“โยม ตายไปแต่โดยดีเถอะ ภายใต้เปลวไฟแห่งกรรมของพระพุทธศาสนา ไม่ว่าสิ่งชั่วร้ายใดๆก็ต้องเปลี่ยนกลายเป็นเถ้าธุลี ภายใต้พลังอำนาจของพระพุทธศาสนา บาปทั้งหมดจะต้องถูกขจัดไป”

พระโพ่วฌาและพระอีกสองคนมีสีหน้าที่ดุร้าย ออร่าจิตสังหารกำลังเดือดดาลออกมา

พวกเขาก็มั่นใจในเปลวไฟแห่งกรรมนี้มาก เพราะว่านี่คือเปลวไฟแห่งสวรรค์ที่มีพลังอำนาจน่าสะพรึงกลัวอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ตราบใดที่สิ่งมีชีวิตนั้นๆมีบาปติดตัวอยู่ จะถูกแผดเผาจนกลายเป็นเถ้าถ่าน จิตวิญญาณจะดับสลายไป

เว้นแต่ว่าศัตรูจะเป็นผู้ที่ไม่มีบาปติดตัวอยู่เลย ทว่าบุคคลเช่นนั้นคือผู้ที่เป็นพระอรหันต์ตั้งแต่กำเนิด ต่อให้หาชั่วนิรันดร์ก็อาจจะไม่สามารถหาได้ แม้แต่พวกเขาก็ไม่เคยเห็นบุคคลเช่นนั้นมาก่อน นี่คือบุคคลที่มีภูมิต้านทานต่อเปลวไฟแห่งกรรม

ไม่อย่างนั้น หากไม่ใช่เป็นบุคคลดังที่กล่าวมา ก็มีเพียงแค่การถูกแผดเผาจนตายไปเท่านั้น เปลวไฟแห่งกรรมที่ลุกโชน ปีศาจนับหมื่นจะต้องถูกทำลายลางจนหมดสิ้นไป

แม้แต่พวกเขาพระผู้อาวุโสก็ยังคงเกรงกลัวพลังอำนาจของเปลวไฟแห่งกรรมเช่นกัน เพราะว่าหากไม่ระมัดระวัง ก็เป็นไปได้ที่จะทำร้ายตนเอง พวกเขาจึงระมัดระวังอย่างถึงที่สุด

“ต้องการจะจัดการข้าด้วยเปลวไฟแห่งกรรมรึ? ความไม่รู้เป็นลาภอันประเสริฐจริงๆ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซี่ยปิงก็ยิ้มออกมาทันที เขายืนอยู่ที่จุดๆเดิม ทันใดนั้นก็อ้าปากออกมา กลืนกินราวกับปลาวาฬ สร้างพลังอำนาจของหลุมวนและการดูดกลืนที่น่าสะพรึงกลัวออกมา ก่อตัวกลายเป็นตาพายุ

ทันใดนั้นเปลวไฟแห่งกรรมปริมาณมหาศาลบนอวกาศก็ถูกดูดกลืนเข้ามาโดยกระแสวนนี้ หลั่ว หลั่ว หลั่ว ส่งเสียงดังขึ้นมา

“เจ้าเด็กนี่เสียสติไปแล้ว”

ภูติไม้มรณะก็กำลังมองดูเหตุการณ์นี้อยู่เช่นกัน อดไม่ได้ที่จะจ้องมองด้วยดวงตาเบิกกว้าง ไม่อยากที่จะเชื่อสิ่งที่ตนเองเห็น

“ต่อให้จะไม่คิดหลีกเลี่ยงเปลวไฟแห่งกรรม ก็ไม่คาดคิดว่าจะต้องการดูดกลืนเข้าไปโดยตรง ไม่เคยเห็นใครที่ต้องการฆ่าตัวตายเช่นนี้มาก่อน” หลางเจียหลงก็มองดูอย่างตกตะลึง คิดว่าตนเองตาฝาดไป

