ตอนที่ 274

Crazy Leveling System

CLS ตอนที่ 274: หลี่หย่า

 

อี้เทียนหยุนมองไปที่ผู้หญิงคนนี้ รู้สึกเหมือนเคยเห็นเธอที่ไหนมาก่อน แต่ก็ไม่มั่นใจว่าเคยเห็นหรือเปล่า แต่ยังไงก็มั่นใจว่าเคยเจอคนที่คล้ายกับเธอมาก่อนอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นคงไม่รู้สึกเหมือนว่าเคยเห็นเธอมาก่อนแน่ๆ

 

“คารวะคุณหนูใหญ่หลี่…..” พนักงานสาวเมื่อเห็นเธอเข้ามาก็ทักทายอย่างสุภาพ

 

คุณหนูใหญ่หลี่อย่างงั้นเหรอ?

 

อี้เทียนหยุนพลันกระจ่างขึ้นมาทันที ว่าทำไมเขาถึงรู้สึกคุ้นกับหญิงสาวคนนี้ ที่แท้เธอก็คือลูกสาวของหลี่เทียนหลงใช่ไหม? ลูกสาวน่ะ?

 

หญิงสาวนางนี้สังเกตเห็นอี้เทียนหยุนกำลังจับจ้องมาที่ใบหน้าของเธอ เธอก็พลันยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “คุณชายท่านนี้ ไม่ทราบว่ามีอะไรอยู่บนใบหน้าข้าอย่างงั้นเหรอ?”

 

“ไม่มีอะไร ก็แค่คำพูดของเจ้าดึงดูดใจข้าได้สำเร็จก็เท่านั้น” อี้เทียนหยุนพูดด้วยรอยยิ้ม “นำข้าไปห้องพิเศษสิ ข้าอยากรู้รายละเอียดมากกว่านี้”

 

“ไม่มีปัญหา โปรดตามข้ามา” สาวงามทำมือเชื้อเชิญ บอกให้อี้เทียนหยุนตามตนไป

 

หลังจากพวกเขาเดินจากไป พนักงานคนนั้นก็พลันแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา พร้อมกับมองตามหลังคุณหนูใหญ่หลี่ด้วยท่าทางเกลียดชัง

 

“ข้าไม่คิดเลยว่าเธอจะออกมารับลูกค้าด้วยตัวเอง แย่งธุรกิจของข้า! ถ้าข้ารู้ข้อมูลงานประมูลล่ะก็ ธุรกิจนี้จะต้องเป็นของข้าอย่างแน่นอน!”

 

“อย่าเสียงดังไป ถ้ามีคนได้ยินเข้ามันจะไม่ดี…. ลูกของเจ้าตำหนักหลี่มีหลายคน และเธอเป็นคนที่มีพรสวรรค์ด้านการสลักอาคมมากที่สุด ดังนั้นเธอจึงเป็นคนเดียวที่สามารถเข้ามาช่วยงานที่นี่ได้ ตอนแรกเจ้าก็ไม่ได้การค้ารายนี้อยู่แล้วนี่ ทำไมไม่ปล่อยมันไปเล่า?”

 

“จะปล่อยไปได้ยังไง เธอแย่งลูกค้าของข้านะ?” พนักงานสาวคนนั้นเหลือกตาใส่เพื่อนของเธอ “ถ้าเธอไม่ใช่ลูกสาวของเจ้าตำหนักหลี่ล่ะก็ ข้าไม่มีทางเกรงใจเธอแน่นอน แค่เพราะมีฐานะนี้ค้ำคอหรอก เธอจึงได้อยู่ที่นี่ได้”

 

“เอาล่ะ อย่าพูดอีกเลย เดี๋ยวมีใครได้ยินเข้ามันจะเป็นเรื่องเอาได้…..”

 

“ถึงข้าไม่พูด แล้วเจ้าคิดว่าคนอื่นที่นี่จะไม่พูดหรือไง? ทุกคนต่างก็คาดหวังกับอนาคตกันทั้งนั้น ระดับเธอต่ำเสียขนาดนั้น เก่งเรื่องสลักอาคมแล้วยังไง ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นนะ คงถูกไล่ออกไปแล้ว!”

 

พวกเธอต่างก็เป็นผู้หญิงที่ไม่พอใจ พากันบ่นออกมาไม่หยุด คำพูดพวกนี้กระทั่งอี้เทียนหยุนยังได้ยิน แม้ว่าเสียงจะไม่ดังนัก แต่เขาก็ยังได้ยินอยู่ดี ร่างที่แบบบางของหลี่หย่าที่เดินนำอยู่ด้านหน้ากลับไม่พูดอะไร ยังคงนำทางเขาต่อไป

 

