ตอนที่ 253 เมาอาลาวาด

บุตรอสูรบรรพกาล

บุตรอสูรบรรพกาล บุตรอสรบรรพกาล ตอนที่ 253 เมาอาลาวาด

 

“ทําไมท่านถึงโกรธแค้นกลุ่มเขี้ยวโลหิตหรือขอรับ”ไปจเหวินถามพลางดื่มเหล้าที่ชายขี้เมาส่งมาให้แม้มันจะไม่เมาแต่มันก็เดาเอาว่าชายตรงหน้าคงต้องการสหายร่วมดื่ม

 

“เรื่องมันซับซ้อน” ชายขี้เมาพูดด้วยน้ําเสียงของคนเมาพลางถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

 

“แต่ความผิดทั้งหมดนั้นเป็นเพราะข้าเอง หากวันนั้นข้าไม่พานายหญิงไปที่เมืองของกลุ่มเขี้ยวโลหิตละก็” ชายขี้เมาว่าพลางหลั่งน้ําตาออกมาเพียงแต่พูดมันก็ปวดร้าวไปถึงข้างในแต่ก่อนมันเป็นถึงคนเหนือคนแต่ยามนี้สภาพมันไม่ต่างจากคนจรจัดเลย

 

“แถมข้ายังทํานายน้อยตายจากไปอีก แล้วแบบนี้ข้าจะไปพบหน้านายท่านได้อย่างไร” ชายขี้เมาร้องให้ออกมาจนไม่เหลือภาพลักษณ์เดิมน่าเกรงขามเลยเห็นมันปวดร้าวเช่นนี้ไปจูเหวินก็อดไม่ได้ที่จะปลอบใจมัน

 

“มาๆ พวกเจ้าก็มานั่งตรงนี้เถอะ วันนี้ข้าจะเลี้ยงพวกเจ้าเอง” ชายขี้เมาว่าพลางกวักมือไปทางพวกเหม่ยหลิน แน่นอนว่ามันไม่ได้ยัดเยียดเหล้าให้กับพวกหลินหลินแต่ก็ส่งมันให้กับเหม่ยหลินและหงเยว่ ซึ่งพวกนางก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะ ไรเพราะเหม่ยหลินเองก็กินสมุนไพรต้านพิษลงไปเช่นเดียวกับไปจูเหวินส่วนหงเยว่ท่าทางนางจะไม่ใช่คนเมาง่ายแต่อย่างไร

 

ส่วนอาหารนั้นแม้จะถูกนํามาวางเต็มพื้น แต่เพราะหลินหลินกับปิงปิงมีวิธีการกินอาหารที่แปลกกว่าชาวบ้านพวกนางเลยแทบไม่ได้แตะอาหารเลย

 

กรุบ..แม้จะกินอาหารร่วมกับคนอื่นไม่ได้ แต่หลินหลินก็มีขนมของตัวเองเอาไว้อยู่แล้วซึ่งนางก็ใช้มือบังก้อนหยกเอาไว้พลางเอาเข้าปากอย่างสบายใจ ปกตินางทําแบบนี้ไม่เคยมีใครสนใจเพียงแต่

 

“ยัยหนู เจ้ากินอะไร” ชายขี้เมาถามพลางมองมาทางหลินหลิน แต่ยังไม่ทันตอบมือของมันก็พุ่งเข้ามาคว้าข้อมือของหลินหลินเอาไว้ทําให้ก้อนหยกที่หลินหลินเอาไว้กินเป็นขนมตกลงมาบนพื้น

 

“เจ้าเป็นอสูร…” ชายขี้เมาพูดพลางมองก้อนหยกที่ตกบนพื้นด้วยท่าที่ไม่ชอบมาพากลดวงตาของมันจากเศร้าโศกแปลเปลี่ยนเป็นโทสะในทันที อยู่ๆพลังเซียนของมันก็แผ่พุ่งออกมาอย่างผิดปกติ เห็นได้ชัดเลยว่าท่าจะไม่ดีแล้ว

 

ตูม! หมัดของมันต่อยเข้าใส่ตรงที่หลินหลินเคยอยู่ในทันทีแต่เพราะไปจูเหวินสามารถดึงร่างของหลินหลินออกมาก่อนได้ทําให้หมัดของมันคว้าได้แต่ความว่างเปล่า