“ดูเหมือนว่าเจ้าเด็กนี่จะต้องตาย ไม่จำเป็นที่พวกเราจะต้องลงมืออีก รอก่อนเถอะ หลังจากนี้พวกเราเพียงแค่จัดการกับพวกพระโพ่วฌาก็ถือว่าเพียงพอ” สองพี่น้องทะเลเลือดและคนอื่นๆก็ส่ายหัว มองไปที่เซี่ยปิงด้วยสายตาที่เหมือนกับกำลังมองคนตายก็ว่าได้

คนอื่นๆก็คิดเช่นกันว่าเจ้าเซี่ยปิงจะต้องตาย จะต้องถูกแผดเผาจนกลายเป็นเถ้าธุลีอย่างแน่นอน

“ฮ่าฮ่า ช่างโง่เขลาจริงๆ ไม่คาดคิดว่าจะมุ่งหน้าเข้าหากระบอกปืนเช่นนี้ ในเมื่อเจ้าอยากตายนัก พวกเราก็จะช่วยสนองให้” พระโพ่วฌาและพระอีกสองคนก็ดีใจอย่างเอ่อล้น

เดิมทีพวกเขาก็เป็นกังวลว่าเซี่ยปิงอาจจะใช้วิธีการบางอย่างในการหลบหนีออกไปจากระยะรัศมีของเปลวไฟแห่งกรรรม ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ทว่าตอนนี้ไม่คาดคิดว่าเจ้าเด็กนี่จะโง่เขลาถึงเพียงนี้ ไม่ได้คิดที่จะหลีกเลี่ยง ทว่าพยายามที่จะดูดกลืนเปลวไฟแห่งกรรมไปโดยตรง

ทั้งชีวิตนี้พวกเขาไม่เคยเห็นใครที่โง่เขลาเช่นนี้มาก่อน

พระโพ่วฌาและพระอีกสองคนก็ไม่ได้ลังเลแม้แต่น้อย กระตุ้นพลังเวทมนตร์ของตนเองเพื่อขับเคลื่อนพลังอำนาจของเปลวไฟแห่งกรรมนี้ ครอบคลุมพื้นที่ในระยะสองพันกิโลเมตร เปลวไฟลุกโชนออกมา เปลี่ยนพื้นที่แห่งนี้ให้กลายเป็นโลกแห่งเปลวไฟ

“ดูดกลืน!”

เซี่ยปิงก็ไม่ได้สนใจความคิดของคนอื่นๆแม้แต่น้อย เขารู้สึกว่าสายเลือดของตนเองกำลังตื่นเต้นอย่างมาก สำหรับเขา เปลวไฟแห่งกรรมนี้เป็นเหมือนกับยาชูกำลังชั้นเลิศ มีที่ไหนที่จะพลาดโอกาสนี้ไป

ปัง!

ภายในพริบตา เขาก็กลืนกินราวกับปลาวาฬ ดูดกลืนเปลวไฟแห่งกรรมในทุกหนแห่งอย่างกะทันหัน หายเข้าไปในท้องของเขาทั้งหมด ไม่หลงเหลือแม้แต่ประกายไฟ หายไปอย่างหมดจด

เตาสุริยะภายในส่วนลึกของร่างกายก็แผดเผาไปด้วยเปลวไฟทันที กลั่นกรองอย่างต่อเนื่อง เปลวไฟแห่งกรรมเหล่านี้พยายามที่จะต่อต้านขัดขืน ทว่าด้วยการกลั่นกรองของเตาสุริยะ สิ่งเจือปนสกปรกของพวกมันก็ถูกขจัดออกไปอย่างรวดเร็ว หลงเหลือเพียงแค่แก่นแท้ของมัน

ทันใดนั้นเปลวไฟแห่งกรรมปริมาณมหาศาลก็ถูกบีบอัดและควบแน่นกลายเป็นเมล็ดเปลวไฟ ข้างในของเมล็ดนี้เหมือนจะปรากฏสัญลักษณ์สวัสดิกะขึ้นมา เปล่งประกายไปด้วยแสงสีทอง

ภายในของเมล็ดสีทองนี้เหมือนจะปรากฏภาพเงาของพระสงฆ์มากมาย เหมือนกับว่าพวกเขากำลังสวดมนตร์กันอยู่ ชำระล้างบาปของสิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วน