อี้เทียนหยุนเชื่อว่าเธอต้องได้ยินชัดอย่างแน่นอน แม้ว่าระดับของหลี่หย่าจะไม่สูงนัก แต่จะดีจะร้ายก็เป็นถึงระดับหลอมรวมขั้นที่ 2 ด้วยพลังระดับนี้ ถ้าอยู่ในสำนักทั่วไปถือว่าดีทีเดียว แต่กับตำหนักซิงเฉินนี้ออกจะดาษดื่นอยู่บ้าง

 

ยิ่งอายุของหลี่หย่าก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้ว ดูแล้วน่าจะประมาณ 25-26 ปี ไม่ถือว่าเด็กแล้ว ที่สำคัญเธอยังเป็นถึงลูกสาวของเจ้าตำหนักหลี่ ทำให้เรื่องทุกอย่างมันต่างออกไป คำพูดเมื่อกี้นี้จึงเป็นหลักฐานที่ดีที่สุด

 

ภายใต้การนำของหลี่หย่า พวกเขาก็มาถึงห้องพิเศษ แม้ว่าอี้เทียนหยุนจะไม่ได้มีเงินมากนัก แต่เขาก็ยังต้องการหินวิญญาณหยก ดังนั้นจึงมาที่ห้องพิเศษนี้เพื่อพูดคุยเรื่องรายละเอียด

 

“คุณชายเชิญนั่ง” หลี่หย่าบอกให้อี้เทียนหยุนนั่งลง ตัวเธอก็นั่งลงเช่นกัน จากนั้นก็เผยรอยยิ้มออกมาแล้วพูดขึ้นว่า “ที่คุณชายพูดเมื่อกี้นี้ว่าต้องการซื้อหินวิญญาณหยกขนาดใหญ่ แสดงว่าต้องการหินที่สมบูรณ์อย่างนั้นใช่ไหม?”

 

“ใช่แล้ว ยิ่งสมบูรณ์เท่าไหร่ยิ่งดี แล้วอย่างน้อยต้องมีน้ำหนัก 50-60 จิน” อี้เทียนหยุนพูดขณะที่จับจ้องไปยังหลี่หย่า เธอจะต้องเป็นลูกสาวคนเล็กของหลี่เทียนหลงอย่างแน่นอน

 

“เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหา ที่นี่มีคนนำหินวิญญาณหยกขนาดใหญ่เข้าประมูลอยู่ ยิ่งกว่านั้นยังมีความสมบูรณ์อย่างมาก และที่มีน้ำหนักมากกว่า 200 จินขึ้นไปก็มีอย่างน้อย 5 ชิ้น” หลี่หย่าพูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่ทราบว่าของที่มีพอจะทำให้ท่านพอใจหรือไม่?”

 

“พอใจ ย่อมพอใจอยู่แล้ว!” อี้เทียนหยุนตาเป็นประกาย นี่แหละคือสิ่งที่เขาต้องการ ยิ่งสมบูรณ์ยิ่งดี ถ้าขนาดใหญ่ไปยังสามารถตัดออกได้ แต่ถ้าเล็กเกินไปล่ะก็ ไม่สามารถรวมให้ใหญ่ได้

 

“สิ่งนี้ผู้นำเข้าประมูลหวังว่าจะมีคนซื้อไปในที่เดียว ไม่มีการแบ่งขาย หรือแยกซื้อทีละชิ้น” หลี่หย่าพูด “ไม่ทราบว่าท่านรับราคานี้ได้หรือไม่?”

 

“ไม่มีปัญหา เรื่องนี้ไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน ตราบใดที่สินค้าเป็นของดีคุณภาพสูง เรื่องนี้ย่อมไม่มีปัญหา” อี้เทียนหยุนพูดอย่างไม่ใส่ใจ

 

ตอนนี้เขาไม่ได้ขาดแคลนเงิน ด้วยการปล้นของล้ำค่ามาจากหลายสำนัก แล้วอย่างเขานี่เหรอที่จะยากจน?

 

“เมื่อเป็นอย่างนี้ก็คุยกันง่ายแล้ว” หลี่เหย่าพูดด้วยน้ำเสียงสดใส แล้วพูดต่อว่า “ผู้นำเข้าประมูลไม่ต้องการทอง หรือว่าเม็ดยา แต่อยากแลกเปลี่ยนกับศาสตราระดับจิตวิญญาณ ไม่ทราบว่าเรื่องนี้จะได้หรือไม่?”