 

“พวกเจ้า เป็นคนของกลุ่มเขี้ยวโลหิต ทําไมต้องปิดบังพลังของตนเองด้วย” ชายขี้เมาว่าพลางลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางน่าเกรงขามยามนี้พวกเสี่ยวเอ้อพากันหนีตายกันไปหมดแล้วเพราะต่อให้เป็นแค่การเมาอาลาวาดแต่คนระดับเทียน เซียนขั้นที่ 10 อาลาวาดขึ้นมาอาจจะพังไปทั้งเมืองเลยก็เป็น

 

“ไม่ใช่ พวกเราไม่ใช่คนของกลุ่มเขี้ยวโลหิต”ไปจูเหวินว่าพลางพาหลินหลินออกห่างจากชายตรงหน้า

 

“หากไม่ใช่แล้วจะมีใครเลี้ยงอสูรระดับสูงเช่นนี้อยู่อีก”ชายขี้เมาตะโกนพลางเร่งพลังของตนขึ้นไปมากกว่าเดิมทําเอาบรรยากาศรอบๆผิดเพี้ยนไปทันที

 

“ตายซะ” หมัดของชายตรงหน้าพุ่งเข้ามาใส่ร่างของไปจูเหวินแต่ยังไม่ทันที่หมัดของมันจะโดนร่างของไปจูเหวินพลังที่อัดแน่นอยู่รอบหมัดของมันก็ซัดเอาไปจูเห วินถอยไปหลายก้าวแล้ว

 

ตูม…ตูม…. แม้จะไม่รุนแรงเท่าหมัดขอราชสีห์เพลิงแต่ก็รุนแรงพอๆกับฝ่ามือเพลิงพิโรธของไปจูเหวินหมัดของชายขี้เมาที่ต่อยออกมาเป็นชุดแต่ละหมัดรุนแรงจนแขนที่ไปจูเหวินใช้ป้องกันรู้สึกปวดตุบๆขึ้นมาเลย

 

ตูม!! ไปจูเหวินเห็นอีกฝ่ายโจมตีไม่ยั้งมันจึงใช้ฝ่ามือเพลิงพิโรธออกไป แต่ก็ทําได้แค่ตีเสมอเท่านั้น

 

ตูม…ตูม…ไปจูเหวินไม่เคยใช้ฝ่ามือเพลิงพิโรธถี่เท่านี้มาก่อน แต่เพราะร่างกานของไปจูเหวินรวมทั้งพลังในร่างพัฒนาขึ้นมามากทําให้มันสามารถดึงพลังจางร่างกายออกมาซัดฝ่ามือเพลิงพิโรธได้ทันทีโดยไม่ต้องรวมพลังแล้ว

 

เปรี้ยง!! อยู่ๆที่ด้านหลังของชายขี้เมาก็ปรากฏร่างของเหม่ยหลินที่ร่อนลงมาโจมตีใส่แผ่นหลังของมันด้วยท่าฝ่ามือปักษาข้ามสมุทรแม้จะไม่รุนแรงเท่าฝ่ามือเพลิงผ ลาญตล้อยสํานึกแต่ก็รุนแรงกว่าฝามือเพลิงพิโรธอยู่ไม่น้อยเพียงแต่ท่านี้จะเป็นต้องโจมตีจากอากาศทําให้ศัตรูจับทางได้ง่ายและใช้เวลานานกว่าจะใช้ออกมาได้มันจึงเป็นท่าที่ควรใช้โจมตีครั้งแรกเท่านั้น

 

“หนอย เข้ามาเลยไอ้พวกเขี้ยวโลหิต” ทั้งๆที่โดนฝ่ามือปักษาข้ามสมุทรไปแล้วแต่ก็ชายขี้เมาก็ไม่สะดุ้งสะเทือนเลยมันหันหลังกลับมาหมายจะโจมตีเหม่ยหลินที่อยู่ด้านหลังเพียงแต่ไปจูเหวินที่อยู่ด้านหน้าก็ไม่ยอมให้มันทําแบบนั้น

 

