ตอนที่ 1490

Monster Paradise

เพื่อช่วยให้ไคลี่กลายเป็นชั้น 6 จิตวิญญาณแท้จริง หลินฮวงต้องเดินทางไปแดนลับ

 

หลินฮวงเคยเข้าแดนจอมเทพภายใต้ตัวตนของเซี่ยหลิน สุดท้าย แม้เขาจะแกล้งตายและไม่ถูกส่งออกมา แต่หลายองค์กรในแดนเทพก็พอเดาได้ว่ามันไม่ใช่เขาไม่ถูกส่งออก แต่เขาได้รับมรดกของแดนจอมเทพและซ่อนตัวต่างหาก

 

แม้เรื่องนี้จะเกิดขึ้นเกือบปีแล้ว แต่ก็ยังมีหลายคนในแดนเทพที่มองหาเวี่ยหลิน หวังยึดมรดกจอมเทพ

 

ดังนั้น ตัวตนของเซี่ยหลินจึงไม่สามารถใช้ได้อีก อย่างน้อยก็ต่อหน้าสาธารณะ

 

หลังอ่านข้อมูลที่เจ้าแดงให้ หลินฮวงก็ไตร่ตรองสักพักก่อนติดต่อใครบางคน

 

เสียงรอสายยังไม่ดังด้วยซ้ำ การสื่อสารก็เชื่อมต่อแล้ว และเสียงผุ้ชายก็ดังจากอีกด้าน

 

“เซี่ยหลิน?!”

“ผู้อาวุโสใต้สวรรค์ ข้าต้องการความช่วยเหลือ”หลินฮวงเอ่ยปากขอทันที

 

“ว่ามา”ใต้สวรรค์ไม่ลังเล

 

“ข้าอยากเข้าแดนลับของนครหลวงเทพในเดือนหน้า”หลินฮวงเข้าเรื่อง

 

“มันไม่ยากสำหรับข้าที่จะช่วยให้เจ้าผ่านเข้าไป แต่ทว่า เจ้าควรรู้ว่าถ้ามีคนจำเจ้าได้ แม้กระทั่งเคียวแห่งความตายก็ปกป้องเจ้าไม่ได้”ใต้สวรรค์ตอบตรงๆ

 

หลินฮวงเคยเลือกไม่ยอมรับการคุ้มครองของเคียวแห่งความตาย แต่เลือกหายตัวไปทันทีที่ได้รับมรดกจอมเทพ ซึ่งทำให้พวกระดับสูงของเคียวแห่งความตายไม่พอใจ

 

หากตัวตนของหลินฮวงถูกเปิดเผยระหว่างการเข้าร่วมนี้ มันเป็นไปไม่ได้สำหรับเคียวแห่งความตายที่จะก้าวออกมาช่วยเหลือเขาเว้นแต่เขาจะเต็มใจยอมละทิ้งมรดกจอมเทพ แต่ทว่า ใต้สวรรค์รู้ว่าหลินฮวงไม่มีทางทำแบบนั้น

 

“ข้ารู้ ข้าจะเปลี่ยนชื่อ และข้าจะเปลี่ยนรูปแบบการต่อสู้ข้าด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ระดับพลังข้าเลื่อนเป็นเทพแท้จริงแล้ว ไม่ควรมีใครประติดประต่อข้ากับเซี่ยหลิน”

“เนื่องจากเจ้าร้องขอ ข้าก็จะช่วย”ใต้สวรรค์ไม่ถามเพิ่ม”หาสาขาเคียวแห่งความตายและไปสมัครด้วยตัวตนใหม่ จากนั้นบอกชื่อใหม่กับข้า หลังจากนั้น ข้าจะส่งจดหมายเชิญหาเจ้าเอง”

 

หลังจบสายกับใต้สวรรค์ หลินฮวงก็โทรหาหยางหลิง

 

น่าแปลก อุปกรณ์สื่อสารแจ้งเตือนว่า”หมายเลขที่ท่านเรียกยังไม่เปิดใช้บริการ”

 

หลินฮวงขมวดคิ้ว ขณะที่พยายามจะโทรใหม่ ก็มีสายจากหมายเลขไม่คุ้นเคย

 

เขาต่อสายทันที

 

“เข้าเรื่อง”เสียงนั้นเป็นเสียงของหยางหลิง

 

“ทำไมหมายเลขเจ้าถึงไม่เปิดใช้บริการ?”หลินฮวงถาม

 

“ข้าเจอปัญหาเล็กน้อย”หยางหลิงดูเหมือนไม่เต็มใจพุดมากกว่านี้”แล้วเจ้าต้องการอะไร รีบบอกมา.