 

ทองถือเป็นค่าเงินที่ใช้กันทั่วไป แต่ตอนนี้กลับใช้ไม่ได้ โดยเฉพาะกับหินวิญญาณหยก เพราะหินวิญญาณหยกก็ถือเป็นค่าเงินอย่างหนึ่ง ซึ่งเมื่อเทียบกันแล้ว ทองกลับไม่สามารถที่จะเทียบได้ ยิ่งระดับหลังจึงต้องการค่าเงินที่ระดับสูงขึ้นไปอีก

 

ถ้าเปรียบหินวิญญาณหยกเป็นค่าเงินชนิดหนึ่ง แน่นอนว่าหินวิญญาณหยกย่อมถือเป็นค่าเงินระดับสูง เนื่องเพราะว่าในหินวิญญาณหยกมีพลังวิญญาณอยู่มาก ทำให้ราคาของมันนั้นสูงเป็นธรรมดา

 

“ไม่มีปัญหา” อี้เทียนหยุนย่อมต้องรับปากเป็นธรรมดา เนื่องเพราะว่าเขาสามารถหลอมศาสตราจิตวิญญาณได้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้กังวลกับเรื่องนี้

 

“เสี่ยวหนิวจื่อ(ผู้หญิงคนนี้ในรูปถ่อมตน)ขอบังอาจถาม ไม่ทราบว่าที่ท่านต้องการหินวิญญาณหยกขนาดใหญ่นี้ เพื่อใช้มันกับค่ายกลอย่างงั้นเหรอ?” หลี่หย่าถามอย่างอยากรู้

 

หินวิญญาณหยกขนาดใหญ่แน่นอนว่าไม่ได้ใช้แทนค่าเงิน ถ้าใช้แทนค่าเงินล่ะก็ คงจะไม่มีเหตุผลเกินไปที่จะนำเข้าประมูล หินวิญญาณหยกขนาดใหญ่นั้น แน่นอนว่าประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมันก็คือการใช้ร่วมกับค่ายกล เพื่อเป็นหินพลังงานให้ค่ายกลได้ขับเคลื่อน

 

“ใช่แล้ว มีปัญหาอะไรอย่างงั้นเหรอ?” อี้เทียนหยุนไม่คิดจะปิดบัง เพราะของสิ่งนี้ปกติก็ใช้เพื่อสิ่งนี้อยู่แล้ว ก็เหมือนกับแกะสลักแล้วใส่เครื่องประดับนั่นแหละ ไม่มีอะไรที่เขาบอกไม่ได้

 

“ไม่มีปัญหาอะไรหรอกค่ะ…… ที่ถามเพราะคิดว่าคุณชายน่าจะเชี่ยวชาญในด้านสลักอาคม ไม่ทราบว่าสนใจเข้าร่วมกับตำหนักซิงเฉินของเราหรือไม่!” หลี่หย่าพลันเอ่ยเป้าหมายของตนออกมา “ตราบเท่าที่เข้าร่วมกับตำหนักซิงเฉินในฐานะเค่อชิง(แขกผู้ทรงเกียรติ) พวกเราจะไม่ทำเรื่องอยุติธรรมกับท่านอย่างแน่นอน เชื่อว่าท่านคงรู้จักตำหนักซิงเฉินของเราดี ว่าพวกเราไม่เคยผิดสัญญามาก่อน!”

 

เธอพลันเอ่ยดึงคนขึ้นมา เรื่องนี้อี้เทียนหยุนเข้าใจดี ถ้าดึงคนเข้ามาได้ ถือเป็นความดีความชอบประการหนึ่ง ยิ่งได้มากยิ่งดี นี่ก็เหมือนกับการดึงลูกค้า ยิ่งดึงผู้เชี่ยวชาญเข้ามาได้ นั่นหมายความว่าตนนั้นมีความสามารถมาก

 

“เรื่องนี้คงไม่ต้องหรอก ข้าแค่ต้องการซื้อของเท่านั้น” อี้เทียนหยุนปฏิเสธคำชวนของเธอ

 

ขอแค่มีความสามารถหน่อย ก็จะได้รับคำเชิญในทันที เรื่องนี้ไม่มีข้อยกเว้น

 

“ทราบแล้ว….” ดวงตาที่งดงามของหลี่หย่ามีประกายแห่งความผิดหวังวาบผ่าน จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “งั้นข้าคงต้องขอยืนยันหน่อย ว่าท่านมีทรัพย์สมบัติทั้งหมดเท่าไหร่ แค่บางส่วนก็ได้ พวกเราต้องป้องกันคนที่หวังจะเข้ามาก่อกวน”

 

“ไม่มีปัญหา” อี้เทียนหยุนเข้าใจกฎของพวกเขา จากนั้นแหวนเก็บของบนมือของเขาก็เปล่งแสงขึ้น พร้อมกับส่งศาสตราจิตวิญญาณขั้นสูง 3 ชิ้นหล่นลงกับพื้น “นี่เป็นแค่ส่วนน้อยเท่านั้น ไม่ทราบว่าใช้ได้ไหม?”

 

เขาทิ้งสมบัติมากมายไว้ที่นิกายเทียนเฉวียนก็จริง แต่ก็ยังเก็บไว้กับตัวมากพอควร เขาวางแผนที่จะมาซื้อหินวิญญาณหยก ดังนั้นจะไม่มีของล้ำค่าติดตัวได้ยังไง?

 

“ใช่ได้ค่ะ!” หลี่หย่าตาเป็นประกาย จากนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “งั้นข้าจะนำท่านไปยังรับรองพิเศษในงานประมูล หวังว่าท่านจะได้ในสิ่งที่ต้องการ!”