เปรี้ยง! ฝามือของไปจูเหวินอัดเข้าที่ท้องของชายขี้เมาแต่ร่างกายของมันก็ราวกับทองแดงไม่ว่าจะซัดไปเท่าไหร่ก็ไม่มีท่าที่สะดุ้งสะเทือนเลย

 

ตูม! ชายขี้เมาต่อยเข้าใส่เหม่ยหลินอย่างจัง แต่นางก็ไม่ได้กระจอก นางใช้ฝ่ามือหิมะละลายกลางนภาช่วยลดแรงปะทะเอาไว้ได้หลายส่วน แต่มันก็ดันร่างของนางถอยไปจนถึงแถวเก้าอี้อยู่ดี

 

วูบ…. อยู่ๆไปจูเหวินก็เพิ่มพลังตัวเองด้วยเคล็ดวิชาโลหิตมังกรและร่างสถิตมังกร รวมทั้งวิชาอสูรวัฒนะทําให้พลังของไปจูเหวินเพิ่มขึ้นมาหลายเท่าตัวเพียงแต่ชายขี้ เมาก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติทําให้มันหันหมัดเข้ามาโจมตีไปจูเหวินทันที

 

ผัว! หมัดของมันเบากว่าครั้งก่อนมากจนไปจูเหวินไม่สะดุ้งสะเทือนเลย ท่าทางตอนโดนโจมตีเมื่อครู่เหม่ยหลินจะแฝงพลังวิญญาณของนางเข้าไปด้วยท่าเมฆหนาไร้หิมะทําให้การโจมตีของชายขี้เมาติดขัดไปชั่วคราว

 

ตูม! เมื่อรวบรวมพลังได้ไปจเหวินก็ไม่รอช้าซัดฝามือเพลิงผลาญคล้อยสํานึกออกมาเต็มแรง ทําเอาร่างของชายขี้เมาลอยไปติดกําแพงร้าน

 

“ไม่นึกว่าพวกมันจะมีเด็กใหม่ฝีมือขนาดนี้ ทําไมสวรรค์ถึงเข้าข้างพวกมันนัก”ชายขี้เมาว่าพลางฉีกเสื้อของตนเองที่ขาดวิ่นไม่เหลืออชิ้นดีออกเผยให้เห็นรอยสักรูปมังกรที่สามจากแผ่นหลังมาถึงที่แขน

 

“หากข้าไม่ตัดไฟตั้งแต่ต้นลม การล้างแค้นกลุ่มเขี้ยวโลหิตก็คงยากลําบากกว่าตอนนี้แน่ๆ”ชายขี้เมาว่าพลางเป ล่งพลังเซียนออกมาพริบตานั้นร่างกายของมันก็ปรากฏแสง สีทองออกมาราวกับเป็นผู้ใช้พลังธาตุศักดิ์สิทธิ์เพียงแต่แสงนั่นต่างออกไป เพราะทันทีที่แสงสีทองปรากฏออกมาพลังเซียนของชายขี้เมาก็พุ่งสูงมาก พลังของมันเรียกได้ว่าเพิ่มขึ้นจนเกือบจะข้ามระดับเทียนเซียนขั้น 10 อยู่แล้ว แทบไม่ต้องเดาเลยชายขี้เมาคนนี้เป็นระดับยอดฝีมืออย่างแน่นอน

 

“เหม่ยหลิน เจ้า…”ไปจูเหวินกําลังจะบอกให้เหม่ยหลินหนีไปก่อนก่อน แต่นางกลับเร่งพลังวิญญาณและพลังอสูรขึ้นราวกับจะบอกว่าคราวนี้นางจะสู้ร่วมกับไปจูเหวินและ ไม่ยอมหนีไปไหนเด็ดขาด

 

“เจ้าช่วยถ่วงเวลาให้หน่อยได้ไหม”ไปจูเหวินเปลี่ยนคําสั่งพลางเริ่มรวบรวมพลังวิญญาณและพลังอสูรให้มากที่สุดมันเคยใช้ฝ่ามือนี้มาครั้งหนึ่งตอนอยู่ในสภาวะคุ้มคลั่งแต่มันยังไม่เคยใช้ออกมาในสภาวะปกติเลย