เหมือนกับว่าการสั่นสะเทือนของเปลวไฟแต่ละครั้ง บาปภายในร่างกายของเซี่ยปิงจะถูกชำระล้างจนหายไป ลบเวรกรรมออกไป

หลั่ว หลั่ว หลั่ว~

อีกทั้งหลังจากที่ได้ดูดกลืนเปลวไฟแห่งกรรม เขาก็รู้สึกว่าสายเลือดอีกานรกทองคำภายในร่างกายของเขาจะถูกกระตุ้นขึ้นมา ได้รับพลังงานหล่อเลี้ยงที่มหาศาล ได้รับโอกาสในการพัฒนา

เซลล์อีกานรกทองคำภายในส่วนลึกของร่างกายเขาก็ตื่นขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง หนึ่งหมื่น หนึ่งแสน ห้าแสน หนึ่งล้าน สองล้าน…ในที่สุดเซลล์อีกานรกทองคำของเขาก็ตื่นขึ้นมาถึงเจ็ดล้านเซลล์

จนถึงตอนนี้ เซี่ยปิงได้ปลุกเซลล์อีกานรกทองคำขึ้นมาอย่างน้อยยี่สิบล้านเซลล์ เลือดภายในร่างกายปรากฏเป็นสีทองดำ มีออร่าความโบราณ ความศักดิ์สิทธิ์และความยิ่งใหญ่แผ่ออกมา

อีกทั้งก็ไม่ใช่มีเพียงแค่เลือดเท่านั้นที่เปลี่ยนไป แม้แต่ผิวหนังและกระดูกก็เหมือนจะถูกย้อมกลายเป็นสีทองซีด เหมือนว่าอักขระอีกานรกทองคำจำนวนนับไม่ถ้วนใกล้ที่จะปรากฏขึ้นมา ควบแน่นกลายเป็นลายลักษณ์อักษร

อีกทั้งเนื่องจากการที่สายเลือดอีกานรกทองคำของเขาพัฒนาขึ้นมา ดังนั้นพลังอำนาจ ความเร็ว พลังเวทมนตร์และอื่นๆก็ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเช่นกัน ได้รับผลประโยชน์ที่มากมาย ออร่าเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง

“นี่มันเป็นไปไม่ได้!”

เมื่อเห็นเช่นนี้ พระหยวนเจินก็อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา จ้องมองด้วยดวงตาเบิกโพลง “นึกไม่ถึงว่าเปลวไฟแห่งกรรมจะฆ่าเขาไม่ได้ หนำซ้ำยังถูกเขาดูดกลืนเข้าไป รอดออกมาอย่างไร้รอยขีดข่วน นี่มันเป็นไปไม่ได้ อันที่จริงร่างกายของเจ้าเด็กนี่ทำขึ้นมาจากอะไรกัน ทำไมเปลวไฟแห่งกรรมถึงทำอะไรเขาไม่ได้?”

“นี่ไม่ใช่แค่สิ่งที่เรียบง่ายอย่างการดูดกลืนเปลวไฟแห่งกรรมเท่านั้น ทว่าเขาก็นำพลังงานของเปลวไฟแห่งกรรมไปพัฒนาตนเองเช่นกัน ได้รับผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ พวกเราไม่ใช่แค่ฆ่าเขาไม่ได้เท่านั้น ทว่าก็ยังช่วยในการบ่มเพาะของเขา ทำให้เขาพัฒนาขึ้นไปอีก”

พระจื๋อไห่ก็ตกใจอย่างมาก ต่อให้ตายเขาก็ไม่อยากเชื่อว่าเปลวไฟแห่งกรรมจะสังหารเจ้าเด็กนี่ไม่ได้

“ข้าไม่เชื่อ ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนี่จะแข็งแกร่งจนถึงขั้นนี้ วันนี้เขาจะต้องตาย สังหารเขา สังหารเขาทันที ฉีกร่างกายของเขาให้เป็นพันๆชิ้น!” พระโพ่วฌาตะโกนอย่างโมโหออกไป

