นนี้ และไม่คาดคิดด้วยว่าคนที่รับโทรศัพท์จะไม่ใช่หลินหรู แต่กลายเป็นนังเด็กสารเลวมารับแทน ใบหน้าเธอบูดบึ้งและถามอย่างเย็นชา “แม่แกอยู่ไหน บอกให้มารับโทรศัพท์… เร็วๆ”
ถังซียิ้มเยือกเย็นขณะคิดในใจว่า เป็นการดีที่เถาเยี่ยนและหลินรั่วจื้อเป็นคนอวดดี สำคัญตัวเองผิด คิดเสมอว่าสามารถจัดการเรื่องต่างๆ ได้ด้วยตนเองไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อหลินหรูตกบันไดพวกเขาจึงไม่ได้โทรบอกเรื่องนี้กับหลินเจียว ทำให้หลินเจียวไม่รู้เรื่องและโทรมาขอเงิน…
เมื่อคิดเช่นนี้ถังซีก็ยืนพิงผนังสบายๆ พูดอย่างไม่แยแส “คุณแม่ฉันบอกว่าท่านไม่อยากเสียเวลากับคนที่ไม่สำคัญ ท่านบอกด้วยว่าถ้าแกอยากฟ้องแม่ก็ไปฟ้องเลย แล้วถ้าอยากได้เงินแกควรโทรหาแม่แก อย่ามารบกวนท่าน”
“แกพูดอะไร” หลินเจียวตาเบิกกว้างอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง หลินหรูพูดอย่างนั้นจริงๆ หรือ เธอมั่นใจว่าหลินหรูจะไม่กล้าพูดอะไรแบบนี้ ด้วยสถานะทางสังคมในปัจจุบัน สิ่งที่หลินหรูกลัวที่สุดคือ กลัวพ่อแม่ของเธอจะสร้างเรื่อง หากข่าวนี้แพร่กระจายออกไปในเมือง A หลินหรูจะกลายเป็นตัวตลกของชนชั้นสูง
หลินหรูควรจะกลัวพวกเขา แต่วันนี้เกิดอะไรขึ้นกับเธอ เธอจะพูดจาแบบนี้ได้อย่างไร!
“ฉันบอกว่าฉันไม่สนหรอกว่าแกจะต้องการเงินหรือเปล่า! อย่ามารบกวนคุณแม่ฉันอีก ไม่อย่างนั้นถึงแม้ท่านจะไม่จัดการกับแก แต่ฉันจะทำให้แกย่อยยับ! เชื่อหรือไม่เชื่อก็ตามใจ อยากลองดูก็ได้!” ถังซีตอบอย่างเลือดเย็น แล้ววางสายโทรศัพท์ หลินเจียวตกตะลึงจนไม่รู้จะตอบโต้อย่างไร
หลังจากวางสายถังซีก็หันไปหาเซียวเจี่ยน ซึ่งมายืนอยู่ข้างๆ เธอเลิกคิ้วถามว่า “พี่ทำธุระเสร็จแล้วเหรอคะ”
เซียวเจี่ยนพยักหน้า มองถังซีด้วยท่าทางครุ่นคิด “โทรศัพท์จากหลินเจียวหรือ”
ถังซียิ้ม ส่งโทรศัพท์ให้ เซียวเจี่ยน “เธอโทรมาขอเงิน ฉันคิดว่าเธอคงเสียพนัน พี่จิ่งเพิ่งส่งข้อความหาฉัน พวกเขาหาเจอแล้วว่าหลินเจียวอยู่ที่ไหน และกำลังรีบไปที่นั่นภายในคืนนี้ ฉันคิดว่าพวกเขาน่าจะนำตัวเธอมาถึงเมือง A ตอนดึกๆ”