 

“เจ้าค่ะ” เหม่ยหลินยิ้มพลางกระโดดเข้าไปขวางระหว่างไปจูเหวินและชายขี้เมานางใช้ท่าปักษาโรมรันเข้าปะทะพร้อมใช้ท่าเมฆหนาไร้หิมะคอยกดพลังของชายขี้เมาเอาไว้อาจจะเพราะมันดื่มเหล้าไปมากทําให้ประสาทสัมผัสไว ไม่พอ ส่งผลให้เหม่ยหลินสามารถยื้อมันเอาไว้ได้หลายวินาทีเลย

 

“หลบไปจูเหวินว่าพลางพุ่งตัวเข้าไปหาชายขี้เมาทันทีที่เหม่ยหลินถอยออกไปชายขี้เมาก็เห็นฝ่ามือของไปจูเหวินพอดี

 

“ฮา”ชายขี้เมาคํารามออกมาพร้อมปล่อยพลังของมันออกมารอบๆเพื่อรับฝ่ามือของไปจูเหวินเอาไว้ด้วยพลังระดับนี้ต่อให้เป็นพวกอาวุโสของกลุ่มเขี้ยวโลหิตก็ยังทําอะไร ไม่ได้เลย

 

บีม..ฝามือเพลิงพิฆาตของราชสีเพลิงเป็นฝ่ามือที่ใช้พลังมากและรุนแรงที่สุดของชุดฝ่ามือทั้งหมด พลังของไปจูเหวินราวกับไหลออกไปทั้งร่างเล่นเอาไปจูเหวินเองยังตกตะลึงแรงปะทะของฝ่ามือเพลิงพิฆาตทําเอาข้าวของในร้านอาหา รฟังไม่มีชิ้นดี แถมยังเปาเอากําแพงด้านหลังของชายขี้เมาหายไปเป็นแถบ เพียงแต่ชายขี้เมายังยืนอยู่ได้แม้จะโดนฝ่ามือเพลิงพิฆาตเข้าไปแล้ว

 

“อัก”ชายขี้เมากัดฟันพลางยืนขึ้นอีกครั้ง ไม่น่าเชื่อเลยว่าการโจมตีเช่นนี้จะมาจากเด็กที่ยังไม่ถึงระดับเทียนเซียนด้วยซ้ํา แต่ท่าเมื่อครู่ก็ใช้พลังทั้งหมดไปแล้ว เห็นได้ชัดเลยว่าพลังในร่างของไปจูเหวินแทบจะว่างเปล่าเลย

 

“ตาย”ชายขี้เมายกหมัดขึ้นมาอย่างยากลําบากมันเองก็ประมาทไปหน่อยที่ยอมรับฝ่ามือเมื่อครู่ตรงๆ แต่ตอนนนี้ไปจูเหวินไม่มีแรงขัดขืนแล้ว

 

วูบ.หมัดของชายขี้เมาต่อยลงไปบนร่างของไปจูเหวิน แต่อยู่ๆเหม่ยหลินที่อยู่ข้างๆก็เข้ามารับหมัดของมันเอาไว้นางพยายามใช้ฝ่ามือหิมะละลายกลางนภาต้านเอาไว้ แต่หมัดที่ห่อหุ้มแสงสีทองเอาไว้ของชายขี้เมากลับมีกําลังมาก จนน่าตกใจ ทําให้เหม่ยหลินย่างต้านนางก็ยิ่งเสียเปรียบ

 

“ท่าน…”ไปจเหวินมองแสงสีทองที่ลอยออกมาจากร่างของชายขี้เมาพลางนึกย้อนถึงความทรงจําที่ตนเองได้รับกลับมาตอนนั้นบนยอดเขาชายที่พามันตอนเด็กหนีมาเองก็ใช้พลังแบบเดียวกันนี้เช่นกัน

 

“เมื่อตอนนั้น บนยอดเขาที่มีบ่อน้ํา…”ไปจูเหวินว่าพลางมองชายขี้เมาด้วยสีหน้าตกตลึงไม่นึกเลยว่ามันจะได้ เจอชายคนนั้นก่อนที่จะไปยังเมืองของกลุ่มเขี้ยวอสูรเสียด้ว ยซ้ํา