 

หลังลังเลสักพัก หลินฮวงก็ตัดสินใจไม่ถามเพิ่ม เขาบอกหยางหลิงว่าเขาต้องการอะไร”ข้าอยากได้ตัวตนปลอมในแดนเทพ ตัวตนที่ข้าสามารถใช้ลงทะเบียนกับเคียวแห่งความตายได้”

 

“งั้นครั้งนี้ข้าจะทำให้เจ้าหลายตัวตน”หยางหลิงพูด”แค่ส่งภาพกับข้อมูลส่วนตัวหลังปลอมตัวให้ข้าก็พอ นอกจากนี้ อย่าติดต่อข้าถ้าไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน”

 

เมื่อได้ยินหยางหลิงพูดแบบนี้ หลินฮวงก็ตระหนักว่าปัญหาที่เพื่อนของเขากำลังเผชิญอาจไม่ใช่เรื่องเล็กๆ

 

“มีอะไรให้ข้าช่วยไหม?”

 

หยางหลิงเงียบไปก่อนตอบด้วยเสียงต่ำ”มันเป็นไปได้ที่ข้าจะถูกพวกไรเดอร์จับตามอง…เจ้าช่วยอะไรไม่ได้มากหรอก แค่ทำให้แน่ใจว่าเจ้าจะไม่โดนไปด้วย”

 

หลังพูดแบบนี้ เขาก็หยุด แต่ไม่วางสาย เขาดูเหมือนจะลังเลก่อนพูดต่อ”ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับข้า ช่วยดูแลหงซวงด้วย”

 

หลังได้ยินคำพูดเหล่านี้ หลินฮวงก็กะพริบตาด้วยความแปลกใจ เพียงเมื่อเขากำลังจะถามถึงหงซวง หยางหลิงก็ตัดสายไปแล้ว

 

‘อย่าบอกนะว่าเขาเกิดรักหงซวงจริงๆ…’

 

ไม่ว่ามันจะเป็นร่างกายหรือหน้าตา หงซวงถือเป็นสาวงาม แต่ทว่า นิสัยของนางมักทำให้หลินฮวงไม่อยากเข้าใกล้นาง

 

ต่อให้เขาจะมั่นใจว่าความสามารถในตอนนี้ของเขาเหนือกว่าหงซวงมาก เขาก็ยังระวังต่อผู้หญิงคนนี้

 

ดูจากสภาพของหยางหลิงแล้ว เขายิ่งรู้สึกว่านางน่ากลัวเข้าไปอีก

 

เขาส่ายหัว ละทิ้งเรื่องของหยางหลิงกับหงซวงไว้ชั่วคราว เขาสวมพันหน้า ปลอมเป็นหน้าตาต่างๆ และถ่ายรูป

 

หลังจากนั้น เขาก็ตั้งตัวตนสำหรับหน้าตาใหม่ต่างๆและส่งรูปให้หยางหลิง

 

วินาทีต่อมา หยางหลิงก็ตอบกลับ

 

“สามวัน เจ้าสามารถไปรับพวกมันได้ที่แผนกต้อนรับของโรงแรม”

 

หลินฮวงตกใจ เขาลืมบอกหยางหลิงว่าเขาอยู่ดาวไหน แม้โรงแรมที่เขาพักจะเป็นโรงแรมผิดกฏหมายซึ่งไม่ต้องยืนยันตัวตน แต่มันเห็นได้ชัดว่าหยางหลิงรู้ว่าเขาอยู่ไหน

 

เพื่อหลีกเลี่ยงการพลาดพัสดุที่หยางหลิงจะส่งมา หลินฮวงจึงไม่ปิดประตูบ่มเพาะ เขาแค่บ่มเพาะไร้รอยต่อ

 

