บทที่ 773 เป็นใครกันแน่? / บทที่ 774 มีอะไรก็พูดกันดีๆ

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 773 เป็นใครกันแน่?

“ความจริง กลุ่มอิทธิพลอย่างเดธโรสเป็นหนังสือเล่มหนึ่งที่เขียนในสมัยที่พ่อแม่ของหัวหน้ายังหนุ่มเท่านั้น แค่บรรยายถึงขุมอำนาจแบบนี้ ต่อมาต้นฉบับหยุดเขียน จากนั้นหัวหน้าก็เกิดมา สมัยหัวหน้ายังเด็กได้เขียนต้นฉบับของพ่อแม่เขาต่อ รู้สึกว่าเดธโรสน่าสนุกดี ก็เลยบรรยายถึงเดธโรสมากกว่าเดิม…

สมาชิกของเดธโรสอะไรนั่นสวมเสื้อโค้ทลายกุหลาบสีดำ ใส่หน้ากากสีเงิน อันนี้หัวหน้าเขียนมาตอนอายุได้ไม่กี่ขวบ หญิงหม้ายชุดดำบอสของเดธโรสชอบดูดเลือดผู้ชาย ก็เป็นหัวหน้าเขียนขึ้นเอง!” นักพรตใจบริสุทธิ์กล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ภายหลังตระกูลเนี่ยเจอกับเรื่องเลวร้าย ต้นฉบับหายไปในครั้งนั้น เป็นตอนนั้นพอดีที่เรื่องของเดธโรสถูกกระจายออกไป จากหนึ่งคนกระจายไปสิบคน จากสิบคนกระจายไปถึงร้อยคน เรื่องราวมาถึงตอนนี้ คนในวงการเลยต่างคิดว่ามีองค์กรเดธโรสอยู่จริงๆ…เล่าไปแล้วก็น่าขำดี ทุกคนบอกกันว่ามี แต่ใครบ้างที่เคยเจอ?” อี้จือฮวาแบมือพูดเสริม

ได้ยินนักพรตใจบริสุทธิ์กับอี้จือฮวาอธิบายถึงประวัติของเดธโรส เยี่ยหวันหวั่นอึ้งกับที่ สีหน้ามีแต่ความเหลือเชื่อ

องค์กรเดธโรสที่ทำให้คนที่ได้ยินขวัญหนีดีฝ่อ…ไม่นึกว่าจะเป็น…องค์กรและตัวละคนสมมติที่มาจากต้นฉบับกองหนึ่ง!

นี่เป็นสิ่งที่เนี่ยอู๋หมิงเขียนออกมาตอนอายุได้ไม่กี่ขวบ?

พอคิดดูให้ละเอียด เยี่ยนหวันหวั่นกลับรู้สึกว่าไม่สมเหตุสมผล จึงมองพวกเนี่ยอู๋หมิงด้วยสายตาสงสัย “ต้นฉบับชุดหนึ่งที่หายไปทำให้คนคิดว่าเป็นความจริง พวกคุณคิดว่าฉันเป็นคนซื่อบื้อเหรอ…”

สิ่งที่พ่อแม่ของเนี่ยอู๋หมิงโชคดีเขียนขึ้นมาคือเดธโรส ถ้าเกิดที่เขียนเป็นยอดมนุษย์ล่ะก็…

“เถ้าแก่เยี่ย ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น ถ้าเป็นคนทั่วไป เวลามีโจรขึ้นบ้านคงไม่มีใครเหลือบแลต้นฉบับของคุณใช่ไหมล่ะ…คุณรู้ไหมว่าต้นฉบับนี้หายไปจากตระกูลเนี่ยในยุโรป ความน่าเชื่อถือไม่มีใครสงสัยอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นผู้อาวุโสเนี่ยกับหัวหน้าไม่ได้ใช้วิธีการเขียนหนังสือบรรยายถึงเดธโรส แต่ใช้วิธีจดบันทึกเอา ดังนั้นก็ยิ่งทำให้คนเชื่อถือกว่าเดิม” นักพรตใจบริสุทธิ์เอ่ย

“เฮ้อ เป็นเรื่องเก่าเรื่องแก่แล้ว ไม่พูดถึงยังพอว่า อีกอย่างฉันก็ห้ามไม่ให้คนพูดถึงเดธโรสแล้วไม่ใช่เหรอ?” เนี่ยอู๋หมิงพูด

เกรงว่าตัวเนี่ยอู๋หมิงเองก็คงคิดไม่ถึงว่าสิ่งที่ตัวเองเขียนไว้เมื่อตอนเป็นเด็ก พอมาถึงปัจจุบันกลุ่มอิทธิพลที่ไม่มีจริงกลับกลายเป็นตัวตนที่แท้จริงในสายตาของคนอื่นๆ