เขาแสดงความสามารถศักดิ์สิทธิ์ประเภทพระพุทธศาสนาออกมา ปัง พลังอำนาจปะทุออกไป จะต้องสังหารเซี่ยปิงให้ได้

“การที่เปลวแห่งกรรมก็สังหารข้าไม่ได้ พวกเจ้ามันเทศเน่าเสีย2-3คนก็ยังต้องการที่จะสังหารข้าอีกรึ? ช่างเพ้อฝันสิ้นดี!” เซี่ยปิงก็เผยสายตาที่เย็นชาออกมา ไหลเวียนพลังเวทมนตร์ของตนเอง หลั่งไหลเข้าไปในยันต์มังกรสวรรค์บรรพกาลนี้

หล่ง หล่ง หล่ง~

ภายในพริบตา ยันต์มังกรสวรรค์บรรพกาลทั้ง28ใบก็สั่นไหว กลุ่มของมังกรสวรรค์บรรพกาลก็คำรามออกมา ดูมีชีวิตชีวาและสมจริงอย่างมาก พลังอำนาจมังกรที่กว้างขวางและไร้ขอบเขตแผ่ออกมา

ทันใดนั้นพื้นที่ในระยะหลายร้อยล้านกิโลเมตรก็ปกคลุมไปด้วยพลังอำนาจมังกร สะเทือนน้ำสะเทือนบก กลุ่มดาวสั่นไหว อวกาศสั่นสะท้าน รอบๆเกิดเสียงระเบิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เหมือนกับเป็นระเบิดนิวเคลียร์ที่ระเบิดออกมา

พระโพ่วฌา พระหยวนเจินและพระจื๋อไห่ทั้งสามต่างก็ไม่ใช่คู่มือของเซี่ยปิง เป็นเหมือนกับกระสอบทรายก็ว่าได้ ถูกกระแทกจนกระเด็นออกไปโดยมังกรสวรรค์บรรพกาลเหล่านี้ กระอักเลือดออกมากลางอวกาศ

อุกกาบาตขนาดยักษ์รอบๆก็ถูกบดทำลายกลายเป็นผุยผง พลังงานของอวกาศก็ควบแน่นกลายเป็นสสาร เปลี่ยนกลายเป็นคลื่นพลังงานและกวาดออกไปในทุกทิศทาง กระแทกดาวเคราะห์บางดวงจนเกิดรอยแตกร้าวขึ้นมา

“บัดซบ บัดซบ!”

“สังหารเขา จะต้องสังหารเขา!”

“ผู้บ่มเพาะในระดับแตกฉานต้องการที่จะสังหารพวกเรารึ? ช่างตลกสิ้นดี!”

พระโพ่วฌา พระหยวนเจินและพระจื๋อไห่ทั้งสามคนต่างก็ส่งเสียงคำรามออกมา รู้สึกหดหู่และไม่พึงพอใจอย่างมาก พวกเขาพยายามที่จะฝ่าทะลวงมังกรสวรรค์บรรพกาลทั้ง28ตัวนี้

ทว่ามันก็เปล่าประโยชน์ มังกรสวรรค์บรรพกาลทั้ง28ตัวนี้รวมพลังอำนาจเป็นหนึ่งเดียว ก่อตัวกลายเป็นค่ายกลหมู่ดารามังกรสวรรค์ ผนึกฟ้าปิดกั้นพสุธา ไม่มีช่องโหว่แม้แต่น้อย ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามฝ่าทะลวงในจุดไหน ก็ถูกต้านทานไว้ได้

พวกเขาก็ต้องการที่จะแสดงความสามารถศักดิ์สิทธิ์ออกมา ทะลวงผ่านห้วงอวกาศ ทว่าไม่ทันรอให้พวกเขาได้เริ่มลงมือ กลุ่มของมังกรสวรรค์บรรพกาลก็โจมตีเข้ามาอีกครั้ง ปลดปล่อยทักษะเจ็ดบาปมังกรคำรามออกไป ทำลายความสามารถศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาอย่างกะทันหัน ทำให้พวกเขาเผชิญกับความสูญเสียอย่างหนัก กระอักเลือดออกมาอย่างต่อเนื่อง