 

“ท่าน ท่านยังจําได้หรือไม่ บนยอดเขานั่นท่านส่งข้าไปกับอสูรวิหค”ได้ยินไปจูเหวินพูดเช่นนั้นหมัดของชายขี้เมาก็ราวกับหมดเรี่ยวแรง

 

“เจ้าเจ้าไปฟังเรื่องนั้นมาจากไหน” ชายขี้เมาว่าพลางถอยออกมาจากไปจูเหวิน แม้มันจะเมาและขาดสติแต่มันไม่ใช่คนโง่อย่างแรกที่มันคิดคือ พวกคนของกลุ่มเขี้ยวโล หิตในวันนั้นอาจจะเอาเรื่องนี้กลับไปเล่าแล้วปั้นเรื่องขึ้นมาเพื่อเล่นงานมันแต่คนของกลุ่มเขี้ยวโลหิตในวันนั้นมันสังหารจนหมดแล้วมิใช่หรือแถมมันยังตามไปจนถึงขอบเหวของผาไร้กันอีกต่างหาก

 

“ข้าคือเด็กคนนั้นขอรับ”ไปจูเหวินว่าพลางเดินเข้าไปหา ชายขี้เมามันยังมีท่าที่ไม่เชื่ออยู่ดี แต่ถึงอย่างนั้นท่าที่ดุดันก่ อนหน้านี้ก็ลดลง

 

“เป็นไปไม่ได้ ข้าตามพวกมันไปถึงผาไร้กัน ทั้งอสูรของข้าทั้งนายน้อยต่างตกลงไปจนร่างแหลกสลาย” ชายขี้เมาพูดพลางเอามือขึ้นมากุมหัวตนเองภาพในวันนั้นมันยังไม่สามารถลืมลงได้เด็กน้อยที่ตกลงไปจากผาไร้กันร่างแตกสลายจนเหลือเพียงกองเลือดเท่านั้น

 

“ข้ายังไม่ตายขอรับ อสูรจนหนึ่งที่อยู่ที่นั่นมาเจอข้าในสภาพใกล้ตายนางช่วยชีวิตข้าเอาไว้และเลี้ยงดูข้ามาราวกับบุตรชายขอรับ”ไปจูเหวินว่าพลางจับมือของชายขี้เมาเอาไว้ มันยังจําท่าที่เป็นห่วงของชายขี้เมาที่มีต่อมันบนยอดเขานั้นได้และที่มันมีสภาพเช่นนี้ก็เพราะมันสูญเสียนายน้อยอย่างไปจูเหวินไปนั่นเอง

 

“อสูร เป็นไปไม่ได้ อสูรจะมาช่วย…ไม่สิ พลังข องนายหญิงหรือว่านายน้อยเองก็มีพลังเช่นเดียวเดียวกัน”ชายขี้เมาเบิกตากว้างพลางมองไปทางไปจูเหวินยามนี้ที่มันมองไปจูเหวินราวกับมีแสงเรืองรองจากสวรรค์ส่องลงมาไม่มีผิดมารดาของนายน้อยเป็นผู้มีความสามารถ งดูดใจอสูร แม้จะยังไม่ทราบว่าใช่หรือไม่แต่คาดว่านายน้อย เองก็คงจะมีพลังเช่นนั้นไม่มากก็น้อย การที่มันจะถูกอสูรช่วยเอาไว้ก็ไม่แปลกแถมผาไร้กันยังเป็นดินแดนลึกลับอันเป็นที่อยู่ของฝันร้ายสีขาว อีกต่างหากที่นั่นว่ากันว่ามียาและสมุนไพรหายากมากมาย หากอสูรเก็บนายน้อยไปเลี้ยงการรักษาบาดแผลจากการตกเหวก็อาจจะเป็นไปได้เรื่องนี้จําเป็นต้องมีปาฏิหาริย์เพียงอย่างเดียวเท่านั้นคือนายน้อยต้องตกลงไปและยังรอดชีวิตมาได้และปาฏิหาริย์ในข้อนั้นก็อาจจะเกิดขึ้นจริงตรงหน้ามันแล้ว…….