ดูจากท่าทางของเนี่ยอู๋หมิงไม่เหมือนกับกำลังโกหกอยู่ พอมองสีหน้าของนักพรตใจบริสุทธิ์และอี้จือฮวา เยี่ยหวันหวั่นก็อดตกตะลึงไม่ได้

เนี่ยอู๋หมิงคนนี้เป็นใครกันแน่…

แค่ต้นฉบับที่เขากับพ่อของเขาเขียนขึ้นมาถูกส่งต่อออกไปภายนอก ก็ถึงกับทำให้โลกทั้งใบเชื่อว่าเป็นความจริง ถึงขั้นที่แม้แต่ตระกูลซือก็ยังไม่เคยสงสัย…

นอกจากนี้ ตามที่เนี่ยอู๋หมิงพูดเมื่อครู่ สิบปีก่อนเขาห้ามไม่ให้ข่าวของเดธโรสกระจายออกไป แต่พอดิบพอดีที่ในระยะเวลาสิบปีเดธโรสหายสาปสูญ ไม่เคยมีข่าวคราวใดๆ นอกจากการสวมรอยในครั้งล่าสุดของเธอ…

กลุ่มคนตรงหน้านี้เป็นใครมาจากที่ไหน…ถึงได้มีอิทธิพลมากถึงขั้นที่ทำให้คนอิจฉาแบบนี้!

แต่เรื่องนี้กลับทำให้เยี่ยหวันหวั่นคิดยังไงก็คิดไม่ออกว่า คนอย่างพวกเขาทำไมถึงเป็นห่วงเรื่องของกินอยู่ทุกวัน…

ถึงจะบอกว่าพวกเนี่ยอู๋หมิงไม่ธรรมดา แต่เยี่ยหวันหวั่นกลับไม่เชื่อคำพูดของเขาทั้งหมด บางทีอาจตั้งใจโกหกเธอก็ได้ แม้เยี่ยหวันหวั่นจะไม่เจอเหตุผลอะไรที่เนี่ยอู๋หมิงต้องหลอกลวงตนเองเลยก็ตาม

———————————————–

บทที่ 774 มีอะไรก็พูดกันดีๆ

“จริงสิ เถ้าแก่เยี่ย คุณถามถึงเดธโรสไปทำไมกัน?” อี้จือฮวามองเยี่ยหวันหวั่นพลางถามอย่างสงสัย

เยี่ยหวันหวั่นเรียบเรียงคำพูดแล้วบอกว่า “คนที่พวกเราต้องแสดงในครั้งนี้เป็นองค์กรเดธโรส ฉันแสดงเป็นหญิงหม้ายชุดดำ…พวกคุณแสดงเป็นสมาชิกองค์กรเดธโรส…”

คนอื่นๆ รวมถึงเนี่ยอู๋หมิงได้ยินคำพูดของเยี่ยหวันหวั่นก็ต่างงวยงง อะไรนะ? ให้พวกเขาไปแสดงเป็นเดธโรส?

ที่ผ่านมา เนี่ยอู๋หมิงหยุดไม่ให้ข่าวของเดธโรสกระจายออกไปอย่างเต็มที่ แม้แต่ผู้อาวุโสเนี่ยก็ยังรู้สึกว่าเป็นเพราะต้นฉบับของตัวเอง องค์กรที่ไม่มีอยู่จริงเลยเกิดขึ้นมา ดังนั้นจึงสนับสนุนเนี่ยอู๋หมิงเต็มที่

มาวันนี้ เยี่ยโหย่วหมิงคนนี้ถึงกับให้เนี่ยอู๋หมิงซึ่งเป็นหนึ่งในคนที่แต่งต้นฉบับไปแสดงเป็นเดธโรสเลย…

“เถ้าแก่เยี่ย เดธโรสน่าแสดงตรงไหนกัน มาแสดงเป็นตระกูลเนี่ยของฉันดีกว่า…ตระกูลเนี่ยของฉันเจ๋งกว่า เดธโรสร้อยเท่า ว่ายังไง เธอลองคิดดูดีๆ สิ ฉันจะหาตัวแสดงให้ ราคาไม่แพงหรอก” เนี่ยอู๋หมิงเดินมาด้านหน้าเยี่ยหวันหวั่น พูดขึ้นในลักษณะปรึกษา

ได้ยินดังนั้น เยี่ยหวันหวั่นมองเนี่ยอู๋หมิงด้วยสายตาเหมือนมองคนโง่ โม้…โม้มันเข้าไป เจ๋งกว่าเดธโรสร้อยเท่า…