เซียวเจี่ยนพยักหน้าก่อนจะหยิบบุหรี่ออกมาจากกล่องและจุดไฟ อย่างไรก็ตามในนาทีนั้นเองที่เขาเห็นร่องรอยความรังเกียจพาดผ่านสายตาถังซี เขาหยุดสูบแล้วดับบุหรี่ทันที เมื่อเงยหน้าขึ้นมองและเห็นว่าถังซีมีท่าทีประหลาดใจเขาก็หัวเราะเบาๆ ด้วยความสุขที่ส่องประกายชัดเจน “พี่จะอยู่เฝ้าที่นี่เองคืนนี้ เธอกลับไปพักผ่อนที่บ้านเถอะ เธอเพิ่งออกจากโรงพยาบาลได้ไม่นาน ร่างกายยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ไม่ควรนอนดึก แล้วอีกอย่างที่โรงพยาบาลนี่ก็ไม่สะดวกเท่าที่บ้าน นั่งแท็กซี่กลับไป แล้วค่อยมาใหม่พรุ่งนี้เช้า”
ถังซีจ้องหน้าเซียวเจี่ยน ยังคงมีร่องรอยความประหลาดใจ ความขัดเขินแวบขึ้นบนสีหน้าเซียวเจี่ยน เขายกกำปั้นขึ้นปิดปากกระแอม ก่อนจะกล่าวว่า “กลับไปบ้าน แล้วนำอาหารมาให้คุณแม่พรุ่งนี้เช้า คุณแม่อาจจะฟื้นวันพรุ่งนี้ และท่านจะมีความสุขมากถ้าเห็นเธอนำอาหารเช้ามาให้”
ถังซีครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะพยักหน้า “ถ้าอย่างนั้นฉันจะกลับไปก่อน” จากนั้นเธอก็หันหลังเดินจากไป ขณะมองตามร่างถังซีที่เดินห่างออกไปเซียวเจี่ยนตกอยู่ในภวังค์ หลังจากได้สติอีกครั้งเขาก็หยิบไฟแช็กออกมาจุดบุหรี่ในมืออีกครั้ง เขาเลิกคิ้วมองบุหรี่อย่างพิจารณา ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเขาจะกลายเป็นพี่ชายที่ห่วงใยน้องสาวมากแบบนี้
เขาจะไม่มีทางงดเว้นการสูบบุหรี่ต่อหน้าใคร แต่ตอนนี้เขาทำอย่างนั้นเพื่อน้องสาว ซึ่งเขายังไม่รู้จักดีเลยด้วยซ้ำ…
…
หลินเจียวจ้องโทรศัพท์ในมือเขม็ง แต่แล้วก็รีบหันไปมองคุณนายเฉิน และกล่าวอย่างร้อนรน “คุณนายเฉินไม่ต้องห่วง ฉันจะโทรหาแม่ แม่ฉันอยู่ที่บ้านพี่สาว ตราบใดที่แม่อยู่ที่นั่น พี่สาวฉันต้องให้เงินฉันอย่างแน่นอน”
คุณนายเฉินมองดูหลินเจียวที่มีท่าทางกระวนกระวาย ด้วยรอยยิ้มเยือกเย็น ขณะเลิกคิ้วขึ้นถาม “คุณหลินยังคิดจะโทรอีกหรือ แล้วถ้าแม่ของคุณไม่รับสายล่ะ ฉันจะต้องรอคุณทั้งคืนเลยหรือเปล่า”
หลินเจียวรีบตอบอย่างรวดเร็ว “ขอฉันโทรอีกครั้งเถอะนะ แค่ครั้งเดียว ถ้าแม่ฉันไม่รับสายฉันจะ…” หลินเจียวชำเลืองมองหน้าคุณนายเฉิน แล้วถามเบาๆ “คุณนายเฉิน ให้เวลาฉันสักสองวันได้ไหม ฉันจะไปเมือง A ไปเอาเงินมาให้คุณด้วยตัวเอง ได้ไหม”
คุณนายเฉินหัวเราะ ดวงตาเธอเต็มไปด้วยถ้อยคำเหยียดหยาม “ไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อใจคุณนะ แต่คุณหลิน คุณไม่ใช่คนเมืองนี้ ฉันจะเชื่อถือคุณได้ยังไง”