แดนนิรมิตเทพ บทที่ 559
เฉินโม่สองมือไขว้หลัง จ้องงเจี่ยงไต้ซืออย่างเยือกเย็น สีหน้าดูถูกเหยียหยาม “รังแกนายแล้วทำไม!”

“แก…..”

เจี่ยงไต้ซือชี้หน้าเฉินโม่ แต่กลับพูดอะไรไม่ออก

“คุณหนูครับ คุณพาคนอื่นออกไปก่อน ข้าปกคลุมก่างวานมานับสิบปี ยังไม่เคยมีใครกล้าเหยียดหยามผมเช่นนี้มาก่อน ความอัปยศในวันนี้ หหากผมไม่ชำระแค้น แล้วจะมีหน้าอะไรอยู่บนโลกใบนี้!”

“เจี่ยงไต้ซือ คุณต้องระวังนะคะ!”

ไช่เหวินหย่าพาคนอื่นถอยกลับไปยังปากทางเข้า แล้วมองดูอยู่เงียบๆ

เจี่ยงไต้ซือหยิบเอาหนังสือโบราณเก่าแก่ออกมาจากตัว ด้านบนปกเขียนว่า ตี้คุน

“เจ้าหนุ่ม ฉันรู้ว่าพลังนายแข็งแกร่ง แต่ฉันเองก็ทำการเตรียมความพร้อมมาอย่างดี นี่คือคัมภีร์วิชาที่ฉันยืมมาจากท่านอาจารย์ หากว่านายยอมแบ่งรากทิพย์พรสวรรค์ออกมาครึ่งหนึ่ง ฉันจะไว้ชีวิตนาย!”

เจี่ยงไต้ซือถือหนังสือตี้คุนไว้ มีความฮึกเหิมอย่างมาก และมีสีหน้ายิ้มเยาะ

เฉินโม่สีหน้านิ่งเฉย ไม่ได้สนใจอะไร

“มีความสามารถอะไรก็แสดงออกมาเถอะ!”

เจี่ยงไต้ซือใช้มือวาดวิชา แล้วแตะที่หนังสือ “หึ ดูแล้วนายไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาสินะ ช่างเถอะ ข้าจะให้นายได้เห็นถึงความน่ากลัวของคัมภีร์วิชาสายเลือดลมน้ำ!”

“วิญญาณแห่งดิน ฟังคำสั่งข้า!” เจี่ยงไต้ซือตะโกนเสียงดัง

บนหนังสือตี้คุนมีแสงสีเหลืองเปล่งออกมา เศษดินรอบข้างนับไม่ถ้วนเริ่มขยับเขยื้อน

เจี่ยงไต้ซือชี้นิ้วกลางอากาศ หนังสือก็พลิกหน้าเอง “พายุมังกรหินยักษ์!”

เศษหินนับไม่ถ้วนลอยขึ้นกลางอากาศ เหมือนดั่งดวงดาวเต็มท้องฟ้า รวมตัวกันเป็นร่างมังกร ล่องลอยอยู่กลางอากาศ

“ทำลาย!”

เจี่ยงไต้ซือชี้นิ้วใส่เฉินโม่ มังกรหินที่กำลังแหวกว่ายอยู่กลางอากาศก็พุ่งชนเข้าใส่เฉินโม่ เหมือนกำลังมีฝนดาวตกขนาดเล็ก

เฉินโม่สีหน้าเรียบเฉย แต่ในใจก็แอบสนใจเล็กน้อย “เศษหินพวกนั้นก้อนใหญ่มีน้ำหนักเป็นร้อยกิโล ก้อนเล็กก็หนักถึงเจ็ดแปดสิบกิโล แต่กลับถูกเขาสั่งงานอย่างง่ายดาย วิชาฮวงจุ้ยนี้ก็น่าอัศจรรย์ดี!”

ไช่เหวินหย่าและพวกคนธรรมดามองดูภาพเหตุการณ์นี้แล้วต่างก็ตกตะลึง “เจี่ยงไต้ซือเก่งจริงๆ คราวนี้ไอ้หนุ่มเฉินโม่ผู้โอหังได้ตายแน่!”

แสงสีเหลืองปรากฏขึ้นรอบตัวเฉินโม่ หลังจากที่พลังบำเพ็ญทะลุสูงขึ้น พลังการปกป้องของกระจกโบราณเองก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน เกราะทองที่กระจกโบราณสร้างขึ้นแทบจะเทียบเคียงได้กับรูปธรรมความเป็นจริงแล้ว

“เจ้าหนุ่ม นายคิดอยากจะใช้เครื่องรางปกป้องมาต่อต้านเนี่ยนะ ฮ่าๆๆ รนหาที่ตายจริงๆ!” เจี่ยงไต้ซือเงยหน้าหัวเราะ คิดว่าเฉินโม่ต้องตายแน่นอน

ปังๆๆ!

เศษหินมากมายกระแทกใส่ตัวเฉินโม่ ทำให้เกิดเสียงดังสนั่นขึ้น และมีฝุ่นลอยคละคลุ้งเต็มไปหมด

พวกไช่เหวินหย่าสำลักจนไออย่างหนัก เมื่อฝุ่นคลุ้งกระจายหายไปแล้ว เจี่ยงไต้ซือและพวกไช่เหวินหย่า ต่างก็รีบลืมตาชะโงกมองดู

“เจ้านั่นน่าจะตายแล้วมั้ง?”

แต่ว่า เฉินโม่ก็ยังยืนสองมือไขว้หลังอยู่เหมือนเดิม ยืนนิ่งอยู่กับที่ และบนตัวไม่มีฝุ่นเกาะเลยแม้แต่น้อย

“อะไรกัน!”

“ขนาดนี้ยังไม่ตาย เจ้านั่นยังเป็นคนอยู่มั้ยเนี่ย?”

พวกไช่เหวินหย่าอึ้งตะลึง สีหน้าไม่กล้าเชื่อสายตา

เจี่ยงไต้ซือเองก็มีความตะลึงเช่นกัน “ดีมากเจ้าหนุ่ม ถึงว่าทำไมถึงได้เหิมเกริมโอหังเช่นนี้ ที่แท้ก็พอมีฝีมืออยู่นี่เอง!”

“ฉันไม่เชื่อว่านายจะยังสามารถต้านทานได้อีก!”

พูดจบ เจี่ยงไต้ซือก็แตะเข้าที่หนังสือตี้คุนอีกครั้ง

“สรรพสัตว์ทั้งหลาย ฝังกลบดิน!”

พื้นดินใต้เท้าของเฉินโม่ แตกร้าวเป็นรอยแยก เหมือนดั่งสัตว์ร้ายขนาดใหญ่กำลังอ้าปาก แล้วดูดกลืนเฉินโม่เข้าไปด้านใน

“ปิด!”

เจี่ยงไต้ซือแตะนิ้วอีกครั้ง ตะโกนเสียงดัง

โครม!

รอยแยกที่แตกออก รวมผนึกทันที และยังแน่นหนามากกว่าเมื่อกี้อีกด้วย

“ฮู่ว ในที่สุดก็ตายแล้ว!”

ไช่เหวินหย่าโล่งใจ

“ยังไม่มากพอ!”

เสียงหนึ่งดังออกมาจากใต้พื้นดิน ตามด้วยเสียงดังสนั่น เฉินโม่โผล่ออกมาจากใต้ดิน และสีหน้าก็ยังเรียบเฉยเหมือนเดิม ทั่วทั้งร่างกายไม่มีฝุ่นเกาะเลยแม้แต่น้อย