“ไม่ได้ ต้องแสดงเป็นเดธโรส” เยี่ยหวันหวั่นยืนกรานแน่วแน่ ไม่ยอมให้เนี่ยอู๋หมิงปรึกษา

ไม่ว่าจะมีเดธโรสหรือไม่มี แผนของเธอก็เปลี่ยนไม่ได้

ถ้าหากว่าองค์กรอย่าง ‘เดธโรส’ กับ ‘หญิงหม้ายชุดดำ’ ที่เป็นมันสมองเป็นสิ่งสมมติ ไม่มีอยู่จริงๆ อย่างนั้นก็ยิ่งดี…

เป็นเพราะว่าแบบนี้ จึงไม่มีใครเคยเห็นองค์กร ‘เดธโรส’ มาก่อน

อย่างนั้นเธอก็ขอใช้ชื่อของ ‘เดธโรส’ ก็แล้วกัน…

“งั้น…ฉันไม่แสดง!” เนี่ยอู๋หมิงส่ายหน้าอย่างจริงจังมากเช่นกัน ท่าทีเหมือนยึดมั่นในหลักการ

“อ้อ ถ้าคุณไม่แสดงฉันจะบอกหลานคุณว่าคุณให้ฉันกับแฟนฉันไปสวมรอยเป็นพ่อแม่ของเขา” เยี่ยหวันหวั่นพูดโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า

“อย่านะ น้องโหย่วหมิง…พวกเรามีอะไรค่อยๆ คุยกัน…” เนี่ยอู๋หมิงได้ยินเยี่ยหวันหวั่นเอาเรื่องจอมมารน้อยมาขู่ก็เหงื่อซึมทันที

คิดถึงว่าเขาเนี่ยอู๋หมิงไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน แต่กลับกลัวหลานของตัวเองคนนั้นเสียได้

“งั้นคุณจะแสดงรึเปล่าล่ะ” เยี่ยนหวันหวั่นอมยิ้มมองเนี่ยอู๋หมิง

“แสดง ฉันแสดงก็ได้!” เนี่ยอู๋หมิงจนปัญหา ได้แต่รับคำไป

ยังไม่ต้องพูดถึงว่าเยี่ยหวันหวั่นจะบอกความจริงกับจอมมารน้อยหรือไม่ ต่อให้เธอเปลี่ยนใจกลางคัน ไม่ตอบรับรับเนี่ยอู๋หมิงเรื่องแสดงเป็นแม่ของจอมมารน้อย นี่ก็มากพอที่จะทำให้เขาสำลักได้แล้ว

ดังนั้นคิดไปคิดมา ภายใต้การคุกคามสองชั้น สุดท้ายเนี่ยอู๋หมิงก็ได้แต่เลือกประนีประนอม

“หัวหน้า ถึงยังไงพอถึงเวลาเราต้องใส่หน้ากากเงินอยู่ดี ไม่มีใครรู้หรอกว่าคุณแสดง!” หนุ่มกรรมกรต่างชาติอธิบายให้เนี่ยอู๋หมิงฟังอย่างมีไหวพริบ

“จริงด้วย!” เนี่ยอู๋หมิงตบเข่าฉาด “ถึงยังไงก็ต้องใส่หน้ากากเงิน…”

พูดถึงตรงนี้ เนี่ยอู๋หมิงก็มองไปรอบๆ “หน้ากากล่ะ?”

ในตอนที่พวกเขาออกมาด้านนอกพร้อมกับเถ้าแก่ ไม่ได้เอาหน้ากากอะไรมาด้วยสักหน่อย!

“ฉันมีอยู่” เยี่ยหวันหวั่นยิ้มลึกลับ ก่อนเปิดกระเป๋าเดินทางของตัวเอง

ด้านในกระเป๋าเดินทางมีผ้าคลุมหน้าสีดำ กระโปรงผ้าตาข่ายสีดำ และหน้ากากอีกหลายใบวางอยู่ แถมยังมีเสื้อโค้ทสีดำที่ปักลายกุหลาบด้วย

“น้องโหยว่หมิง…เธอ…เธอเตรียมไว้แต่แรกแล้วนี่…”

เนี่ยอู๋หมิงมองเสื้อโค้ทลายกุหลาบสีดำกับหน้ากากสีเงินด้านในกระเป๋าเดินทางด้วยสีหน้างงงวย เถ้าแก่เยี่ยคนนี้ไม่คิดจะปรึกษากับพวกเขาอยู่แล้ว ตบโต๊ะตัดสินทันที แม้แต่บทพูดก็ยังเตรียมไว้ให้พร้อม…

……………………………………