หลินฮวงไม่รู้ว่ามันเพราะเขาได้พัฒนาเป็นเทพแท้จริงแล้วหรือเปล่า แต่เขาสังเกตเห็นว่าการบ่มเพาะไร้รอยต่อของเขาเร็วกว่าเดิมสิบเท่า

 

นับตั้งแต่เขาก้าวสู่ระดับเจ็ดของไร้รอยต่อ ในอดีต อัตราการเพิ่มด้ายพลังจิตของเขาอยู่ที่สองร้อยต่อชั่วโมง แต่ทว่า ตอนนี้จำนวนเพิ่มเป็นสามพันต่อชั่วโมง

ในช่วงเวลาหนึ่งวัน จำนวนด้ายพลังจิตก็เกินกว่าสามแสนไปแล้ว และการบ่มเพาะไร้รอยต่อยังก้าวสู่ระดับแปด

 

หลังจากนั้น ความเร็วการบ่มเพาะไร้รอยต่อของเขาก็ลดลงเล็กน้อย แต่ก็ยังสร้างได้ถึงสองพันเส้นต่อชั่วโมง

 

สามวันผ่านไปทั้งอย่างนั้น หลังกินข้าวเช้า หลินฮวงก็ไปรับพัสดุจากหยางหลิง

 

เมื่อเปิด ภายในเขาก็พบแหวนตัวตนสี่วง  แต่ละวงมีรูปทรงต่างกัน

 

เขาลองแต่ละอันและตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีปัญหาก่อนเก็บสามวงไปและสวมอีกวง  หลังจากนั้น เขาก็ตรงไปสาขาของเคียวแห่งความตาย

 

หลังผ่านไปสิบนาที เขาก็ได้รับสถานะสมาชิกสำรองของเคียวแห่งความตาย

 

“ชื่อ : หวงมู่”

 

“เผ่า : ไม่รู้”

 

“ระดับพลัง : เทพแท้จริงขั้นเก้า”

 

“การบ่มเพาะ : พลังจิต”

“ตราบเท่าที่ข้าใช้การปลอมตัวมากพอ จะไม่มีใครรู้ว่าข้าเป็นใคร!”หลินฮวงยิ้ม

การไม่รู้เผ่าเป็นเรื่องปกติในแดนเทพ มีหลายเผ่าในแดนเทพ และเด็กหลายคนก็กำพร้าหลังคลอด โดยไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นของเผ่าใด

 

สำหรับระดับพลัง หลินฮวงปลอมตัวเป็นเทพแท้จริงขั้นเก้าเพื่อเลี่ยงการดึงดูดความสนใจหากเขาพัฒนาเร็วเกินไป

 

สำหรับเส้นทางบ่มเพาะ เนื่องจากทุกคนรู้ว่าเขาคือผู้บ่มเพาะดาบตอนเขาอยู่ในแดนจอมเทพ เขาจึงไม่สามารถใช้ดาบได้อย่างเปิดเผย ไม่งั้น ผู้คนอาจสงสัยว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเซี่ยหลิน ผู้ได้รับมรดกจอมเทพ นอกจากนี้ ผู้ควบคุมยังหายากมากในแดนเทพ เขาจึงต้องเลือกว่าเป็นผู้ใช้พลังจิต

 

หลินฮวงทำสำเนาข้อมูลตัวตนนี้และส่งต่อให้ใต้สวรรค์

 

ครึ่งชั่วโมงต่อมา ใต้สวรรค์ก็ส่งจดหมายเชิญมาโดยตรงโดยไม่พูดอะไรสักคำ

 

แต่ทว่า หลินฮวงยังตอบกลับ”ขอบคุณ!”

 

ตอนนี้ที่เขาได้รับจดหมายเชิญเข้าแดนลับ หลินฮวงจึรู้สึกเหมือนภาระโดนยกออกจากบ่า

 

เขาเดินลงไปเช็คเอาท์ออกจากห้องพัก จากนั้นก็กลับไปวังจอมเทพ

 

หลังตั้งค่าการแจ้งเตือนสำหรับวันออกเดินทาง หลินฮวงก็บดขยี้การ์ดห้องแห่งกาลเวลา ก้าวเข้าไปในนั้นอีกครั้งเพื่อทำการปิดประตูบ่มเพาะ